Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ทฤษฎีมนุษยนิยม (Humanistic Theory) - Coggle Diagram
ทฤษฎีมนุษยนิยม (Humanistic Theory)
ทฤษฎีมนุษยนิยมนี้มีความเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนมีความสามารถ มีศักยภาพที่จะพัฒนา ตนเองไปในทางที่ดี มีความรักตนเอง มีการเจริญเติบโต มีความต้องการพื้นฐานที่ต้องการการ ตอบสนอง มีความรับผิดชอบและเข้าใจตนเองอย่างแท้จริง มนุษย์จะควบคุมตนเองและตัดสินใจได้ด้วยตนเอง
ให้ความสำคัญของการเป็นมนุษย์ และมองมนุษย์ว่ามีคุณค่า มีความดีงาม มีความสามารถ มีความต้องการและมีแรงจูงใจภายในที่จะพัฒนาศักยภาพของตน หากบุคคลได้รับอิสรภาพและเสรีภาพ มนุษย์จะพยายามพัฒนาตนเองไปสู่ความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์
ทฤษฎีความต้องการของมาสโลว์ (Maslow’s Hierarchy of Needs)
นักทฤษฎีที่สำคัญ คือ อับราฮัม มาสโลว์(Abraham Maslow: 1908-1970)ได้รับการยกย่องว่าเป็นบิดาแห่งจิตวิทยากลุ่มมนุษยนิยม (Halter, 2014) มาสโลว์พัฒนาทฤษฎีบุคลิกภาพและแรงจูงใจตามลำดับขั้นความต้องการของมนุษย
โดยแบ่งความต้องการของมนุษย์
ออกเป็น 6 ขั้น
ความต้องการความรักและเป็นเจ้าของ (Belonging and love needs)
เมื่อมนุษย์รู้สึกว่าตนเองปลอดภัยก็จะต้องการความรักและความเป็นเจ้าของเพื่อขจัดความรู้สึกโดด
เดี่ยว โดยมาสโลว์ให้ความส าคัญกับการมีครอบครัว มีบ้าน และการเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม
ความต้องการความภาคภูมิใจ (Esteem needs)
เมื่อมนุษย์ได้รับการตอบสนองเรื่องความรักความเป็นเจ้าของแล้ว มนุษย์ก็จะต้องการการยอมรับยกย่องในสังคม ซึ่งจะทำให้เกิดความรู้สึกมั่นคง ความภาคภูมิใจ ตระหนักถึงความมีคุณค่าในตนเอง หากไม่ได้รับการตอบสนองความต้องการนี้จะเกิดเป็นปมด้อยและมีความรู้สึกไร้ค่า
ความต้องการความปลอดภัย (Safety needs)
เมื่อมนุษย์ได้รับการตอบสนองความต้องการขั้นแรกแล้ว มนุษย์ก็จะพัฒนาไปสู่ความต้องการความปลอดภัย การคุ้มครองจากความกลัวและความวิตกกังวล
ความต้องการตื่นรู้ในตนเอง (Self-transcendence)
เป็นความต้องการการตื่นรู้ทางจิตวิญญาณ บุคคลที่มีความตื่นรู้ในตนเองจะมีประสบการณ์ในลักษณะสูงสุดคืนสู่สามัญมีความเป็นธรรมชาติ อยู่กับสภาวะที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน (Being) มองโลกอย่างเป็นองค์รวมมากกว่าองค์รวมของภาวะสุขภาพ
ความต้องการด้านร่างกาย (Physiological needs)
เป็นความต้องการขั้นพื้นฐานของมนุษย์ เช่น อาหาร น้ า อากาศ การนอนหลับพักผ่อน การขับถ่าย เป็นต้น ถ้าความต้องการขั้นนี้ได้รับการตอบสนอง มนุษย์ก็จะแสวงหาความต้องการในขั้นที่ 2 แต่ถ้าประสบความล้มเหลวก็จะไม่ได้รับการกระตุ้นให้เกิดความต้องการในระดับที่สูงขึ้น
ความต้องการเป็นตนเองอย่างแท้จริง (Self-actualization)
เป็นความต้องการที่จะเป็นในทุกๆ อย่างที่เขาจะสามารถเป็นได้ เป็นความต้องการของบุคคลในการที่จะเลือกเส้นทางที่จะเติมเต็มชีวิต และสร้างความผาสุกภายในจิตใจ
มาสโลว์ อธิบายว่า พฤติกรรมเป็นผลมาจากแรงจูงใจของบุคคลที่จะได้รับการตอบสนองความต้องการพื้นฐานตามลำดับขั้น เมื่อบุคคลไม่ได้รับการสนองตอบตามความต้องการพื้นฐานที่เหมาะสม ย่อมก่อให้เกิดการเสียสมดุลของจิตใจขึ้น หากปรับตัวไม่ได้จะทำให้เกิดปัญหาสุขภาพจิตตามมา
ทฤษฎีการเน้นผู้ใช้บริการเป็นศูนย์กลางของโรเจอร์ส (Client-Centered
Theory)
นักทฤษฎีที่สำคัญ คือ คาร์ล โรเจอร์ส (Carl Rogers: 1902-1987) โดยมุ่งเน้นศูนย์กลางของการช่วยเหลืออยู่ที่ตัวผู้ป่วยเป็นสำคัญ เขาเชื่อว่ามนุษย์จะใช้ความสามารถของตนเองที่มีอยู่ในขณะนั้นปรับเปลี่ยนตนเองจากภาวะที่สุขภาพจิตไม่ดีไปสู่ภาวะสุขภาพจิตดีบุคคลมีความผิดปกติทางพฤติกรรม เนื่องจากการมีอัตมโนทัศน์(Self-concept) ไม่เหมาะสม การบำบัดโดยเน้นผู้ใช้บริการเป็นศูนย์กลาง (Client-Centered-Therapy) มุ่งเน้นที่ความสามารถของผู้ใช้บริการที่มีอยู่ในการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตนเอง
การบำบัดโดยผู้ใช้บริการเป็นศูนย์กลางใช้หลักการพื้นฐาน 3
ประการ
การยอมรับทางบวกโดยปราศจากเงื่อนไข (Unconditional Positive
Regard)
บุคคลจะเติบโตและมีความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ต้องมีคุณค่าอย่างที่เขาเป็น ผู้บำบัดต้อง
ยอมรับในตัวผู้ใช้บริการอย่างที่เขาเป็นอยู่
ความเข้าใจในความรู้สึก (Empathy)
เป็นความสามารถในการเข้าใจความรู้สึกของผู้ใช้บริการ เข้าใจในสิ่งที่อ่อนไหวได้ถูกต้อง เข้าใจประสบการณ์และความรู้สึกในปัจจุบัน (Here and now)
ความสอดคล้องกลมกลืน (Congruence)
มนุษย์จะมีการพัฒนาไปสู่ความเป็นตนเองอย่างแท้จริงได้ต้องอยู่ในสภาวะของความสอดคล้องกลมกลืน ซึ่งต้องอาศัยความจริงใจ(Genuine) และความเป็นจริง (Authentic) ผู้บำบัดต้องแสดงความจริงใจต่อผู้ใช้บริการโดยการเปิดโอกาสให้เขาได้มีประสบการณ์ตามความเป็นจริงของเขา
ทฤษฎีอัตถิภาวะนิยม (Existentialist)
ทฤษฎีอัตถิภาวะนิยม กล่าวถึงมนุษย์ในแง่ของความเป็นเอกัตถบุคคล และปัญหาเกี่ยวกับการคงอยู่ของแต่ละบุคคล มนุษย์เป็นผู้มีส านึกในตนเองตลอดเวลา แม้กระทั่งวาระสุดท้ายที่ทุกคนต้องประสบ คือ ความตาย ทฤษฎีนี้ไม่เชื่อและไม่ยอมรับว่าบุคคลเป็นผลถ่ายทอดทางพันธุกรรมหรือสิ่งแวดล้อม แต่มีความเชื่อว่ามนุษย์เป็นผู้กำหนดโชคชะตาของตนเอง นั่นคือมนุษย์มีอิสระที่จะเลือกทางเดินชีวิตและมีความรับผิดชอบต่อชีวิตของตนเอง
ความเชื่อของทฤษฎี
การตระหนักต่อความจริงของชีวิตจะเป็นการเพิ่มและส่งเสริมศักยภาพ
สำหรับการเปลี่ยนแปลง
มนุษย์เป็นผู้แก้ไขปัญหาของตน เป็นผู้กำหนดว่าจะกระทำหรือไม่กระทำ
สิ่งใด
มนุษย์มีอิสระที่จะพัฒนาศักยภาพของตนให้ถึงขีดสูงสุด
หากมนุษย์รับรู้ว่าตนขาดเสรีภาพในการที่จะกระทำหรือแสดงพฤติกรรมหรือรับรู้ว่าการกระทำของตนเองอยู่บนความคาดหวังของผู้อื่นแล้ว ย่อมส่งผลให้จิตใจเสียสมดุลได้นอกจากนี้นักทฤษฎีกลุ่มนี้ยังเชื่อว่าบุคคลที่ขาดความตระหนักในตนเองนั้น จะรู้สึกเปล่าเปลี่ยว ขาดกำลังใจและเศร้า อันจะส่งผลให้บุคคลละเลยโอกาสที่จะสร้างสัมพันธภาพกับบุคคลอื่นได้
การจำแนกระดับความต้องการ
แบ่งเป็น 2 ระดับคือ
ความต้องการระดับต่่ำ (Lower Level Needs) หรือความพึงพอใจภายนอก ได้แก่ ความต้องการทางร่างกาย ความต้องการความมั่นคงปลอดภัย
ความต้องการระดับสูง (HigherLevel) ซึ่งเป็นความพึงพอใจภายใน ได้แก่ความต้องการทางสังคมและความรัก , ความต้องการการยอมรับความต้องการความสำเร็จในชีวิต