Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 3 การเตรียมและการช่วยเหลือมารดาและทารก ที่ได้รับการตรวจด้วยเครื่อง…
บทที่ 3
การเตรียมและการช่วยเหลือมารดาและทารก
ที่ได้รับการตรวจด้วยเครื่องมือพิเศษ (2)
การตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (Ultrasound)
การตรวจวินิจฉัยความพิการแต่กาเนิดของทารก
การวินิจฉัยครรภ์แฝด
การตรวจวินิจฉัยสาเหตุการมีเลือดออกทางช่องคลอด
การวินิจฉัยเนื้องอกในอุ้งเชิงกราน
การตรวจตำแหน่งความผิดปกติและภาพของรก บอกตำแหน่งที่รกเกาะ
ติดตามการเจริญเติบโตของทารก
ใช้ศึกษาหลอดเลือดหลักของทารกเพื่อติดตามการเจริญเติบโต
วินิจฉัยอายุครรภ์
ความเชื่อถือได้สูงสุด คือ ควรตรวจเมื่ออายุครรภ์ 7-10 สัปดาห์
Amniotic fluid volume measurement
วิธีที่1
วัดแอ่งลึกที่สุดของน้ำคร่ำ (Single deepest pocket, SDP หรือ maximum vertical pocket, MVP)
เป็นการวัดความลึกของน้ำคร่ำบริเวณที่ลึกที่สุดในแนวต้ง
โดยที่ระยะทางที่วัดไม่ให้มีสายสะดือหรือส่วนต่าง ๆ ของทารกในครรภ์ขวางอยู่
ค่าปกติ คือ 2.1–8 ซม.
ค่าที่อยู่ระหว่าง 0–2 ซม. ถือว่ามีภาวะน้ำคร่ำน้อย (Oligohydramnios)
มากกวา่ 8 ซม. ถือว่ามีภาวะน้ำคร่ำมากกว่ปกติ (Polyhydramnios หรือ Hydramnios )
วิธีที่2
วัดดัชนีปริมาณน้ำคร่ำ (Amniotic fluid index: AFI)
แบ่งหน้าท้องมารดาเป็น 4 ส่วนเท่าๆกัน และวัดความลึกของน้ำคร่ำบริเวณที่ลึกที่สุดในแนวตั้งของแต่ละส่วน และนำค่าที่ได้มาบวกกันทั้ง 4 ค่า
ค่าปกติ คือ 5–24 ซม.
น้อยกว่า 5 ซม.ถือวา่ มีภาวะน้ำคร่ำน้อย (Oligohydramnios)
มากกว่า 25 ซม. ถือว่า มีภาวะ
น้ำคร่ำมากกว่าปกติ (Polyhydramnios)
การพยาบาล
ถ้าหญิงตั้งครรภ์อยู่ในไตรมาสที่1 ดูแลให้มี bladder full
เตรียมอุปกรณ์และสถานที่ตรวจ
งดน้ำงดอาหารในบางกรณี เช่น ครรภ์นอกมดลูก, รกเกาะต่ำที่ต้องผ่าตด
เปิดผ้าคลุมเฉพาะหน้าท้อง อธิบายให้หญิงตั้งครรภ์ทราบถึงระยะเวลาในการตรวจะใช้เวลา 10-30 นาที
1.ให้คำปรึกษา
ทำความสะอาดหน้าท้องหลังตรวจ
บันทึกผล
Biophysical profile (BPP)
อายุครรภ์ 28-30 สัปดาห์ขึ้นไป ทำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง
ใช้ในการตรวจติดตามสุขภาพทารกในครรภ์ของหญิงตั้งครรภ์ที่มีความเสี่ยงสูง
เบาหวาน
ทารกโตช้าในครรภ
ความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์
เจ็บครรภ์คลอดก่อนกาหนด
ครรภ์เกินกำหนด
Parameters 5 อย่าง
การเคลื่อนไหวของทารก (fetal movement: FM)
2 คะแนน คือ หมุนแขน-ขา เคลื่อนไหวไปมาอย่างน้อย
3 คร้ังในเวลา 30 นาที
0 คะแนน คือ พบเคลื่อนไหว 2 คร้ังหรือน้อยกว่า
การเกร็งตัวของทารก (fetal tone: FT)
2 คะแนน คือ แขนขาหรือลำตัวเหยียดออกและหดเข้าบิดไปมาแล้วคืนสภาพเดิม
0 คะแนน คือ ไม่เห็นการเหยีดแขนขาหรือไม่เข้ารูปเดิม
1.การเคลื่อนไหวที่แสดงออกถึงการหายใจของทารก (fetal breathing movement: FBM)
2 คะแนน คือ เห็นการเคลื่อนไหวที่แสดงการหายใจอย่างน้อย 1 คร้ัง นานอย่างน้อย 30 วินาที ในเวลา 30 นาที
0 คะแนน คือ ไม่เคลื่อนไหวใน 30 นาที หรือเคลื่อนไหว < 30 วินาที
การที่หัวใจของทารกตอบสนองต่อการเคลื่อนไหว (reactive fetal heart rate: FHR)
2 คะแนน คือ เมื่อเคลื่อนไหวมี FHS เร็วข้ึน > 15 /min อยู่นานอย่างน้อย 2 คร้ังใน 30 นาที
0 คะแนน คือ เมื่อเคลื่อนไหว FHS < 15 /min และ < 2 คร้ังใน 30 นาที
ปริมาณของน้าคร่า (amniotic fluid volum: AFV)
2 คะแนน คือ ในแนวดิ่ง 2 แนวเห็นน้าคร่าอย่างน้อย 1 ช่อง ไม่นอ้ ยกวา่ 1 ซม.
1 คะแนน คือ ไม่เห็นน้าคร่าในแนวดิ่งหรือวดั ได้ < 1 ซม.
การแปลผล
คะแนน 4 – 6 คะแนน แปลผล ผิดปกติ ควรเฝ้าติดตามอาการเปลี่ยนแปลงอย่างใกล้ชิด
คะแนน 0 - 2 คะแนน แปลผล ผิดปกติ ควรยุติการตั้งครรภ์
คะแนน 8 – 10 คะแนน แปลผล ปกติ
บทบาทของพยาบาล
มีความรู้ความเข้าใจวิธีการตรวจ
ให้ข้อมูลแก่หญิงตั้งครรภ์
ขอความร่วมมือในการตรวจและผ่อนคลายความวิตกกังวลและความกลัวต่างๆ
ติดตามผลการตรวจ
การนับจำนวนการดิ้นของทารกในครรภ์ (Fetal movement count : FMC)
Daily Fetal Movement Record (DFMR) ของ Sadovaski, Yaffe, Wood และคณะ
นับผลรวมของการดิ้นในช่วงเวลา 12 ชั่วโมง (08.00 – 20.00 น.)
ถ้าน้อยกวา่ 10 คร้ังใน 12 ชั่วโมง 2 วันติดกันถือว่าเป็นสัญญาณอันตราย
The Cardiff “Count-to-ten chart” ของ Pearson
นับตั้งแต่ 09.00 น. จนครบ 10 คร้ัง ซึ่งไม่ควรเกิน 12 ชั่วโมง (ถึง 21.00 น.)
น้อยกวา่ 10 คร้ังใน 12 ชั่วโมง แสดงว่าเกิดภาวะ decrease of fetal movement (DFM)
Liston
เริ่มทำตั้งแต่อายุครรภ์ 28 สัปดาห์
น้อยกวา่ 10 คร้ังใน 12 ชั่วโมง แสดงว่าเกิดภาวะ decrease of fetal movement (DFM)
Electronic Fetal Monitoring
Non Stress test (NST)
ตรวจการตอบสนองของอัตราการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์เมื่อทารกในครรภ์ดิ้นหรือเคลื่อนไหว
การเพิ่มของอัตราการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์เรียกว่า Acceleration คือเพิ่มจาก baseline เท่ากับหรือมากกวา่ 15 คร้ัง/นาที และคงอยู่นานเท่ากับหรือมากกวา่ 15 วินาที
การแปลผล
Reactive
อัตราการเต้นของหัวใจ 110-160 คร้ัง/นาที
อัตราการเต้นของหัวใจทารกเพิ่มจาก baseline เท่ากับหรือมากกว่า 15 คร้ัง/นาที และคงอยู่นานเท่ากับหรือมากกวา่ 15 วินาทีขึ้นไปในแต่ละคร้ังของการดิ้นจำนวน 2 คร้ังหรือมากกว่าภายใน 20 นาที
Non-reactive
การเพิ่มข้ึนของ FHR ไม่เป็นไปตามเกณฑ์หรือไม่มีการเพิ่มข้ึนของ FHR เลยในการตรวจนาน 40 นาที
Uninterpretable
คุณภาพการทดสอบไม่สามารถแปลผลได้ ควรทำภายใน 24 ชวั่ โมง
Suspicious
การเพิ่มของอัตราการเต้นของหัวใจน้อยกวา่ 2 ครั้ง หรืออัตราเพิ่มน้อยกว่า 15 คร้ัง/ นาที หรืออยู่สั้นกวา่ 15 วินาที เมื่อทารกดิ้น
การพยาบาล
จัดท่านอนในลักษณะ Semi-fowler หรือนอนตะแคง
ดูแลให้ tocodynamometer ของ external monitor คาดหน้า ท้องหญิงตั้งครรภ์เพื่อบันทึกการหดรัดตัวของ
มดลูกที่เกิดขึ้นเองหรือการดิ้นของทารก ระวังไม่ให้สายยืดที่คาดบริเวณหน้าท้องหลุดหรือเคลื่อนผิดตำแหน่ง และทำ Conductivity jel ที่ tocodynamometer ก่อนใชสายยืดพัน
เมื่อตรวจเสร็จควรเช็ดเจลออกจากหน้า ท้องและควรดูแลหญิงตั้งครรภ์ให้ลุกช้าๆ ติดตามการตรวจและให้คำแนะนำที่เหมาะสม
วัดความดันโลหิต
อธิบายให้หญิงตั้งครรภ์ทราบถึงขั้นตอนและวิธีการตรวจ
บันทึก FHR ไปเรื่อยๆตลอดการทดสอบ
ขณะตรวจควรสังเกตอาการและอาการแสดงของ Supine hypotension
แนะนาให้หญิงตั้งครรภ์กด marker เพื่อบันทึกเมื่อรู้สึกว่าเด็กดิ้น
ถ้าผล reactive ให้ตรวจติดตามสุขภาพทารกตามความเสี่ยงเดิม แต่ถ้าผล nonreactive ให้ตรวจยืนยันด้วยวีธีอื่นเพิ่มเติม เช่น contraction stress test (CST) หรือ biophysical profile (BPP) หรือ Doppler ultrasound แต่ถา้ ผล Suspicious ควรทาซ้าใน 24–48 ชั่วโมง
Contraction stress test (CST) หรือ Oxytocin challenge test (OCT)
การแปลผล
Negative
ไม่มี late deceleration
อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้นหลังทารกดิ้นหรือมดลูกหดรัดตัว
base line variability ปกติ
Positive
มี late deceleration ทุกคร้ังในระยะช่วงทา้ ยของการหดรัดตวั ของมดลูก หรือพบ late deceleration มากกวา่ คร่ึงหน่ึงของการทดสอบที่มีการหดรัดตวั ของมดลูก
base line variability มักจะลดลงกว่าปกติ
อัตราการเต้นของหัวใจไม่เพิ่ม เมื่อทารกดิ้นหรือมดลูกหดรัดตัว
Suspicious
มี late deceleration เป็ คร้ังคราว
base line variability อาจปกติหรือลดลง
ถ้าไม่มีการเพิ่มของอัตราการเต้นของหัวใจเมื่อทารกดิ้น ควรทำซ้าใน 24 ชั่วโมง
Hyperstimulation
มดลูกมีการหดรัดตัวมากกว่าปกติหรือหดรัดตัวแรงมาก ในกรณีนี้ถ้ามี late deceleration เกิดข้ึนจะแปลผลไม่ได้
Unsatisfactory
ไม่สามารถแปลผลเนื่องจากกราฟที่บันทึกไม่สามารถอ่านได้ หรือมีการหดรัดตัวของมดลูกน้อยกวา่ 3 คร้ังในเวลา 10 นาที
การพยาบาล
อธิบายให้หญิงตั้งครรภ์ทราบถึงขั้นตอนและวิธีการตรวจ
จัดท่านอนในลักษณะ Semi-fowler หรือนอนตะแคงในท่าศีรษะสูงประมาณ 20 องศา
วัดความดันโลหิต
ดูแลให้ tocodynamometer และ Droppler tranducer ติดกับหน้าท้องของหญิงตั้งครรภ์
ดูแลให้ได้รับ Oxytocin ทางหลอดเลือดดา ตลอดจนสังเกตภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นขณะได้รับสารน้ำทางหลอดเลือดดำ
สังเกตอาการทุก 15-20 นาที ประเมิน FHR reactivity และอาจจะมีการหดรัดตวั ของมดลูกที่เกิดข้ึนเองประมาณร้อยละ 10-15 โดยกำหนดให้มดลูกมีการหดรัดตวั 3 คร้ังใน 10 นาที duration 40-60 วินาที
สังเกตการหดรัดตัวของมดลูก ถ้ามีการหดรัดตัวของมดลูกเองไม่ต้องให้ Oxytocin
ดูแลการปรับหยด Oxytocin ในอัตรา 0.5 มิลลิยูนิต/นาที โดยเพิ่มอัตราการให้ช้าๆจนกว่า จะมีการหดรัดตัวของมดลูกอย่างเพียงพอ
ถ้าพบวา่ มี late deceleration เกิดขึ้นทุกคร้ังที่มดลูกหดรัดตัวให้สรุปว่าเป็นผลบวก และให้หยุดทดสอบ
ความดันโลหิตสูงระหว่างตั้งครรภ์
ทารกเคลื่อนไหวลดลง
สงสัยว่าทารกมีการเจริญเติบโตช้าในครรภ์
ครรภ์เกินกำหนด
ประวัติทารกตายในครรภ์โ์ดยไม่ทราบสาเหตุ
น้าคร่าน้ยหรือครรภ์แฝด
การไม่เข้ากันของเลือดมารดาและทารก
มารดาติดยาเสพติด
น้าคร่าปนขี้เทา
มารดามี Hemoglobin ผิดปกติ
Category I
เป็น normal tracing แสดงถึง ภาวะสมดุลของกรดและด่างในร่างกายของทารก ณ ขณะน้น
Category II
เป็น tracing ที่ยังไม่เข้าเกณฑ์ที่ผิดปกติชัดเจน ยังไม่สามารถบ่งบอกถีงภาวะผิดปกติของความเป็นกรดด่างได้ จำเป็นต้องได้รับการประเมินต่อไป
Category III
เป็น tracing แสดงถึงความผิดปกติของสมดุลกรดและด่างในร่างกายทารก