การสัมนา
วัตถุประสงค์ของการสัมมนา
องค์ประกอบของการสัมมนา
ขั้นตอนการจัดสัมมนา
ประเด็นปัญหาหรือแนวโน้มที่สำคัญที่ส่งผลกระทบต่อวิชาชีพพยาบาล
คุณสมบัติของผู้ร่วมการสัมมนาที่ดี
ประโยชน์ของการสัมมนา
ความหมายของการสัมมนา
การจัดสัมมนารูปแบบต่างๆ
ลักษณะของการสัมมนาที่ดี
สัมมนา (Seminar) แปลว่า การเข้าร่วมเพื่อแสดงความคิดเห็น ให้ข้อเสนอแนะในอันที่จะบรรลุข้อตกลงร่วมกันหรือการหาข้อยุติร่วมกัน การร่วมใจกันหรือคิดร่วมกัน
พจนานุกรมราชบัณฑิตยสถาน พุทธศักราช 2525 ให้ความหมายว่า การประชุมเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และความคิดเห็น เพื่อหาข้อสรุปในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ผลของการสัมมนาถือว่าเป็นเพียงข้อเสนอแนะ ผู้ที่เดี่ยวข้องจะนำไปปฏิบัติตามหรือไม่ก็ได้
สมจิตร เกิดปรางค์ และนุตประวีณ์ เลิศกาญจนวัติ (2545) ได้ให้คำนิยามว่าสัมมนา (Seminar) เป็นกิจกรรมที่สามารถแบ่งออกเป็น 2 วิธีการ คือ การประชุมและวิธีการสอน ซึ่งทั้ง 2 วิธีการนี้มีส่วนที่คล้ายคลึงกัน โดยต่างก็มีเป้าหมายหลักที่มีลักษณะของการประชุม โดยมีรูปแบบการจัดกิจกรรมที่ยืดหยุ่นได้อย่างเหมาะสมกับสถานการณ์ และวัตถุประสงค์ เป็นกระบวนการกลุ่ม รวมผู้สนใจที่มีความรอบรู้ทางวิชาการอย่างใกล้เคียงกันมาแสดงความคิดเห็น อภิปราย ถกเถียง โดยตอบพูดคุย ปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน สร้างสรรค์ทัศนะใหม่ ๆ ที่สามารถนำความคิดเหล่านั้น ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้
เกษกานดา สุภาพ (2543) ให้ความหมายของสัมมนาว่าเป็นการประชุมพบปะพูดคุยบรรยายอภิปรายระดมสมองจากผู้พูดหรือวิทยากรผู้เชี่ยวชาญผู้ฟังมีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกันเป็นหนทางหาข้อสรุป และนำผลที่ได้ไปแก้ไขพัฒนาคน พัฒนาองค์กร พัฒนางาน และเป็นการนำความสำเร็จมาสู่องค์กร จาก การประชุมแบบหนึ่ง
ผล ยาวิชัย (2554) ให้ความหมายของสัมมนาว่าเป็นวิธีการสอนแบบที่ให้ผู้เรียนมีอิสระในการคิดค้นคว้าด้วยตนเองเทคนิคการหล่อหลวมแนวความคิดในรูปของการประชุมกลุ่มอย่างหนึ่งอาศัยกลุ่มร่วมหาทิศทางการพัฒนาแนวคิดสู่เป้าหมายที่ปราศจากปัญหาหรือประสบกับปัญหาน้อยที่สุดผู้เข้าสัมมนาเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในเรื่องนั้น ๆ และมาประชุมเพื่อศึกษาปัญหาวิเคราะห์และสรุปแนวทางแก้ปัญหาร่วมกันตามหลักของการมีส่วนร่วมรูปแบบหรือเทคนิคของการได้มาซึ่งความรู้แนวคิดและประสบการณ์
- เพื่อหาคำตอบหา ข้อยุติแนวทางปฏิบัติการในการแก้ปัญหาหรือเปลี่ยนแปลงปรับปรุงวิธีปฏิบัติงาน โดยการระดมความรู้ความคิดจากผู้เข้าร่วมสัมมนา
- เพื่อสำรวจปัญหา โดยการรวบรวมข้อมูล ความรู้ ประสบการณ์จากผู้รู้หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับปัญหานั้น ๆ
- เพื่อการสร้างสรรค์ ให้เกิดความร่วมมือและประสานงานที่ดีระหว่างบุคคลหรือหน่วยงาน
- เพื่อให้มีการแลกเปลี่ยนความรู้ ข้อค้นพบหรือแนวคิตต่างๆที่สามาในการแก้ไขปัญหาหรือพัฒนางาน
- เพื่อกระตุ้นให้เกิดความสามัคคีและเสริมสร้างสัมพันธภาพระหว่างบุคคลที่ทำงานในสถาบันเดียวกันและ / หรือต่างสถานบันดังนั้นการสัมมนาทุกครั้งจึงจำเป็นต้องมีวัตถุประสงค์ให้แน่ชัตเสียก่อนเพื่อจะได้กำหนดกิจกรรมที่เหมาะสมรวมทั้งแนวทางเพื่อการประเมินผลหลังจากเสร็จสิ้นงานสัมมนานั้น ๆ
- ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้พัฒนาตนเอง
- สร้างแรงจูงใจในการทำงานจากการมีส่วนร่วมในการสัมมนา
- พัฒนางานให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
- เชื่อมความสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างผู้ทรงคุณวุฒิ / วิทยากรกับผู้เข้าร่วมสัมมนาหรือผู้บังคับบัญชาและผู้ร่วมงาน
- มีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในความรู้และเทคโนโลยีใหม่ ๆ
- ส่งเสริมพัฒนาและเตรียมบุคลากรให้ก้าวสู่ในตำแหน่งงานที่สูงขึ้น
- ผู้เข้าร่วมสัมมนามีความกระตือรือร้น ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ กล้าคิด
- กล้าแสดงออก ใช้ความคิดอย่างมีเหตุผล ได้วิเคราะห์ปัญหาร่วมกัน
ด้านบุคลากร
ด้านสถานที่
ด้านเนื้อหา
ด้านเวลา
ด้านงบประมาณ
- ชื่อหัวข้อสัมมนา ทันสมัย มีประโยชน์ไม่กว้างหรือแคบเกินไป มีขอบเขตเหมาะสมกับองค์กร / ผู้เข้าร่วม
- จุดมุ่งหมาย ชัดเจน มุ่งเน้นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของผู้เข้าร่วม ความเร่งด่วนของประเด็นหรือปัญหาที่ต้องการคำตอบ
- กำหนดการสัมมนา กลุ่มผู้ดำเนินการ กลุ่มผู้เข้าร่วม ระยะเวลา
- ระดับของการสัมมนา ระดับองค์กร ระดับวิชาชีพ ระดับจังหวัด / เขต ระดับชาติ ระดับนานาชาติ
- วันเดือนปีที่จัด ช่วงเวลาที่เหมาะสม สถานที่ที่จัด ผลประโยชน์ที่จะได้รับ
- การศึกษาดูงานนอกสถานที่ การทัศนะศึกษาสำหรับผู้เข้าร่วมสัมมนา หรือผู้ติดตาม
- ผู้จัดการสัมมนา หมายถึงคณะกรรมการ ประธาน รองประธาน เลขานุการ ฝ่ายทะเบียน ฝ่ายเอกสาร ฝ่ายเหรัญญิก ฝ่ายพิธีการ ฝ่ายอาคารสถานที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ฝ่ายปฏิคม ฝ่ายโสตทัศนูปกรณ์ ฝ่ายอาหารและเครื่องดื่ม ฝ่ายประเมินผล
- ผู้ทรงคุณวุฒิหรือวิทยากร ต้องเป็นมีความรู้ มีความเชี่ยวชาญ มีประสบการณ์สูงในหัวข้อที่จัดสัมมนา และควรเป็นผู้ที่สังคมยอมรับ
3.ผู้เข้าร่วมสัมมนาคือผู้ที่มีเป้าหมายร่วมกันหรือมีความสนใจเดียวกันหรือคล้ายคลึงกัน
- สถานที่ อาคาร ที่จอดรถ ระยะทาง การเดินทาง ความเป็นศูนย์กลาง
- ห้องประชุมใหญ่ มีขนาดพอเหมาะกับจำนวนผู้เข้าร่วมสัมมนา โต๊ะ เก้าอี้ แบบเดี่ยวหรือที่มีที่วางเอกสาร/เขียน เวทียกสูง โต๊ะเก้าอี้บนเวทีสูง podium, computer notebook or desktop, LCD projector, Microphone แบบตั้งโต๊ะแบบ wireless แบบกดแล้วพูดตำแหน่งลำโพงตำแหน่งทีวีวงจรปิด
- ห้องประชุมกลุ่มย่อย มีขนาดพอเหมาะกับจำนวนคนในกลุ่มย่อย โต๊ะเก้าอี้ podium computer LCD projector
- ห้องรับรองแขกพิเศษ เช่น ประธานเปิดการสัมมนา ผู้ทรงคุณวุฒิวิทยากร ควรอยู่ติดห้องประชุมใหญ่ หรือพื้นที่หน้าห้องประชุมใหญ่
- ห้องรับประทานอาหารสำหรับแขกพิเศษ หากไม่มีห้องแยกออกไป อาจจัดโต๊ะพิเศษและทำเครื่องหมายระบุไว้ว่าเป็นโต๊ะ VIP
- มุมพักผ่อน หรือรับประทานอาหารว่าง ที่อยู่ไม่ไกลจากห้องประชุมใหญ่
- ห้องน้ำ ควรมีเจ้าหน้าที่ดูแลให้สะอาดอยู่เสมอ อยู่ใกล้ห้องประชุม มีจำนวนพอเหมาะ มีกระดาษชำระ เจลล้างมือ กระดาษเช็ดมือ ไว้บริการ
- ห้องประสานงาน ใช้เป็นห้องเก็บเอกสารสำหรับการสัมมนา preceding, proceeding ควรมีอุปกรณ์เครื่องใช้อำนวยความสะดวก เช่น Computer, printer, battery สำหรับ wireless microphone, stationery, ป้ายชื่อวิทยากร ป้ายชื่อกรรมการ ปากกาเขียน whiteboard กระดาษ flip chart น้ำยาลบคำผิดอาจมีกระดาษถ่ายเอกสารและเครื่องถ่ายเอกสารไว้บริการด้วย
9.Business center เป็นห้องที่มี internet access, computer, wireless access
- ระยะเตรียมการ อาจใช้เวลาล่วงหน้าก่อนวันที่จัดสัมมนาเป็นระยะเวลาต่างๆกันแล้วแต่ระดับของการจัดสัมมนา เช่น ระดับภายในองค์กรอาจใช้เวลาเพียง 2-3 เดือน ระดับชาติ อาจใช้เวลาเป็นปีหรือถ้าเป็นระดับนานาชาติ ควรเตรียมการล่วงหน้าประมาณ 2-3 ปี
- ระยะเวลาที่จัดคณะกรรมการจะต้องตกลงกันว่าจะจัดสัมมนากี่วันในแต่ละวันมีกิจกรรม olsuna urarionssulitannln il Welcome Reception, Opening Ceremony, Lunch Symposium หรือไม่จัดให้มีบริการการศึกษาดูงานนอกสถานที่หรือมีการทำ Workshop หรือไม่หากเป็นการสัมมนาระดับนานาชาติควรคำนึงถึงฤดูกาลและเทศกาลและถ้าเป็นการสัมมนาระดับนานาชาติควรมี Cultural Night และ Farewell Party
- รายรับมาจากจากการลงทะเบียนงบประมาณจากองค์กรที่เป็นเจ้าภาพหรือเจ้าภาพร่วมจัดการสัมมนาและอาจได้มาจากการสนับสนุนของ บริษัท องค์กรวิชาชีพทั้งภาครัฐภาคเอกชนหรือ Non Government Organization (NGO) จากสถาบัน / องค์กร / องค์กรวิชาชีพที่ร่วมจัด
- รายจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายของค่าเช่าสถานที่ค่าจัดทำเอกสารค่าประชาสัมพันธ์ค่าอาหารค่าอาหารว่างค่าพาหนะและที่พักวิทยากรค่าตอบแทนวิทยากรค่าตอบแทนผู้ดำเนินรายการ ฯลฯ
การสัมมนาที่ดีที่ประสบความสำเร็จมาจากการมีทุกองค์ประกอบดีตั้งแต่คณะกรรมการจัดสัมมนาหัวข้อการสัมมนาเวลาที่เหมาะสมสถานที่ดีที่สำคัญที่อย่างยิ่งคือต้องมีวิทยากรที่มีคุณภาพมีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับของคนทั่วไปส่วนใหญ่จะทราบได้ว่าการจัดสัมมนาประสบความสำเร็จหรือไม่วัดได้โดยทำการประเมินผลซึ่งอาจทำแบบโดยใช้วิธีให้ผู้เข้าสัมมนาเขียนลงในใบประเมินผลหรือให้ประเมินแบบ on line ก็ได้แบบประเมินผลมักนิยมใช้รูปแบบ Likert Scale และถามความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมสัมมนาในหัวข้อต่างๆเช่นความเหมาะสมของโครงการสัมมนาวิทยากรสถานที่เอกสารการลงทะเบียนรวมทั้งกิจกรรมอื่น ๆ ที่จัดระหว่างการสัมมนาผู้จัดอาจถามว่าผู้เข้าร่วมสัมมนาได้รับประโยชน์จากการเข้าร่วมสัมมนาโดยตรงอย่างไรเช่นในด้านความรู้ทักษะการได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับวิทยากรและผู้เข้าร่วมสัมมนาท่านอื่นอาจถามรวมถึงการนำสิ่งที่ได้จาการสัมมนาไปใช้ประโยชน์ในการทำงานการพัฒนาตนเองในอนาคตหรือถามถึงการได้รับผลประโยชน์ทางอ้อมอื่น ๆ เช่นสิ่งแวดล้อมการท่องเที่ยวการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม
- การอภิปรายกลุ่ม (group discussion)
- การอภิปรายแบบคณะ (Panel Discussion)
- การชุมนุมปาฐกถาหรือการประชุมทางวิชาการ (Symposium)
- การสัมมนาเชิงปฏิบัติการ (Workshop)
- การสัมมนาแบบโต๊ะกลม (Round Table)
- รูปแบบการสัมมนา Role Play
การดำเนินการระหว่างการสัมมนา
การดำเนินการหลังการสัมมนา
การเตรียมการก่อนการสัมมนา
- สำรวจประเด็นปัญหา
- ตั้งคณะกรรมการกลาง
- เขียนโครงการสัมมนา
- ดำเนินงานเตรียมการสัมมนา
- ลงทะเบียน
- เปิดการสัมมนา
- จัดประชุมกลุ่มใหญ่
- จัดประชุมกลุ่มย่อย
- จัดประชุมรวม
- ปิดการสัมมนา
- วิเคราะห์ผลการศึกษา
- รายงานผู้บังคับบัญชา
- รายงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
- ดำเนินงานงบประมาณ
- ติดตามผลและวิเคราะห์
เกษกานดา สุภาพจน์ (2549 หน้า 56 ) ได้กล่าวว่า การสัมมนาจะบรรลุวัตถุประสงค์ผู้เข้าร่วมสัมมนาพึงมีจรรณยาบรรณทางอาชีพดังต่อไปนี้
- มีความจริงใจในการเข้าร่วมสัมมนาทุกๆฝ่ายจะต้องให้ความเอาใจใส่ สนใจ การสัมมนาอย่างแท้จริง และจริงใจ โดยการตั้งใจฟังวิทยากรบรรยาย ร่วมเสนอความคิดเห็นและอภิปรายด้วยความมีเหตุผล เที่ยงตรง ไม่แสดงการคัดค้านด้วยอคติส่วนตน
- พูดจาสุภาพและเหมาะสมกาลเทศะ
- รักษาอารมณ์ให้มั่นคงและเป็นปกติ ไม่ลุแก่โทสะ เพื่อที่จะให้ได้มาในสิ่งที่ตนปรารถนาเท่านั้น ควรคิดว่า ทุกสิ่งทุกอย่างต้องอาศัยแนวคิดหลายๆทาง พินิจพิเคราะห์ด้วยหลักการและเหตุผล การเปลี่ยนแปลงสิ่งใดก็ตาม บางครั้งอาจไม่อาจเปลี่ยนได้ในทันที บางครั้งต้องใช้เวลาค่อยเป็นค่อยไป
- ปฏิบัติตนต่อผู้เข้าร่วมสัมมนาด้วยความเคารพในคุณค่าแห่งความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกัน รู้จักยอมับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ไม่อวดแบ่งแสดงตนว่าเก่งคนเดียว หรือใช้ความรู้ที่มีอยู่ในทางไม่ชอบธรรม
- การถ่ายทอดความรู้ การแสดงความคิดเห็น มุ่งเน้นเพื่อให้เกิดความรู้ ทักษะและเจตคติอันเป็นคุณประโยชน์ต่อผู้ร่วมสัมมนาเป็นสาคัญ
- มีน้าใจ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีเมตตากรุณาเกื้อกูลประโยชน์จากการสัมมนา ให้แก่ผู้เข้าร่วมสัมมนาซึ่งกันและกัน
- แนวโน้มในวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
- ความสำคัญของประเด็นปัญหาและข้อถกเถียงในวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
อ้างอิง
สมจิตร เกิดปรางค์ และ นุตประวีณ์ เลิศกาญจนวัต. (2545). การสัมมนา. กรุงเทพฯ: ส่งเสริมวิชาการ.
เกษกานดา สุภาพพจน์. (2545). การจัดสัมมนา. กรุงเทพฯ:ศูนย์ส่งเสริมวิชาการ.
ผล ยาวิชัย. (2554) สัมมนา. กรุงเทพฯ:โอเดียนสโตร์.
สมจิตร เกิดปรางค์ และนุตประวีณ์ เลิศกาญจนวัฒ. (2545). การสัมมนา. :กรุงเทพ : ศูนย์ส่งเสริมวิชาการ.