Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ความผิดปกติหลอดเลือดและการไหลเวียนเลือด, นายมงคล เนตรสกาว เลขที่ 56 …
ความผิดปกติหลอดเลือดและการไหลเวียนเลือด
ความดันโลหิตสูง
การวินิจฉัย
ผ้ปู่วยที่มีความดันโลหิตสงูกวา่ หรือเท่ากับ 140/90 mmHg ติดต่อกัน 2 ครั้งห่างกัน 1 เดือน
ปัจจัยที่มีผลต่อระดับความดันโลหิต
Cardiac output
Blood volume
Resistance
Flexibility of arterial wall
Diameter of artery
Thickness
สูตร
จํานวนเลือดที่ออกจากหัวใจ x ความต้านทานหลอดเลือด
ประเภท
ความดันโลหิตสูงไม่ทราบสาเหตุ (Essential or primary)
ความดันโลหิตสูงที่มีสาเหตุ (Secondary hypertension)
การแบ่งระดับของความดันโลหิตสูง
ปกติ
ตํ่ากว่า 120/80 mmHg
Prehypertension
120/80-139/89 mmHg
Stage 1
140/90-159/99 mmHg
Stage 2
160/100 mmHg เป็นต้นไป
Hypertensive crisis
180/110 mmHg เป็นต้นไป
Hypertensive urgency
ไม่มี อวัยวะเป้าหมายที่สําคัญถูกทําลาย
Hypertensive emergency
อวัยวะเป้าหมายที่สําคัญถูกทําลาย ตา ไต หัวใจ สมองและหลอด เลือด
สาเหตุเเละปัจจัยเสี่ยง
ปัจจัยที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ (Non modifiable risk factor)
อายุ
เพศ
ประวัติครอบครัว
ปัจจัยเสี่ยงที่เปลี่ยนแปลงได้ (Modifiable risk factor)
ภาวะ (Stress) ตัวกระตุ้นทําให้มีภาวะเครียด
อ้วนมาก (Obesity)
สารอาหาร โดยเฉพาะโซเดียม
สารเสพติด บุหรี่ แอลกอฮอล์
ออกกําลังกายหรือมีกิจกรรมทางกายน้อย
อาการ
เมื่อมีความดันสูงมากขึ้น
ปวดศรีษะ ท้ายทอย
เวียนศรีษะ มึนงง
หายใจลำบากขณะออกเเรง
ปัสสาวะมาก
ใจสั่น
การรักษา/พยาบาล
การรักาาเเบบไม่ใช้ยา
การลดน้ำหนัก
การออกกำลังกาย
ลดเกลือ 2400 mg/day
การลดความเครียด
ควบคุมอาหาร รับประทานอาหารที่มีกากใยสูง
งดแอลกอฮอล์และบุหรี่
การรักษาโดยการใช้ยา
เบต้าบลอ็คเกอร์ (beta blocker)
ยากลุ่ม Calcium channel blocke
ยากลมุ่ ACEI
ยาขับปัสสาวะ (diuratic)
การวัดความดันโลหิตที่ถูกต้อง
ห้องเงียบสงบ
นั่งเก้าอี้พนักผิง เเละหลังครง
เท้าวางราบกับพื้น ไม่ไขว่ห้าง
ไม่ดื่มชา กาเเฟ สูบบุหรี่ก่อนวัด 30นาที
งดการพูดคุยระหว่างวัด
วางเเขนลงบนโต๊ะ ให้ arm cuff อยู่ระดับเดียวกับหัวใจ
ไม่เกร็งเเขนเเละไม่กำมือ
โรคหลอดเลือดสมอง Stroke
สรีรภาพสมอง
ปกติ สมองมีเลือดมาเลี้ยงประมาณ 50 - 55 มล. /100 กรัมของ สมอง/ นาที
ถ้า<18 มล. /100 กรัมของสมอง/ นาที เซลล์สมองจะเสียหน้าที่ทางสรีระ
ถ้า <15 มล./100 กรัมของสมอง/ นาที จะเกิดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์สมองอย่างถาวร
ประเภท
Ischemia stroke
1.1 Thrombosis เกิดจากการที่ผนังหลอดเลือดแดงผิดปกติ เช่น หนาขึ้น แข็ง และไม่ยืดหยุ่น
1.2 Emboli การเกิด Stroke จากลมิ่เลือด
Hemorrhagic stroke หลอดเลือดในสมองแตก
2.1 Intracerebral hemorrhag
2.2 Subarachnoid hemorrhage
อาการ
ระยะหลังเฉียบพลัน (Post acute stage)
เป็นระยะที่ผู้ปู่วยเริ่มมีอาการคงที่ 1- 14 วัน
ระยะเฉียบพลัน (Acute stage)
เป็นระยะ 24 - 48 ชั่วโมง ผู้ปูวยมีอาการหมดสติ มีภาวะความดันใน กะโหลกศีรษะสูง ระบบการหายใจและการทํางานของ หัวใจผิดปกติ
ระยะฟื้นฟูสภาพ (Recovery stage)
3 เดือนแรก
ปัจจัยเสี่ยง
ปัจจัยเสี่ยงที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้
อายุ
เพศ
ประวัติครอบครัว
ปัจจัยเสี่ยงที่ปลี่ยนแปลงได้
HT,DM, บุหรี่ สุรา ยาเสพติด
โรคของ carotid artery disease และ peripheral
โรคของหัวใจและระบบไหลเวียน
Transient ischemic attack (TIA)
ไขมันในเลือดสูง
ไม่ออกกําลังกาย
อ้วน
การประเมินอาการ
การตรวจร่างกาย
อ่อนแรงของร่างกายครึ่งซีกชาครึ่งซีก
เวียนศีรษะ ร่วมกับเดินเซ
ตามัว หรือ มองเห็นภาพซ้อน
พูดไม่ชัด ลิ้นแข็ง
ปวดศีรษะ อาเจียน
ซึม ไม่รู้สึกตัว
การตรวจพิเศษ ได้แก่ CT scan, angiogram, MRI
ประวัติ
ประวัติโรคหลอดเลือดสมอง โรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย
การเจ็บป่วยในช่วงที่ผา่นมา เช่น อุบัติเหต ุผ่าตัด
ระยะเวลาที่มีอาการ; conscious, unconscious
โรคร่วม ความดันโลหิตสูง เบาหวาน
การใช้ยา เช่น ยาต้านการแข็งตัวของเลือด
ความสามารถในการช่วยเหลือตนเอง
ผ้เูห็นเหตการณ์
การรักษา/พยาบาล
การรักษา Ischemic Stroke
1.1 ให้ยาละลายลิ่มเลือด
1.2 การให้ยา ASA 48 ชั่วโมงหลังได้รับยาฉีด
1.3 การให้การพยาบาลขณะและหลังในยาละลายลิ่มเลือด
1.4 ผ้ปู่วย/ญาติเข้าใจประโยชน์หรือโทษที่จะเกิดจากการรักษา และ ยินยอมให้การรักษาโดยใช้ยา ละลายลิ่มเลือด
กรณีที่เป็น Stroke ประเภทที่หลอดเลือดแตกและมีเลือดออกในสมอง ต้องได้รับการรักษาด้วยการผ่าตัด
ให้คําแนะนําเกี่ยวกับอาการเตือน Stroke แก่ผู้ป่วยและครอบครัว
ข้อห้ามของการให้ยาละลายลิ่มเลือด
มีประวัติเลือดออกในสมอง
ได้รับยาต้านการแข็งตัวของเกล็ดเลือด (heparin หรือ warfarin) ภายใน 48 ชั่วโมง
ความดันโลหิตสูง (SBP≥ 185 mmHg, DBP≥ 110 mmHg)
มีปริมาณเกล็ดเลือดน้อยกว่า 100,000/mm
มีอาการชัก
มี Hct น้อยกว่า 25%
มีอาการทางระบบประสาท
(NIHSS < 4, >18)
มีประวัติผ่าตัดใหญ่ภายใน 14 วัน
มีอาการเลือดออกใต้ชั้นเยื่อห้มุสมอง
มีเลือดออกในทางเดินอาหารหรือทางเดินปัสสาวะภายใน 21 วัน
ไม่ทราบเวลาที่เริ่ม เป็นอย่างชัดเจน
มี BS <50 mg/dl หรือ > 400 mg/dl
มีประวัติ Myocardial infarction ภายใน 3 เดือน
มีการเจาะหลอดเลือดแดงในตําแหน่งที่ไม่สามารถห้ามเลือดได้ ภายใน 7 วัน
แขน และหรือ ขา ใบหน้า ซีกใดซีกหนึ่งอ่อนแรงอย่างทันทีทันใด
พดูไม่ออก ไม่เข้าใจคําพูด หรือพดูไม่ชัดอย่างทันทีทันใด
ตาข้างใดข้างหนึ่งมัว มองไม่เห็น เห็นภาพซ้อน
ปวดศีรษะรุนแรงฉบัพลัน ชนิดไม่เคยเป็นมาก่อน
มีอาการเวียนศีรษะ อยู่เฉย ๆ ก็เวียนศีรษะ บ้านหมุน เดินลําบาก หรือ เป็นลม
สมองขาดเลือดชั่วคราว (TIA)
อาการ
10-15% จะเกิดโรคหลอดเลือดสมองภายใน 3 เดือนหลัง เกิด TIA ครั้งแรก
ร้อยละ 5-8 อาจเกิดโรคหลอดเลือดสมองภายใน 48 ชั่วโมง
มีอาการออ่นแรง ปากเบี้ยว พูดไม่ชัด อยู่ประมาณ 2-30 นาที
ร้อยละ 30-50 พบความผิดปกติจากการขาดเลือด
เป็นอาการหรืออาการแสดงทางระบบประสาทที่เกิดขึ้นชั่วขณะและหายเป็นปกติในเวลา ภายใน 24 ชั่วโมง
Thrombopheblitis
สาเหตุ
การอักเสบของผนังหลอด เลือดดำ ร่วมกับการอุดตันโดยลิ่มเลือดที่หลอดเลือดดำ
อ้วน ตั้งครรภ์ ความผิดปกติของการแข็งตัวของลือด ภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด
อาการ
ปวดบริเวณท่เีกิดหลอดเลือดอักเสบ บวม แดง มีการขาด เลือดของอวัยวะที่มีการอุดตัน
การรักษา
ให้ยาขยายหลอดเลือด และยาละลายลิ่มเลือด เช่น Heparine, coumarin
ผ่าตัดขยายหลอดเลือดหรือเอาก้อน เลือดออก
การพยาบาล
ห้ามวิ่ง เดินนาน หรือยกน้ำหนัก
ใส่ผ้ายืดหรือถุงน่องรัดขาไว้
ห้ามใช้ยาคมุกําเนิดชนิดฮอร์โมน
ดูเเลป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำโดยการจัดการปัจจัยเสี่ยง
ลดน้ำหนัก
หลอดเลือดดำ และแดงอักเสบ Thromboangitis Obliteranns, TAO
อาการ
มีอาการปวดบริเวณขาและหลังเท้ารุนแรง
เป็นตะคริว บ่อยท่เีท้าและน่อง
อาการหายไป เมื่อพัก อาการเหล่านี้เรียกว่า Intermittent Claudication
ในระยะต่อมาจะมีแผลเรื้อรัง ตามนิ้วมือ นิ้วเท้า
การวินิจฉัย
การตรวจ ABI หรือ Droppler ultrasound, Artheriograms
การรักษา/พยาบาล
รักษาแผลเรื้อรังที่เท้า
ให้ยาขยายหลอดเลือด แก้ปวด ตามอาการ
งดสูบบุหรี
ให้ยา NSIAD เมื่อมีอาการหลอดเลือดดําอักเสบ
การรักษาโดยการผ่าตัด
การคำนวณ ABI
Ankle pressure/Brachial pressure (highest)
ABI มากกว่าหรือเท่ากับ 1 ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับการตีบ ตันของหลอดเลือด
ABI อยู่ในช่วง 0.3 – 0.8 Claudication
ABI น้อยกว่าหรือเท่ากับ 0.3 Rest pain
อุบัติการณ์
พบมากในผู้ชาย ที่มีประวัติสูบบุหรี่
หลอดเลือดแดงส่วนปลายตีบ (Peripheral arterial disease/PAD/Arterial occlusion)
ปัจจัยเสี่ยง
การสูบบุหรี่
ไขมันในเลือดสูง
ความดันโลหิตสูง
โรคเบาหวาน
อ้วนลงพุง
ขาดการออกกำลังกาย
รับประทานอาหารไม่ถูกต้อง
เพศ
อายุ
อาการ
คล้ายหลอดเลือดแดงอักเสบ คือ จะมีอาการปวดรุนแรงบริเวณที่ หลอดเลือดแดงไปเลี้ยง เช่น บริเวณ แขน ขา น่อง
สาเหตุ
แรงดันของความดันโลหิต
การอักเสบจากโรคที่เกิดจากภูมิคุ้มกัน
โรคติดเชื้อบางชนิด
สารเคมีในร่างกาย เช่น ไขมัน Cholesterol น้ำตาล
การรักษา/การพยาบาล
การดูแลรักษาแบบประคับประคอง
การเดินเป็นวิธีการที่ดีที่สุด
หลีกเลี่ยงการประคบนํ้ำแข็งหรือน้ำร้อน
สวมรองเท้าที่คับพอดี
หลีกเลี่ยงอาหารที่ให้พลงังานมากเกินไป หรืออาหารมันมากเกินไป
รับประทานอาหารที่มีวิตามินบีมาก
การดูเเลเท้า
การออกกําลังกาย
การควบคุมระดับไขมันในเลือด ความดันโลหิต โรคเบาหวาน
การรักษาด้วยยา
การใช้ยา โดยใช้ยาต้านเกล็ดเลือด Anti-Platelet Agents
Anticoagulation Agents – ยาละลายลิ่มเลือด
การให้ยาขยายหลอดเลือด
การให้ยา Beta-blocker ,estrogen
การผ่าตดัด
การทํา Balloon angioplast
3.2 การผ่าตัด Bypass
การพยาบาลหลังผ่าตัด
สังเกตออาการ Bleeding, pain, infection, ขาดเลือด, หายใจและวิตก กังวล
เฝ้าระวงัภาวะเลือดออกง่าย
จัดท่านอนราบขาเหยียดตรง ห้ามงอ ห้ามเอาหมอนรอง
คําแนะนําป้องกันการกลับป็นซ้ำ ได้แก่ งดบหุรี่ ควบคุมไขมันในเลือด เบาหวาน และความดันโลหิต
สังเกตอาการผิดปกติ 6 P
พยาธิ
หลอดเลือดแดงขนาดกลาง หรือเส้นใหญ่ มีการสะสมของไขมัน และแคลเซี่ยมที่ผนังด้านในของหลอดเลือดแดง เมื่อสะสมมีขนาดใหญ่พอ ก็จะทําให้เลือดไปเลี้ยงอวัยวะน้อยลง
หลอดเลือดดำตีบ (Deep vein thrombosis)
พยาธิสภาพ
ปกติเลือดในหลอดเลือดดําจะไหลเวียนอยู่ตลอดเวลา แต่เมื่อมีภาวะที่เลือดดําหยดุไหลเวียนและจับแข็งตัวเป็นภาวะ Trombosis
สาเหตุ
เลือดในหลอดเลือดมีการไหลเวียนช้าลงเช่น การนั่งหรือนอนนาน อัมพาต
การที่เลือดมีการแข็งตัวง่าย
หลอดเลือดดําได้รับอันตราย
ปัจจัยเสี่ยง
หลังผ่าตัดนอนนาน
การนั่งรถ รถไฟ เครื่องบิน หรือนั่งไขว่ห้าง
การเข้าเผือก
การใช้ยาคุมกำเนิด ยาเสพติด
อัมพาต
การตั้งครรภ์ หลังคลอด
คนเเก่ ไม่เคลื่อนไหว 3วัน
มะเร็ง
โรคพันธุกรรม
การรักษา/พยาบาล
การป้องการคือการลดปัจจัยเสี่ยงของการเกิดลิ่มเลือด
วิตามินอีช่วยลดการเกิดโรค
ให้ heparin หรือ low molecular weight heparin หลังจากนั้นต้องให้ warfarin เพื่อป้องกันลิ่มเลือดอีก 3 เดือน
อาการ
บวม
*
ปวดกล้ามเนื้อ
เป็นตะคริว
เวลากระดกข้อเท้าจะทำให้ปวดมากขึ้น
โรคหลอดเลือดดำขอด (Varicose vein)
พยาธิสภาพ
เป็นความผิดปกติของหลอดเลือดดําให้ผิวหนัง (Superficial vein) เกิดจากลิ้นกลั้นในเลือดเลือดเสียหน้าที่ ทําให้การไหลเวียนเลือดผิดปกติ ไม่สามารถไล่เลือดให้ไหลกลับสู่หัวใจได้หมดจึงเกิดการคั่งของเลือดในหลอดเลือดดํา ทําให้หลอดเลือดดําขยายตัวกว้างใหญ่ขึ้นยาวขึ้นและหงิกงอ คดเคี้ยว พบได้บ่อยบริเวณขา น่อง ข้อ เท้า และหลังเท้า
การวินิจฉัย
รตรวจ Bodiettrendendelenberg test มีวิธีการโดยให้ผ้ปู่วยนอน ราบ ยกขาสูง และรัด Tourniquet ที่ต้นขา หลังจากนั้นให้ผู้ป่วยยืน แล้วนําสายยางที่รัดออก ถ้ามีเลือดไหลเข้าสู่ Superficial vein แสดงว่า การทําหน้าที่ของลิ้นในหลอดเลือดผิดปกติ (Valve incopetent)
อาการ
ปวดตื้อๆบริเวณขา กล้ามเนื้อเป็นตระคริว
มีอาการเมื่อยล้าขามากผิดปกติ
รุนเเรงจะมีอาการบวมปวด ขามีสีคล้ำ
อาจมีแผลที่เท้าจากการขาดเลือดไปเลี้ยง
เสี่ยงต่อการบาดเจ็บ และติดเชื้อได้ง่าย
สาเหตุ
การยืนนานๆ
การตั้งครรภ์
ความร้อน
การถูกผูกรัด
การรักษา/การพยาบาล
รักษาแบบประคับประคอง
การผ่าตัดนำหลอดเลือดที่ขอดออก
2.1 หลงัผา่ตดัพยาบาลควรตรวจสอบเกี่ยวกับการตกเลือด (Hemorrhage)
2.2 หลังผ่าตัดต้องให้แนะนําเพื่อป้องกันการกลับเป็นซ้ำ
ห้ามนั่งไขว่ห้าง
ออกกำลังกาย นอนยกขาสูง
ลดน้ำหนัก
หลีกเลี่ยงการยืนนานๆ
ห้ามสวมเสื้อผ้าคับ รัด
สวม Elastic stocking
รับประทาอาหารที่มีเส้นใยสูง เลี่ยงอาการท้องผูก
ลุกเคลื่อนไหว ทุก 35-45 นาที เมื่อนั่งนานหรือเดินทางด้วยเครื่องบิน
เดินระยะสั้นๆ ทุก 45 นาที เมื่อเดินทางด้วยรถยนต์
นายมงคล เนตรสกาว เลขที่ 56 รหัส 612501059