Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กฎหมายวิชาชีพการพยาบาล, นางสาวสโรชา ยาวิใจ เลขที่35 รุ่น36/2 612001115 -…
กฎหมายวิชาชีพการพยาบาล
การควบคุมผู้ประกอบวิชาชีพ
จุดประสงค์
1.การคุ้มครองผู้รับบริการหรือผู้บริโภค
2.การสงวนวิชาชีพให้กับบุคลากรในวิชาชีพ
3.การควบคุมผู้ประกอบวิชาชีพให้บริการอย่างมีมาตรฐาน
มาตรการควบคุมผู้ประกอบวิชาชีพ
1.ห้ามผู้ไม่มีสิทธิคือไม่มีใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพฯ
2.ให้มีข้อกำหนดจริยธรรมแห่งวิชาชีพ
3.มีมาตรการลงโทษ
ในกรณีทีละเมิดข้อกำหนดวิชาชีพ
ข้อยกเว้น ผู้ไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพแต่สามารถประกอบวิชาชีพได้
1.การกระทำต่อตนเอง
2.การช่วยเหลือดูแลบุคคลอื่นให้พ้นจากความทุกข์ทรมานในเงื่อนไขดังนี้
2.1ไม่ได้รับประโยชน์ตอบแทนใดๆ
2.2ไม่ฉีดยาหรือสารใดๆเข้าไปในร่างกาย
2.3ไม่ให้ยาอันตราย
ยาควบคุมพิเศษ
วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท
3.นักเรียน นักศึกษา ในสถาบันที่สภาฯรับรอง ภายใต้การนิเทศจากผู้ประกอบวิชาชีพ
4.ผู้ประกอบโรคศิลปะ
ทำตามเกณฑ์การประกอบวิชาชีพตนแต่เข้าข่ายการประกอบวิชาชีพการพยาบาล
5.ผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศที่ได้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพฯในประเทศของตน
สภาออกใบอนุญาตชั่วคราวให้ไม่เกิน 1 ปี
ข้อกำหนดจริยธรรมวิชาชีพ (4หมวด 38ข้อ)
หมวดที่ 1 หลักทั่วไป
หมวดที่ 2 การประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
หมวดที่ 3 การโฆษณาการประกอบวิชาชีพ
หมวดที่ 4 ปกิณกะ
กระบวนการพิจารณาความผิดของผู้ประพฤติผิดจริยธรรม
1.ผู้เสียหาย กล่าวหา ต่อสภาการพยาบาล
2.กรรมการสภากล่าวโทษ ต่อสภาการพยาบาล
3.อายุความการกล่าวหา กล่าวโทษ
4.สภาฯส่งเรื่องให้อนุกรรมการจริยธรรมพิจารณาเมื่อได้ข้อมูลส่งคณะกรรมการสภา
พิจารณาตัดสินว่าคดีมีมูล
5.สภาฯส่งเรื่องให้คณะอนุกรรมการสอบสวนพิจารณา สอบสวน
เมื่อได้ข้อมูลส่งคณะ
กรรมการสภาพิจารณาตัดสิน
6.คณะกรรมการสภาตัดสิน
อำนาจหน้าที่ของอนุกรรมการจริยธรรมและอนุกรรมการสอบสวน
อนุกรรมการจริยธรรม
มีหน้าที่ในการเก็บรวบรวมข้อมูล
พยานหลักฐานข้อเท็จจริง
ว่าคดีมีมูลหรือไม่
แล้วนำหลักฐานพร้อมความคิดเห็นส่งให้คณะกรรมการสภาตัดสิน
หากคณะกรรมการสภาตัดสินว่าคดีมีมูลให้อนุกรรมการสอบสวนดำเนินการสอบสวนในรายละเอียด
อนุกรรมการสอบสวนไม่มีหน้าที่ตัดสินเมื่อรวบรวม
ข้อมูลพร้อมกับความคิดเห็นแล้วจะส่งให้กรรมการสภาพิจารณาตัดสินต่อไป
อายุความการกล่าวหา กล่าวโทษ มีกำหนด 3 ปี นับตั้งแต่วันเกิดเหตุ และมีกำหนด 1
ปี นับแต่วันรู้ตัวผู้กระทำผิด
ประเด็นที่1
เกิดเหตุวันที่ 1 มกราคม 2541
รู้ตัวผู้กระทำผิดวันที่ 1 มกราคม 2542
อายุความจะมีอยู่ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2542
ประเด็นที่2
เกิดเหตุวันที่ 1 มกราคม 2541
รู้ตัวผู้กระทำผิดวันที่ 10 มกราคม 2541
อายุความจะมีอยู่ถึงวันที่ 9 มกราคม 2542
ประเด็นที่3
เกิดเหตุวันที่ 1 มกราคม 2541
รู้ตัวผู้กระทำผิดวันที่ 1 พฤศจิกายน 2543
อายุความจะมีอยู่ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2543
การพิจารณาสอบสวน กฎหมายให้สิทธิคัดค้านการแต่งตั้งอนุกรรมการได้ โดยบุคคล
ต่อไปนี้
ผู้รู้เห็นเหตุการณ์
ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
ผู้มีเหตุโกรธเคืองกับผู้ถูกกล่าวหา
คู่สมรส หรือเป็นญาติเกี่ยวข้องกับบุพการี ผู้สืบสันดาน
หรือพี่น้องร่วมบิดามารดากับผู้ถูกกล่าวหา กล่าวโทษ
การคัดค้านการแต่งตั้งอนุกรรมการสอบสวน
ต้องยื่นต่อคณะกรรมการภายใน 7 วัน
นับตั้งแต่วันทราบคำสั่งของคณะอนุกรรมการสอบสวน
เมื่อเรื่องขึ้นสู่การพิจารณาคดีของสภาการพยาบาล
จะต้องดำเนินคดีไปจนเสร็จสิ้น
การยอมความไม่มีผลต่อการพิจารณาคดีของสภาการพยาบาล
ผลการลงมติของคณะกรรมการสภาฯ ในการพิจารณาคดีจะทำเป็นคำสั่งให้นายกสภา
ลงนามคำสั่งสภาถือเป็นที่สุด คือ อุธรณ์ไม่ได้
เมื่อผู้ประกอบ วิชาชีพรับทราบคำสั่งลงโทษ
ถ้าเป็นการพักใช้ต้องหยุดประกอบ
วิชาชีพทันที
การครบกำหนดนับแต่วันรับทราบคำสั่งพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาต
การเพิกถอนใบอนุญาตต้องส่งคืนใบอนุญาตภายใน 15 วัน ต่อเลขาธิการสภา
สภาการพยาบาลมีสิทธิเพิ่มโทษจากพักใช้เป็นเพิกถอนได้โดยอัตโนมัติ
ถูกพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
ไม่หยุดประกอบวิชาชีพตามกฎหมาย
1 more item...
การขอขึ้นทะเบียนใหม่ภายหลังถูกเพิกถอนใบอนุญาต
ระยะเวลาต้องพ้น 2 ปี นับแต่วันที่สภาการพยาบาลมีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาต (ไม่ใช่วันที่รับทราบคำสั่ง)
1 more item...
พนักงานเจ้าหน้าที่
ตามประมวลกฎหมายอาญาต้องแสดงบัตรประจำตัวแก่บุคคลที่เกี่ยวข้อง
สถานที่ที่กฎหมายกำหนด
1.สถานที่ประกอบการที่มีผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์หรือการพยาบาลและผดุงครรภ์
ปฏิบัติงานอยู่
2.สถานที่มีเหตุผลสมควรเชื่อว่ามีการประกอบวิชาชีพการพยาบาลการผดุงครรภ์หรือการ
พยาบาลและผดุงครรภ์
3.สถานที่สอบสวนหรือเชื่อว่าทำการสอนวิชาการพยาบาล การผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์
บทกำหนดโทษ
โทษทางอาญา
1.ประกอบวิชาชีพโดยไม่มีใบอนุญาต
จำคุกไม่เกิน 2 ปี และหรือปรับไม่เกิน 2000
2.บุคคลที่พ้นจากสมาชิกสามัญ(พ้นจากการเป็นสมาชิกสามัญ
ลาออก
ขาดคุณสมบัติ
ตาย
3.ต้องพ้นจากการเป็นผู้ประกอบวิชาชีพด้วยและต้องส่งคืนใบอนุญาตต่อเลขาธิการภายใน 15วัน
ฝ่าฝืนปรับไม่เกิน 1000 บาท (มีเฉพาะโทษปรับอย่างเดียว)
4.การไม่มาให้ถ้อยคำหรือไม่ส่งเอกสาร
ต้องโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
5.ผู้ไม่อำนวยความสะดวกแก่เจ้าพนักงาน
ระวางโทษไม่เกิน 1 เดือนหรือปรับไม่เกิน 1000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับโทษทางวิชาชีพ
ว่ากล่าวตักเตือน
ภาคทัณฑ์
พักใช้
เพิกถอน
การเพิ่มโทษทางวิชาชีพตามกฎหมาย(มาตรา44)จากพักใช้ เป็นเพิกถอน
เกิดขึ้นใน
กรณีเดียว
ระหว่างถูกพักใช้และเพิกถอนไปประกอบวิชาชีพหรือแสดงด้วยวิธีใดๆให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้มีสิทธิประกอบวิชาชีพฯ
มีโทษทางอาญาเท่ากับผู้ไม่มีสิทธิประกอบวิชาชีพฯแต่มาประกอบวิชาชีพ
เฉพาะโทษจำคุกเท่านั้นที่ให้
เพิ่มโทษทางวิชาชีพโดยนับแต่วันที่ศาลคำสั่งพิพากษาถึงที่สุด
ตามมาตรา 43 กำหนดว่า การแสดงด้วยวิธีใดๆให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้มีสิทธิประกอบวิชาชีพฯ
ดังนั้นระหว่างพักใช้ (ซึ่งถือว่าเป็นโทษชั่วคราว ไม่ต้องส่งคืนใบอนุญาต)
ไม่สามารถแต่งชุดพยาบาลในหอผู้ป่วยได้
กระหว่างถูกพักใช้ไป
ปฏิบัติและถูกคำสั่งพิพากษาจำคุกด้วยกรณีอื่น
ให้การพยาบาลโดยประมาทเลินเล่อ
ให้ผู้ป่วยถึงแก่ความตายไม่เข้าเกณฑ์การเพิ่มโทษตามมาตรา 44
บทเฉพาะกาลเพิ่มเติม(พระราชบัญญัติวิชาชีพฯ พ.ศ.2540)
1.ให้กรรมการทุกประเภทตามพระราชบัญญัติวิชาชีพฯ พ.ศ.2528 ดำรงอยู่จนครบวาระ
2.ใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะแผนปัจจุบันในสาขาการพยาบาลการผดุงครรภ์และสาขาการพยาบาลและการผดุงครรภ์
ใบอนุญาตที่ออกตามพระราชบัญญัติวิชีพฯ
พ.ศ.2528มีอายุต่อไปอีก 5 ปี นับแต่วันที่กฎหมายบังคับใช้
3.ผู้ที่ไม่เข้าเกณฑ์ตามข้อ 2 แต่สำเร็จการศึกษาในหลักสูตรไม่น้อยกว่า 3 ปี
การพยาบาลและการผดุงครรภ์จากสถาบันการศึกษาในประเทศไทย
เมื่อสภาการพยาบาลตรวจสอบหลักสูตรและผ่านการสอบความรู้
มีสิทธิขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพ
4.ยกเลิกค่าธรรมเนียมเก่าและใช้อัตราค่าธรรมเนียมใหม่ท้ายพระราชบัญญัตินี้แทน
5.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขรักษาการณ์ตามพระราชบัญญัตินี้
ปัจจุบัน พ.ศ.2545 เมื่อครบกำนด 5 ปี บทเฉพาะกาลที่กำหนดไว้ มีผลสิ้นสุดลงใบ
อนุญาตทุกประเภท
หรือใบอนุญาตที่ออกตาม
พระราชบัญญัติวิชาชีพฯ พ.ศ.2528 มีผลสิ้นสุดลงต้องต่อใบอนุญาตประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
แต่ในระหว่าง 5 ปีต่อไป (หลัง พ.ศ.2545) ต้องสะสมหน่วยคะแนนในการเพิ่มพูนความรู้ 50 หน่วยคะแนนเพิ่มด้วย
พระราชบัญญัติ วิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ พ.ศ.2528 ที่แก้ไขเพิ่มเติมโดย
พระราชบัญญัติวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์(ฉบับที่2)พ.ศ.2540
เกณฑ์สากลของความเป็นวิชาชีพ
1.อาชีพนั้นมีความจำเป็นต่อสังคม
2.มีศาสตร์เฉพาะสาขาของตน และมีการอบรมในระบบวิชาชีพ ที่ยาวนานพอสมควร
ถึงขั้น
อุดมศึกษา
3.สามารถให้บริการแก่ผู้รับบริการได้มาตรฐานและตามบรรทัดฐานของวิชาชีพนั้น
4.มีจรรยาบรรณในการประกอบวิชาชีพ
เพื่อปกป้องผู้รับบริการ
5.มีเอกสิทธิ์ในการทำงาน
6.มีองค์กรวิชาชีพ ทำหน้าที่ควบคุมสมาชิกของวิชาชีพ
รวมทั้งการผลักดันในแง่กฎหมาย
เพื่อ
คุ้มครองสมาชิกและผู้รับบริการ
พระราชบัญญัติวิชาชีพการพยาบาล
พระราชบัญญัติ วิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์พ.ศ.2528 ที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์(ฉบับที่2)พ.ศ.2540
ความสำคัญของกฎหมายวิชาชีพ
เกณฑ์สากลของความเป็นวิชาชีพ
1.อาชีพนั้นมีความจำเป็นต่อสังคม
2.มีศาสตร์เฉพาะสาขาของตนและมีการอบรมในระบบวิชาชีพ
3.สามารถให้บริการแก่ผู้รับบริการได้มาตรฐานและตามบรรทัดฐานของวิชาชีพนั้น
4.มีจรรยาบรรณในการประกอบวิชาชีพ
เพื่อปกป้องผู้รับบริการ
5.มีเอกสิทธิ์ในการทำงาน
6.มีองค์กรวิชาชีพ
ทำหน้าที่ควบคุมสมาชิกของวิชาชีพ รวมทั้งการผลักดันในแง่กฎหมาย
เพื่อคุ้มครองสมาชิกและผู้รับบริการ
นิยามศัพท์ที่สำคัญ
การพยาบาล
เป็นการกระทำต่อมนุษย์เกี่ยวกับการดูแลและการช่วยเหลือเมื่อเจ็บป่วย การฟื้นฟูสภาพ การป้องกันโรค และการส่งเสริมสุขภาพ
การผดุงครรภ์
การกระทำเกี่ยวกับการดูแลและการช่วยเหลือหญิงมีครรภ์ หญิงหลังคลอด และทารกแรกเกิด
รวมถึงการตรวจ การทำคลอด การส่งเสริมสุขภาพ และการป้องกันความผิดปกติในระยะตั้งครรภ์ ระยะคลอดและระยะหลังคลอด
การประกอบวิชาชีพการพยาบาล
การปฏิบัติหน้าที่ พยาบาลต่อบุคคล ครอบครัว ชุมชน โดยการกระทำ ดังต่อไปนี้
1.การสอน การแนะนำ การให้คำปรึกษาและแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ
2.การกระทำต่อร่างกายและจิตใจของบุคคล รวมทั้งการจัดสภาพแวดล้อมเพื่อ
แก้ไขปัญหาความเจ็บป่วย
3.การกระทำตามวิธีที่กำหนดไว้ในการรักษาโรคเบื้องต้นและการให้ภูมิคุ้มกัน
โรค
4.การช่วยเหลือแพทย์กระทำการรักษาโรค
อาศัยหลักวิทยาศาสตร์และศิลปะการพยาบาล
การประเมินสภาพการวินิจฉัยปัญหา
การวางแผน การปฏิบัติการ
ประเมินผล
การประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์
การปฏิบัติหน้าที่การผดุงครรภ์ต่อหญิงมีครรภ์ หญิงหลังคลอดทารกแรกเกิด และครอบครัว โดยกระทำดังต่อไปนี้
1.การสอน การแนะนำ การให้คำปรึกษาและการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ
อนามัย
2.การกระทำต่อร่างกายและจิตใจของหญิงมีครรภ์
3.การตรวจ การทำคลอด และการวางแผนครอบครัว
4.การช่วยเหลือแพทย์กระทำการรักษาโรค
อาศัยหลักวิทยาศาสตร์และศิลปะการผดุงครรภ์
การประเมินสภาพการวินิจฉัยปัญหา
การวางแผน การปฏิบัติการ
ประเมินผล
กำหนดให้มีสภาการพยาบาล ฐานะของสภาการพยาบาล(มาตรา6)
1.เป็นนิติบุคคล ตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
2.การตั้งขึ้นตามกฎหมายเฉพาะ(พ.ร.บ.)
ทำให้ไม่สามารถถูกฟ้องล้มละลาย
และไม่สามารถเลิกกิจการเหมือนเช่นนิติบุคคลทั่วไป
นิติบุคคลตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
1.เป็นบุคคลสมมุติตามกฎหมาย มีสภาพเหมือนบุคคลทั่วไป
ยกเว้น สิทธิที่
บุคคลจริงจะมีได้
การจดทะเบียนสมรส
2.นิติบุคคลทำความผิด
ผู้แทนของนิติบุคคลร่วมรับผิดในฐานะตัวการ และนิติบุคคลนี้ถูกฟ้องล้มละลายได้
วัตถุประสงค์ของสภาการพยาบาล (มาตรา7)อำนาจและหน้าที่ของสภาการพยาบาล (มาตรา8)รายได้ของสภาการพยาบาล(มาตรา9)
1.งบประมาณแผ่นดิน
2.ค่าจดทะเบียนสมาชิกสามัญ ค่าบำรุง และค่าธรรมเนียมต่างๆ
3.จากการหารายได้ของสภาการพยาบาล
โดยใช้เพื่อวัตถุประสงค์ของสภาการ
พยาบาล
จัดสวัสดิการให้สมาชิก
4.รายได้จากเงินบริจาค รวมทั้งดอกผลของรายได้ต่างๆ
ตราสภาการพยาบาล
การเป็นนิติบุคคลต้องมีตราตามกฎหมายเป็นรูปวงกลม
มีตะเกียงตั้งอยู่บน
ฐานของดอกบัว มีคำว่าสภาการพยาบาลเหนือตะเกียงในวงกลม
มีคำว่า พ.ศ.2528 อยู่ที่ฐานของดอกบัว
สมาชิกและสิทธิหน้าที่ตามกฎหมาย(หมวด2มาตรา11-13)
ประเภทของสมาชิก มี 2 ประเภท
1.สมาชิกสามัญ
สิทธิและหน้าที่ของสมาชิกสามัญ(มาตรา12)การพ้นจากสภาพสมาชิกสามัญ(มาตรา13) มีดังนี้
1.ตาย
2.ลาออก
3.ขาดคุณสมบัติตามมาตรา 11(1)
การพ้นจากสมาชิกสามัญ
จะต้องส่งคืนใบอนุญาตฯ ต่อเลขาธิการ ภายใน 15 วัน
นับแต่ทราบการขาดสมาชิกภาพ(มาตรา
31 วรรค 3)
หากไม่ส่ง มีโทษปรับไม่เกิน 1000 บาท ซึ่งเป็นโทษปรับอย่างเดียว
ไม่มีโทษจำคุกต่างจากโทษตามมาตราอื่นๆ
2.สมาชิกกิตติมศักดิ์
สมาชิกกิตติมศักดิ์มีคุณสมบัติของสมาชิกกิตติมศักดิ์ มาตรา 11(2)
1.เป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่สภาการพยาบาลเห็นสมควรเชิญให้เป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์
2.จำนวนอายุ การเป็นผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมายไม่ได้กำหนด
โรคต้องห้ามตามข้อบังคับของสภาการพยาบาล
1.โรคจิต โรคประสาท
2.การติดยาเสพติดให้โทษอย่างร้ายแรง ติดสุราเรื้อรัง
3.โรคในระยะปรากฏอาการเป็นที่น่ารังเกียจต่อสังคมหรือเป็นอุปสรรคต่อการ
ประกอบวิชาชีพ
โรคคุดทะราด
โรคเอดส์
กามโรค
โรคเท้าช้าง
โรคเรื้อน
ในระยะติดต่อ
การขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบวิชาชีพ
1.สำเร็จในประเทศ คนสัญชาติไทยและมิใช่สัญชาติไทย
สำเร็จการศึกษาพยาบาลตามที่กำหนด
สมัครเป็นสมาชิกสามัญ
สอบขึ้นทะเบียน
2.สำเร็จในต่างประเทศ
คนสัญชาติไทย
สำเร็จการศึกษาพยาบาลตาที่กำหนด
ไม่ต้องสอบใบอนุญาตในประเทศที่ตนจบ
สมัครเป็นสมาชิกสามัญ
สอบขึ้นทะเบียน
คนมิใช่สัญชาติไทย
สำเร็จการศึกษาพยาบาลตามที่กำหนด
-ต้องสอบใบอนุญาตในประเทศที่ตนจบ
สมัครเป็นสมาชิกสามัญ
สอบขึ้นทะเบียน
มีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศ 6 เดือน นับถึงวันสอบสมัครสอบวันสุดท้าย
เกณฑ์สำหรับผู้ไม่ขึ้นทะเบียนทันทีที่สำเร็จการศึกษา
1.สำเร็จก่อนและหลัง 6 กันยายน 2528
กรณีปฏิบัติงานโรงพยาบาลของรัฐ ครบ2ปี
สมัครเป็นสมาชิกสามัญและ
ขอขึ้นทะเบียนทันทีไม่ต้องขอสอบ
ปฏิบัติงานในสถานพยาบาลเอกชน ต้องผ่านการฝึกอบรมทางวิชาการตามที่
สภาฯกำหนด
2.หลัง 24 ธันวาคม 2540 (สมัครเป็นสมาชิกสามัญและขอสอบขึ้นทะเบียน)
ประเภทของใบอนุญาต มี3ประเภท
1.ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้น 1 และ 2
2.ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้น 1 และ 2
3.ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้น 1 และ 2
การพ้นจากการเป็นผู้ประกอบวิชาชีพฯ
เงื่อนไข
1.พ้นจากการเป็นสมาชิกสามัญ
2.ถูกเพิกถอนใบอนุญาต
3.ใบอนุญาตหมดอายุ
คณะกรรมการสภาการพยาบาล
ประเภทของคณะกรรมการฯ
1.กรรมการสภาฯ จากการเลือกตั้ง จำนวน 16 คน
2.กรรมการสภาฯ จากการแต่งตั้ง จำนวน 16 คน
3.กรรมการที่ปรึกษา จำนวนไม่เกิน 1 ใน 4 ของกรรมการ
สรุปประเด็นสำคัญ
1.นายกสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทย เป็นกรรมการสภาโดยตำแหน่ง
2.ตัวแทนจากกระทรวงสาธารณสุขมีสัดส่วนมากที่สุด กรรมการสภา
มาจากปลัดกระทรวงสาธารณสุขไม่ต้องประกอบวิชาชีพพยาบาล
3.ถ้านายกสภาฯเลือกเลขาธิการสภาจากสมาชิกสามัญ กรรมการ จะมีจำนวน 33 คน
4.การเลือกตั้งนายกสภาฯ เป็นการเลือกตั้งทางอ้อม
5.กรรมการสภาฯ เลือกคณะผู้บริหารฯ ได้แก่ นายกสภา อุปนายกสภา คนที่1
และ คนที่ 2
6.นายกสภา เลือก เลขาธิการสภา รองเลขาธิการสภา ประชาสัมพันธ์ เหรัญญิก
7.วาระของกรรมการ 4 ปี ตามวาระที่มาของกรรมการว่าแต่งตั้ง
8.นายกสภาฯถอดถอนเลขาธิการได้
กรรมการพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระได้ในกรณีต่อไปนี้
1.ขาดคุณสมบัติตามมาตรา13 ได้แก่ ตาย ลาออก ขาดคุณสมบัติตามมาตรา
11(1)
2.ขาดคุณสมบัติตามาตรา 18
3.ลาออก
มาตรา 18 คุณสมบัติของกรรมการสภาฯ
1.เป็นผู้ประกอบวิชาชีพฯ
2.ไม่เคยถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตหรือเพิกถอนใบอนุญาต
3.ไม่เคยเป็นบุคคลล้มละลาย
การเลือกตั้งกรรมการแทนตำแหน่งที่ว่างลง
กรรมการว่างลง=หนึ่งในสองหรือน้อยกว่าของกรรมการจากการเลือกตั้งมากกว่าหรือเท่ากับ 8 เลือกสมาชิกสามัญขึ้นแทน
มากกว่า 8 คน ต้องจัดให้
สมาชิกสามัญเลือกตั้งกรรมการขึ้นแทนภายใน 90 วัน
ถ้าอายุกรรมการเหลือต่ำกว่า 90 วัน ให้รอเลือกตั้งใหญ่พร้อมกัน
ความแตกต่างระหว่างคุณสมบัติของกรรมการสภาและสมาชิกสามัญ
1.การไม่เคยเป็นบุคคลล้มละลาย
2.ไม่เคยถูกพักใช้ เพิกถอน
กรรมการจะดำรงตำแหน่งมากกว่า 2 วาระ ติดต่อกันไม่ได้
หน้าที่กรรมการบริหารสภาการพยาบาล
การดำเนินกิจการของคณะกรรมการสภาฯ
1.การประชุมของคณะกรรมการสภาการพยาบาล
1.1เรื่องทั่วไป กรรมการอย่างน้อย=16คน (หนึ่งในสอง)
1.2เรื่องสำคัญ ที่ใช้กรรมการเต็มคณะมี 2 กรณี
ก.การให้สมาชิกพ้นจากสมาชิกภาพ เพราะขาดคุณสมบัติตามมาตรา11(1)
ข.การพิจารณาทบทวนการลงมติ ในเรื่องที่สภานายกพิเศษยับยั้งมติของสภาการพยาบาล
2.การลงมติ
2.1เรื่องทั่วไป ถือเสียงข้างมาก ถ้าเสียงเท่ากันให้ประธานชี้ขาด
2.2เรื่องสำคัญ คะแนนเห็นชอบ จะต้องมี 2 ใน 3
ไม่ต่ำกว่า 22 เสียง
3.การขอความเห็นชอบจากสภานายกพิเศษ
อาจมีคำสั่ง เห็นชอบ หรือไม่แยงคำสั่งใดๆใน15วัน ถือว่าเห็นชอบ
การลงมติแย้งสภานายกพิเศษ ต้องทำภายใน30วัน ใช้กรรมการสภาเต็มคณะลง
มติด้วยเสียง 2/3
4.การพ้นจากตำแหน่งของกรรมการที่ปรึกษา
กรรมการที่ปรึกษาจากกรรมการชุดใดพ้นจากตำแหน่งตามวาระกรรมการชุดนั้น
5.การเข้าแทนตำแหน่งของกรรมการสภาที่ว่างลงก่อนครบวาระ
นายกสภาฯ
1.ดำเนินกิจการของสภาการพยาบาล
2.เป็นผู้แทนสภาในกิจการต่างๆ
3.เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการเลขาธิการสภา
เลขาธิการสภา
1.ควบคุมรับผิดชอบงานธุรการทั่วไป
2.ควบคุมบังคับบัญชาเจ้าหน้าที่สภาฯ
3.รับผิดชอบในการดูแลทะเบียนต่างๆ
4.ควบคุมทรัพย์สินของสภาฯ
5.เป็นเลขานุการคณะกรรมการ
สภานายกพิเศษ
1.รักษาการตามพระราชบัญญัติ(มาตรา5)
2.แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่
3.ออกกฎกระทรวงและกำหนดค่าธรรมเนียมต่างๆ(มาตรา 5)
4.ให้ความเห็นชอบมติของคณะกรรมการในเรื่อง
1.การออกข้อบังคับสภาฯ
2.การกำหนดงบประมาณของสภาฯ
3.การให้สมาชิกพ้นจากสมาชิกภาพ
4.การวินิจฉัยชี้ขาด ขั้นลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพ ขั้นพักใช้ และเพิกถอนใบ
อนุญาตฯ
นางสาวสโรชา ยาวิใจ เลขที่35 รุ่น36/2 612001115