Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลเด็กที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคหัวใจ - Coggle Diagram
การพยาบาลเด็กที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคหัวใจ
การเปลี่ยนแปลงของเลือดขณะคลอด
การปิดของ foramen ovale
ปริมาณเลือดและแรงดันใน left atrium เพิ่มขึ้น
แรงดันเลือดในปอดลดลงทําให้มีเลือดไปเลี้ยงปอดเพิ่มขึ้น
เลือดไหลกลับจากปอดกลับสู่ left trium เพิ่มขึ้น
การหายใจของทารกทําให้ปอดขยายตัว เส้นเลือดในปอดขยายตัว
ปริมาณเลือดและแรงดันใน right atrium ลดลงเนื่องจากได้รับเลือดจาก inferior vena cava ลดลง
การปิดของ umbilical vein และ ductus venosus
ปริมาณเลือดที่ไหลเข้าสู่ inferior vena cava และ right atrium ลดลง
umbilical vein ที่ปิดกลายเป็น round ligament of liver (ligametum teres)
เมื่อสายสะดือถูกตัด ปริมาณเลือดที่ไหลผ่าน umbilical vein และ ductus venosus ลดลง
ductal venosus กลายเป็น ligamentum venosum
การปิดของ ductus arteriosus
การเปลี่ยนแปลงระดับของ vasodilators
ทําให้ปริมาณของ vasodilators ลดลง
ductus arteriosus หดตัวและไม่มีเลือดไหลผ่าน
รกมีการสร้างลดลงและมีการทําลายที่ปอดมากขึ้น
ระดับออกซิเจนในเลือดเพิ่มขึ้น
ได้มากขึ้นจนมีระดับออกซิเจนในเลือดเพิ่มขึ้น
เกิดการหดตัว (vasoconstriction) ของ ductus arteriosus
เลือดไปเลี้ยงปอดเพิ่มขึ้นทําให้ฟอกเลือดได้มากขึ้น
การปิดของ umbilical arteries
ส่วนต้นเปลี่ยนเป็นเส้นเลือดที่ไปเลี้ยง urinary bladder
มีการเปลี่ยนแปลงต่อโดยส่วนปลายเปลี่ยนเป็น medial umbilical ligaments
Bradykinin ถูกปล่อยจากปอดทําให้เซลล์กล้ามเนื้อในชั้นmedia ของ ductus arteriosus หดตัว
ชนิดของโรคหัวใจแต่กําเนิด
ไม่มีอาการเขียว
ชนิดที่มีเลือดไหลลัดจากซีกซ้ายไปขวา (left to right shunt)
ความดันเลือดในหัวใจห้องซ้ายสูงกว่าห้องขวา
ความดันเลือดใน aorta สูงกว่าใน pulmonary artery
โรคหัวใจที่มีการอุดกั้นของทางออกของเลือด
aortic valve ตีบ
หลอดเลือด aorta ตีบ (Coarctation of Aorta: CoA)
โรคหัวใจชนิดที่พบได้บ่อย
การมีความผิดปกติของเส้นเลือดใหญ่ระหว่างหัวใจและปอด (Patent ductus arteriosus หรือ PDA)
หลักการวินิจฉัย
ฟังได้ Continuous machinery murmur with systolic accentuation บริเวณ pulmonary valve
Bounding pulses
ไม่เขียว
ภาพรังสีทรวงอก มีหัวใจโต เวนตริเคิลซ้ายโต เอออร์ตาและ main pulmonary artery ใหญ่ และมี pulmonary vasculature เพิ่มขึ้น
การวินิจฉัยแยกโรค
ในเด็กเล็กที่มีภาวะหัวใจวาย ต้องแยกจาก
Endocardial cushion defect
Aortico-pulmonary window
Ventricular septal defect
ในเด็กโตที่มีcontinuous murmur ต้องแยกจาก
Rupture of sinus valsalva พวกนี้จะมีอาการมาก และได้ยิน diastolic accentuation
Ventricular septal defect with aortic insufficiency ลักษณะ murmur เป็น to and fro
Coronary arterio-venous fistula จะมีdiastolic accentuation และ ได้ยินที่บริเวณ mid-precordium
อาการและอาการแสดง
Moderate PDA ผู้ป่วยอาจมีอาการเหนื่อยง่ายเล็กน้อย มีการติดเชื้อที่ทางเดินหายใจ บ่อย ๆ ตรวจพบมีbounding pulse หัวใจซีกซ้ายโต
Large PDA
ร่วมกับ pulmonary hypertension and high pulmonary blood flow ผู้ป่วยจะมีอาการมากตั้งแต่วัยทารกหรือวัยแรกเกิด
ร่วมกับ pulmonary hypertension และมี high pulmonary vascular resistance จะมี bidirectional shunt ผู้ป่วยจะไม่มีอาการของภาวะหัวใจวายแต่อาจมีเขียวเล็กน้อย
Small PDA ผู้ป่วยมักจะไม่มีอาการ แต่ตรวจพบโดยบังเอิญ ตรวจร่างกายพบหัวใจไม่โตหรือโตเล็กน้อย
การรักษา
ในรายที่มีอาการของภาวะหัวใจวาย ควรเริ่มด้วยการรักษาทางยาไปก่อน ถ้าอาการดีขึ้นก็อาจชะลอการผ่าตัดไปได้จนอายุพอควร
ในรายที่ไม่มีอาการ ควรทํา elective surgery
PDA ในทารกเกิดก่อนกําหนดที่มีอาการ
การมีรูรั่วของผนังกั้นระหว่างห้องหัวใจห้องบน (Atrial septal defect หรือ ASD)
การเปลี่ยนแปลงต่อระบบไหลเวียนโลหิตขึ้นอยู่กับขนาดของ ASD
Small ostium secundum defect
ขนาด 3-8 mm มีโอกาสปิดเองได้ก่อนอายุ 18 เดือน
ส่วน ASD ชนิด sinus venosus และ ostium primum defect มักไม่สามารถปิดเองได้
ขนาดเล็กกว่า 3 mm. ปิดเองได้
Moderate-to-large ASD
เกิด shunt ปริมาณมากจนเกิด volume overload
Symptoms and Signs
ส่วนใหญ่ small ASD มักไม่ก่ออาการ
ส่วน large defect อาจทำให้ผู้ป่วยมีอาการ exercise intolerance, dyspnea during exertion, fatigue, palpitation, atrial arrhythmias
AVSD มีพยาธิสรีรวิทยาเหมือน VSD
รูเปิดใน interatrial septum ทำให้เกิด left-to right shunt และ volume overload แก่ right atrium และ right ventricle
โรคนี้สัมพันธ์กับ Down syndrome
การวินิจฉัยแยกโรค
Functional murmur
Pulmonary stenosis
Rheumatic mitral insufficiency ในรายที่เป็น Ostium primum defect
การมีรูรั่วของผนังกั้นระหว่างห้องหัวใจห้องล่าง (Ventricular septal defect หรือ VSD)
เกิดภาวะหัวใจซีกซ้ายวายและมีความดันเลือดใน pulmonary artery สูงขึ้น
อาการและอาการแสดง
Moderate VSD
ติดเชื้อของทางเดินหายใจบ่อย
หัวใจอาจโตเล็กน้อย
ผู้ป่วยอาจมีอาการเหนื่อยง่าย ตัวเล็ก
หัวใจอาจโตเล็กน้อย systolic thrill บริเวณขอบซ้ายของกระดูกอก เสียงที่1 ปกติ S2 อาจดังขึ้นเล็กน้อยได้ยิน
มักจะได้ยิน diastolic murmur ที่บริเวณ apex ของหัวใจ
Large ventricular septal defect
เหนื่อยมาก
เมื่อเด็กอายุได้ประมาณ 1-2 เดือน มักจะมีการติดเชื้อที่ทางเดินหายใจบ่อย
เลี้ยงไม่โต
มีเขียวเล็กน้อยเวลาร้องหรือออกแรงมาก ๆ
หัวใจโตและมีอาการแสดงของภาวะหัวใจวาย
Small VSD
ตรวจได้systolic thrill ตามขอบซ้ายของกระดูกอก
บางรายอาจได้ยิน short diastolic rumbling ที่บริเวณ Apex ของหัวใจ
หัวใจไม่โต
การวินิจฉัยแยกโรค
ในเด็กโต ต้องแยกจาก
Mitral insufficiency
Isolate pulmonary stenosis
Innocent heart murmur
ในเด็กเล็กต่ํากว่า 1 ปีต้องแยกจาก
A-V canal defect
Common ventricle without pulmonary stenosis
Large patent ductus arteriosus
การรักษา
การรักษาทางยา ในรายที่มีภาวะหัวใจวาย ให้ยารักษาเป็นพวก digitalis และยาขับปัสสาวะถ้าผู้ป่วย
อาการดีขึ้น เช่น หอบน้อยลงและน้ําหนักตัวขึ้น ต้องให้ยาต่อ โดยเฉพาะในขวบปีแรก
การรักษาทางศัลยกรรม ในรายที่ผู้ป่วยไม่ดีขึ้นจากการรักษาทางยา
บรรเทาอาการ (Palliative) โดยทําการ pulmonary artery banding ในเด็กเล็ก
แก้ไขความผิดปกติ (Corrective) มักจะทําในรายที่เป็นเด็กโต เช่น น้ําหนักตัวเกิน 10
กิโลกรัม แต่ในบางแห่งอาจทําได้ถึงแม้เด็กจะน้ําหนักตัวน้อย
การมีรูรั่วของผนังกั้นระหว่างห้องหัวใจห้องบนและล่าง (Atrioventricular septal defect หรือ AVSD)
หลักการวินิจฉัย
อาการเขียวใน severe stenosis
หัวใจซีกขวาโต ฟังได้systolic ejection murmur ที่บริเวณลิ้นพลุโมนารีย์
ไม่มีอาการใน mild ถึง moderate stenosis
เสียงที่สองค่อย อาจได้ยิน wide split และ S2 ค่อย อาจได้ยิน ejection click
การวินิจฉัยแยกโรค
Small ventricular septal defect
Functional murmur
Tetralogy of Fallot
Atrial septal defect
อาการและอาการแสดง
Moderate pulmonary stenosis อาจไม่มีอาการหรือเหนื่อยง่ายเล็กน้อยเวลาออกแรงตรวจพบ systolic murmur
Severe pulmonary stenosis ในเด็กเล็กอาจมีอาการของภาวะหัวใจวายทางซีกขวา หรืออาการเขียวเล็กน้อย ในเด็กโตมักมีอาการเหนื่อยง่าย อาจมีเขียว แต่บางรายก็ไม่มีอาการ
Mild pulmonary stenosis ผู้ป่วยจะไม่มีอาการแต่จะตรวจพบ ejection systolic murmur ที่บริเวณลิ้นพลุโมนารีย์
กระบวนการพยาบาลเด็กป่วยด้วยโรคหัวใจ
ความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเด็กเอง
ความต้องการเฉพาะบุคคลของเด็ก
โดยพยาบาลแผนกเด็กต้องคํานึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล
จําแนก
Infundibular pulmonary stenosis มีการอุดกั้นที่บริเวณ subvalvular area หรือบริเวณ infundibulum พบน้อย
Supra-valvular pulmonary stenosis มีการอุดกั้นบริเวณเหนือกว่า valve พบได้น้อยเช่นเดียวกัน
Valvular pulmonary stenosis มีการอุดกั้นบริเวณ pulmonary valve
มีอาการเขียว
เลือดไปปอดน้อย
pulmonary valve ตัน
tricuspid valve ตัน
Tetrology of Fallot (TF)
เป็นโรคหัวใจที่พบบ่อยที่สุดในเด็กโต พบประมาณร้อยละ 10
เลือดไปปอดมาก
TGA
เป็นโรคหัวใจที่พบบ่อยที่สุดโดยเฉพาะในทารกพบ ร้อยละ 2
โรคหัวใจชนิดที่พบได้บ่อย
Congestive Heart failure
เป็นภาวะที่หัวใจไม่สามารถนําเลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
สาเหตุ
Vascular, Blood Disease
Acquired Heart Disease
Arrthymias Heart Disease
Respiratory Disease
Congenital Heart Disease
Anemia
อาการและอาการแสดง
เด็กทารก
จังหวะการเต้นปัสสาวะออกน้อย
กินได้น้อย, โตช้า, อ่อนเพลีย กล้ามเนื้ออ่อนแรงบวมบริเวณรอบดวงตา
หัวใจเต้นผิดจังหวะมีการหายไปของ
บริเวณส่วนปลายของการไหลเวียนไม่ดี
ตับโต หัวใจโต
พบมือเท้าเย็น ความดันโลหิตต่ํา
หัวใจเต้นเร็ว หายใจเหนื่อยหอบ, หายใจเร็ว
เด็กโตและผู้ใหญ่
ปัสสาวะออกน้อย
มีขีดจํากัดในการทํากิจกรรม หายใจสั้นต้องนั่งหายใจ
หัวใจเต้นผิดจังหวะมีการหายไปของจังหวะการเต้น
บวม น้ําหนักเพิ่ม
ตับโต หัวใจโต
บริเวณส่วนปลายการไหลเวียนไม่ดีพบมือเท้าเย็น
หัวใจเต้นเร็ว หายใจเหนื่อยหอบ, หายใจเร็ว
ความดันโลหิตต่ํา
การพยาบาล
ดูแลให้ได้รับ Digoxin ตามแผนการรักษา
ให้ยาขับปัสสาวะ เพื่อลดจํานวนน้ําที่คั่งค้างอยู่ ต้องระมัดระวังการขาดสมดุลของ K+ ควรแนะนําให้รับประทานส้ม กล้วย มะเขือเทศ ชดเชยด้วย
ดูแลให้ได้รับยา Sedative เพื่อให้ได้พักผ่อน ในรายที่มีการพักผ่อนน้อย
จัดท่านอนให้อยู่ท่าศีรษะสูง ลดภาวะหายใจลําบาก ลดการทํางานของหัวใจ
จํากัดสารน้ํา และปริมาณเกลือที่เข้าสู่ร่างกาย เพื่อลดการคั่งของโซเดียมและน้ํา
ดูแลให้ได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ เพราะขณะพักผ่อนร่างกายมีการใช้ออกซิเจนลดลง ช่วยลดการทํางานของหัวใจ
จัดสภาพแวดล้อมของผู้ป่วยให้มีการรบกวนน้อยที่สุด
ดูแลให้ได้รับออกซิเจน
วางแผนในการให้การพยาบาลก่อนปฏิบัติกับผู้ป่วยอย่างรอบคอบ เพื่อรบกวนผู้ป่วยน้อยที่สุด
ป้องกันการเกิดแผลกดทับ โดยรักษาความชุ่มชื้นและความสะอาดของผิวหนัง เปลี่ยนท่านอนให้ทุก 2ชั่วโมง
ในเด็กทารก หากมีอาการเหนื่อยหอบขณะดูดนม ควรให้เด็กพัก แล้วใช้Nasal Gavage หรือใช้Medicine dropper ดูดนมหยอดลงไปในปากของทารกนั้น
จับชีพจรเต็มนาทีขณะวัดสัญญาณชีพ และบันทึกชีพจรขณะที่หยุดพัก (Sleeping pulse) ของผู้ป่วยทุกวัน
สังเกตอาการเปลี่ยนแปลงอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอาการของหัวใจล้มเหลว คือ หัวใจเต้นเร็ว หายใจเร็ว หัวใจโต ตับโต เส้นเลือดที่คอโป่ง (Neck Vein Engored)
ป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ เพราะอาจมีภาวะการคั่งของน้ําในเนื้อปอดทําให้การทํางานของปอดทําได้ไม่ดีเกิดการติดเชื้อได้ง่าย
การสอนให้คําแนะนําแก่ผู้ป่วยและผู้ปกครอง
การให้นมในทารก ควรจัดให้ทารกอยู่ในท่าศีรษะสูง เด็กอาจเหนื่อยง่าย ถ้ามีอาการดังกล่าวหยุดพักแล้วให้ภายหลัง
เด็กที่เป็นโรคหัวใจ จะน้ําหนักตัวขึ้นช้ากว่าปกติ
อธิบายถึงโรคที่เป็นและกลไกการไหลเวียนโลหิต
วางแผนในการทํากิจกรรมดูแลไม่ให้เด็กเหนื่อยล้าจนเกินไป และดูแลและช่วยเหลือในการทํากิจกรรมต่าง ๆ ตอบสนองความต้องการ
ดูแลให้ได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ
ดูแลให้ได้รับภูมิคุ้มกันตามอายุและวัยที่เหมาะสม
สอนถึงอาการของภาวะหัวใจวาย เช่น หายใจหอบเหนื่อย หัวใจเต้นเร็ว หลอดเลือดที่คอโป่งพอง
สอนการให้ยา Digoxin และยาอื่น ๆ ที่ได้รับว่ามีผลข้างเคียง และมีฤทธิ์ในการออกฤทธิ์อย่างไร เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้น
การวางแผนการพยาบาลสําหรับผู้ป่วยเด็กโรคหัวใจ
การวินิจฉัยการพยาบาล
เสี่ยงต่อการได้ออกซิเจนไม่เพียงพอ เนื่องจากหัวใจทําหน้าที่บกพร่องหรือเสี่ยงต่อการแลกเปลี่ยนก๊าซบกพร่อง
การพยาบาล
ลดความวิตกกังวล ความวิตกกังวลจะกระตุ้นระบบประสาทซิมพาเทติค และทําให้หัวใจต้องทํางานมากขึ้น
ป้องกันไม่ให้อุณหภูมิของร่างกายสูงหรือต่ําเกินไป
ดูแลให้เด็กได้รับการตอบสนองความต้องการ
ช่วยให้การทํางานของหัวใจดีขึ้น โดยลดปริมาณเลือดที่เข้าสู่หัวใจ โดยลดปริมาณโซเดียมและน้ําในระบบไหลเวียนให้น้อยลง
ดูแลให้พักผ่อนอย่างเพียงพอ ไม่รบกวนเด็กมาก
3 more items...
เสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงปริมาตรของเลือดที่ออกจากหัวใจลดลง
การพยาบาล
ดูดเสมหะในรายที่มีPulmomary Edema
ควรทํากายภาพบําบัดทรวงอก
ดูแลให้ได้รับออกซิเจน โดยให้ได้รับตามจํานวนและมีความชื้นที่เหมาะสม
ให้ยาขยายหลอดลม
จัดท่านอน จัดให้เด็กนอนในท่าศีรษะสูง ป้องกันอวัยวะในช่องท้องดันกระบังลม
เสี่ยงต่อการขาดความสมดุลของสารน้ําในร่างกาย
การพยาบาล
ชั่งน้ําหนักเด็กอย่างน้อยวันละครั้ง ถ้าน้ําหนักมากอาจแสดงถึงภาวะน้ําคั่ง ถ้าน้ําหนักน้อยลงอาจแสดงถึงการตอบสนองต่อยาขับปัสสาวะดีหรือได้รับน้ําน้อย
สังเกตอาการและอาการแสดงของภาวะสมดุลย์ของสารน้ํา โดยดูจากความชุ่มชื้นของเยื่อบุช่องปากผิวหนัง การโป่งตึงของขม่อม การมีท้องมานบวม หรือมีน้ําตาน้อยลง จนถึงไม่มีน้ําตาในเด็กทารกอายุมากกว่า6 สัปดาห์
บันทึกจํานวนสารน้ําเข้า-ออก จากร่างกายอย่างเที่ยงตรง และควรสอนญาติให้สามารถสังเกตและปฏิบัติตามคําแนะนําในเรื่องของความสมดุลย์ของปริมาณสารน้ําที่เข้า-ออกจากร่างกาย
จํากัดสารน้ําในรายที่มีภาวะ Congestive Heart Failure หากมีสารน้ําที่ให้ทางหลอดเลือดดํา อาจใช้บูเร็ตเซ็ทเพื่อควบคุมปริมาณสารน้ําไม่ให้มีปริมาณสารน้ํามากเกินไปในระบบไหลเวียนอาจทําให้หัวใจไม่สามารถทํางานได้
ความทนในการทํากิจกรรมลดลงเนื่องจากความไม่สมดุลย์ระหว่างความต้องการออกซิเจนของร่างกายกับปริมาณออกซิเจนที่มีอยู่
การพยาบาล
การให้อาหาร
3 more items...
การปรับอุณหภูมิของร่างกาย
2 more items...
การจัดท่านอน
2 more items...
การจัดกิจกรรม
2 more items...
อาจได้รับอาหาร น้ํา และแคลอรี่ไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย
เนื่องจากภาวะหอบ เหนื่อยง่าย ดูดนมลําบาก และจากผลข้างเคียงของยาที่ได้รับ
การพยาบาล
ในเด็กที่มีอาการเหนื่อยมากขณะดูดนม อาจต้องให้นมนานกว่าปกติโดยให้เด็กดูดนมเป็นระยะและในเด็กที่ไม่สามารถดูดนมได้ควรใช้หลอดหยด(medicine dropper) หรือให้ทางสายยาง (Naso-gastric tube)แทน
ใช้หัวนมที่อ่อนนิ่ม และมีรูใหญ่พอให้นมไหลสะดวก เพื่อช่วยให้เด็กดูดนมง่ายขึ้น แต่ต้องระวังสําลักด้วย
ดูแลให้ได้รับอาหารที่มีคุณค่าสูง ย่อยง่าย อาหารที่มีธาตุเหล็ก โปตัสเซียม
อุ้มทารกขณะให้นม และให้นมหรืออาหารช้า ๆ ครั้งละน้อย ๆ บอ่ยครั้ง พร้อมทั้งจับทารกให้เรอ เอาลมออกบ่อย ๆ
ดูแลให้ได้น้ําอย่างพอเพียง โดยการบันทึกจํานวนน้ําดื่มและปัสสาวะอย่างละเอียด
เสี่ยงต่อการติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจเช่น เป็นหวัดบ่อย ๆ เนื่องจากการคั่งของน้ําในปอด ทําให้การทํางานของปอดไม่ดี
การพยาบาล
สังเกตอาการและอาการแสดงของภาวะติดเชื้อ เช่น มีไข้ท้องร่วง อาเจียน ไอ เจ็บหน้าอก น้ํามูกไหล
ดูแลให้ได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ
แยกเด็ก ออกจากเด็กป่วยโรคติดเชื้อต่าง ๆ เช่น หวัด ท้องร่วง ผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อของแผลเป็นต้น
ดูแลให้ได้รับอาหารที่เหมาะสม มีคุณค่าสูง
ดูแลและให้คําแนะนํา เกี่ยวกับการรักษาความสะอาดของปากและฟันอยู่เสมอ
ให้คําแนะนําแก่เด็กและบิดามารดาเกี่ยวกับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคและการดูแลสุขอนามัยในเด็กเล็ก
Tetralogy of Fallot
หลักการวินิจฉัย
ไม่มีภาวะหัวใจวาย
Loud & Single S2
Quiet precordium
Systolic murmur grade 1-3/6 ที่บริเวณ L2-3
Anoxic spell
ภาพรังสีทรวงอกและคลื่นไฟฟ้าหัวใจตามแบบ (typical)
ผู้ป่วยเขียว เริ่มในวัยทารกระยะท้าย
การวินิจฉัยแยกโรค
Transposition of the great vessels with VSD & PS
Common ventricle with PS
Tricuspid atresia
Truncus arteriosus
Pulmonary stenosis with intact ventricular septum
Pulmonary atresia
อาการและอาการแสดง
เขียวเวลาออกแรง
มีอาการ anoxic spell
มักมีอาการเหนื่อยง่าย
ในรายที่เป็นมาก ๆ ลักษณะที่เด็กเหนื่อยแล้วจะนั่งยอง ๆ (squatting)
มักจะมีอาการในระยะปลายขวบแรก
การตรวจร่างกาย
มี clubbing ของนิ้วมาก
เด็กตัวเล็กผอมกว่าปกติ
เขียวมาก
บางรายอาจมองไม่เห็นเขียวชัดเจนที่เรียกว่า Pink Tetralogy of Fallot
ผู้ป่วยTetralogy จะไม่มีอาการของภาวะหัวใจวาย
การรักษา
การรักษาทางยา
การรักษาทางศัลยกรรม
การผ่าตัดชั่วคราว
Waterston's shunt ต่อระหว่างเอออร์ตา ส่วน ascending กับหลอดเลือดแดงพลุโมนารีย์ข้างขวา
Pott' s shunt ต่อระหว่างเอออร์ตา ส่วน descending กับหลอดเลือดแดงพลุโมนารีย์ข้างซ้าย
Blalock-Taussig ต่อระหว่างหลอดเลือดแดงสับเคลเวียนกับแขนงของหลอดเลือดแดงพลุโมนารีย์มักทําในเด็กที่โตเกินวัยแรกเกิด
การผ่าตัดให้หายขาด
มักจะทําเมื่อเด็กโตเกิน 4 ขวบ
น้ําหนักตัวเกิน 10-15 กิโลกรัม
โรคหัวใจพิการแต่กําเนิด
สาเหตุ
ทางพันธุกรรม
สาเหตุอื่น ๆ
การได้รับรังสี
จากยาที่มารดารับประทานในระยะตั้งครรภ์ใน3-6เดือนแรก
การติดเชื้อไวรัสบางชนิดในมารดา โดยเฉพาะในระยะตั้งครรภ์ 3 เดือนแรก
อาการและอาการแสดง
มีอาการเป็นหวัดหรือปอดอักเสบบ่อย ๆ
การเต้นของหัวใจผิดปกติ
เลี้ยงไม่โต
อาการบวมและตับโต
อาการเขียว
อาการเป็นลมหรือหมดสติในผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจชนิดที่มีอาการเขียว (Anoxic Spell)
อาการเหนื่อยง่าย
การป้องกัน
วิธีป้องกันไม่ให้เกิดโรคหัวใจพิการแต่กําเนิด
ฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัดเยอรมันในหญิงที่อยู่ในระยะมีบุตรได้ซึ่งไม่เคยเป็นโรคหัดเยอรมันมาก่อน
ระหว่างตั้งครรภ์อ่อน ๆ มารดาควรหลีกเลี่ยงการได้รับรังสีต่าง ๆ
มารดาไม่ควรรับประทานยาที่เป็นอันตรายต่อบุตร โดยเฉพาะในระยะ 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์นอกจากมีความจําเป็นจริง ๆ และควรปรึกษาแพทย์ก่อน
ในรายที่เป็นโรคทางพันธุกรรมและมีโรคหัวใจพิการแต่กําเนิด ควรจะปรึกษาแพทย์สําหรับ risk ซึ่ง
อาจเกิดขึ้นกับบุตรคนต่อ ๆ ไป
วิธีป้องกันไม่ให้มี infective bacterial endocarditis
ในวันที่ทํา ก่อนทํา 1-2 ชั่วโมง ให้procaine penicillin 6 แสนยูนิต ร่วมกับ crystalline penicillin 6 แสนยูนิต โดยฉีดเข้ากล้ามเนื้อ
อาจใช้Oral penicillin 1-2 กรัม ครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมงก่อนทํา
การรักษา
การรักษาทางยา
การรักษา congestive heart failure (CHF)
เด็กที่เป็นโรคหัวใจและมีCHF
ไม่โตเนื่องจากเป็นเรื้อรัง
อาจมีเหงื่อออกมาก
เด็กอาจมีอาการผอมแห้ง
Anoxic spell
หัวใจพิการแต่กําเนิดชนิดมีอาการเขียวอาจเกิดจากสมองขาดเลือดได้
บางรายที่มีอาการน้อยอาจมีอาการเขียวมากเป็นครั้งคราวพร้อมกับมีอาการกระสับกระส่าย
บางรายอาจมีอาการมากจนถึงหมดสติ
ประกอบด้วย
จับเด็กให้อยู่ในท่า knee chest position
ให้ออกซิเจน
ถ้ามีอาการรุนแรง ให้มอร์ฟีนขนาด 0.1-0.2 มก./กก.
ให้กลูโคสเข้าหลอดเลือดดํา
ให้โซเดียม ไบคาร์บอเนต
อาจให้Propanolol (beta blocker) ขนาด 1-4 มก./กก./วัน โดยแบ่งให้ทางปากเพื่อป้องกันการกลับเป็นใหม่อีก
การรักษาโดยการผ่าตัด
Pulmonary stenosis
Tetralogy of Fallot
Endocardial cushion defect
Aortic stenosis
Partial anomalous and total anomalous pulmonary venous connection
Peripheral pulmonary artery stenosis
Atrial septal defect both secundum and primum
การเก็บรวบรวมข้อมูล
การตรวจร่างกาย
สัญญาณชีพ
อัตราการเต้นของหัวใจ ชีพจร
ความดันโลหิต
การหายใจ ต้องนับเต็มเวลา 1 นาที
ทรวงอก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านซ้ายซึ่งมีขั้วหัวใจอยู่
ดูลักษณะทรวงอกเด็กทั้งสองข้างมีการโป่งนูนของผนังอกหรือไม่
การประเมินผิวหนัง
นิ้วปุ้ม ปลายนิ้วกว้างหนา เล็บนูนโค้งออก
เหงื่อ ผิวชื้นมีเหงื่อไหลมาก
สังเกต สีผิวเด็ก ในที่มีแสงสว่างเพียงพอ และระดับอุณหภูมิเหมาะสม ผิวซีด หรือเขียว
บวม รอบดวงตา ใบหน้า มือ เท้า
ช่องท้อง
ดูขนาดของตับโต คลําได้ต่ํากว่าระดับชายโครงขวาหรือไม่
การประเมินลักษณะทั่วไป
อาหาร สถานะภาพด้านอาหาร
มีเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังเพียงพอ
หรือมองดูเหมือนเด็กได้รับอาหารไม่พอ
ตัวโตเหมาะสมกับวัย
ลักษณะอาการอื่นที่อาจเกี่ยวพันกับโรคหัวใจพิการแต่กําเนิด
Down's Syndrome
ท่าทาง สีหน้า พฤติกรรม ระดับกิจกรรม
หงุดหงิด ฉุนเฉียว ตอบสนองต่อการกระตุ้นเหมาะสม
ท่าทางกระปรกกระเปลี้ย ไม่มีแรง ง่วงเหงา
เด็กพักผ่อนอย่างสุขสบาย
การเจริญเติบโตพัฒนาการ
ทดสอบโดยการใช้คู่มือทดสอบพัฒนาการเด็กของเดนเว่อร์
ประเมินการทํางานของไต
สังเกต บันทึก จํานวนปัสสาวะ ใน 1 วัน
การตรวจพิเศษอื่น ๆ
การตรวจทางรังสี(radiologic studies)
การสวนหัวใจ (cardiac catheterization)
การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (electro cardiography)
การตรวจโลหิต (hematologictest)
ประวัติ
ประวัติครอบครัว
มีบุคคลในครอบครัว ญาติพี่น้องของเด็กคนใดที่เป็นโรคหัวใจ
ประวัติมารดาเมื่อตั้งครรภ์
สุขภาพมารดาใน 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์
การรับประทานยา การฉายรังสีเอ็กซ์เรย์และสุขภาพ ปัญหา ในขณะคลอด แรกคลอด
แบบแผนในชีวิตประจําวันของเด็ก
การติดเชื้อทางเดินหายใจ
มักมีอาการหายใจลําบากบ่อย
เสียงกรั้นหายใจลึกถอนใจ
สั่น
หายใจเร็ว
มีไอเรื้อรัง สําลัก
อกบุ๋ม จมูกบาน
อาการเขียว
เด็กอาจมีผิวหนัง เยื่อบุริมีฝีปาก เล็บเปลือกตาซีด-เขียว
การซักถาม
ผิวหนังเด็กเปลี่ยนแปลงเมื่อไร
เมื่อเด็กเล่นออกแรงหรือร้องไห้ ขณะที่เด็กมีการติดเชื้อทางเดินหายใจหรือไม่
การรับประทานอาหาร
บางครั้งเด็กอยากรับประทานอาหารแต่รับประทานไม่ได้
น้ําหนักไม่ขึ้นเท่าที่ควร
ระหว่างที่รับประทานอาหารเด็กมีเหงื่อออกมากหรือเหนื่อย
การซักถาม
จํานวนครั้ง หรือปริมาณอาหารที่รับประทานแต่ละครั้ง ใน 24 ชั่วโมง
มีอาเจียนหรือไม่
รับประทานช้า รับประทานน้อย
ระดับกิจกรรมหรือความทนทานต่อกิจกรรม
เด็กเล็กที่มีปัญหาด้านหัวใจ มักชอบนอนแขนวางเหนือศีรษะ อ่อนแรง
การซักถาม
สิ่งที่เด็กชอบเล่น
เมื่อเล่นกับเด็กอื่นสามารถทนต่อกิจกรรม
เท่ากับเด็กอื่นหรือไม่
ผู้ให้การดูแลช่วยเหลือ
แหล่งที่เคยให้ความช่วยเหลือเมื่อเด็กเจ็บป่วย
ข้อวินิจฉัยการพยาบาล
ปฏิสัมพันธ์ทางสังคมเปลี่ยนแปลง
การปรับตัวของครอบครัวไม่มีประสิทธิภาพ
แบบแผนการหายใจไม่มีประสิทธิภาพ
ความทนทานต่อกิจกรรมลดลง
เสี่ยงต่อการติดเชื้อ
การเจริญเติบโตพัฒนาการไม่เหมาะสมกับวัย
ความสามารถในการดูแลตัวเองด้านสุขภาพไม่เพียงพอ
กิจกรรมเพื่อความเพลิดเพลินไม่เพียงพอ
เสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของร่างกาย
อาจมีการเปลี่ยนแปลงของผิวหนัง
มีการเปลี่ยนแปลงอาหาร ได้รับน้อยกว่าที่ร่างกายต้องการ
การแลกเปลี่ยนแก๊สไม่มีประสิทธิภาพ
มีการเปลี่ยนแปลงในการกําซาบของเนื้อเยื่อ
ปริมาณเลือดที่ออกจากหัวใจลดลง
อาจมีปริมาณน้ํามากเกินไป
การทําทางเดินหายใจไม่มีประสิทธิภาพ
กังวลเกี่ยวกับภาพลักษณ์ของร่างกายตนเอง
โรคหัวใจที่เกิดขึ้นในภายหลัง
ไข้รูห์มาติก (Acute rheumatic fever)
อาการ
อาจมีผื่นแดงที่ผิวหนัง
มีตุ่มแข็งที่ชั้นใต้ผิวหนัง
ปวดบวมอักเสบตามข้อ
ถ้ามีหัวใจอักเสบร่วมด้วยจะมีอาการเหนื่อยง่าย
อ่อนเพลีย หอบ
ปวดบวมอักเสบที่เท้าและขา
มีไข้
มักพบได้ในเด็กโตอายุ 5 ปีขึ้นไป
โรคนี้รักษาให้หายขาดได้ยากมาก และมักเหลือรอยโรคที่หัวใจไว้ โดยจะพบว่าลิ้นหัวใจจะมีการตีบหรือรั่วอย่างมาก
โรคคาวาซากิ
อาการ
มีไข้สูงประมาณ 5 วัน
ตาแดง ริมฝีปากแดง แห้ง
มีต่อมน้ําเหลืองที่คอโต
มีผื่นหรือมือเท้าบวม
ภาวะแทรกซ้อน
เส้นเลือดที่เลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจโป่งพอง
กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดอย่างเฉียบพลัน
พบบ่อยในเด็กที่อายุต่ํากว่า 4 ปี
สาเหตุของโรคนี้ยังไม่ทราบแน่ชัด
โรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ
ส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส
เชื้อไวรัสที่พบบ่อยว่าเป็นสาเหตุของโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบคือเชื้อ Coxsakies Virus
อาการ
หัวใจเต้นเร็วและหัวใจวาย
อาจมีอาการหอบ
อ่อนเพลีย
มีผื่นขึ้น
เป็นไข้
โรคเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ
เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย
ภาวะแทรกซ้อน
โรคธาลัสซีเมีย
ไตวายเรื้อรัง
โรคหัวใจที่เกิดจากภาวะโลหิตจาง
ความผิดปกติทางพันธุกรรม