Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 5.1 ความผิดปกติของการไหลเวียนเลือด - Coggle Diagram
บทที่ 5.1 ความผิดปกติของการไหลเวียนเลือด
ความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์
แนวทางการดูแลสตรีตั้งครรภ์ที่มีภาวะความดันโลหิตสูงก่อนตั้งครรภ์
3.มีข้อแนะนำให้วัดความดันโลหิตที่บ้านทุกวัน
พิจารณาให้ Low dose aspirin คือ Aspirin(81) 1x1 oral pc ตั้งแต่ GA 12-36 wksในรายที่มีความเสี่ยงต่อ
การเกิด Preeclampsia with severe feature
การพิจารณาเลือก Anti-hypertensive agents จะพิจารณาให้ในรายที่วัดความดันโลหิตที่ รพ.ได้ ≥ 140/90
mmHg
กรณี Chronic HT ที่ไม่มีภาวะแทรกซ้อนของมารดาและทารกในครรภ์ ไม่แนะน าให้คลอดก่อนอายุครรภ์ 38
สัปดาห์
การฝากครรภ์ครั้งแรก แนะน าให้เจาะเลือดเพื่อประเมิน Baseline CBC with platelet, BUN, Cr, AST, ALT,
uric acid และส่งตรวจปัสสาวะ
แนวทางการดูแลสตรีตั้งครรภ์ที่เป็น Preeclampsia without severe features หรือ mild gestational
hypertension
กรณีอายุครรภ์ ≥37 สัปดาห์ พิจารณาให้คลอด
กรณีอายุครรภ์น้อยกว่า 37 สัปดาห์ สามารถพิจารณา 'Expectant management' ได้
วัดความดันโลหิต 2 ครั้งต่อสัปดาห์ หาก ≥ 140/90 mmHg ให้รีบมาตรวจก่อนนัด
แนะน าให้มาตรวจหาภาวะ Proteinuria สัปดาห์ละครั้ง
ตรวจ CBC c platelet และ Liver Function Test (LFT) สัปดาห์ละครั้ง
ให้มาตรวจคลื่นความถี่สูงทุก 2-4 สัปดาห์เพื่อดูการเจริญเติบโตของทารกและ และตรวจสุขภาพทารกทุก
สัปดาห์
Strict bed rest พบว่าไม่มีประโยชน
กรณีที่มี fetal growth restriction ควรประเมินสุขภาพทารกในครรภ์โดยใช้ umbilical artery
Doppler velocimetry ร่วมด้วย
เกณฑ์การวินิจฉัย
New-onset Proteinuria
Urine protein/creatinine ratio/index (UPCI) ≥ 0.3 mg/dL OR
Urine Dipstick or Urine analysis reading ≥ 2+
Urine protein 24 hours ≥ 300 mg OR
Severe features
Impaired liver function คือ AST/ALT สูงกว่า 2 เท่าของค่า Upper normal limit หรือมีอาการ
ปวดจุกใต้ลิ้นปี่รุนแรงและไม่หายไป (Severe persistence)
Renal insufficiency คือ Serum creatinine ≥ 1.1 หรือมากกว่า 2 เท่าของค่า Serum creatinine
เดิมโดยไม่มีโรคไตอื่น
Thrombocytopenia คือ เกล็ดเลือด < 100,000 cell/mm3
Pulmonary edema
Systolic BP (SBP) ≥ 160 mmHg หรือ Diastolic BP (DBP) ≥ 110 mmHg เมื่อวัด 2 ครั้งห่างกัน
4 ชั่วโมง
มีอาการปวดศีรษะหรือตาพร่ามัวที่เกิดขึ้นใหม
New-onset Hypertension
Systolic BP (SBP) ≥ 140 mmHg or Diastolic BP (DBP) ≥ 90 mmHg เมื่อวัด 2 ครั้งห่างกัน 4
ชั่วโมง
Systolic BP (SBP) ≥ 160 mmHg or Diastolic BP (DBP) ≥ 110 mmHg เมื่อวัดห่างกัน 15 นาที
แนวทางการดูแลทารกในครรภ์
เฝ้าระวังภาวะทารกโตช้าในครรภ
แนะน าให้ท า Fetal surveillance ด้วย NST 2 ครั้ง/สัปดาห์ เริ่มตั้งแต่อายุครรภ์ 28-32 สัปดาห์
มีการตรวจ Ultrasonography
ประเภทของความดันโลหิตสูง
Chronic hypertension
หญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะความดันโลหิตสูงตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ
Chronic hypertension with superimposed preeclampsia
ที่เกิดในหญิงตั้งครรภ์ที่เป็น
Chronic hypertension
Preeclampsia-eclampsia
มักเกิดหลังอายุครรภ์ 20week
Gestational hypertension
ภาวะความดันโลหิตสูงที่จ าเพาะกับการตั้งครรภ์ ที่ตรวจพบหลังอายุครรภ์ 20สัปดาห์ แต่ไม่พบ Proteinuria
การพยาบาลหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะความดันโลหิตสูงในระยะคลอด
การพยาบาลหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะ Preeclampsia ในระยะคลอด
ตรวจ Urine protein
ดูแลให้ได้รับยาป้องกันภาวะชักคือ Magnesium sulfate
ประเมิน Headache, visual disturbance, epigastric pain
ใส่สายสวนปัสสาวะคาไว
วัดความดันโลหิต และ Deep tendon reflex ทุก 1-2 ชั่วโมง
ัดสภาพแวดล้อมให้สงบ
bed rest
ติดตามระดับแมกนีเซียมในเลือด
เตรียมและให้ยาแคลเซียมกลูโคเนททางหลอดเลือดด า
ประเมินและให้ความรู้เกี่ยวกับภาวะของโรค แนวทางการดูแลรักษา อาการผิดปกติหรือภาวะแทรกซ้อนที
อาจเกิดขึ้น และการปฏิบัติตัวในการดูแลตนเอง
ประเมินการหดรัดตัวของมดลูก ติดตามความก้าวหน้าของการคลอด
ประเมินและเฝ้าระวังสุขภาพทารกในครรภ์อย่างใกล้ชิด (Fetal Heart Rate Monitoring)
เตรียมผู้ป่วยเพื่อการคลอดตามความเหมาะสม
การพยาบาลผู้ป่วยที่ได้รับยา Magnesium sulfate
Monitor intake and output
เตรียม 10% Calcium gluconate กรณีฉุกเฉิน
ประเมินผลข้างเคียงของยาอื่นๆที่จะเกิดขึ้นคือ ผิวหนังแดง ร้อนวูบวาบ เหงื่อออก คลื่นไส้ / อาเจียน
ความดันโลหิตต่ า กล้ามเนื้ออ่อนแรง
Monitor magnesium level
ประเมินอาการ magnesium toxicity เช่น absent Deep tendon reflex, RR < 14 /min
เฝ้าติดตามอัตราการหายใจ และ urine output ทุก 1 ชั่วโมง ประเมิน deep tendon reflex ทุก 2- 4
ชั่วโมง
ดูแลความสุขสบายของผู้ป่วย
Maintain electronic fetal monitoring
ดูแลให้ได้รับยาป้องกันภาวะชักคือ Magnesium sulfate ตามแนวทางการรักษาผู้ป่วยความดันโลหิตสูง
ขณะตั้งครรภ์และใช้เครื่อง Infusion pump ในการให้Continuous Intravenous Infusion
การพยาบาลมารดาที่มีภาวะความดันโลหิตสูงในระยะหลังคลอด
บันทึกสัญญาณชีพ และบันทึก I / O
ให้ IV Fluid ที่ผสม Mg SO4 drip ด้วยเครื่อง Infusion pump
Observe Bleeding จากแผลผ่าตัดหรือจากช่องคลอด
จัดอาหาร Low Salt และ High Protein
ประเมินการการหดรัดตัวของมดลูก
ในการให้นมบุตร ในกรณีมารดาหลังคลอดได้รับ IV Fluid ที่ผสม Mg SO4 และ BP < 150 /100 mmHg. สามารถให้ทารกมาดูดนมได้
ในรายไม่รู้สึกตัวให้นอนราบตะแคงหน้าส่วนในรายที่รู้สึกตัวให้นอนท่าFowler’s position
โรคหัวใจระหว่างการตั้งครรภ์
อาการและอาการแสดง
อาการแสดงที่สำคัญได้แก่
Cyanosis, Clubbing of fingers, Persistent neck vein distension,
Systolic murmur greater than grade3/6, Diastolic murmur, Cardiomegaly, Sustained arrhythmia,
Persistent splint second sound,Criteria for pulmonary hypertention
อาการที่สำคัญได้แก่
Severe or Progressive dyspnea, Progressive orthopnea, Paroxymal
noctonal dyspnea, Hemoptysis, Syncope with exertion, Chest pain related to effort or emotion
ผลของโรคหัวใจต่อการตั้งครรภ
ทารกเจริญเติบโตช้าในครรภ
4.ทารกตายในครรภ์
คลอดก่อนก าหนด
5.ทำให้คลอดง่ายและเร็วเนื่องจากทารกตัวเล็ก
แท้งบุตร เนื่องจากทารกขาดออกซิเจน
6.ทารกเกิดโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดในกรณีมารดาเป็นโรคหัวใจแต่กำเนิด
การตรวจพิเศษ
Echocardiography
Exercise tolerance tes
ภาพรังสีทรวงอก (Chest X-ray)
การใส่สายสวนหัวใจ (Cardiac catheterization)
การตรวจคลื่นหัวใจ (Electrocardiography)
การรักษาด้วยยาในโรคหัวใจในหญิงตั้งครรภ์
ยารักษาหัวใจล้มเหลว
ยา hydralazine
ยาห้ามเบต้า (beta-blocker)
Digoxin
ยารักษาอาการหัวใจเต้นผิดปกต
ยา quinidine ใช้ในการรักษา atrial และ ventricular tachycardia
ยารักษาลิ่มเลือดอุดตัน
low-molecular weight heparin (LMWH)
warfarin
อunfractionated
heparin (UFH)
การจำแนกความรุนแรงของโรคหัวใจ
Class II Slightly compromised
มีการจำกัดของ physical activity เล็กน้อย และจะสบายเวลาพัก
แต่ถ้าทำกิจกรรมตามปกติจะเริ่มมีอาการเหนื่อย ใจสั่น หรือ เจ็บอก
Class III Markedly compromised
มีการจำกัดของ physical activity มาก และจะสบายเวลาพัก
แต่ถ้าทำกิจกรรมตามปกติเพียงเล็กน้อยจะเริ่มมีอาการเหนื่อย ใจสั่น หรือ เจ็บอก
Class I Uncompromised
ไม่มีการจำกัด physical activity สามารถทำกิจกรรมตามปกติโดยไม่มี
อาการอ่อนเพลีย หอบเหนื่อย ใจสั่น อาการเจ็บอก
Class VI Severely compromised
ไม่สามารถทำ physical activity ใด ๆ แม้ขณะพักก็จะมีอาการ
หอบเหนื่อย ใจสั่น หรือ เจ็บอก ได้
ชนิดของโรคหัวใจ
กลุ่มที่มีแรงดันสูง
กลุ่มที่มีอาการตัวเขียว
กลุ่มที่มีปริมาตรเลือดเกิน
4.โรคหัวใจรูมาติก
5.โรคหัวใจที่มีภาวะความดันโลหิตสูง
6.โรคหัวใจขาดเลือด
7.ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจผิดปกต
หัวใจเต้นผิดปกต
การดูแลหญิงตั้งครรภ์ระยะเจ็บครรภ์คลอดและการคลอดบุตร
ตรวจชีพจรและการหายใจ ถ้าชีพจร > 100 ครั้ง/นาที, หายใจ > 24 ครั้ง/นาที ร่วมกับอาการหอบ
เหนื่อย อาจจะเป็นอาการเริ่มแรกของภาวะหัวใจล้มเหลว
การคลอดบุตรทางช่องคลอดให้ผู้ป่วยนอนในท่า fowler ช่วยคลอดด้วยคีมหรือเครื่องดูดสุญญากาศ
เพื่อลดระยะที่ 2 ของการคลอดโดยไม่ต้องให้มารดาออกแรงเบ่งมาก
การระงับความเจ็บปวด การใช้continuous epidural anesthesia
ภาวะหัวใจล้มเหลว หากเกิดขึ้นระหว่างเจ็บครรภ์คลอดอาจจะมีอาการของ Pulmonary edema
hypoxia และความดันโลหิตต่ าต้องรักษาตามชนิดและความรุนแรงของโรค
Mitral stenosis ร่วมกับ Pulmonary edema หญิงตั้งครรภ์ควรได้รับ diuresis
Tachycardia หญิงตั้งครรภ์ควรได้รับ beta-blocking agent
จัดท่านอนให้ผู้ป่วยนอนในท่านอนตะแคงยกศีรษะสูง (Semi recumbent)
ระยะหลังคลอด อาจจะเกิดภาวะ Decompensate ในระยะหลังคลอดได้ควรดูแลหญิงหลังคลอด
อย่างใกล้ชิด
ระยะหลังคลอดสามารถให้นมบุตรได
การทำหมันหลังคลอดควรให้ร่างกายปกติก่อนในรายที่ไม่ท าหมันควรแนะนำการคุมกำเนิดที่เหมาะสม
ควรเตรียมรับผู้ป่วยเพื่อเตรียมคลอด 1-2 สัปดาห์ก่อนก าหนดคลอดเพื่อให้ผู้ป่วยผู้ป่วยพักผ่อนเต็มท