การช่วยเหลือ ผู้ป่วยที่จมน้ำ

การจมน้ำ (Drowning)

การที่จมลงใต้น้ำแล้วหายใจเอาน้ำเข้าไปในปอด

มีผลต่อร่างกาย ซึ่งอาจทำให้เสียชีวิตได้

มักเกิดกับคนที่ว่ายน้ำไม่เป็นหรืออยู่ในภาวะซึ่งช่วยเหลือตนเองไม่ได้

การจมน้ำในน้ำจืด จะใช้เวลาประมาณ 3-4 นาที

ในน้ำเค็มจะใช้เวลาประมาณ 7-8 นาที

วิธีการช่วยเหลือ

อาการและอาการแสดง

มีฟองน้ำลายรอบบริเวณริมฝีปาก

รูจมูก หายใจช้าลง ชีพจรเบาคล้าไม่ชัดเจน

ซีด หมดสติ

ลักษณะอาการของคนที่กำลังจมน้ำ แบ่งเป็น 11 ระยะ

ว่ายน้ำได้เองโดยอัตโนมัติ แต่ทำได้ในระยะเวลาสั้น แล้วจะเริ่มจมน้ำ

เริ่มมีอาการหยุดหายใจเกิดขึ้น เนื่องจากได้พยายามกลั้นหายใจไว้ตั้งแต่ระยะที่ 1-3 แล้ว

ขณะสูดลมหายใจอีกครั้งหนึ่งจะเริ่มสำลักและกลืนน้ำเข้าไป


เกิดการไอ และอาเจียน

ตะเกียกตะกาย พยายามดิ้นรน

พยายามกระเสือกกระสนถีบตนเอง ให้จมูกพ้นน้ำ แล้วสูดหายใจเข้าไป ซึ่งอาจเป็นเฮือกสุดท้าย

ส้าลักน้ำเข้าปอด

พ่นน้ำลายออกมาเป็นฟอง และมีเลือดปนออกมา

ชัก ไม่รู้สติ

เสียชีวิต แล้วจมน้ำลงไป

เกิดอาการตกตะลึงเริ่มรู้ตัวว่าจะ ไม่รอดชีวิตถ้าไม่ได้รับการช่วยเหลือ

1.ตะโกน

2.โยน

3.ยื่น

4.สาวไม้

เมื่อพบเห็นคนจมน้ำ ให้ตะโกนเพื่อขอความช่วยเหลือ

หาสิ่งของที่สามารถลอยน้ำได้โยนให้กับคนที่ก้าลังจมน้ำ เช่น ถังแกลลอน ห่วงชูชีพ

หาอุปกรณ์ยื่นให้คนที่ กำลังจมน้ำจับ เช่น ไม้ เชือก เสื้อ กางเกง

หลังจากคนที่กำลัง จมน้ำจับอุปกรณ์แล้วให้ดึงคน จมน้ำดึงเข้าหาฝั่ง

การปฐมพยาบาล

โทรศัพท์แจ้งหมายเลข 1669 หรือ หน่วยพยาบาลใกล้เคียงโดยเร็วที่สุด

จับคนจมน้ำนอนบนพื้นราบ แห้งและแข็ง

ห้ามจับผู้ประสบภัยอุ้มพาดบ่า กระโดด หรือวิ่งรอบสนาม เพื่อเอาน้ำออก

ตรวจดูว่ารู้สึกตัวหรือไม่ โดยใช้มือทั้ง 2 ข้าง จับไหล่ เขย่าพร้อมเรียกดังๆ

กรณีรู้สึกตัว เช็ดตัวให้แห้ง เปลี่ยนเสื้อผ้า และห่มผ้า และน้ำส่งโรงพยาบาลทุกราย

กรณีไม่รู้สึกตัว ไม่ตอบสนอง : ช่วยหายใจ โดยเปิดทางเดินหายใจ โดยการกดหน้าผาก เชยคาง และเป่าปากโดยวางปาก ครอบปากผู้ป่วย บีบจมูก เป่าลมเข้า ให้หน้าอกผู้ป่วยยกขึ้น
(เป่าปาก 2 ครั้ง)

กดนวดหัวใจ วางส้นมือกึ่งกลางหัวนมทั้ง 2 ข้าง ต่อมากดหน้าอกให้ยุบไปประมาณ 1ใน3 ของความหนาของหน้าอกความเร็ว 100 ครั้ง/ นาที นวดหัวใจ 30 ครั้ง สลับกับการเป่าปาก 2 ครั้ง ทำไปจนจะรู้สึกตัว และหายใจได้เอง

จับผู้ป่วยนอนตะแคงข้าง ศีรษะหงายไปข้างหลัง เพื่อให้ น้ำไหลออกทางปาก ใช้ผ้าห่มคลุมผู้ป่วยเพื่อให้เกิดความ อบอุ่น งดน้ำและอาหาร และนำส่งโรงพยาบาลทุกราย