Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

โรคระบบสืบพันธุ์, นางสาวรัตนวรรณ จันทร์สม เลขที่56 1A, รหัสนักศึกษา623601…

- - - - เป็นแต่กำเนิด บริเวณที่หนังหุ้มpenis คลุมอยู่จะ สกปรกเป็นที่สะสมสิ่งขับถ่ายและเกิดการตดิเชื้อ
      - การเกิดภาย มักมีสาเหตุจากการอักเสบหรือจาก ความบอบช้ำของหนังหุ้ม penis
  - - - การรักษาสุขอนามัยบริเวณอวัยวะเพศที่ไม่ดี
      - การติดเชื้อ
      - โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
      - การแพ้และระคายเคือง
    - - มีอาการแดง เจ็บ คัน และระคายเคืองบริเวณส่วน ปลายของอวัยวะเพศ
      - เจ็บขณะปัสสาวะ
      - มีหนองหรือน้ำสีเหลืองข้นไหลออกมาจากปลาย อวัยวะเพศ
      - อวัยวะเพศมีกลิ่นเหม็น
      - อาการรุนแรง อาจไดม่สามารถร่นหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศขึ้นและลงได้ตามปกติ
  - - - แบคทีเรีย
        
        chancroid (แผลริมอ่อน)
        
        Gonorrhea (หนองใน)
      - เชื้อไวรัส
        
        condyloma acuminatum (หูดหงอนไก่)
      - เชื้อปรสิต
        
        โลน
        
        หิด
        
        พยาธิช่องคลอด
      - เชื้อรา
        
        เชื้อราในช่องคลอด
- - - - เกิดจากการเสื่อมของลิ้นในหลอดเลือดดำ
      - เลือดดำกลับเข้าสู่หัวใจได้น้อยหรือไม่ได้ เลือดจึงคั่ง ส่งผลให้หลอดเลือดโป่งพอง
  - - - สาเหตุ
        
        เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย
        
        เด็ก=gram-negative bacilli
        
        ผู้ใหญ่=Chlamydia trachomatis และ Neisseria gonorrhoeae
        
        ผู้สูงอายุ = E.coli และ Pseudomonas spp.
      - พยาธิสภาพ
        
        ลูกอัณฑะ บวมโต
        
        มีเลือดคั่ง
        
        อัณฑะเกิดบวมน้ำ
        
        กรณีการอักเสบรุนแรง ทำให้เกิดเป็นหนองฝี
- - - - ติดต่อทางเพศสัมพันธ์
      - อาการแทรกซ้อน
        
        เชื้ออาจลุกลามเข้า Bartholin glandที่แคมใหญ่
        
        Bartholinitis
        
        ฝี (Bartholin abscess)
        
        มดลูกอักเสบ(Endocervicitis)
        
        เยื่อบุโพรงมดลูกอักเสบ (Endometritis)
        
        ท่อนำไข่อักเสบ (Salpingitis)
        
        การอักเสบลุกลามไปถึงท่อนำไข่และกระจายเข้าไปในอุ้งเชิงกรานเรียก Pelvic Inflammatory Disease (PID)
        
        หากเป็นมากอาจทำให้มีหนองขังอยู่ระหว่าง fallopian tube กับ ovary เรียกว่า Pelvic abscess
        
        ถ้าเชื้อกระจายมากขึ้นก็จะทำให้เกิดการอักเสบของ เยื่อบุอุ้งเชิงกราน (pelvic peritonitis)
        
        ทำให้เกิดภาวะมีบุตรยาก (infertility)
    - - เป็นเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรค Treponema pallidum
      - ติดต่อโดยการร่วมเพศ
        
        เชื้อจะเข้าทางรอยถลอกหรือบาดแผลเล็กน้อย
        
        อาจไชเข้าเยื่อบุผิวของท่อปัสสาวะ ทวารหนัก
        ช่องคลอดหรือช่องปาก
      - สามารถรักษาให้หายขาดได้
      - แต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้ในระยะยาวอาจแสดงอาการในหลาย ระบบของร่างกาย
        
        ทางระบบประสาท
        
        ผิวหนัง
        
        ตา
        
        กระดูก
        
        หัวใจและหลอดเลือด
      - ถ้าสตรีเป็นโรคนี้ในขณะตั้งครรภ์มีโอกาสถ่ายทอดเชื้อไปสู่ทารก
        
        ส่งผลให้ทารกมีภาวะซิฟิลิสแต่กำเนิด
      - พยาธิกำเนิด
        
        ระยะที่ 1หรือระยะเป็นแผล (Primary syphilis)
        
        ระยะที่ 2 หรือระยะเข้าข้อออกดอก(Secondary syphilis)
        
        ระยะที่ 3 หรือระยะทำลาย (Tertiary syphilis)
    - - เชื้อแบคทีเรียที่ก่อโรคคือ Hemophilus ducreyi
      - เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
      - โรคนี้ติดต่อได้ง่ายแต่ก็สามารถรักษาให้หายขาด
      - ทำให้เกิดแผลที่อวัยวะเพศ และต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต
      - หากไม่รักษาจะเป็นสาเหตุให้เกิดการติดเชื้อ HIV ได้ง่าย
      - บางครั้งมีหนองไหลออกมาที่เรียกว่าฝีมะม่วง
    - - การอักเสบจากเชื้อ Streptococci, Staphylococci, Clostridium หลังการคลอด และการทำแท้ง
  - - - ติดต่อได้ทางเพศสัมพันธ์
      - รอยโรคเป็นตุ่มใสและแตกเป็นแผลที่บริเวณปาก ช่องคลอด
      - มักเป็นๆหายๆ (recurrent)
      - อาจติดต่อไปยังทารกในครรภ์ได้
    - - เกิดรอยโรคCondyloma acuminatum
        
        ปากช่องคลอด
        
        ช่องคลอด
        
        ปากมดลูก
      - มีลักษณะขรุขระคล้ายหงอนไก่
      - บางชนิดมีความสัมพันธ์กับ precancerous lesion (รอยโรคก่อนเกิดมะเร็ง)
  - - - ทำให้เกิดการอักเสบที่เยื่อบุปาก ช่องคลอดและช่องคลอด เรียกว่า candidiasis
      - เยื่อบุจะมีสีแดง ระดูขาวจับตัวกันเป็นก้อนและมีอาการคัน
    - - ทำให้เกิดการอักเสบที่ผิวหนังบริเวณผิวหนังปากช่องคลอดและมักเป็นบริเวณขาหนีบ เรียกว่า Tinea cruris
  - - - ทำให้เกิดการอักเสบที่เยื่อบุช่องคลอด
      - ผู้ป่วยจะมีระดูขาวเป็นน้ำสีเหลืองอมเขียว และมีอาการคันปากช่องคลอด
- - - - มีการขัดขวางการเดินทางของOvum ที่ถูกผสมด้วย spermแล้ว ไม่ให้มาถึงโพรงมดลูก
  - - - จากความผิดปกติหลังการผสมของไข่และอสุจิ
      - ทำให้เหลือแต่โครโมโซมของอสุจิไม่มีตัวอ่อน
      - มีเลือดออกและแท้งในที่สุด
- - - - Mons Pubis
      - Labia Majora
      - Labia Minora
      - Clitoris
      - Urethra
    - - Vaginal Canal
      - Uterus
      - Ovary
      - Oviduct/Fallopian Tube
  - - - Scrotal sac
      - Penis
    - - Testis (Testes)
      - Epididymis
      - Vas deferens
      - Ejaculatory ducts
      - Seminal Vesicles
      - Prostate gland
      - Bulbourethral’s gland
- - - - โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
        
        โรคหนองในหรือโกโนเรีย (Gonococcal urethritis)
        
        เชื้อที่ไม่ใช่หนองใน
        
        โรคเริม
        
        โรคซิฟิลิส
        
        โรคหนองในเทียม
        
        ไวรัสHIV
        
        การติดเชื้อที่ไม่ใช่จากเพศสัมพันธ์
        
        E. coli
        
        Staphylococcus
        
        Pseudomonas
        
        ติดต่อผ่านทางลำไส้(ทางอุจจาระ)
        
        ทางไตหรือทางกระเพาะปัสสาวะ(ทางปัสสาวะ)
  - - - อักเสบ ติดเชื้อ
    - - อุบัติเหตุ
      - โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
        
        หนองใน
      - การใส่สายสวนท่อปัสสาวะ
      - เกิดภายหลังการผ่าตัดต่อมลูกหมาก การผ่าตัดนิ่วในไต
- - - - ติดเชื้อที่มาจากการอักเสบของทางเดินปัสสาวะส่วนปลาย
      - การอักเสบของของกระเพาะปัสสาวะ
      - พยาธิสภาพ
        
        ต่อมลูกหมากส่วนใหญ่ มักจะโต นุ่ม และบวมน้ำ
        
        มีเลือดคั่ง
        
        พบหย่อมหนองกระจาย
        
        ผลิตน้ำเมือกเพิ่มมากกว่าปกติ
        
        ภายในต่อมขยายใหญ่ขึ้น
    - - ค่อนข้างบ่อย ส่วนมากพบในผู้ป่วยสูงอายุ
      - ผู้ป่วยมีอาการเรื้อรัง
        
        ปวดหลังบริเวณบั้นเอว
        
        ถ่ายปัสสาวะลำบาก
        
        ปวดบริเวณหัวเหน่า
  - - - ตีบ แบน ยาว
        
        เกิดการอุดกั้น
        
        ปัสสาวะไหลไม่สะดวก
- - - - endometrium หนาตัวมากขึ้นจนถึงระดับหนึ่ง
        
        เกินกำลังที่estrogenจะช่วยให้เจริญต่อไปได้
        
        เยื่อบุบางส่วนจะหลุดลอก
        
        มีเลือดออกกระปริกระปรอย
  - - - ความผิดปกติของโครโมโซม
      - มารดามีการติดเชื้อขณะตั้งครรภ์
      - มีความผิดปกติของการทำงานของต่อมไร้ท่อ
      - ภาวะขาดฮอร์โมน progesterone หรือภาวะ Luteal phase defect
      - ภาวะพร่องทางโภชนาการ (Malnutrition)
      - การสูบบุหรี่
        
        เป็นผลทำให้หลอดเลือดที่รกเสื่อมสภาพ
        
        ทารกอาจเกิดภาวะเจริญเติบโตช้าในครรภ์(Intrauterine growth restriction)
        
        เกิดความพิการ (Congenital abnormally)
        
        เกิดการแท้งได้
    - - การแท้งคุกคาม (Threatened abortion)
        
        ภาวะที่มีเลือดออกจากโพรงมดลูก แต่ปากมดลูกยังปิดอยู่
        
        การตั้งครรภ์สามารถดำเนินต่อไปได้ โดยทารกมีความปลอดภัยสูง
        
        ไม่มีผลิตภัณฑ์ของการตั้งครรภ์หลุดออกมา
      - การแท้งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้(Inevitable abortion)
        
        ภาวะที่มีเลือดออกจากโพรงมดลูก และมีการเปิด ขยายของปากมดลูก
        
        โดยที่ยังไม่มีผลิตภัณฑ์ ของการตงั้ครรภ์หลุดออกมา
      - การแท้งครบ (Complete abortion)
        
        ภาวะที่มีเลือดออกจากโพรงมดลูกและผลิตภัณฑ์ของการตั้งครรภ์ทั้งหมดหลุดออกมา
        
        ถุงน้ำคร่ำ
        
        น้ำคร่ำ
        
        รก
        
        ทารก
      - การแท้ไม่ครบ (Incomplete abortion)
        
        ภาวะที่มีเลือดและผลิตภัณฑ์ของการตั้งครรภ์หลุดออกมาบางส่วน
        
        ปากมดลูกจะยังเปิดอยู่ เนื่องมาจาก ผลิตภัณฑ์จากการตั้งครรภ์ยังออกมาไม่ครบ
      - การแท้งค้าง (Missed abortion)
        
        ภาวะที่ทารกเสียชีวิตอยู่ในครรภ์เป็นเวลาหลายวัน
        
        ปากมดลูกจะยังปิดอยู่ ไม่มีผลิตภัณฑ์ของการตั้งครรภ์หลุดออกมา
        
        ภาวะนี้อาจส่งผลให้มารดาติดเชื้อในกระแสเลือด
        เป็ยอันตรายถึงแก่ชีวิต
- - - - septate vagina
      - double vagina
      - septate uterus
      - double uterus
    - - ความผิดปกติที่เกิดจากการขาดโครโมโซม x 1 ตัว
      - มีการพัฒนาทางเพศหญิงน้อย
      - ไม่มีรังไข่
      - ทำให้เป็นหมัน
      - เตี้ย คอสั้น หน้าอกกว้าง กระดูกอกกว้างแบน
        หวันมห่าง
      - ที่บริเวณคอเป็นพังผืดกางเป็นปีก ไม่มีประจำเดือน
      - เป็นหมันและระดับสติปัญญาต่ำกว่าปกติ
    - - การถูกกระแทก มักพบที่บริเวณ vulva
      - การร่วมเพศ
        
        การร่วมเพศครั้งแรก
        
        มีการร่วมเพศอย่างรุนแรง
        
        อาจพบรอยฉีกขาดที่hymen
      - การคลอด
        
        ทำให้เกิดรอยฉีกขาดของช่องทางคลอดได้
        
        ที่ปากมดลูก
        
        ผนังช่องคลอด
        
        ปากช่องคลอด
        
        การฉีกขาดนี้มักจะมีเลือดออกและจะได้รับการเย็บรอยฉีกขาดหลังจากคลอดเสร็จ
      - ผลตามมมา
        
        ผนังด้านหน้าหย่อน
        
        กระเพาะปัสสาวะโป่งเข้ามาในช่องคลอดเรียกว่า Cystocele
        
        ผนังด้านหลังหย่อน
        
        rectumโป่งเข้ามาในช่องคลอดเรียกว่า Rectocele
        
        ปากมดลูกเคลื่อนต่ำลงมาจากตำแหน่งปกติเรียกว่า descensuscervicis
        
        เกิดภาวะที่เรียกว่า กระบังลมหย่อน
- - - - ไวรัสชนิดนี้ติดต่อจากการสัมผัส ส่วนใหญ่เป็นการสัมผัสทางเพศสัมพันธ์
    - - Stage I เซลล์มะเร็งอยู่เฉพาะที่ปากมดลูก
        
        การรักษามะเร็งปากมดลูก ระยะ1คือผ่าตัดใหญ่ ผ่าตัดมดลูก เลาะต่อมน้ำเหลืองในเชิงกรานได้ ผลดีถึง 80%
      - Stage II เซลล์มะเร็งกระจายออกจากปากมดลูก
        
        ไม่สามารถผ่าตัดได้ การรักษามะเร็งปากมดลูก ระยะที่2 นี้ต้องรักษาด้วยการฉายรังสีและการให้ เคมีบำบัด(คีโม)ได้ ผลราว 60%
      - Stage III เซลล์มะเร็งกระจายไปที่ผนังช่องเชิงกราน
        
        การรักษาคือใช้รังสีรักษา และการให้เคมีบำบัด การรักษาระยะนี้ ได้ผลประมาณ 20-30%
      - Stage IV เป็นระยะที่เซลล์มะเร็งกระจายทั่วร่างกาย
        
        การรักษาคือการให้คีโมและรักษาตามอาการ โดยหวังผลได้เพียง5-10% และโอกาสรอดน้อยมาก