Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 4.1 ความผิดปกติของการตั้งครรภ์ - Coggle Diagram
บทที่ 4.1 ความผิดปกติของการตั้งครรภ์
อาการแพ้ท้องอย่างรุนแรง (Hyperemesis gravidarum)
สาเหตุ
ระดับของฮอร์โมนที่สร้างจากรก HCG & Estrogen สูงขึ้น
ผลของฮอร์โมน Progesterone ทำให้กระเพาะอาหารเคลื่อนไหวช้าลง
ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
สภาพจิตใจของสตรีตั้งครรภ์ไม่ปกติ
ความไม่สมดุลของระดับฮอร์โมน
ปัจจัยส่งเสริม
อายุน้อย ครรภ์แรก
การตั้งครรภ์แฝด ซึ่งรกใหญ่กว่าปกติ
ครรภ์ไข่ปลาอุก ซึ่งรกเจริญผิดปกติแต่ไม่มีตัวเด็ก
เคยมีประวัติ คลื่นไส้ อาเจียน ในขณะตั้งครรภ์ก่อน
มีประวัติการเจ็บป่วยทางจิต
เป็นสตรีที่มีลักษณะอารมณ์ตึงเครียดมาก่อน
อาการแสดง แบ่งออกได้เป็น 3 ระยะ
อาการไม่รุนแรง
อาเจียนน้อยกว่า 5 ครั้ง/วัน สามารถทำงานได้ตามปกติ
ลักษณะอาเจียนไม่มีน้ำหรือเศษอาหาร
น้ำหนักตัวลดลงเล็กน้อย แต่ไม่มีอาการขาดสารอาหาร
มารดาสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้
อาการรุนแรงปานกลาง
อาเจียนติดต่อกันมากกว่า 5-10 ครั้ง/วัน
อาเจียนติดต่อกันไม่หยุดภายใน 2-4 ชั่วโมง
อ่อนเพลีย ไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้
น้ำหนักตัวลด มีอาการขาดสารอาหาร
มีภาวะเลือดเป็นกรด
อาการรุนแรงมาก
อาเจียนมากกว่า 10 ครั้ง/วัน ไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ นอนอยู่บนเตียงตลอดเวลา
อาเจียนทันทีภายหลังรับประทานอาหาร และอาเจียนติดต่อกันเกิน 4 สัปดาห์
เกิดการขาดสารอาหารอย่างรุนแรง
การดูแลรักษา
ให้ดื่มของอุ่นๆ ทันทีที่ตื่นนอน เช่น นมชง โอวัลตินหรือน้ำอุ่น
แนะนำให้รับประทานอาหารแข็งที่ย่อยง่าย เช่น ขนมปังปิ้ง
ให้ยาระงับประสาท หรือยาแก้คลื่นไส้ อาเจียน
ให้วิตามินและแร่ธาตุ วิตามินที่สำคัญ ได้แก่ บี 1 บี 6 และบี 12
ชั่งน้ำหนักตัวทุกวัน
สำหรับรายที่เป็นมากต้องรับการรักษาในโรงพยาบาล ควรงดอาหารทางปากตลอด 24 ชั่วโมงแรก ให้สารน้ำและเกลือแร่ทางหลอดเลือดดำ
หลังรับประทานอาหารไม่ควรนอนทันที
การตั้งครรภ์แฝด
เป็นการตั้งครรภ์ที่มีจำนวนทารกในครรภ์มากกว่าหนึ่งคนขึ้นไป ยิ่งมีจำนวนมากเท่าใด อัตราการสูญเสียทารกจะมากยิ่งขึ้น
ปัจจัยส่งเสริม
กรรมพันธุ์
เชื้อชาติ
อายุและจำนวนครั้งของการคลอดบุตร
ภาวะทุพโภชนาการอาจลดการเกิดครรภ์แฝด
ยากระตุ้นดารตกไข
ความสูงของร่างกายซึ่งพบว่าคนสูงจะมีอุบัติการณ์เพิ่มขึ้น
ชนิดของครรภ์แฝด
Monozygotic (Identical) twins แฝดชนิดนี้เป็นแฝดแท้ (True twins)
Dizygotic (Fraternal) twins แฝดชนิดนี้เป็นแฝดเทียม (False twins)
การวินิจฉัย
การซักประวัติ
การตรวจร่างกายและหน้าท้อง
การตรวจภายใน
การตรวจพิเศษ
การดูแลสุขภาพสตรีตั้งครรภ์แฝด
ระยะตั้งครรภ์
แนะนำให้มาฝากครรภ์ตั้งแต่เริ่มแรกของการตั้งครรภ์ และมาตรวจตามนัดทุกครั้ง
การให้สตรีตั้งครรภ์แฝดรับประทานอาหารที่มีประโยชน
ควรหลีกเลี่ยงงานที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ควรงดการทำงานหนัก
การทำจิตใจให้สบาย ผ่อนคลาย ไม่เครียดหรือวิตกกังวลมากเกินไป
งดการมีเพศสัมพันธ์และการกระตุ้นเต้านม
การสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ปวดศีรษะ ตาพร่ามัว บวม เด็กดิ้นน้อยลง ควรมาพบแพทย์
ควรรับไว่ในรพ.เมื่ออายุครรภ์ 36 สัปดาห์
ระยะคลอด
ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดโดยการผ่อนคลาย นวด ลูบหน้าท้อง การควบคุมการหายใจ
จัดให้นอนพักผ่อนบนเตียงในรายที่มีถุงน้ำคร่ำแตก
ดูแลให้ได้รับสารน้ำและอาหารทางหลอดเลือดดำ
ช่วยแพทย์ในการทำคลอดทางช่องคลอด
ภายหลังทารกคนแรกคลอดแล้ว ไม่ควรให้ทารกคนที่ 2
คลอดหลังจากทารกคนแรกคลอดนานเกิน 20 นาที
ระยะหลังคลอด
เฝ้าระวังการตกเลือดหลังคลอด
ให้ยากระตุ้นการหดรัดตัวของกล้ามเนื้อมดลูก
ประเมินภาวะติดเชื้อ
การให้ธาตุเหล็กทดแทนปริมาณเลือดที่เสียไป
ช่วยเหลือให้มีการปรับตัวที่เหมาะสม โดยเฉพาะการเลี้ยงบุตรแฝด
ทารกตายในครรภ์
การตายของทารกก่อนคลอด โดยไม่คำนึงถึงอายุครรภ์
Early fetal death ตายก่อน 20 สัปดาห์
Intermediate fetal death ตายระหว่าง 20-28 สัปดาห์
Late fetal death ตายตั้งแต่ 28 สัปดาห์ขึ้นไป
สาเหตุ
โรคที่เกิดเนื่องจากการตั้งครรภ์
.โรคที่เกิดร่วมกับการตั้งครรภ์
โรคติดเชื้อ
ภาวะผิดปกติของทารก
ความผิดปกติของโครโมโซม
การได้รับอุบัติเหตุของหญิงตั้งครรภ์ที่มีผลต่อทารกในครรภ์
อาการและอาการแสดง
.หญิงตั้งครรภ์ให้ประวัติว่าเด็กไม่ดิ้น มีเลือดหรือมีน้ำสีน้ำตาลออกทางช่อง น้ำหนัก ตัวลดลง เต้านม
ดัดตึงน้อยลง นุ่มและเล็กลง
ตรวจหน้าท้อง พบระดับมดลูกตํ่ากว่าอายุครรภ์และคลำตัวทารกพบว่าไม่รู้สึกว่า ทารกดิ้นมา
กระทบมือ ฟัง FHS ไม่ได้
การวินิจฉัย
การซักประวัติ
การตรวจร่างกาย HF < GA , ฟัง FHS ไม่ได้, คลำพบกะโหลกศีรษะนิ่มกว่าปกติ ตรวจพบมีสิ่งขับหลั่งสีน้ำตาลไหลออกจากช่องคลอด
การถ่ายภาพรังสี (X-rays) พบอาการแสดงที่สำคัญ
Spalding’s sign แสดงว่ามีการเกยกันของกระดูกกะโหลกศีรษะเนื่องจากเนื้อสมอง
บางส่วนเหลวเละไป (liquefaction) สมองมีขนาดเล็กลง พบหลังทารกตาย 1 สัปดาห์
Deuel sign คือ มีการตั้งของของเหลวระหว่างชั้นไขมันของหนังศีรษะและ กะโหลก
ศีรษะ
แนวทางการรักษา
รอให้เจ็บครรภ์และคลอดเอง ประมาณ 90 %
การทำให้ครรภ์สิ้นสุดลง
ในรายที่มีภาวะเลือดไม่แข็งตัว การใช้heparin จะได้ผลดี
ภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด
การเจ็บครรภ์หรือการคลอดขณะอายุครรภ์
น้อยกว่าหรือเท่ากับ 37 สัปดาห์
มีปัจจัยชักนำ
ถุงน้ำคร่ำแตกก่อนกำหนด
การติดเชื้อของน้ำคร่ำ
ความผิดปกติของทารกหรือรก
เคยมีประวัติคลอดก่อนกำหนด
มดลูกขยายโตกว่าปกติ มักพบจากการตั้งครรภ์แฝด หรือครรภ์แฝดน้ำ
ทารกเสียชีวิตในครรภ์
ความผิดปกติของมดลูก
ความผิดปกติของรก
ห่วงอนามัยค้างอยู่ในโพรงมดลูก
แนวทางการรักษา
ตรวจหาข้อห้ามสำหรับดำเนินการตั้งครรภ์ต่อ
ในผู้ที่มีการเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด
ไม่มีการหดรัดตัวของมดลูก และไม่มีการบางตัว ของปากมดลูก ไม่มีการรักษาใดๆ
มีการหดรัดตัวของมดลูก แต่ไม่มีการบางตัว ของปากมดลูก ให้นอนพักอย่างเพียงพอ และควรรักษาด้วยให้สารน้ำอย่างเพียงพอ ในบางรายโดยไม่ต้อง ใช้ยายับยั้งการหดรัดตัวของมดลูก
ที่ไม่มีการหดรัดตัวของมดลูก แต่มีการบางตัวของปากมดลูก นอนพัก และพิจารณา การผ่าตัดโดยการเย็บผูกปากมดลูก
มีการหดรัดตัวของมดลูก และมีการบางตัวของปากมดลูก ให้การวินิจฉัยว่าเป็นการคลอดก่อนกำหนด
อาการและอาการแสดง
เหมือนกับการเจ็บครรภ์จริง
มีการหดรัดตัวของมดลูกอย่างสม่ำเสมอ
มีการเปลี่ยนแปลงของปากมดลูก
ภาวะ PROM
การมีถุงน้ำรั่วหรือแตกก่อนเริ่มมีการเจ็บครรภ์อย่างน้อย 1 ชั่วโมงโดยไม่จำกัดอายุครรภ์
ปัจจัยเสี่ยง
การอักเสบติดเชื้อในถุงน้ำคร่ำ(chorioamnionitis) ที่เกิดก่อนแล้ว
มีการอักเสบติดเชื้อที่ปากมดลูกหรือช่องคลอด
ครรภ์แฝด(twins) และครรภ์แฝดน้ำ(hydramnios)
การทำหัตถการเพื่อการวินิจฉัยโรคทารกก่อนคลอด
ทารกในครรภ์อยู่ในท่าผิดปกต
รกลอดตัวก่อนกำหนด(abruptio placenta) หรือรกเกาะต่ำ(placenta previa)
ปากมดลูกปิดไม่สนิท(cervical incompetence) หรือปากมดลูกสั้น
ปัจจัยส่วนบุคคลหรือพฤติกรรมของสตรีตั้งครรภ์ เช่น มีเศรษฐานะต่ำ สูบบุหรี่มากกว่า 20
มวน/วัน
การวินิจฉัย
การซักประวัติมีประวัติน้ำไหลออกจากช่องคลอดก่อนเข้าสู่ระยะคลอด
การตรวจร่างกาย (Speculum เห็นน้ำคร่ำไหลจากปากมดลูกซึ่งเป็นการวินิจฉัยที่แน่นอนที่สุด
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
Nitrazine paper test
กระดาษเปลี่ยนสีจากเหลืองเป็นสีน้ำเงิน
การทดสอบรูปใบเฟิร์น (Fern test) เห็นผลึกรูปใบเฟิร์น
การทดสอบไนบลู (Nile’ blue test) พบเซลล์ไขมัน(neutral lipid) ของทารกซึ่งติดสีแสด
แนวทางการรักษา
ในรายที่มีการติดเชื้อ
รักษาโดยการให้ยาปฏิชีวนะในรายที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 38 องศา
เซลเซียส
กระตุ้นให้เกิดการเจ็บครรภ์และคลอดโดยไม่ต้องคำนึงถึงอายุครรภ
ถ้าไม่มีข้อห้ามในการคลอดทางช่องคลอดให้คลอดทางช่องคลอดได้
ในรายที่ไม่มีการติดเชื้อพิจารณาให้การรักษาโดยการคำนึงถึงอายุครรภ
GA < 37 ให้การรักษาแบบประคับประคอง
GA < 37 ปล่อยคลอด และควรให้คลอดภายใน 24 ชั่วโมง
การให้คอร์ติโคสเตียรอยด์
เช่น dexamethasone
อาการและอาการแสดง
ประวัติ น้ำไหลออกทางช่องคลอด
สัญญาณชีพ เปลี่ยนแปลง กรณีมีการติดเชื้อในโพรงมดลูกร่วม
น้ำคร่ำสีขุ่น มีกลิ่นเหม็น
CBC พบ เม็ดเลือดขาวเพิ่มขึ้นผิดปกติ
กดเจ็บที่มดลูก
U/S พบน้ำคร่ำน้อยกว่าปกติ หรือลดลง
ครรภ์เกินกำหนด
การตั้งครรภ์ที่
มีอายุครรภ์ 42 สัปดาห์เต็มหรือมากกว่า
สาเหตุ
ดัชนีมวลกายก่อนตั้งครรภ์ ≥ 25 kg/m2
ครรภ์แรก
มีประวัติเคยตั้งครรภ์เกินกำหนดมาก่อน
หญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุต่ำกว่า 25 ปี
หญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะแทรกซ้อนของการตั้งครรภ์ปัจจุบัน
ผลกระทบของการตั้งครรภ์เกินกำหนดต่อทารก
Morbidity and Mortality
ทารกตัวโตกว่าปกติ
ขี้เทาปนในน้ำคร่ำ
การดูแลรักษา
ติดตามทารกในครรภ์ก่อนคลอด
การชักนำการคลอด
ความผิดปกติของน้ำคร่ำ
ภาวะน้ำคร่ำมากผิดปกติหรือครรภ์แฝดน้ำ
ภาวะตั้งครรภ์ที่มีจำนวนน้ำคร่ำมากผิดปกติเกินเปอร์เซนไตล์ที่ 95
ของแต่ละ
อายุครรภ์หรือ AFI เกิน 25 ซม. ถ้าวัดปริมาตรได้โดยตรงจะถือที่มากกว่า 2,000 มล. ตอนครรภ์ครบกำหนด
สาเหตุ
สาเหตุที่เกี่ยวกับทารก
มีปัญหาในการกลืนน้ำคร่ำ
การตีบตันของทางเดินอาหาร
ทารกมีความผิดปกติของโครโมโซม
อื่นๆ
สาเหตุที่เกี่ยวกับมารดา
มารดาเป็นเบาหวาน โดยเฉพาะที่ควบคุมไม่ได้
การวินิจฉัย
จากการซักประวัติ
เคยตั้งครรภ์แฝดน้ำ มีเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ขนาดของหน้าท้องขยายมาก แน่นอึดอัด
การตรวจร่างกาย
ขนาดมดลูกใหญ่กว่าอายุครรภ์ ร่วมกับการที่คลำส่วนของทารกในครรภ์ได้ยาก
อัลตราซาวด์
การวัดแอ่งที่ใหญ่ที่สุด (SDP)
และ AFI
อาการและอาการแสดง
แน่นอึดอัด หายใจลำบาก
ขนาดมดลูกใหญ่กว่าอายุครรภ์ ร่วมกับการที่คลำส่วนของทารกในครรภ์ได้ยาก
ฟัง FHS ได้ไม่ชัดเจน
ตรวจหน้าท้องพบ Fluid thrill
อาจมีอาการบวมที่ขา หน้าท้อง และอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก
แนวทางการดูแลรักษา
ระยะตั้งครรภ์
ให้นอนพัก หากแน่นอึดอักมากให้นอนศีรษะสูง
ให้รับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง
รักษาโรคหรือภาวะผิดปกติร่วม
ถ้าพบวามผิดปกติของทารก อาจสิ้นสุดการตั้งครรภ์
ระยะเจ็บครรภ์
การคลอดจะดำเนินไปตามปกติ
เมื่อทารกอยู่ในท่าผิดปกติหรือสายสะดือย้อย ให้ C/S
อาจตกเลือดหลังคลอด ป้องกันโดยให้ยา Methegin หรือ Oxcytocin หลังทารกคลอด
ภาวะน้ำคร่ำน้อย
ภาวะตั้งครรภ์ที่มีจำนวนน้ำคร่ำน้อยกว่าปกติ ในบางรายปริมาณน้ำคร่ำมีน้อยจากค่าปกติมาก อาจจะลดลงจนเหลือเพียง 2-3 มล.
สาเหตุ
ทารกในครรภ์มีความผิดปกติของไตและระบบทางเดินปัสสาวะ
ความผิดปกติของโครโมโซม
รกเสื่อมสภาพ
ทากเจริญเติบโตช้าในครรภ์
การรั่วของน้ำคร่ำก่อนกำหนดเป็นเวลานาน
การใช้ยาขณะตั้งครรภ์ ได้แก่ ยากลุ่ม prostaglandin synthase inhibitor
การรักษา
การใส่น้ำเกลือ isotonic เข้าไปในถุงน้ำคร่ำในปริมาณที่พอเหมาะ
การรักษาภาวะเจริญเติบโตช้าและตรวจดูความพิการแต่กำเนิด
การวินิจฉัย
จากการซักประวัติ
มีน้ำเดินทางช่องคลอด มดลูกไม่ค่อยโตขึ้น
จากการตรวจร่างกายและหน้าท้อง
ความสูงของมดลูกน้อยกว่า
อายุครรภ์
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
AFI น้อยกว่าหรือเท่ากับ 5 ซม.
ภาวะ IUGR
การจำแนก
Symmetrical IUGR
ทารกในกลุ่มนี้จะมีอัตราการเจริญเติบโตที่ช้าในทุกอวัยวะ
มักเกิดตั้งแต่ระยะเริ่มแรก
ของการตั้งครรภ์
Asymmetrical IUGR
ทารกในกลุ่มนี้จะมีขนาดเล็กในทุกระบบอวัยวะ ยกเว้นขนาดศีรษะ
มักเกิดในช่วงระยะท้ายของการตั้งครรภ์
Combined type
-ทารกที่มีการเจริญเติบโตช้าแบบผสมผสาน
สาเหตุ
สาเหตุจากมารดา
น้ำหนักก่อนตั้งครรภ์
น้ำหนักที่ขึ้นระหว่างการตั้งครรภ์
ปัญหาเกี่ยวกับการรับประทาน
อาหาร,ภาวะโภชนาการ
การใช้สารเสพติดต่างๆ เช่น เหล้า บุหรี
สาเหตุจากทารก
multiple fetuses
chromosome abnormalities
structural disorder
สาเหตุจากรกและสายสะดือ
placental mosaicism
poor placental perfusion
velamentous or marginal cord insertion
แนวทางการดูแลรักษา
Screening for risk factors สตรีตั้งครรภ์ทุกราย
การซักประวัติการตั้งครรภ์ที่ผ่านมา
ควรมีการตรวจ FH ทุกครั้งที่มาฝากครรภ์
การติดตาม U/S
การดูปริมาณน้ำคร่ำ
การ Survelillance เช่น NST หรือ BPP
การวินิจฉัย
การตรวจร่างกาย วัด FH
U/S ตรวจดู AC,HC
การตรวจหาปริมาณน้ำคร่ำ
การตั้งครรภ์ที่มีภาวะเสี่ยง
การตั้งครรภ์ในวัยรุ่น
ปัจจัย
ด้านสังคมและประชากร
ด้านการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย
พฤติกรรมทางเพศเปลี่ยนแปลงไป
การขาดความรู้ความเข้าใจเรื่องเพศศึกษา
ด้านจิตสังคม
ผลกระทบ
ด้านร่างกาย
ด้านจิตใจ
การศึกษา เศรษฐกิจและสังคม
การตั้งครรภ์ในวัยรุ่นต่อบุตร
adolescents : ช่วงอายุ 15-19 ปี
younger adolescents : ช่วงอายุ 10-14 ปี
แนวทางการดูแล
ระยะตั้งครรภ์
เน้นการให้ข้อมูล
การปรับบทบาทการเป็นมารดา
ระยะคลอด
ให้การพยาบาลเหมือนมารดารอคลอดรายอื่น ยกเว้นรายที่มีความผิดปกติ
ให้ความสุขสบายทั้งร่างกายและจิตใจ
ระยะหลังคลอด
เน้นการปรับบทบาทในการเลี้ยงบุตร การคุมกำเนิด
หญิงตั้งครรภ์อายุมาก
หญิงที่มีการตั้งครรภ์ที่มีอายุครบ 35 ปี
ก่อนถึงวันกำหนดคลอด
ปัจจัย
ด้านสังคมประชากร
: ศึกษาในระดับที่สูงขึ้นทำให้มีความล่าช้าในการตั้งครรภ์
ด้านเศรษฐกิจ
: ค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น
ด้านการแพทย์
: เทคโนโลยีแก้ไขภาวะมีบุตรยาก
ผลกระทบ
ต่อหญิงตั้งครรภ์
: การแท้งบุตร กาตั้งครรภ์แฝด GDM,PIH คลอดก่อนกำหนด
ต่อทารกในครรภ์
: ความผิดปกติทางโครโมโซม พิการแต่กำเนิด น้ำหนักตัวน้อย อัตราตายปริกำเนิดสูงขึ้น
แนวทางการดูแล
ระยะตั้งครรภ์
คัดกรองความผิดกปติขิงโครโมโซม
U/S อย่างละเอียดในไตรมาสที่ 2
ระยะคลอด
เฝ้าระวังคลอดติดขัด
เฝ้าระวังเป็นพิเศษในกรณีมีโรคร่วม
ระยะหลังคลอด
เฝ้าระวังเป็นพิเศษในกรณีมีโรคร่วม
วางแผนการตั้งครรภ์ครั้งต่อไปหรือการคุมกำเนิด
การตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์
การตั้งครรภ์ที่เกิดขึ้นเมื่อยังไม่ต้องการให้เกิดขึ้น และสตรีมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อการตั้งครรภ์
ปัจจัย
ด้านสังคมประชากร
: อายุ อาชีพ รายได้ สถานภาพ
ด้านชีวภาพ
: มารดามีภาวะแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์
ด้านจิตสังคม
: ถูกข่มขืน ตั้งครรภ์ในวัยเรียน
ด้านพฤติกรรมการคุมกำเนิด
ผลกระทบ
ต่อตัวหญิงตั้งครรภ์
ด้านร่างกาย : การติดเชื้อ การตกเลือด ในกรณีที่ตัดสินใจทำแท้ง
ด้านจิตสังคม : มารดารู้สึกเครียด วิตกกังวล ท้อแท้ รู้สึกผิด
ต่อบุตร
เสียชีวิตจากการทำแท้ง
มีปัญหาสัมพันธภาพระหว่างมารดาและบุตร บุตรถูกทอดทิ้ง
ต่อครอบครัว
บุตรเพิ่มขึ้นจากการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์
มีภาระค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูบุตรเพิ่มขึ้น
ต่อสังคม
เกิดปัญหาการทอดทิ้งบุตร
แนวทางการดูแล
ประเมินปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์
ประเมินพัฒนกิจของการตั้งครรภ์
ประเมินภาวะสุขภาพ
ประเมินความรู้พื้นฐาน
ประเมินการสนับสนุน
หญิงตั้งครรภ์ที่มีปัญหาความรุนแรงในครอบครัว
ปัจจัย
ส่วนบุคคล
ด้านครอบครัว
ด้านสังคม
ผลกระทบ
เกิดการบาดเจ็บจากการกระทำความรุนแรง
เศร้า เครียด วิตกกังวล
ปัญหาเกี่ยวกับสัมพันธภาพระหว่างคู่สมรส
เกิดการแท้ง คลอดก่อนกำหนด ทารกมีน้ำหนักตัวน้อย
แนวทางการดุแล
ประเมินพัฒนกิจของการตั้งครรภ์
ประเมินภาวะสุขภาพ
ประเมินความรู้พื้นฐาน
ประเมินการสนับสนุนทางสังคม
มารดาที่ติดสารเสพติด
บุหรี
ผลกระทบ
IUGR
คลอดก่อนกำหนด
แท้ง
อัตราการตั้งครรภ์
อัตราการเสียชีวิต SIDS สูง
แอลกอฮอล์
Fetal alcohol syndrome
ช่องตาสั้น
ร่องริมฝีปากบน (Phil rum) เรียบ
ริมฝีปากบนยาวและบาง
หนังคลุมหัวตามาก
จมูกแบน
ปลายจมูกเชิดขึ้น
บริเวณส่วนกลางใบหน้ามีการพัฒนาน้อยกว่าปกติ