Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
4.กฏหมายวิชาชีพการพยาบาล, นางสาวอรณิชา ไชยเดช 36/2 เลขที่ 58 …
4.กฏหมายวิชาชีพการพยาบาล
4.4 การควบคุมผู้ประกอบวิชาชีพ
จุดประสงค์
1.การคุ้มครองผู้รับบริการหรือผู้บริโภค
2.การสงวนวิชาชีพให้กับบุคลากรในวิชาชีพ
3.การควบคุมผู้ประกอบวิชาชีพให้บริการอย่างมีมาตรฐาน
มาตรการควบคุมผู้ประกอบวิชาชีพ
1.ห้ามผู้ไม่มีสิทธิคือไม่มีใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพฯ
2.ให้มีข้อกำหนดจริยธรรมแห่งวิชาชีพ
3.มีมาตรการลงโทษ ในกรณีทีละเมิดข้อกำหนดวิชาชีพ ระบุสาระของการดำเนินการสอบสวน การตัดสิน และโทษ
ข้อยกเว้น ผู้ไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพแต่สามารถประกอบวิชาชีพได้
1.การกระทำต่อตนเอง
2.การช่วยเหลือดูแลบุคคลอื่นให้พ้นจากความทุกข์ทรมานในเงื่อนไขดังนี้
2.1 ไม่ได้รับประโยชน์ตอบแทนใดๆ
2.2 ไม่ฉีดยาหรือสารใดๆเข้าไปในร่างกาย
2.3 ไม่ให้ยาอันตราย ยาควบคุมพิเศษ หรือวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท
3.นักเรียน นักศึกษา ในสถาบันที่สภาฯรับรอง ภายใต้การนิเทศจากผู้ประกอบวิชาชีพ
4.ผู้ประกอบโรคศิลปะ ที่ทำตามเกณฑ์การประกอบวิชาชีพตนแต่เข้าข่ายการประกอบวิชาชีพการพยาบาล
5.ผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศที่ได้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพฯในประเทศของตน สภาจะออกใบอนุญาตชั่วคราวให้ไม่เกิน 1 ปี
กระบวนการพิจารณาความผิดของผู้ประพฤติผิดจริยธรรม
1.ผู้เสียหาย กล่าวหา ต่อสภาการพยาบาล
2.กรรมการสภากล่าวโทษ ต่อสภาการพยาบาล
3.อายุความการกล่าวหา กล่าวโทษ
4.สภาฯส่งเรื่องให้อนุกรรมการจริยธรรมพิจารณาเมื่อได้ข้อมูลส่งคณะกรรมการสภาพิจารณาตัดสินว่าคดีมีมูล
5.สภาฯส่งเรื่องให้คณะอนุกรรมการสอบสวนพิจารณา สอบสวน เมื่อได้ข้อมูลส่งคณะกรรมการสภาพิจารณาตัดสิน
6.คณะกรรมการสภาตัดสิน
อายุความการกล่าวหา กล่าวโทษ มีกำหนด 3 ปี นับตั้งแต่วันเกิดเหตุ และมีกำหนด 1 ปี นับแต่วันรู้ตัวผู้กระทำ
การพิจารณาสอบสวน
ผู้รู้เห็นเหตุการณ์
ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
ผู้มีเหตุโกรธเคืองกับผู้ถูกกล่าวหา
คู่สมรส หรือเป็นญาติเกี่ยวข้องกับบุพการี ผู้สืบสันดาน
หรือพี่น้องร่วมบิดามารดากับผู้ถูกกล่าวหา กล่าวโทษ
สภาการพยาบาลมีสิทธิเพิ่มโทษจากพักใช้เป็นเพิกถอนได้โดยอัตโนมัติ ภายใต้เงื่อนไขเฉพาะ คือ ถูกพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
มาตรา43(ภายใต้มาตรา27)บุคคลที่ได้รับคำสั่งพักใช้ หรือเพิกถอนต้องหยุดประกอบวิชาชีพ หากเพียงแค่แสดงด้วยวิธีการใดๆให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้มีสิทธิประกอบวิชาชีพฯ โดยที่ยังไม่ได้ประกอบวิชาชีพฯ ถือเป็นการละเมิด
การขอขึ้นทะเบียนใหม่ภายหลังถูกเพิกถอนใบอนุญาต
ระยะเวลาต้องพ้น 2 ปี นับแต่วันที่สภาการพยาบาลมีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาต (ไม่ใช่วันที่รับทราบคำสั่ง)
ถ้าถูกปฏิเสธครั้งที่ 1 สามารถยื่นขอครั้งที่ 2 ภายหลังครบ 1 ปี นับแต่วันที่คณะกรรมการสภาฯมีคำสั่งปฏิเสธคำขอครั้งแรก
สถานที่ที่กฎหมายกำหนด ได้แก่
1.สถานที่ประกอบการที่มีผู้ประกอบวิชาชีพ
2.สถานที่มีเหตุผลสมควร
3.สถานที่สอบสวน
บทกำหนดโทษ
1.ประกอบวิชาชีพโดยไม่มีใบอนุญาต จำคุกไม่เกิน 2 ปี และ/หรือปรับไม่เกิน 2000 บาท
2.บุคคลที่พ้นจากสมาชิกสามัญ(พ้นจากการเป็นสมาชิกสามัญ ได้จากการตาย ลาออก ขาดคุณสมบัติ)
3.ต้องพ้นจากการเป็นผู้ประกอบวิชาชีพด้วยและต้องส่งคืนใบอนุญาตต่อเลขาธิการภายใน 15 วัน ฝ่าฝืนปรับไม่เกิน 1000 บาท (มีเฉพาะโทษปรับอย่างเดียว)
4.การไม่มาให้ถ้อยคำหรือไม่ส่งเอกสาร ต้องโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
5.ผู้ไม่อำนวยความสะดวกแก่เจ้าพนักงาน ระวางโทษไม่เกิน 1 เดือนหรือปรับไม่เกิน 1000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับโทษทางวิชาชีพ ประกอบด้วย ว่ากล่าวตักเตือน ภาคทัณฑ์ พักใช้ เพิกถอน
บทเฉพาะกาลเพิ่มเติม
(พระราชบัญญัติวิชาชีพฯ พ.ศ.2540)
1.ให้กรรมการทุกประเภทตามพระราชบัญญัติวิชาชีพฯ พ.ศ.2528 ดำรงอยู่จนครบวาระ
2.ใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะแผนปัจจุบันในสาขาการพยาบาล การผดุงครรภ์ และสาขาการพยาบาลและการผดุงครรภ์ หรือใบอนุญาตที่ออกตามพระราชบัญญัติวิชาชีพฯ พ.ศ.2528 มีอายุต่อไปอีก 5 ปี นับแต่วันที่กฎหมายบังคับใช้
3.ผู้ที่ไม่เข้าเกณฑ์ตามข้อ 2 แต่สำเร็จการศึกษาในหลักสูตรไม่น้อยกว่า 3 ปี หรือประกาศนียบัตรเทียบเท่าอนุปริญญาในสาขาการพยาบาล การผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์จากสถาบันการศึกษาในประเทศไทย ก่อนพระราชบัญญัติวิชาชีพฯพ.ศ.2540 บังคับใช้ เมื่อสภาการพยาบาลตรวจสอบหลักสูตรและผ่านการสอบความรู้แล้วมีสิทธิขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพ
4.ยกเลิกค่าธรรมเนียมเก่าและใช้อัตราค่าธรรมเนียมใหม่ท้ายพระราชบัญญัตินี้แทน
5.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขรักษาการณ์ตามพระราชบัญญัตินี้
ปัจจุบัน พ.ศ.2545 เมื่อครบกำหนด 5 ปี บทเฉพาะกาลที่กำหนดไว้มีผลสิ้นสุดลงใบอนุญาตทุกประเภท
โดยครั้งแรกต่อให้โดยคงคุณสมบัติเฉพาะการเป็นสมาชิกสามัญและเป็นผู้ประกอบวิชาชีพฯ แต่ในระหว่าง 5 ปีต่อไป (หลัง พ.ศ.2545) ต้องสะสมหน่วยคะแนนในการเพิ่มพูนความรู้ 50 หน่วยคะแนนเพิ่มด้วย
พระราชบัญญัติพ.ศ.2528 ที่แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่2)พ.ศ.2540
เกณฑ์สากลของความเป็นวิชาชีพ
1.อาชีพนั้นมีความจำเป็นต่อสังคม
2.มีศาสตร์เฉพาะสาขาของตน
3.สามารถให้บริการแก่ผู้รับบริการได้มาตรฐานและตามบรรทัดฐานของวิชาชีพนั้น
4.มีจรรยาบรรณในการประกอบวิชาชีพ เพื่อปกป้องผู้รับบริการ
5.มีเอกสิทธิ์ในการทำงาน
6.มีองค์กรวิชาชีพ ทำหน้าที่ควบคุมสมาชิกของวิชาชีพ รวมทั้งการผลักดันในแง่กฎหมาย เพื่อคุ้มครองสมาชิกและผู้รับบริการ
4.5พระราชบัญญัติวิชาชีพการพยาบาล
นิยามศัพท์ที่สำคัญ
การพยาบาล
เป็นการกระทำต่อมนุษย์เกี่ยวกับการดูแลและการช่วยเหลือเมื่อเจ็บป่วย การฟื้นฟูสภาพ การป้องกันโรค และการส่งเสริมสุขภาพ
การผดุงครรภ์
การกระทำเกี่ยวกับการดูแลและการช่วยเหลือหญิงมีครรภ์
หญิงหลังคลอด และทารกแรกเกิด รวมถึงการตรวจ การทำคลอด
การส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันความผิดปกติในระยะตั้งครรภ์ ระยะคลอดและระยะหลังคลอดรวมทั้งการช่วยเหลือแพทย์กระทำการรักษาโรค
การประกอบวิชาชีพการพยาบาล
1.การสอน การแนะนำ การให้คำปรึกษาและแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ
2.การกระทำต่อร่างกายและจิตใจของบุคคล รวมทั้งการจัดสภาพแวดล้อมเพื่อแก้ไขปัญหาความเจ็บป่วย
3.การกระทำตามวิธีที่กำหนดไว้ในการรักษาโรคเบื้องต้นและการให้ภูมิคุ้มกันโรค
4.การช่วยเหลือแพทย์กระทำการรักษาโรค
5.ประเมินสภาพการวินิจฉัยปัญหา การวางแผน การปฏิบัติการ และการประเมินผล
การประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์
1.การสอน การแนะนำ การให้คำปรึกษาและการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพอนามัย
2.การกระทำต่อร่างกายและจิตใจของหญิงมีครรภ์ หญิงหลังคลอดและทารกแรกเกิด เพื่อป้องกันความผิดปกติในระยะตั้งครรภ์ ระยะคลอด และระยะหลังคลอด
3.การตรวจ การทำคลอด และการวางแผนครอบครัว
4.การช่วยเหลือแพทย์กระทำการรักษาโรค
5.การประเมินสภาพการพยาบาล วินิจฉัยปัญหา การวางแผนการปฏิบัติการพยาบาล และการประเมินผล
พนักงานเจ้าหน้าที่
1.ให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบใบอนุญาต ค้นหรือยึดหลักฐานการกระทำที่ผิดกฎหมายในสถานที่นั้นได้ โดยไม่ต้องขอให้ศาลออกหมายค้น
2.ในการเข้าตรวจค้น พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องแสดงบัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ให้กับบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันการแอบอ้าง
3.ในการตรวจค้นให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจตามประมวลกฎหมายอาญา โดยให้ผู้ที่ไม่ให้ความสะดวกมีความผิด ได้รับโทษตามที่กำหนด
ฐานะของสภาการพยาบาล (มาตรา 6)
1.เป็นนิติบุคคลตามกฏหมายแพ่งและพาณิชย์
1.เป็นบุคคลสมมุติตามกฎหมาย มีสภาพเหมือนบุคคลทั่วไป
2.นิติบุคคลทำความผิด ผู้แทนของนิติบุคคลร่วมรับผิดในฐานะตัวการ และนิติบุคคลนี้ถูกฟ้องล้มละลายได้
2.การตั้งขึ้นตามกฎหมายเฉพาะ(พระราชบัญญัติ) ทำให้ไม่สามารถถูกฟ้องล้มละลาย และไม่สามารถเลิกกิจการเหมือนเช่นนิติบุคคลทั่วไป (แตกต่างจากนิติบุคคลทั่วไป)
วัตถุประสงค์ของสภาการพยาบาล (มาตรา7)
อำนาจและหน้าที่ของสภาการพยาบาล (มาตรา8)
รายได้ของสภาการพยาบาล(มาตรา9)
1.งบประมาณแผ่นดิน
2.ค่าจดทะเบียนสมาชิกสามัญ ค่าบำรุง และค่าธรรมเนียมต่างๆ
3.จากการหารายได้ของสภาการพยาบาล โดยใช้เพื่อวัตถุประสงค์ของสภาการพยาบาล เช่น จัดสวัสดิการให้สมาชิก
4.รายได้จากเงินบริจาค รวมทั้งดอกผลของรายได้ต่างๆ
สมาชิกและสิทธิหน้าที่ตามกฎหมาย(หมวด2มาตรา11-13)
ประเภทของสมาชิก
1.สมาชิกสามัญ
การพ้นสภาพสมาชิก
ลาออก
ขาดคุณสมบัติตามมาตรา 11(1)
ตาย
2.สมาชิกกิตติมศักดิ์
คุณสมบัติ
เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ
จำนวนอายุ
กฏหมายวิชาชีพ
ควบคุมสมาชิกผู้ประกอบอาชีพ
ให้ปฏิบัติตามมาตรฐาน สร้างความศรัทธาให้ผู้รับบริการ
จำเป็นต่อทุกวิชาชีพ
โครงสร้างพระราชบัญญัติวิชาชีพ
เป็นกฏหมายปกครองตามพระราชบัญญัติ
โรคต้องห้ามตามข้อบังคับของสภาการพยาบาล
2.ติดยาเสพติดให้โทษอย่างร้ายแรง ติดสุราเรื้อรัง
3.โรคที่น่ารังเกียจต่อสังคม เช่น เอดส์ กามโรค
1.โรคจิต โรคประสาท
การขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบวิชาชีพ
1.สำเร็จในประเทศ คนสัญชาติไทยแต่มิใช่สัญชาติไทย
สมัครเป็นสมาชิกสามัญ
สอบขึ้นทะเบียน
สำเร็จการศึกษาพยาบาลตามที่กำหนด
2.สำเร็จในต่างประเทศ
คนสัญชาติไทย
สำเร็จการศึกษาพยาบาลตสมที่กำหนด
ไม่ต้องสอบใบอนุญาตในประเทศที่ตนจบ
สมัครเป็นสมาชิกสามัญ
สอบขึ้นทะเบียน
คนมิใช่สัญชาติไทย
สำเร็จการศึกษาพยาบาลตามที่กำหนด
ต้องสอบใบอนุญาตในประเทศที่ตนจบ
สมัครเป็นสมาชิกสามัญ
สอบขึ้นทะเบียน
มีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศ 6 เดือน นับถึงวันสอบสมัครสอบวันสุดท้าย
สำหรับผู้ไม่ขี้นทะเบียนทันทีที่สำเร็จการศึกษา
1.สำเร็จก่อนและหลัง 6กันยายน 2528
2.หลัง 24 ธันวาคม 2540 (สมัครเป็นสมาชิกสามัญและขอสอบขึ้นทะเบียน)
การพ้นจากการเป็นผู้ประกอบอาชีพ
ถูกเพิกถอนใบอนุญาต
ใบอนุญาตหมดอายุ
พ้นจากการเป็นสมาชิกสามัญ
การพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระ
2.ขาดคุณสมบัติตามมาตรา 18
เป็นผู้ประกอบวิชาชีพ
ไม่เคยถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตหรือเพิกถอนใบอนุญาต
ไม่เคยเป็นบุคคลล้มละลาย
3.ลาออก
1.ขาดคุณสมบัติตามมาตรา 13 ได้แก่ ตาย ลาออก
หน้าที่กรรมการบริหารสภาการพยาบาล
นายกสภาฯ
เป็นผู้แทนสภาในกิจการต่างๆ
เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการเลขาธิการสภา
ดำเนินกิจการของสภาการพยาบาล
เลขาธิการสภา
1.ควบคุมรับผิดชอบงานธุรการทั่วไป
2.ควบคุมบังคับบัญชาเจ้าหน้าที่สภาฯ
3.รับผิดชอบในการดูแลทะเบียนต่างๆ
4.ควบคุมทรัพย์สินของสภาฯ
5.เป็นเลขานุการคณะกรรมการ
สภานายกพิเศษ
1.รักษาการตามพระราชบัญญัติ(มาตรา 5)
2.แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่
3.ออกกฎกระทรวงและกำหนดค่าธรรมเนียมต่างๆ(มาตรา 5)
4.ให้ความเห็นชอบมติของคณะกรรมการ
การดำเนินกิจการของคณะกรรมการสภาฯ
1.การประชุมของคณะกรรมการสภาการพยาบาล
1.1 เรื่องทั่วไป กรรมการอย่างน้อย 16 คน
1.2 เรื่องสำคัญ ใช้กรรมการเต็มคณะมี 2 กรณี
2.การลงมติ
กรรมการ 1 คน มี 1 เสียง
2.1 เรื่องทั่วไป เสียงข้างมาก ถ้าเท่ากันให้ประธานชี้ขาด
2.2 เรื่องสำคัญ คะแนนเห็นชอบ
3.การขอความเห็นชอบจากสภานายกพิเศษ
ไม่เห็นชอบ แทงคำสั่งไม่เห็นชอบ ต้องภายใน 15 วัน
เห็นชอบ ไม่แทงคำสั่งใดๆ ใน 15 วัน ถือว่าเห็นชอบ
การลงมติแย้ง ต้องทำภายใน 30 วัน ใช้กรรมการสภาเต็มคณะ 2/3
4.การพ้นจากตำแหน่งของกรรมการที่ปรึกษา
5.การเข้าแทนตำแหน่งของกรรมการสภาที่ว่างลงก่อนครบวาระ
นางสาวอรณิชา ไชยเดช 36/2 เลขที่ 58
รหัสนักศึกษา 612001139