การใช้กระบวนการพยาบาลในการดูแลมารดาที่มีปัญหาสุขภาพในระยะหลังคลอด

Postpartum Hemorrhage

-การเสียเลือดภายหลังทารกคลอดทางช่องคลอดมากกว่า 500 cc วิธีผ่าตัดคลอด มากกว่า 1000 cc

การเปลี่ยนแปลงของ Hct. มากกว่าร้อยละ 10 % ระหว่างแรกรับและหลังคลอด

การเสียเลือดมากกว่าร้อยละ 1% ของน้ำหนักตัวของมารดา

ประเภท

การตกเลือดระยะแรก ภายใน 24 ชั่วโมงแรกหลังคลอด พบ 5-8 %

ตกเลือดระยะหลัง พบได้บ่อยวันที่ 7-14 หลังคลอด จนถึง 6 สัปดาห์หลังคลอด

สาเหตุ

-Uterine atony

-Laceration of the birth canal

-Retained placental tissue

-Acquired coagulopathies

-Uterine rupture

-Placenta bed bleeding

-Uterine inversion

1.Uterine atony (Tone)

สาเหตุ

Uterine fatigne

Bladder full

Benign tumor of the uterus

Over distended of the uterus

Chorioamnionitis

Uterine relaxing agent

Augmentation

Antiparum &Intra partum Hemorrhage

2.Laceration of the birth canal(Trauma)

สาเหตุ

การทำสูติศาสตร์หัตถการ

Precipitate labour

Fetal macrosomia

การตัดฝีเย็บไม่ถูกต้อง

ความผิดปกติ (มดลูก)

  1. Retained placental tissue (Tissue)

Retained placental

รกค้าง

ลักษณะการเกาะของรก

Retainned placental tissue

สาเหตุของการตกเลือดระยะหลัง วันที่ 6-10 วันหลังคลอด

การได้รับ Epidural anesthesia

Hematoma

  • Subinvolution

อาจเป็นเศษรก/Cytyledon แต่เป็นเยื่อถุงน้ำคร่ำและมีการอักเสบร่วมด้วย

Placenta bad bleeding

Placenta accreta

Placenta increta

Placenta percreta ร้อยละ 5

C/S , อุบัติการณ์เกิดมากกว่าร้อยละ 25

Uterine rupture

obstructed labour

Multiple gestation

Fetal macrosomia

การแยกของแผ่นที่ผ่าตัดมดลูก

4.Acquired coagulopathies

พบได้น้อยแต่เสี่ยงต่อชีวิต

การติดเชื้อรุนแรง

DIC

Antipartum Hemorrhage

Death Fetus in utero

Amniotic embolism

Uterine inversion

Sings and Symptoms

Abdomen

  • Uterine atony : มดลูกอ่อนนุ่มและคลำไม่ได้
  • Subinvolution ; มดลูกมีขนาดใหญ่และอ่อนนุ่ม

Pelvic

-External genitalia and vagina : การฉีกขาดของ Valva และ Vagina สามารถมองเห็นได้ชัดเจน

Bleeding per Vagina

เลือดคั่งที่ Broad ligament

-ติดเชื้อในโพรงมดลูก

Laceration (เส้นเลือดฝอย/หลอดเลือดแดง)

หลักการพยาบาล

-ค้นหาสาเหตุ

ค้นหาอาการในระยะเริ่มแรก

เตรียมสารน้ำที่จำเป็นและอุปกรณ์ช่วยชีวิต

-ให้การพยาบาลที่รวดเร็วและนุ่มนวล

การประเมินและการวินิจฉัย

การซักประวัติ , การตรวจร่างกาย

คาดคะเนปริมาณเลือดที่ออกจากช่องคลอด

สังเกตอาการและอาการแสดงของการเสียเลือด

ตรวจการหดรัดตัวของมดลูกและการฉีกขาดของช่องทางคลอด

การตรวจทางห้องปฎิบัติการ

ผลของการตกเลือดหลังคลอด

การฉีกขาดใกล้ท่อปัสสาวะ ทำให้ท่อปัสสาวะบวม ,ลำบาก

การสร้างน้ำนมลดลง

Anemia

ระยะเวลาการพักฟื้นนานกว่าปกติ

Death

การดูแลขั้นต้น

การดูแลที่สำคัญที่สุดคือการดูแลตามสาเหตุของการตกเลือด

กรณีไม่ตอบสนองการรักษาขั้นต้น

ควบคุมเลือดออกเฉพาะที่

เย็บผูกเส้นเลือดมดลูก

B-lynch Suture คือ ผูกมัดมดลูกจากด้านหน้าไปยังด้านหลัง

การป้องกัน

ระยะตั้งครรภ์

ซักประวัติ

ตรวจร่างกาย , ตรวจทางห้องปฏิบัติการ

ระยะก่อนคลอด

เตรียมเลือดไว้อย่างน้อย 24 ชม. หลังคลอด

On IV Fluid with medicath No. 18

เตรียมอุปกรณ์กู้ชีพให้พร้อม

ระยะเวลาการคลอดไม่เกิน 24 hr

ระยะคลอด

ดูแลติดตามความก้าวหน้าการคลอด

รายที่เสี่ยงควร NPO

ทำคลอดรกอย่างถูกวิธี

ตรวจรกอย่างระเอียด

ตรวจช่องคลอดอย่างละเอียดก่อนเย็บแผล เย็บแผลอย่างถูกวิธี

ระยะหลังคลอด

ติดตามการทำงานของมดลูกอย่างใกล้ชิด 2 ชม. หลังคลอด

ดูแลให้ได้รับ Oxytocin หลังคลอด

กระตุ้นมารดาถ่ายปัสสาวะหลังคลอด ภายใน 6-8 ชม.

สังเกตปริมาณเลือดที่ออกทางช่องคลอด

ประเมิน V/S

กระตุ้นการดูดนมมารดา

ตรวจดูการบวมเลือด

การใช้กระบวนการพยาบาลในการดูแลมารดาที่มีปัญหาสุขภาพในระยะหลังคลอด

Postpartum psychosocial

Postpartum blues

อารมณ์เศร้าหลังคลอด

อุบัติการณ์เกิดร้อยละ 30-75

วันที่ 3-4 หลังคลอด

Four day blues

สาเหตุ

การคลอด , ความเครียดทางกาย

จิตใจ , สังคัด , และสิ่งแวดล้อม

อาการและอาการแสดง

ร้องไห้โดยไม่มีเหตุผล

อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ

ไม่อยากรับประทานอาหาร

ลืมง่าย ไม่มีสมาธิ

รู้สึกท้อแท้

หายเองใน 2-3 สัปดาห์หลังคลอด

การดูแล

ไม่แน่นอน

ประคับประคองร่างกายและจิตใจ

Postpartum depression

ภาวะจิตใจหม่นหมอง หดหู่

อาการเริ่ม คือ นอนไม่หลับ

ความแตกต่างจากอารมณ์เศร้าหลังคลอด

สาเหตุ

การเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยา ฮอร์โมน ประสบการณ์คลอด

ความเครียดด้านจิตใจ สังคม สิ่งแวดล้อม

ลักษณะมารดา

มารดามีภาวะซึมเศร้าในระยะตั้งครรภ์

มารดาผ่านประสบการณ์การสูญเสีย

มีประสบการณ์การเปลี่ยนแปลงในชีวิต

อาการและอาการแสดง

ซึมเศร้า แยกตัว เหม่อลอย

การดูแล

การพักผ้อน

ตอบสนองความต้องการด้านร่างกาย

สร้างสัมพันธภาพ

คำแนะนำในการปฏิบัติตัวและดูแลทารก

ให้กำลังใจ ให้การช่วยเหลือ สังเกตอาการของมารดา

Postpartum psychosis

เกิดอาการภายใน 48-72 ชม.

สาเหตุ

ภาวะซึมเศร้าหลังคลอด

ลักษณะเฉพาะตัวของมารดา

การรักษา

ร่างกาย

จิตใจ

สิ่งแวดล้อม

การดูแล

สุขอนามัย

วางแผนการพยาบาลอย่างเหมาะสม

สังเกตอาการอย่างใกล้ชิด

จัดอาหารให้เหมาะสม

ดูแลให้ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง

ชักนำการเข้ากลุ่มบำบัด

อธิบายแผนการรักษา

แนะนำการคุมกำเนิดและตรวจตามนัด

ส่งต่อหน่วยบริการสาธารณสุข

อาการและอาการแสดง

สับสน มึนงง กระวนกระวาย หงุดหงิดง่าย ประสาทหลอน

การตกเลือดหลังคลอดระยะหลัง

สาเหตุ

เศษรกค้าง

เกิดหลังคลอด 1-2สัปดาห์

Placenta polyps

การอักเสบของเยื่อบุโพรงมดลูก

เกิดภายหลังคลอด 24 ชั่วโมง

การติดเชื้อภายในโพรงมดลูก

การอักเสบของปากมดลูก

การใช้ยาหรือสารบางชนิด

แผลของมดลูกจากการผ่าตัดคลอด

เนื้องอกในมดลูก

อาการและอาการแสดง

เกิดระหว่างวันที่ 5-28 วันหลังคลอด

พบบ่อยมักเกิดภายใน 3 สัปดาห์หลังคลอด

Postpartum Genital Hematoma

สาเหตุ

การคลอดอย่างรวดเร็ว

การทำสูติศาสตร์หัตถการ

ส่วนนำของทารกกดช่องทางคลอดนานกว่าแกติ

การเย็บซ่อมแซม

ประวัติการอักเสบของหลอดเลือดดำ

ภาวะความดันโลหิตสูงในขณะตั้งครรภ์

อาการและอาการแสดง

สีของผิวหนังคล้ำบริเวณที่เป็น

ปวดลักษณะมีแรงกดอย่างแรงใน 12 ชม. แรก

เลือดคั่งบริเวณ Board ligament

ปัสสาวะลำบาก

การป้องกัน

ทำคลอดถูกวิธี

การซ่อมแซมแผลฝีเย็บ

เฝ้าระวังอาการในรายที่มีความเสี่ยงสูง

การรักษา

กรณีก้อนเลือดใหญ่

ผ่าตัดและผูกบริเวณที่มีเลือดออก Vvaginal packing +Antibiotic ointment

Retained Foley cath

OFF Vaginal packking + Foley cath

กรณีก้อนเลือดมีขนาดเล็ก

ปล่อยให้หายเอง

ประคบเย็น

ประคบร้อน

ยาแก้ปวด

Sheehan's Syndrome

สาเหตุ

ต่อมใต้สมองเกิดการขาดเลือดมาเลี้ยงอย่างเฉียบพลันทำให้เสียการทำงานของต่อมใต้สมอง

ปริมาณเลือดที่เสียจะมากจนผู้ป่วยมีภาวะช็อก ความดันโลหิตต่ำมากทำใหเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายไม่เพียงพอ

ช่วงตั้งครรภ์ต่อมใต้สมองมีขนาดใหญ่ขึ้นทำให้มีความเสี่ยงในการขาดเลือดไปเลี้ยงง่าย

กลุ่มที่มีความเสี่ยง

ตกเลือดก่อนและหลังคลอดอย่างรุนแรง

ภาวะการแข็งตัวของเลือดผิดปกติทั่วร่างการ (DIC)

เบาหวานตั้งแต่อายุยังน้อย

อาการ

อ่อนเพลีย เฉื่อยเนื่อย วิงเวียน

คิดช้า ขี้หนาว ผิวหนังหยาบแห้ง

ประจพเดือนไม่มา หรือเป็นหมัน, BP ต่ำ , ขนร่วง

การรักษา

รักษาด้วยฮอร์โมน โดยการให้ฮอร์โมนไทรอยด์และไฮโดรคอร์ติโซน ต้องทายาตลอดชีวิต

ต้องการมีบุตร อาจต้องฉีดฮอร์โมนนกระตุ้นให้รังไข่ทำงาน

หากเกิดอาการรุนแรงในครรภ์แรกแล้วมักไม่สามารถตั้งครรภ์ในครรภ์ต่อไปได้

Sub involution of Uterus

กระบวนการกลับคืนสู่สภาพเดิมของมดลูกใช้เวลานาน

ระดัยยอดมดลูกไม่ลดลงติดต่อกัน 3 วัน หรือมดลูกหดรัดตัวช้ากว่าปกติ

คลำพบมดลูกทางหน้าท้องหลังคลอดไปแล้ว 2 สัปดาห์

สาเหตุ

ตั้งครรภ์แฝด/แฝดน้ำ ทำให้กล้ามเนื้อมดลูกยือขยายมาก

ภาวะอ่อนเพลียจากระยะคลอดยาวนาน

เคยตั้งครรภ์มากกว่า 6 ครั้งขึ้นไป

เคยได้รับยาระงับความรู้สึกในขณะคลอด

มีสิ่งขัดขวางการหดรัดตัวของมดลูก

Early ambulation ช้ากว่าปกติ

C/S

การติดเชื้อของมดลูก

มดลูกคว่ำหน้ามากหรือหลังมาก

อาการ

น้ำคาวปลาออกนานหรือมากกว่าปกติ

น้ำคาวปลาเป็นสีแดง มีกลิ่นเหม็น

มดลูกอ่อนนุ่มและใหญ่กว่าปกติ

อาการปวดมดลูก

อุณหภูมิสูงและอาจเกิดการตกเลือดระยะหลัง

การป้องกัน

ภายหลังคลอดรก ตรวจรกอย่างละเอียด

ส่งเสริมการไหลของน้ำคาวปลา

ส่งเสริม Breast feeding

Mastitis & Breast abscess

สาเหตุ

หัวนมแตก หรือมีรอยแผล

การนวดเต้านม

การมีน้ำนมค้างในเต้านม

Mastitis

ท่อน้ำนมอุดตัน หรือเต้านมคัดตึงและไม่ได้รับการแก้ไขแล้วเกิดการติดเชื้อขึ้น

Breast abscess

เต้านมอักเสบที่ไม่ได้รับการรักษา หรือเกิดจากหัวนมแตกและติดเชื้อลามเข้าเต้านม

อาการและอาการแสดง

ไข้ 38.3 - 40 'C

Chill

คัดเต้านม

เต้านมร้อน แข็งตึง กดเจ็บ

ตึงบริเวรต่อมใต้รักแร้

การป้องกัน

การรักษาความสะอาด

การให้ทารกดูดอย่างถูกวิธี

ขนาดของเสื้อชั้นใน

สังเกตอาการผิดปกติ

หลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้ที่มีก่ีติดเชื้อ

การรักษา

ดูแลรักษาความสะอาด

งดให้นม

ให้ยาปฏิชีวนะ

ประคบเย็น

ระบายหนอง

Thrombophlebitis

สาเหตุ

การเปลี่ยนแปลงของส่วนประกอบของเลือด

การไหลเวียนของหลอดเลือดดำช้าลง

การเปลี่ยนแปลงของผนังหลอดเลือดดำชั้นในสุด

ประเภท

Superficial Venous Thrombophebitis

Fever , ปวดและร้อนบริเวณที่เป็นสัมผัสจะรู้สึกอุ่นเห็นรอยแดงตามหลอดเลือดดำ , กดเจ็บ

การรักษา

ยาแก้ปวด

พักผ่อนบนเตียง

พันด้วย Elastic bandage

Deep Venous Thrombophebitis

ปวดบริเวณที่เป็นอย่างรุนแรง

ไข้สูง หนาวสั่น

บวมกดบุ๋ม

Homan's sign positive

การรักษา

ยกขาสูง

ประคบร้อน

พักผ่อนบนเตียง

ให้ยาปฏิชีวนะและยาต้านการแข็งตัวของเลือด

การกระตุ้นการทำกิจกรรม

Thrombolectomy

Urinary Tract infection

สาเหตุ

Cystitis & pyelonephritis

การชอกช้ำของเนื้อเยื่อบริเวณช่องทางคลอด

E.Coli

Postpartum Infection

การติดเชื้อของระบบสืบพันธ์สตรีในระยะ 6 สัปดาห์หลังคลลอดจะพบในช่วง 28 วันหลังคลอด

อาการและอาการแสดง

อุณหภูมิ > 38 'C วัดด้วยวิธีมาตราฐาน อย่างน้อย 1 วัน 4 ครั้ง ติดต่อกันอย่างน้อย 2 วัน ในระยะ 10 วันหลังคลอด

ระดับความรุนแรง

ชนิดของเชื้อ

ระบบภูมิคุ้มกัน

การฉีกขาดของช่องคลอด

สาเหตุ

สาเหตุโดยตรง

เชื้อโรค Anaerobic bocteria , Aerobic bacteria

สาเหตุส่งเสริม

ภาวะทุพโภชนาการ ตรวจทางช่องคลอดบ่อยครั้ง

ตรวจเสียงหัวใจทารกผ่านทางช่องคลอด

ระยะเวลาการเจ็บครรภ์ , การช่วยคลอด , ล้วงรก

เศษรกค้าง , การดูแลแผลฝีเย็บ

ประเภทการติดเชื้อ

การติดเชื้อเฉพาะที่

แผลฝีเย็บ ปากช่องคลอด ช่องคลอด และปากมดลูก

เยื่อบุโพรงมดลูกหรือมดลูก

การติดเชื้อลุกลาม

หลอดเลือดดำ

ระบบน้ำเหลือง

การติดเชื้อเฉพาะที่

การติดเชื้อแผลฝีเย็บ ปากช่องคลอด

ลักษณะแผลสีน้ำตาลแดง

เนื้อเยื่อบวม

ขอบแผลเน่า

น้ำเหลืองไหลออกจากแผลกลายเป็นหนอง

แผลแยก

การติดเชื้อช่องคลอด

ติดเชื้อโดยตรงหรือแพร่กระจายจากแผลฝีเย็บ

เยื่อบุช่องคลอดบวม แดง

เนื้อเน่าหลุดลอก

อาจเกิดหลอดน้ำเหลืองอักเสบและแพร่กระจายได้

การติดเชื้อปากมดลูก

พบได้บ่อยเนื่องจากปากมดลูกฉีกขาดง่าย

อาจมีการฉีกขาดถึง Broad ligament

สิ่งที่เกิดขึ้น :การอักเสบของหลอดน้ำเหลือง , Parametritis , Bactermia

อาการและอาการแสดง

ปัสสาวะลำปาก

ถ้าระบายหนองได้ดีจะไม่มีอาการรุนแรง

ไข้ต่ำกว่า 38 'C

ถ้าหนองคั่งอยู่ในฝีเย็บ หรือช่องคลอดอาจมีอาการไข้สูงและหนาวสั่น

การรักษา

ดูแลเหมือนแผลศัลยกรรมทั่วไป

เปิดแผลให้หนองระบายได้ดี

Hot sitz bath และอบไฟ

ดูแลการได้รับยาตามแผนการรักษา (ยาปฏิชีวนะและยาแก้ปวด)

Metritis

เชื้อ Beta-hemolytic streptococcus

น้ำคาวปลามักไม่มีกลิ่นและปริมาณน้อย

ไข้เกิดใน 24 ชม. แรกหลังคลอด

มดลูกกดเจ็บ

มดลูกเข้าอู่ช้า

บางรายไม่มีอาการแสดง

การรักษา

กรณีมีเศษรกค้างและมีเนื้อตายเกิดขึ้นและเกิดเป็นฝีหนองและยาเข้าไม่ถึง การขูดมดลูกเป็นการรักษาที่ดี

การได้รับยาปฏิชีวนะ

การรักษาตามอาการ

การติดเชื้อลุกลามออกนอกมดลูก

การแพร่กระจายไปตามหลอดเลือดดำ

การแพร่กระจายไปตามระบบน้ำเหลือง

อาการและอาการแสดง

ไข้สูงลอยทั้งที่ให้ยาปฏิชีวนะอย่างเพียงพอ

กรณี FB : ขาบวมตึง กดไม่บุ๋ม ขาจะมีสีน้ำตาลกรณีบวมน้อย , ขาจะมีสีขาวถ้าบวมมาก

การรักษา

กรณ Pelvic Thombophebitis

Heparin ถ้าผลการรักษาดีภายใน 48-72 ชม. ให้ต่อไปจนครบ 10 วัน ร่วมกับยาปฏิชีวนะ

ถ้าการรักษาไม่ได้ผลดีต้อง C/S

กรณี Femoral Thombophebitis

ยาปฏิชีวนะร่วมกับยาระงับปวด บางรายให้ Heparin ร่วมด้วย

นอนยกขาสูง ห้ามเดินจนกว่าอุณหภูมิจะลดลงแล้ว 1 สัปดาห์

Pelvic cellulites

ไข้สูงรอย ปวดท้องน้อย อาจเป็นข้างเดียวหรือสองข้าง เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน ปวดศีรษะ

ตรวจภายในพบมดลูกติดแน่น กดเจ็บทั้งสองข้างอาจคลำได้ก้อนบริเวณ broad ligament หรือก้อนข้างตัว

การรักษาให้ยาปฏิชีวนะ ถ้าเป็นหนองต้องระบายออก

ภาวะแทรกซ้อน

การติดเชื้อสู้ทารก

มดลูกเข้าอู่ช้า

การตกเลือด

การเป็นหมัน

การจับตัวของลิ่มเลือด ทำให้เกิดเสียชีวิตของมารดาหลังคลอด

Differential diagnosis

โรคเมืองร้อน

การติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ

ไส้ติ่งอักเสบ

การติดเชื้อเต้านม

การป้องกัน

ระยะตั้งครรภ์

การรักษาการติดเชื้อ

ภาวะทุพโภชนาการ

หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ในระยะท้ายของการตั้งครรภ์

ระยะคลอด

Technique

Laceration

ระยะหลังคลอด

แยกมารดาและอุปกรณ์

การให้การพยาบาล

มารดารที่มีปัญหาในระยะคลอดและสุขภาพ

ผู้ให้บริการ

ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ

เทคนิคในการให้การพยาบาล

ภาวะฉุกเฉินทางสูติศาสตร์

ความสำคัญ

ภาวะฉุกเฉินทางสูติกรรมเป็นภาวะอันตรายที่ต้องเฝ้าระวังเนื่องจากสูติกรรมเป็นการดูแลชีวิตที่เปราะบางถึงสองชีวิต

สัญญาณอันตรายของมารดา

V/S เปลี่ยนแปลงเร็วขึ้น สูงขึ้น /ลดลง ชีพจรเบาเร็ว ตัวเย็น

มีเลือดออกมาให้เห็นทางช่องคลอด ได้หรือไม่พบก็ได้แล้วแต่ชนิดของภาวะช็อค

สัญญาณอันตรายของทารก

FHS > 160หรือ < 100 ครั้ง/นาที

อัตราการเต้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ฟังได้ชัดเจน

อัตราการเต้นของหัวใจทารก ถ้า< 100 ครั้ง/นาที แสดงว่าทารกมีภาวะเสี่ยงต่อการขาด OXygen

แม่รู้สึกว่าทารกดิ้นน้อยลง/ไม่ดิ้น

การป้องกันทารกขาด Oxygen

จัดท่ามารดานอนตะแคงซ้าย

ลดการกดทับ Inferior Venacava

เพิ่มการไหลเวียนเลือดจากมารดาสู่ทารก

ภาวะฉุกเฉินทางสูติกรรมที่พบบ่อย

Shock

ทำไมถึง Shock

Blood volume

Imbalance

ประเภท

Hypovolemic Shock

Cadiogenic shock

Septic shock

Hypovolemic Shock

Blood loss จาก Hemorrhage

Plasma loss จาก Burn

Water loss จาก Dehydration

Cadiogenic shock

การบีบตัวของหัวใจลดลง

สาเหตุ

หัวใจโดยตรง เช่น หัวใจหยุดเต้น การเต้นของหัวใจผิดปกติ

กล้ามเนื้อหัวใจซีกซ้ายล้มเหลว จากการอุดตันของหลอดเลือดแดงที่ไปเลี้ยงหัวใจซีกซ้าย ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง ไม่สามารถบีบตัวได้ได้แรงพอ เกิดเลือดคั่งที่หัวใจซีกซ้ายและปอด

Vasogenic shock

Vasogenic shock

Vasodilataion

Neurogenic shock

Anaphylactic shock

Septic shock

อาการและอาการแสดง

Initial

ไม่มีอาการเปลี่ยนแปลง

Compensatory

ค่อยเป็นค่อยไป : รู้สึกตัวดี กระสับกระส่าย หงุดหงิดหัวใจเต้นเร็ว ชีพจรเบาเร็ว

ทันทีทันได : สมิงขาดออกซิเจนชั่วคราว อาจทำให้ซึม เชื่องช้า สับสน กระสับกระส่าย

Progressive : ผิวหนังเย็นชื้น ซีด อ่อนเพลีย ปวดท้องรุนแรง อุณหภูมิต่ำ หายใจเร็ว BP ต่ำ Stolic ต่ำกว่า 90 mmHg.

Irreversible

รายที่ช็อคจากการเสียเลือดพบเหงื่อออกมาก

รายที่ช็อคจากการติดเชื้อจากระบบประสาท หรือการบาดเจ็บ พบผิวหนังเย็นชื้น

รายที่ช็อคจากการแพ้ ได้รับยาสลบหรือยาขยายหลอดเลือดเกินขนาดพบผิวหนังแห้งแดงและอุ่น

รายที่ช็อคจากการหายใจและหัวใจล้มเหลว หรือเสียเลือด พบอาการเขียวคล้ำ

ภาวะไตวาย ปัสสาวะออกน้อยกว่า 20 cc/hr

ภาวะเลือดออกง่าย มีจ้ำเลือดตามผิวหนัง

ซึม หัวใจเต้นผิดปกติ ชัก หมดสติ

ผลกระทบ

ผลกระทบต่อมารดา

ถ้าไม่ได้รับการช่วยเหลือที่ถูกต้องและรวดเร็วในระยะ Compensatory อาจนำไปสู้ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง เช่น สมองบวมน้ำ ระบบหัวใจล้มเหลว

ผลกระทบด้านทารก

เนื่องจากเกี่ยวข้องกับระบบไหลเวียน จึงทำให้เกิดภาวะ Fetal distress จนถึงเสียชีวิตในรายที่ขาด Oxygen อย่างรุนแรง

การพยาบาล

ดูแลให้ได้รับออกซิเจน

ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนก๊าซเพื่อลดการทำงานของหัวใจและระบบหายใจ

จัดท่า ดูแลให้ได้รับสารน้ำ

ดูแลให้ได้รับยาตามแผนการรักษา

Septic shock

สาเหตุ

ร้อยละ 50 เกิดจากเชื้อ E.coli

ร้อยละ 30 เกิดจาก Klebsielle species, serratia และ Enterobecter

อาการและอาการแสดง

Endometritis พบบ่อยที่สุด

Urinary tract infection

แท้ง

Chorioamnionitis

หายใจเร็ว พบ Respiratory alkalosis ร่วมด้วย

สับสน ซึม ชีพจรเร็ว BP ต่ำ Systolic < 90 mmHg.

การวินิจฉัย

ไข้> 38 'C หรือ < 36 'C

ชีพจร > 90 ครั้งต่อนาที

อัตราการหายใจ > 20 ครั้งต่อนาที

WBC > 12,000 /mm3 หรือ < 4,000 mm3

การรักษา

การได้รับยาปฏิชีวนะ

ได้รับสารน้ำอย่างเพียงพอ

ประเมิน V/S

การกำจัดแหล่งติดเชื้อ

การได้รับออกซิเจน