Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ทฤษฎีสัมพันธภาพระหว่างบุคคล, นางสาวปภารดา คาแพง เลขที่46 ห้อง2B…
ทฤษฎีสัมพันธภาพระหว่างบุคคล
ผู้เริ่มทฤษฎี คือ Harry Stack Sullivan
(1892 - 1949)
เน้นว่า พฤติกรรมของบุคคลเป็นผลมาจากการที่บุคคลมีสัมพันธภาพกับบุคคลอื่นในสังคม
กล่าวว่า มนุษย์เป็นผลผลิตของการมีปฏิสัมพันธ์กับสังคม การเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงความต้องการของบุคคลและบอกทิศทางของการเจริญเติบโต
เชื่อว่า ประสบการณ์ชีวิตในวัยต้นมีอิทธิพลอย่างมากต่อสุขภาพจิตของบุคคลในวัยหลังของชีวิต ประสบการณ์ที่สำคัญก็คือ ความวิตกกังวล ซึ่งได้รับจากการเลี้ยงดูในวัยเด็กและสัมพันธภาพระหว่างบุคคล
บุคคลถูกกระตุ้นเพื่อไปสู่เป้าหมาย 2 ประการ
เป้าหมายเพื่อไปสู่ความพึ่งพอใจ
(Satisfactions)
เน้นความต้องการทางสรีรวิทยา เช่น ความหิว การนอนหลับพักผ่อน ความต้องการทางเพศ เป็นต้น
เป้าหมายเพื่อไปสู่ความมั่นคง
(security)
เพื่อความคงอยู่อย่างมีความสุข ต้องการยอมรับในสังคม ซึ่งเกิดจากการมีสัมพันธภาพระหว่างบุคคล
ความต้องการทั้ง 2 ด้านนี้ มีความสัมพันธ์กัน ถ้าบุคคลได้รับการตอบสนองอย่างเพียงพอทั้ง 2 ด้าน บุคคลก็จะไม่เกิดความวิตกกังวล
แนวคิดหลัก
เน้นความวิตกกังวลและระบบตน (Anxiety and the Self-System) โดย กล่าวว่า ความวิตกกังวล เป็นความรู้สึกที่เจ็บปวดจากความรู้สึกไม่ได้รับความมั่นคงปลอดภัย และ ความพึงพอใจทางสรีรวิทยา ก่อให้เกิดความรู้สึกวิตกกังวล ซึ่งเกิดและแสดงออก
ประการที่ 1 ความวิตกกังวลที่เริ่มต้นมาจากสัมพันธภาพระหว่างบุคคล เกิดจากความวิตก กังวลของมารดาถ่ายทอดไปยังบุตร
ประการที่ 2 ความวิตกกังวลสามารถอธิบายและสังเกตได้ บุคคลที่อยู่ในภาวะวิตกกังวล สามารถบอกได้ว่าเขารู่สึกอย่างไรและแสดงออกทางพฤติกรรมอย่างไร
ประการที่ 3 แต่ละคนจะพยายามดิ้นรนเพื่อขจัดความวิตกกังวล
Sullivan อธิบายว่า บุคคลพยายามลดความวิตกกังวลและเพิ่มความมั่นคงให้กับตนเอง Sullivan พยายามเน้นถึงพฤติกรรมที่สังเกตได้
เชื่อว่า ระบบความเป็นตนเองถูกหล่อหลอมตั้งแต่วัย เด็กโดยบุคคลประเมินการตอบสนองของอื่นที่มีต่อตน ในการมีสัมพันธภาพกับผู้อื่น
ขั้นทารก (Infancy) อายุแรกเกิด - 18เดือน วัยนี้จะมีความสุขกับการใช้ปากในการตอบสนองความต้องการอาหารของตนเองด้วยการดูดหรือการเคลื่อนไหวร่างกายด้วยการใช้ประสาทตาสัมผัสกับ มือในการดูดนิ้วตนเอง
ขั้นวัยเด็ก (Childhood) อายุ 18 เดือน - 5 ปี เป็นระยะที่เริ่มหัดพูด ฝึกออกเสียงได้ชัดเจน เริ่มมีเพื่อนและ ต้องการให้ผู้อื่นยมรับสถานภาพของตนเองป็น
ขั้นวัยเยาว์ (Juvenile Era) อายุระหว่าง 5-12 ปี เป็นวัยที่เข้าโรงเรียน พัฒนาการทางร่างกายเร็วมากเริ่มรู้จัก สังคม มีการร่วมมือและแข่งขัน เรียนรู้ที่จะควบคุมตนอง
ขั้นก่อนวัยรุ่น (Pre- Adolescence) อายุ 11-13 ปี เริ่มมีวุฒิภาวะทางเพศ มีการกล้าแสดงออกมากขึ้นและยัง ต้องการความเท่าเทียมกับผู้ใหญ่
ขั้นวัยรุ่นตอนต้น (Early Adolescence) อายุระหว่าง 13- 17 ปี เป็นวัยที่มีความพอใจในเรื่องเพศ ต้องการคบ เพื่อนเดียวกันและต่างเพศ ต้องการความเป็นอิสระไม่อยากพึ่งพาใคร
ขั้นวัยรุ่นตอนปลาย(LateAdolescence)อายุ17 - 19ปี ร่างกายเจริญเต็มที่มีความคิดสร้างสรรค์มีความรู้และเข้าใจตนเองเรียนรู้บทบาทในสังคมได้ดี
ขั้นวัยผู้ใหญ่(Adulthood)อายรุะหว่าง20 - 30ปีเป็นวัยที่มีพัฒนาการทุกอย่างสมบูรณ์เต็มที่สร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่นสร้างหลักฐานมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่
นางสาวปภารดา คาแพง เลขที่46 ห้อง2B รหัส613601154