Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
5.5.ความผิดปกติของทางเดินปัสสาวะ, นางสาวชื่นนภา มูลนิคม รหัส 602701020 -…
5.5.ความผิดปกติของทางเดินปัสสาวะ
การเปลี่ยนแปลงทางกายวิภาคระบบทางเดินปัสสาวะ
ไต
T 1 : ไตด้านขวาถูกกดเบียดจากมดลูกทำให้มีขนาดโตกว่าด้านซ้าย
โปรเจสเตอโรนทำให้มีการคลายตัวของกล้ามเนื้อเรียบ
ความตึงตัวลดลงปริมาณปัสสาวะเหลือค้างมากขึ้น
กลูโคสพบในปัสสาวะมากขึ้นสะสมเชื้อแบคทีเรีย
T 2 : Renal plasma flow เพิ่มขึ้น อัตราการกรองเพิ่มขึ้นพบกลูโคสปนออกมาในปัสสาวะ
T 3 : การไหลเวียนเลือดในไตและอัตราการกรองการขับน้าลดลงเนื่องจากมดลูกกด Iliac vein
กระเพาะปัสสาวะ
ความตึงตัวน้อยลง เกิดปัสสาวะค้าง
T 1 : มดลูกมีการกดเบียดกระเพาะปัสสาวะ
T 3 : ส่วนนาเคลื่อนต่ำกดเบียดกระเพาะปัสสาวะมีการมีการคั่งของเลือด เกิดการบวมของท่อและกระเพาะปัสสาวะ
อาการแสดง
อาการปัสสาวะบ่อย
creatinineลดลงอยู่ที่ 0.5 mg/dl
BUNอยู่ที่ 8- 10 mg/dl
ไตและท่อไตมีขนาดใหญ่
โรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
การมีเชื้อแบคทีเรียในปัสสาวะซึ่งเชื้อแบคทีเรียที่พบในปัสสาวะจะต้องมีปริมาณอย่างน้อย 1000,000
สาเหตุ
เชื้อแบคทีเรียที่บริเวณลำไส้หรือบริเวณผิวหนังรอบๆทวารหนักและช่องคลอด
เพศสัมพันธ์ทำให้เกิดการช้าเล็กน้อยบริเวณท่อปัสสาวะ
ระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่เพิ่มขึ้น
ทาให้กล้ามเนื้อเรียบเกิดการคลายตัว
ส่งตรวจ
Urinalysis
Urine culture
ภาวะแทรกซ้อน
Premature labour nsion
Abortion
Septic shock
Low birth weight
Chronicpyelonephritis
Anemia
Hypertension
รกลอกตัวก่อนกำหนด
การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะโดยไม่มีอาการ(Asymtomatic bacterialbacterial)
การรักษาพยาบาล
ดูแลสุขวิทยาส่วนบุคคล
ดื่มน่ามากๆ 2,000 3,000 cc./day
หลีกเลี่ยงนน้าชา กาแฟ เครื่องดื่มที่มี Alcohol เครื่องเทศ
สังเกตการณ์ดิ้นของเด็กทารก
ส่งตรวจ Urine culture
โรคติดเชื้อของระบบทางเดินปัสสาวะที่มีอาการแสดง(Symtomatic bacteriuria)
กระเพาะปัสสาวะอักเสบ Cystitis
อาการ
ปัสสาวะแสบขัด (dysuriadysuria)
ปัสสาวะขุ่น (turbid urine urine)
Suprapubic pain
WBC RED สูงมากกว่า 8 เซลล์ต่อมิลลิลิตร
การรักษา
การรักษาเหมือนกับ Asymtomatic baeteriuria ให้ Ampicillin 500 mg
และAmoxycillin
500 mg
กรวยไตอักเสบ Pyelonephritis
ภาวะกรวยไตอักเสบจากอาการติดเชื้อแบคทีเรียที่พบมากที่สุด คือ Escherichia Coli (E-coli) โดยผลของการอักเสบทำให้หน้าที่ของไตลดลง ไตบีบตัวแรง อาจทำให้เลือดออกที่ไต ไตอักเสบ และไตวายได้
อาการและอาการแสดง
ไข้สูง หนาวสั่น
ปัสสาวะขุ่น(turbid urine urine)
มึนศีรษะคลื่นไส้ และอาจอาเจียน
แบคทีเรียมากกว่า 100,000100,000 โคโลนี ลูกบาศก์เซนติเมตร
ปวดบั้นเอวCosto vertebral angle : Positive
แนวทางการรักษา
การป้องกันกรวยไตอักเสบ คัดกรองสตรีตั้งครรภ์ที่มาฝากครรภ์ครั้งแรกและตรวจปัสสาวะซ้ำเมื่ออายุครรภ์ 32-34 สัปดาห์ ในภาวะที่เสี่ยงหรือมีอาการ UTI มาก่อน
รับผู้ป่วยไว้ในโรงพยาบาล สวนปัสสาวะเพื่อส่งตรวจวิเคราะห์ (Urinalysis) เพาะเชื้อ (Culture and sensitivity) เจาะเลือดตรวจนับเม็ดเลือด ครีอะตินิน และ อีเลคโตรไลท์
รักษากรวยไตอักเสบ โดยการให้ยาปฏิชีวนะทันทีแล้วปรับตามผล Culture and sensitivity เช่น
Ampicillin 1-2 กรัม IV ทุก 6 ชั่วโมงร่วมกับ gentamicin1 มก./กก. ทุก 8 ชั่วโมง
Ceftriazone 1-2 กรัม IV ทุก 24 ชั่วโมง
Trimethoprin sulfamethoxazole 160/800 มก. IV ทุก 12 ชั่วโมง
Aztreonam 1 กรัม IV ทุก 8 ชั่วโมง
Cefazolin 1-2 กรัม IV ทุก 8 ชั่วโมง
ให้การดูแลแลประคับประคองเพื่อให้การตั้งครรภ์ครบกำหนด ถ้าอาการรุนแรงอาจต้องรับไว้ในโรงพยาบาลตลอดจนประเมินการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์
แนะน่าให้ดื่มน้ำให้เพียงพอให้สารน้ำทางหลอดเลือดด่า และท่า Intake output เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ ซึ่งท่าให้ renal perfusion ลดลง ถ้าจ่าเป็นอาจต้องคาสายสวนปัสสาวะ
แนะนำให้นอนพักบนเตียงในท่านอนตะแคงซ้าย เพื่อให้เลือดไปเลี้ยงมดลูกและผ่านไปสู่ทารกได้มากขึ้น
ตรวจวัดสัญญาณชีพของมารดาและฟังเสียงหัวใจเด็ก (Fetal heart sound)
ถ้าให้การรักษา 12 ชั่วโมง แล้วไม่ได้ผล ท่าให้ ultrasound หรือ x-ray เพื่อดูความผิดปกติในระบบทางเดินปัสสาวะ
ดูแลให้ได้รับยาบรรเทาอาการปวด เมื่อมีความจำเป็นเพื่อความสุขสบาย
หลังคลอดบุตร งดให้นมมารดาในรายที่ให้ Furosemide แล้วติดตามผลตรวจปัสสาวะหลังคลอด 12 สัปดาห์ เพื่อประเมินความผิดปกติของระบบทางเดินปัสสาวะ
ติดตามการติดเชื้อของทารกในครรภ์โดย แพทย์มักให้ยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันการติดเชื้อสู่ทารก
นางสาวชื่นนภา มูลนิคม รหัส 602701020