Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การตรวจสุขภาพทารกในครรภ์เครื่องมือพิเศษโดย Biophysical Assessment - Coggle…
การตรวจสุขภาพทารกในครรภ์เครื่องมือพิเศษโดย Biophysical Assessment
คลื่นเสียงความถี่สูง (Ultrasound)
ข้อบ่งใช้
วินิจฉัยอายุครรภ์ การกำหนดและยืนยันอายุครรภ์ที่แน่นอน
2.ติดตามการเจริญเติบโตของทารก
ตรวจวินิจฉัยความพิการแต่กำเนิดของทารก
การวินิจฉัยครรภ์แฝด
ตรวจวินิจฉัยสาเหตุการมีเลือดออกทางช่องคลอด
วินิจฉัยเนื้องอกในอุ้งเชิงกราน
ตรวจตำแหน่งความผิดปกติและภาพของรก บอกตำแหน่งที่รกเกาะ
ใช้ศึกษาหลอดเลือดหลักของทารกเพื่อติดตามการเจริญเติบโต
ระยะเวลาที่เหมาะสม
ควรตรวจเมื่ออายุครรภ์ 7-10 สัปดาห์ผิดพลาดไม่เกิน 5 วัน
บทบาทพยาบาล
ให้คำปรึกษา
2.งดน้ำงดอาหาร
หญิงตั้งครรภ์อยู่ในไตรมาสที่ 1 ดูแลให้ bladder full รายที่ต้องตรวจทางหน้าท้อง
4.เตรียมอุปกรณ์และสถานที่ตรวจ
จัดให้นอนหงายหัวสูงเล็กน้อย
เปิดผ้าคลุมเฉพาะหน้าท้อง อธิบายให้ทราบถึงระยะเวลาในการตรวจ 10 - 30 นาที
ทำความสะอาดหน้าท้องหลังตรวจ
บันทึกผล
Amniotic fluid volume measurement
การประเมินสุขภาพทารกในครรภ์ด้วยปริมาณน้ำคร่ำ
เกณฑ์การวินิจฉัยน้ำคร่ำน้อย
วัดแอ่งลึกที่สุดของน้ำคร่ำ (Single deepest pocket, SDP หรือ maximum vertical pocket, MVP)
โดยตั้งหัวตรวจตั้งฉากกับหน้าท้องมารดา
ค่าปกติ คือ 2.1 – 8 ซม.
บริเวณที่ลึกที่สุดในแนวตั้ง
ค่าที่อยู่ระหว่าง 0 – 2 ซม. มีภาวะน้ำคร่ำน้อย (Oligohydramnios)
ค่ามากกว่า 8 ซม. มีภาวะน้ำคร่ำมากกว่าปกติ (Polyhydramnios หรือ Hydramnios )
วัดดัชนีปริมาณน้ำคร่ำ (Amniotic fluid index: AFI)
วัดความลึกของน้ำคร่ำบริเวณที่ลึกที่สุดในแนวตั้งของแต่ละส่วน
นำค่าที่ได้มาบวกกันทั้ง 4 ค่า
แบ่งหน้าท้องมารดาเป็น 4 ส่วนเท่า ๆ กันโดยอาศัยแนวของสะดือและ linear nigra
ค่าปกติ คือ 5 – 24 ซม.
น้อยกว่า 5 ซม.ถือว่า มีภาวะน้ำคร่ำน้อย (Oligohydramnios)
มากกว่า 25 ซม. ถือว่า มีภาวะน้ำคร่ำมากกว่าปกติ (Polyhydramnios)
การตรวจ Biophysical profile (BPP)
ประเมินภาวะสุขภาพของทารกในครรภ์
ระยะเวลาที่เหมาะสมในการทำ
อายุครรภ์ 28-30 สัปดาห์ขึ้นไป ทำ สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง หรือทำทุกวัน
ข้อบ่งชี้ในตรวจ
ตรวจติดตามสุขภาพทารกในครรภ์ของหญิงตั้งครรภ์ที่มีความเสี่ยงสูง
ความดันโลหิตสูงในขณะตั้งครรภ์ เบาหวาน ทารกโตช้าในครรภ์ เจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด หรือครรภ์เกินกำหนด
Parameters 5 อย่างที่นำมาประเมิน BPP
คิดคะแนน Biophysical profile scoring โดยคะแนนเต็ม 10 คะแนน
8 – 10 คะแนน แปลผล ปกติ
4 – 6 คะแนน แปลผล ผิดปกติ ควรเฝ้าติดตามอาการเปลี่ยนแปลงอย่างใกล้ชิด
0 - 2 คะแนน แปลผล ผิดปกติ ควรยุติการตั้งครรภ์
ข้อดี
หญิงตั้งครรภ์ไม่ต้องพักรักษาในโรงพยาบาล ค่าใช้จ่ายไม่สูงและไม่เจ็บปวดขณะตรวจ ผิดพลาดน้อย
ข้อจำกัด
อาศัยผู้เชี่ยวชาญในการตรวจและแปลผล
ทำการตรวจสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และทำสัปดาห์ละ 2 ครั้งในครรภ์เสี่ยงสูง
บทบาทของพยาบาล
จะต้องมีความรู้ความเข้าใจวิธีการตรวจแก่หญิงตั้งครรภ์
เป็นแนวทางในการข้อมูลแก่หญิงตั้งครรภ์
ขอความร่วมมือในการตรวจ
ผ่อนคลายความวิตกกังวลและความกลัวต่าง ๆ
ควรมีการติดตามผลการตรวจเพื่อจะช่วยให้สามารถนำมาวางแผนการให้การพยาบาล
การฉายรังสีเอ๊กซเรย์ (Radiography)
วินิจฉัยเพื่อดูขนาดของทารก การเจริญเติบโตของทารกและตำแหน่งของรก
ทำได้เมื่ออายุครรภ์ 20 สัปดาห์ขึ้นไป
ดู fetal skeletal ทารกครรภ์แฝดในไตรมาสที่ 2
ตรวจในช่วงไตรมาสที่ 3 อาจตรวจหาความผิดปกติบางอย่างของทารกได้ เช่น anencephaly, hydrocephalus
วินิจฉัยภาวะทารกตายในครรภ์
Spalding’s sign
Deuel’s sign
บทบาทของพยาบาล
ควรอธิบายให้ทราบถึงความจำเป็น
การปฏิบัติตัวระหว่างการตรวจ
ทราบผลการตรวจแล้ว พยาบาลควรเตรียมวางแผนการพยาบาลอย่างเหมาะสมกับแต่ละราย
การนับจำนวนการดิ้นของทารกในครรภ์ (Fetal movement count: FMC)
วิธีการนับลูกดิ้นและการบันทึกการเคลื่อนไหวของทารก
1) Daily Fetal Movement Record (DFMR) ของ Sadovaski, Yaffe, Wood และคณะ
แนะนำให้มารดานับการดิ้นของทารกวันละ 3 ช่วง
1 ชั่วโมงตอนเช้า 1 ชั่วโมงตอนเที่ยง และ 1 ชั่วโมงตอนเย็น
ผลรวมจำนวนครั้งของการดิ้นทั้ง 3 ช่วง ต่อวัน
น้อยกว่า 10 ครั้งใน 12 ชั่วโมงใน 2 วัน ติดกันถือว่าเป็นสัญญาณอันตราย
โดยการนับผลรวมของการดิ้นในช่วงเวลา 12 ชั่วโมง (08.00 – 20.00 น.)
2) The Cardiff “Count-to-ten chart” ของ Pearson
นับจำนวนทารกเคลื่อนไหวตั้งแต่ 09.00 น. จนครบ 10 ครั้ง
ไม่ควรเกิน 12 ชั่วโมง (ถึง 21.00 น.)
เด็กดิ้นน้อยกว่า 10 ครั้งใน 12 ชั่วโมง
ภาวะ decrease of fetal movement (DFM)
เริ่มทำตั้งแต่อายุครรภ์ 32 สัปดาห์
3) วิธีของ Liston
เหมือนวิธีของ Pearson
ถ้าเด็กดิ้นน้อยกว่า 10 ครั้งใน 12 ชั่วโมง แสดงว่าเกิดภาวะ DFM
เริ่มทำตั้งแต่อายุครรภ์ 28 สัปดาห์
ปัจจัยที่มีผลต่อการนับการเคลื่อนไหวของทารก
ค่อย ๆ ลดลงจนครบกำหนด
ช่วงระยะเวลานอนหลับของทารกต่อ 1 รอบนาน 20 นาทีถึง 75 นาที
เคลื่อนไหวบ่อยที่สุดช่วงอายุครรภ์ 28 – 34 สัปดาห์
ทารกจะมีการดิ้นมากระหว่างเวลา 21.00 – 01.00 น
ทารกจะเริ่มเคลื่อนไหวเมื่ออายุครรภ์ 7 สัปดาห์
ได้แก่
สูบบุหรี่ เสียงภายนอกที่มากระตุ้น แสง คลื่นเสียงความถี่สูง
ท่าของมารดา ลักษณะของมารดา และความสนใจของมารดาต่อการดิ้นของทารก
ปริมาณน้ำคร่ำ ระดับกลูโคสในเลือดมารดา และมื้ออาหารที่มารดาได้รับ
การเจาะถุงน้ำคร่ำ
ท่าในการนับการดิ้นของทารก มารดาควรนอนในท่าที่สบายและตะแคงซ้าย