Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การควบคุมผู้ประกอบวิชาชีพและ พระราชบัญญัติวิชาชีพการพยาบาล, นางสาว…
การควบคุมผู้ประกอบวิชาชีพและ
พระราชบัญญัติวิชาชีพการพยาบาล
ข้อยกเว้น ผู้ไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพแต่สามารถประกอบวิชาชีพได้
3.นักเรียน นักศึกษา ในสถาบันที่สภาฯรับรอง ภายใต้การนิเทศจากผู้ประกอบวิชาชีพ
4.ผู้ประกอบโรคศิลปะที่ทำตามเกณฑ์การประกอบวิชาชีพตน
2.การช่วยเหลือดูแลบุคคลอื่นให้พ้นจากความทุกข์ทรมาน
ไม่ฉีดยาหรือสารใดๆเข้าไปในร่างกาย
ไม่ให้ยาอันตราย ยาควบคุมพิเศษ หรือวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท
ไม่ได้รับประโยชน์ตอบแทนใดๆ
5.ผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศที่ได้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพฯในประเทศของตน
1.การกระทำต่อตนเอง
จุดประสงค์ของการควบคุมผู้ประกอบวิชาชีพ
2.การสงวนวิชาชีพให้กับบุคลากรในวิชาชีพ
3.การควบคุมผู้ประกอบวิชาชีพให้บริการอย่างมีมาตรฐาน
1.การคุ้มครองผู้รับบริการหรือผู้บริโภค
มาตรการควบคุมผู้ประกอบวิชาชีพ
2.ให้มีข้อกำหนดจริยธรรมแห่งวิชาชีพ
3.มีมาตรการลงโทษ ในกรณีทีละเมิดข้อกำหนดวิชาชีพ ระบุสาระของการดำเนินการสอบสวน การตัดสิน และโทษ
1.ห้ามผู้ไม่มีสิทธิคือไม่มีใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพฯ
ข้อกำหนดจริยธรรมวิชาชีพ (4หมวด 38ข้อ)
หมวดที่ 2 การประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
หมวดที่ 3 การโฆษณาการประกอบวิชาชีพ
หมวดที่ 1 หลักทั่วไป
หมวดที่ 4 ปกิณกะ
กระบวนการพิจารณาความผิดของผู้ประพฤติผิดจริยธรรม
2.กรรมการสภากล่าวโทษ ต่อสภาการพยาบาล
3.อายุความการกล่าวหา กล่าวโทษ
1.ผู้เสียหาย กล่าวหา ต่อสภาการพยาบาล
อำนาจหน้าที่ของอนุกรรมการจริยธรรมและอนุกรรมการสอบสวน
มีหน้าที่
แล้วนำหลักฐานพร้อมความคิดเห็นส่งให้คณะกรรมการสภาตัดสิน
เก็บรวบรวมข้อมูล พยานหลักฐานข้อเท็จจริง
อายุความการกล่าวหา กล่าวโทษมีกำหนด 3 ปี
ประเด็นที่ 2
เกิดเหตุวันที่ 1 มกราคม 2541 รู้ตัวผู้กระทำผิดวันที่ 10 มกราคม 2541
อายุความจะมีอยู่ถึงวันที่ 9 มกราคม 2542
ประเด็นที่ 3
เกิดเหตุวันที่ 1 มกราคม 2541 รู้ตัวผู้กระทำผิดวันที่ 1 พฤศจิกายน 2543
อายุความจะมีอยู่ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2543
ประเด็นที่ 1
เกิดเหตุวันที่ 1 มกราคม 2541 รู้ตัวผู้กระทำผิดวันที่ 1 มกราคม 2542
อายุความจะมีอยู่ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2542
การพิจารณาสอบสวน กฎหมายให้สิทธิคัดค้านการแต่งตั้งอนุกรรมการได้
ตัวอย่างบุคคลที่สามารถคัดค้านได้
ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
ผู้มีเหตุโกรธเคืองกับผู้ถูกกล่าวหา
ผู้รู้เห็นเหตุการณ์
การคัดค้าน ต้องยื่นต่อคณะกรรมการภายใน7 วัน
นับตั้งแต่วันทราบคำสั่งของคณะอนุกรรมการสอบสวน
เมื่อเรื่องขึ้นสู่การพิจารณาคดีของสภาการพยาบาล จะต้องดำเนินคดีไปจนเสร็จสิ้น
การพิจารณาคดีผู้ประกอบวิชาชีพมีสิทธิเพียงนำเอกสารหลักฐานมาชี้แจงและมาให้ปากคำ ไม่มีสิทธิแต่งตั้งทนายความขึ้นต่อสู้ทางคดีได้
ผลการลงมติของคณะกรรมการสภาฯ ในการพิจารณาคดีจะทำเป็นคำสั่งให้นายกสภาลงนามคำสั่งสภาถือเป็นที่สุด คือ อุธรณ์ไม่ได้
เมื่อผู้ประกอบ วิชาชีพรับทราบคำสั่งลงโทษ ถ้าเป็นการพักใช้ต้องหยุดประกอบวิชาชีพทันที
การเพิกถอนใบอนุญาตต้องส่งคืนใบอนุญาตภายใน 15 วัน ต่อเลขาธิการสภา
มาตรา43(ภายใต้มาตรา27)บุคคลที่ได้รับคำสั่งพักใช้
หากเพียงแค่แสดงด้วยวิธีการใดๆให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้มีสิทธิประกอบวิชาชีพ
ถือเป็นการละเมิด
การขอขึ้นทะเบียนใหม่ภายหลังถูกเพิกถอนใบอนุญาต
ระยะเวลาต้องพ้น 2 ปี นับแต่วันที่สภาการพยาบาลมีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาต
ถ้าถูกปฏิเสธครั้งที่ 1 สามารถยื่นขอครั้งที่ 2 ภายหลังครบ 1 ปี
บทกำหนดโทษ
2.บุคคลที่พ้นจากสมาชิกสามัญ
3.ต้องพ้นจากการเป็นผู้ประกอบวิชาชีพด้วยและต้องส่งคืนใบอนุญาตต่อเลขาธิการภายใน 15 วัน ฝ่าฝืน
ปรับไม่เกิน 1000 บาท (มีเฉพาะโทษปรับอย่างเดียว)
4.การไม่มาให้ถ้อยคำหรือไม่ส่งเอกสาร ต้องโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
1.ประกอบวิชาชีพโดยไม่มีใบอนุญาต จำคุกไม่เกิน 2 ปี และ/หรือปรับไม่เกิน 2000 บาท
5.ผู้ไม่อำนวยความสะดวกแก่เจ้าพนักงาน ระวางโทษไม่เกิน 1 เดือนหรือปรับไม่เกิน 1000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
บทเฉพาะกาลเพิ่มเติม(พระราชบัญญัติวิชาชีพฯ พ.ศ.2540)
2.ใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะแผนปัจจุบันในสาขาการพยาบาลการผดุงครรภ์พ.ศ.2528 มีอายุต่อไปอีก 5 ปี นับแต่วันที่กฎหมายบังคับใช้
3.ผู้ที่ไม่เข้าเกณฑ์ตามข้อ 2แต่สำเร็จการศึกษาในหลักสูตรไม่น้อยกว่า 3 ปี
เมื่อสภาการพยาบาลตรวจสอบหลักสูตรและผ่านการสอบความรู้แล้วมีสิทธิขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพ
4.ยกเลิกค่าธรรมเนียมเก่าและใช้อัตราค่าธรรมเนียมใหม่ท้ายพระราชบัญญัตินี้แทน
1.ให้กรรมการทุกประเภทตามพระราชบัญญัติวิชาชีพฯ พ.ศ.2528 ดำรงอยู่จนครบวาระ
5.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขรักษาการณ์ตามพระราชบัญญัตินี้
พระราชบัญญัติ วิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ พ.ศ.2528
เกณฑ์สากลของความเป็นวิชาชีพ
3.สามารถให้บริการแก่ผู้รับบริการได้มาตรฐานและตามบรรทัดฐานของวิชาชีพนั้น
4.มีจรรยาบรรณในการประกอบวิชาชีพ
2.มีศาสตร์เฉพาะสาขาของตน
6.มีองค์กรวิชาชีพ ทำหน้าที่ควบคุมสมาชิกของวิชาชีพ
1.อาชีพนั้นมีความจำเป็นต่อสังคม
กฎหมายวิชาชีพฯ
เพราะอาศัยหลักเกณฑ์ของกฎหมายควบคุมสมาชิกผู้ประกอบวิชาชีพให้ปฏิบัติตามมาตรฐานที่วิชาชีพกำหนด
เป็นเกณฑ์สากลข้อหนึ่งของความเป็นวิชาชีพ
พระราชบัญญัติ วิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ พ.ศ.2528ที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์(ฉบับที่2)พ.ศ.2540
ความสำคัญของกฎหมายวิชาชีพ
เกณฑ์สากลของความเป็นวิชาชีพ
2.มีศาสตร์เฉพาะสาขาของตน
3.สามารถให้บริการแก่ผู้รับบริการได้มาตรฐานและตามบรรทัดฐานของวิชาชีพนั้น
1.อาชีพนั้นมีความจำเป็นต่อสังคม
4.มีจรรยาบรรณในการประกอบวิชาชีพ
5.มีเอกสิทธิ์ในการทำงาน
6.มีองค์กรวิชาชีพ ทำหน้าที่ควบคุมสมาชิกของวิชาชีพ
นิยามศัพท์ที่สำคัญ
การประกอบวิชาชีพการพยาบาล
การปฏิบัติหน้าที่ พยาบาลต่อบุคคล ครอบครัว ชุมชน
โดยกระทำดังนี้
2.การกระทำต่อร่างกายและจิตใจของบุคคล
3.การกระทำตามวิธีที่กำหนดไว้ในการรักษาโรคเบื้องต้นและการให้ภูมิคุ้มกัน
1.การสอน การแนะนำ การให้คำปรึกษาและแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ
การประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์
การปฏิบัติหน้าที่การผดุงครรภ์ต่อหญิงมีครรภ์ หญิงหลังคลอดทารกแรกเกิด และครอบครัว
2.การกระทำต่อร่างกายและจิตใจของหญิงมีครรภ์หญิงหลังคลอดและทารกแรกเกิด เพื่อป้องกันความผิดปกติ
3.การตรวจ การทำคลอด และการวางแผนครอบครัว
1.การสอน การแนะนำ การให้คำปรึกษาและการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพอนามัย
4.การช่วยเหลือแพทย์กระทำการรักษาโรค
5.ทั้งนี้โดยอาศัยหลักวิทยาศาสตร์ และศิลปะการผดุงครรภ์ในการประเมินสภาพการพยาบาล
การผดุงครรภ์
การกระทำเกี่ยวกับการดูแลและการช่วยเหลือหญิงมีครรภ์หญิงหลังคลอด และทารกแรกเกิด
พนักงานเจ้าหน้าที่
ผู้ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้ ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้
มีอำนาจหน้าที่ดังนี้
2.ในการเข้าตรวจค้น พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องแสดงบัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่
3.ในการตรวจค้นให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจตามประมวลกฎหมายอาญา
1.ให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบใบอนุญาตค้นหรือยึดหลักฐานการกระทำที่ผิดกฎหมายในสถานที่นั้นได้โดยไม่ต้องขอให้ศาลออกหมายค้น
การพยาบาล
เป็นการกระทำต่อมนุษย์เกี่ยวกับการดูแลและการช่วยเหลือเมื่อเจ็บป่วย
กำหนดให้มีสภาการพยาบาล ฐานะของสภาการพยาบาล(มาตรา6)
1.เป็นนิติบุคคล ตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
1.เป็นบุคคลสมมุติตามกฎหมายมีสภาพเหมือนบุคคลทั่วไป
ยกเว้น สิทธิที่บุคคลจริงจะมีได้ เช่น การจดทะเบียนสมรส
2.นิติบุคคลทำความผิด ผู้แทนของนิติบุคคลร่วมรับผิดในฐานะตัวการและนิติบุคคลนี้ถูกฟ้องล้มละลายได้
2.การตั้งขึ้นตามกฎหมายเฉพาะ(พ.ร.บ.)
วัตถุประสงค์ของสภาการพยาบาล (มาตรา7)
อำนาจและหน้าที่ของสภาการพยาบาล (มาตรา8)
รายได้ของสภาการพยาบาล(มาตรา9)
2.ค่าจดทะเบียนสมาชิกสามัญ ค่าบำรุง และค่าธรรมเนียมต่างๆ
3.จากการหารายได้ของสภาการพยาบาล
1.งบประมาณแผ่นดิน
4.รายได้จากเงินบริจาค รวมทั้งดอกผลของรายได้ต่างๆ
ตราสภาการพยาบาล
มีตะเกียงตั้งอยู่บนฐานของดอกบัว
มีคำว่าสภาการพยาบาลเหนือตะเกียงในวงกลม
การเป็นนิติบุคคลต้องมีตราตามกฎหมายเป็นรูปวงกลม
มีคำว่า พ.ศ.2528 อยู่ที่ฐานของดอกบัว
สมาชิกและสิทธิหน้าที่ตามกฎหมาย(หมวด2มาตรา11-13)
มี 2 ประเภทดังนี้
1.สมาชิกสามัญ
2.สมาชิกกิตติมศักดิ์
สมาชิกกิตติมศักดิ์มีคุณสมบัติของสมาชิกกิตติมศักดิ์ มาตรา 11(2)
1.เป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่สภาการพยาบาลเห็นสมควรเชิญให้เป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์
2.จำนวนอายุ การเป็นผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมายไม่ได้กำหนด
สิทธิและหน้าที่ของสมาชิกสามัญ(มาตรา12)
การพ้นจากสภาพสมาชิกสามัญ(มาตรา13)
2.ลาออก
3.ขาดคุณสมบัติตามมาตรา 11(1)
1.ตาย
โรคต้องห้ามตามข้อบังคับของสภาการพยาบาล
2.การติดยาเสพติดให้โทษอย่างร้ายแรง ติดสุราเรื้อรัง
3.โรคในระยะปรากฏอาการเป็นที่น่ารังเกียจต่อสังคม
1.โรคจิต โรคประสาท
การขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบวิชาชีพ
2.สำเร็จในต่างประเทศ
คนสัญชาติไทย
ไม่ต้องสอบใบอนุญาตในประเทศที่ตนจบ
สมัครเป็นสมาชิกสามัญ
สำเร็จการศึกษาพยาบาลตาที่กำหนด
สอบขึ้นทะเบียน
คนมิใช่สัญชาติไทย
สมัครเป็นสมาชิกสามัญ
สอบขึ้นทะเบียน
ต้องสอบใบอนุญาตในประเทศที่ตนจบ
มีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศ 6 เดือน นับถึงวันสอบสมัครสอบวันสุดท้าย
สำเร็จการศึกษาพยาบาลตามที่กำหนด
เกณฑ์สำหรับผู้ไม่ขึ้นทะเบียนทันทีที่สำเร็จการศึกษา
1.สำเร็จก่อนและหลัง 6 กันยายน 2528
-กรณีปฏิบัติงานโรงพยาบาลของรัฐ ครบ 2 ปี สมัครเป็นสมาชิกสามัญและขอขึ้นทะเบียนทันทีไม่ต้องขอสอบ
-ปฏิบัติงานในสถานพยาบาลเอกชน ต้องผ่านการฝึกอบรมทางวิชาการตามที่สภาฯกำหนด
2.หลัง 24 ธันวาคม 2540 (สมัครเป็นสมาชิกสามัญและขอสอบขึ้นทะเบียน)
1.สำเร็จในประเทศ คนสัญชาติไทยและมิใช่สัญชาติไทย
สมัครเป็นสมาชิกสามัญ
สอบขึ้นทะเบียน
สำเร็จการศึกษาพยาบาลตามที่กำหนด
ประเภทของใบอนุญาต มี3ประเภท
ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้น 1 และ 2
ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้น 1 และ 2
ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้น 1 และ 2
การพ้นจากการเป็นผู้ประกอบวิชาชีพฯ
2.ถูกเพิกถอนใบอนุญาต
3.ใบอนุญาตหมดอายุ
1.พ้นจากการเป็นสมาชิกสามัญ
คณะกรรมการสภาการพยาบาล
ประเภทของคณะกรรมการฯ
กรรมการที่ปรึกษา จำนวนไม่เกิน 1 ใน 4 ของกรรมการ คือ จำนวนไม่เกิน 8คน
กรรมการสภาฯ จากการเลือกตั้ง จำนวน 16 คน
บางครั้งคระกรรมการจะมีจำนวน 33 คน หากนายกสภาการพยาบาลเลือกเลขาฯที่มาจากสมาชิกสามัญ
มาตรา 18 คุณสมบัติของกรรมการสภาฯ
2.ไม่เคยถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตหรือเพิกถอนใบอนุญาต
3.ไม่เคยเป็นบุคคลล้มละลาย
1.เป็นผู้ประกอบวิชาชีพฯ
หน้าที่กรรมการบริหารสภาการพยาบาล
เลขาธิการสภา
2.ควบคุมบังคับบัญชาเจ้าหน้าที่สภาฯ
3.รับผิดชอบในการดูแลทะเบียนต่างๆ
1.ควบคุมรับผิดชอบงานธุรการทั่วไป
4.ควบคุมทรัพย์สินของสภาฯ
5.เป็นเลขานุการคณะกรรมการ
สภานายกพิเศษ
2.แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่
3.ออกกฎกระทรวงและกำหนดค่าธรรมเนียมต่างๆ(มาตรา 5)
1.รักษาการตามพระราชบัญญัติ(มาตรา 5)
4.ให้ความเห็นชอบมติของคณะกรรมการในเรื่อง
นายกสภาฯ
เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการเลขาธิการสภา
เป็นผู้แทนสภาในกิจการต่างๆ
ดำเนินกิจการของสภาการพยาบาล
การดำเนินกิจการของคณะกรรมการสภาฯ
2.การลงมติ
เรื่องสำคัญ คะแนนเห็นชอบจะต้องมี 2 ใน 3 ของจำนวนกรรมการทั้งคณะ
เรื่องทั่วไป ถือเสียงข้างมาก
3.การขอความเห็นชอบจากสภานายกพิเศษ
สภานายกพิเศษ ไม่เห็นชอบ
แทงคำสั่งไม่เห็นชอบ ต้องภายใน15วัน
การลงมติแย้งสภานายกพิเศษ ต้องทำภายใน30วัน ใช้กรรมการสภาเต็มคณะลงมติด้วยเสียง 2/3
สภานายกพิเศษ เห็นด้วย
อาจมีคำสั่ง เห็นชอบ หรือไม่แทงคำสั่งใดๆใน15วัน ถือว่าเห็นชอบ
1.การประชุมของคณะกรรมการสภาการพยาบาล
จำนวนองค์ประชุม
เรื่องทั่วไป กรรมการอย่างน้อย=16คน (หนึ่งในสอง)
เรื่องสำคัญ
4.การพ้นจากตำแหน่งของกรรมการที่ปรึกษา
5.การเข้าแทนตำแหน่งของกรรมการสภาที่ว่างลงก่อนครบวาระ
นางสาว นวรัตน์ ร้อยอำแพง รุ่นที่ 36/1 รหัสนักศึกษา 612001058 เลขที่ 57
error