Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Shock Brun คน สัตว์ งู แมลงกัดต่อย การแพ้อย่างรุนแรง - Coggle Diagram
Shock Brun คน สัตว์ งู
แมลงกัดต่อย การแพ้อย่างรุนแรง
แผลไหม้ Burn
หมายถึง
ผิวหนัง หรือเนื้อเยื่อที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางด้านสรีรวิทยาจากการถูกเผาไหม้
หรือการได้รับ ความร้อนจากเปลวไฟ กระแสไฟฟ้า รังสี สารเคมี
การแบ่งความรุนแรง
ของผิวหนังไหม้
ขนาดของแผลกฎเลขเก้า
แขน ข้างซ้าย9% ขวา9%
ขาข้างละ 18%
ใบหน้า 9%
ด้าน-หลังบริเวรลำตัว 18%
อวัยวะสืบพันธ์ 1%
ความลึกของบาดแผล
Partial-thickness burns
ระดับที่ 1
ลักษณะ
ของบาดแผล
ผิวหนังสีแดงเหมือนโดนแดดเผา แห้ง
การหายของแผล
ไม่มีบาดแผล
ส่วนที่ถูกทำลาย
(epidermis)
ระดับที่ 2 ตื้น
(superficial 2⁰ burns)
ส่วนที่ถูกทำลาย
epidermis + superficial part of dermis
ลักษณะของบาดแผล
บาดแผลพองเป็นตุ่มน้ำใส มีอาการปวด
การหายของแผล
ประมาณ 10-14 วัน ลักษณะของบาดแผลเป็นค่อนข้างดี
ระดับที่ 2 ลึก
(deep 2⁰ burns)
ส่วนที่ถูกทำลาย
epider-mis) ชั้นบนและชั้นลึกของผิวหนังแท้แต่ยังมีบางส่วนเหลืออยู่
ลักษณะของบาดแผล
ผิวหนังเป็นสีขาวซีดแต่ยังมีลักษณะนิ่มอยู่
การหายของแผล
ประมาณ 3-4 สัปดาห์ ลักษณะของแผลเมื่อหายจะเป็นแผลเป็นมาก
Full-thickness burns
ระดับที่3
ส่วนที่ถูกทำลาย
ผิวหนังถูกชั้นถูกทำลายทั้งหมดบางครั้งรวมทั้งเนื้อเยื่อที่อยู่ลึกกว่าด้วย
ลักษณะของบาดแผล
ผิวหนังเป็นสีขาว หรือน้ำตาล แข็งเหมือนหนังอาจพบเส้นเลือดอุดตันอยู่ใต้ผิวหนั
การหายของแผล
แผลจะหายจากการหดรั้ง (wound contraction) หรือการปลูกถ่ายผิวหนัง (skin grafting)
เม่นทะเลตำ
Sea urchins
Local reaction
อาการ
อาการเจ็บปวดเหมือนถูกหนามตำ
อาการชาบริเวณที่ถูกตำ
ถ้าหนามของหอยเม่นหักคา จะปวดมาก โดยเฉพาะเม่นทะเลตำ จะมีหนามที่ยาวและเปราะมาก
การรักษาเบื้องต้น/ส่งต่อ
ทุบหนามที่หักคาให้แหลก โดยอาจใช้น้ำส้มสายชูหรือน้ำมะนาวทาที่แผลสลับการทุบ เพื่อลดอาการชา
ให้ยาแก้ปวดถ้าปวดมาก
ให้ยาแก้แพ้
ทาด้วยแอมโมเนีย เพื่อช่วยลดอาการปวด
Systemic reaction จะมีอาการแพ้ต่างๆ โดยเฉพาะ anaphylaxis
การรักษาเบื้องต้น/ส่งต่อ
ประเมินความรู้สึกตัว ABCs
ถ้าระบบหายใจและระบบไหลเวียนโลหิตหยุดทำงานให้ทำการช่วยฟื้นคืนชีพ
ห้ออกซิเจนถ้าหายใจไม่ดี
ห้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ ถ้ามีความดันโลหิตลดลงหรือมีภาวะช็อก
ส่งต่อไปสถานบริการที่มีความพร้อม
ได้รับพิษจากแมงกะพรุน Jellyfish dermatitis
เป็นการสัมผัสหนวดของแมงกะพรุนแล้วมีอาการอักเสบของผิวหนังบริเวณที่สัมผัส
Fatal reaction
อาการแสดง
anaphylaxis, cardio pulmo nary arrest
การรักษาเบื้องต้น/ส่งต่อ
ประเมินความรู้สึกตัว ABCs ถ้าระบบหายใจและระบบไหลเวียนโลหิตหยุดทำงานให้ทำการช่วยฟื้นคืนชีพ
ลดการเคลื่อนไหวบริเวณบาดแผล ห้ามถูแผล
Local heat อุ่นน้ำทะเลที่อุณหภูมิ 39 องศา เทราดบริเวณแผล
ใช้แป้งโรยบริเวณแผลเพื่อเอาหนวดออก
ใช้ผักบุ้งทะเลโขลกแล้วทาบนแผล
รักษาตามอาการ ยาแก้แพ้ ยาแก้ปวด ส่วนยาแก้อักเสบให้กรณีแผลลึกมากๆ
แนะนำเฝ้าระวังอาการของ anaphylaxis และ systemic infection
Local reaction
อาการแสดง
บวมแดงเป็นแนวเส้น ตามรอยหนวดที่สัมผัส
เจ็บ คัน
บางทีมีตุ่มพอง ระยะเวลาการเกิดตั้งแต่ทันทีที่สัมผัส และ/หรือหลังสัมผัส 1-4 สัปดาห์
การรักษาเบื้องต้น/ส่งต่อ
ดูแลระบบหายใจ โดยเฉพาะภาวะหลอดลมตีบ ได้ยินเสียงวี๊ด หายใจลำบาก เขียว
ให้สารน้ำตามความเหมาะสม
ให้ยาแก้แพ้
ให้ออกซิเจน
ส่งต่อไปสถานบริการที่มีความพร้อม
ไฟฟ้าช็อต Electrical injury
ความหมาย
ภาวะที่ผู้ป่วยจะได้รับอันตรายเนื่องจากผลโดยตรงของกระแสไฟฟ้าและจากการที่ กระแสไฟฟ้าเป็นพลังงานความร้อน
ความรุนแรง ขึ้นอยู่กับ
ชนิด และกำลังของกระแสไฟฟ้า
ตำแหน่งของร่างกายที่สัมผัสไฟฟ้า
สิ่งแวดล้อม
อาการ
ไม่รู้สึกตัว ความรู้สึกตัวเปลี่ยนแปลง
ระบบการไหลเวียนโลหิตผิดปกติ หัวใจเต้นผิดปกติ
มีบาดแผลไหม้ โดยเฉพาะบริเวณทางเข้าและทางออกของกระแสไฟฟ้า
มีภาวะกระดูกหัก หรือข้อเคลื่อน กระดูกสันหลังหัก
เกิดภาวะไตวายเฉียบพลัน
การรักษาเบื้องต้น/ส่งต่อ
ประเมินความรู้สึกตัว ABCs
ถ้าระบบหายใจและระบบไหลเวียนโลหิตหยุดทำงานให้ทำการช่วยฟื้นคืนชีพ
ให้ออกซิเจนถ้าหายใจไม่ดี
ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย
ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ ถ้ามีความดันโลหิตลดลงหรือมีภาวะช็อก
ให้การดูแลบาดแผล และประเมินอาการบาดเจ็บร่วม เช่น กระดูกสันหลังหัก (spinal injury) การบาดเจ็บที่ศีรษะ (head injury)
ส่งต่อไปสถานบริการที่มีความพร้อม
ถ้าผู้ป่วยรู้สึกตัวดี ไม่มีความผิดปกติต่างๆ
การรักษาเบื้องต้น
ให้การดูแลบาดแผล
ให้ยาลดอาการปวด
พูดคุยปลอบโยนเพื่อคลายความกลัวความวิตกกังวล
ติดตาม ประเมินผลการรักษา ติดตามอาการเกี่ยวกับหัวใจ ต้อกระจก และอาการทางระบบจิตประสาท
ภาวะช็อก Shock
ความหมาย
ภาวะที่ร่างกาย หรือเนื้อเยื่อต่างๆได้รับเลือดไปเลี้ยงไม่เพียงพอ
ทำให้เกิดความไม่สมดุลระหว่างความต้องการ และปริมาณออกซิเจนที่เลือดนำไปเลี้ยงเนื้อเยื่อ
สาเหตุ
ความผิดปกติในการทำงานของหัวใจ ประสาท และต่อมไร้ท่อ
มีภาวะเสียเลือดหรือน้ำอย่างรุนแรง ( Hypovolumic shock )
การติดเชื้อในกระแสเลือด ( Septic shock )
ได้รับสารพิษ เช่น ถูกสัตว์แมลงกัด ได้รับสารเคมี หรือยาบางอย่าง
มีความผิดปกติของเมตาบอลิซึม เช่น น้ำตาลในเลือดสูงหรือต่ำผิดปกติ ภาวะไตวาย ตับวาย
อาการแสดง
กระสับกระส่าย ชิพจรเบาเร็ว ซีด เหงื่อออก ตัวเย็น กระหายน้ำ อ่อนเพลีย อาเจียน จะเป็นลม ปัสสาวะออกน้อยหรือไม่ออกเลย หายใจเร็วถี่ขึ้น ไม่สม่ำเสมอ หมดสติ
ระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว เช่น BP < 90/60 มม.ปรอท
Pulse pressure ≤ 20 มม.ปรอท
mean arterial pressure < 60 มม.ปรอท
ถ้ามีอาการช็อกรุนแรงม่านตาจะไม่ค่อยตอบสนองต่อแสง
การรักษาเบื้องต้น
ประเมินความรู้สึกตัว ABCs
ให้นอนราบยกขาสูงขึ้น 10-20 นิ้ว เพื่อเพิ่มการไหลเวียนของเลือดจากส่วนปลายกลับสู่หัวใจ และเพิ่มเลือดไปเลี้ยงสมอง
ให้ออกซิเจนและให้ความมอบอุ่นแก่ร่างกาย
ให้สารน้ำทดแทนทางหลอดเลือดดำ
ให้งดน้ำและอาหารทางปาก
ใส่สายสวนปัสสาวะค้างไว้เพื่อดูปริมาณปัสสาวะ
แก้สาเหตุของการช็อก เช่น ถ้าเสียเลือดจากบาดแผลทำการห้ามเลือด
ส่งต่อไปสถานบริการที่มีความพร้อม
ให้สารน้ำทดแทนทางหลอดเลือดดำ เพื่อรักษาสัญญาณชีพควรให้สารน้ำที่มีความเข้มข้นใกล้เคียงกับเลือด (isotonic solution) เช่น NSS, Lactated Ringer’s solution ไม่ควรให้สารน้ำที่มีความเข้มข้นน้อยกว่าเลือด เช่น 5% D/W
การแพ้อย่างรุนแรง Anaphylaxis
สาเหตุ
การแพ้ยาโดยเฉพาะยาปฏิชีวนะ (เช่น penicillin, sulfonamide group ) ยากลุ่ม NSAIDS,
อิมมูนโกลบูลิน
พิษจากแมงสัตว์กัดต่อย
การแพ้อาหาร พืช สารเคมี สารที่เป็นโปรตีนต่างๆ
การออกกำลังกาย ความเย็น
ความหมาย
ภาวะที่เกิดขึ้นฉับพลัน และเป็นอันตรายต่อชีวิต
เกิดจากปฏิกริยาภูมิคุ้มกันของร่างกายที่มีต่อสิ่งแปลกปลอม
ซึ่งเคยเข้าไปกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายมาก่อนแล้ว
โดยอาจมีอาการเฉพาะที่ ( local ) หรือมีอาการทุกระบบ (systemic)
อาการแสดง
ผื่นคันตามร่างกาย หน้าแดง ตัวแดง
ไอจาม คัดจมูก น้ำมูกไหล น้ำตาไหล เสียงแหบ
ใจสั่น หายใจไม่อิ่ม อ่อนเพลีย เป็นลม
การรู้สึกตัวเปลี่ยนแปลง
5.ช็อก เป็นลม หมดสติ เสียชีวิต
การรักษาเบื้องต้น
ประเมินความรู้สึกตัว, ABCs
ถ้าระบบหายใจและระบบไหลเวียนโลหิตหยุดทำงานให้ทำการช่วยฟื้นคืนชีพ
ให้ adrenaline 1:1000 ขนาด 0.30 - 0.5 ml IM, IV ในเด็กให้ 0.01 ml / kg / dose ( ตาม standing order )
ให้ออกซิเจน
ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำโดยใช้ isotonic solution เพื่อรักษาภาวะความดันโลหิตต่ำลงหรือช็อก และเป็นการเปิดเส้นเลือดไว้สำหรับฉีดยา
ให้ยาแก้แพ้
ถ้ามีอาการ bronchospasm หรือ laryngeal edema ให้ยาพ่นขยายหลอดลม ( ตาม standing order )
ส่งต่อไปสถานบริการที่มีความพร้อม
คนกัด Human bite
ความหมาย
การบาดเจ็บที่เกิดจากการต่อสู้กัน
การทำร้ายร่างการ
อาจพบในผู้ที่มีความผิดปกติในระหว่างเพศสัมพันธ์
บาดแผลคนกัดจะทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่ายกว่าสัตว์อื่นเพราะในปากคน มีเชื้อโรคมากมาย
อาการประเมินระดับฉุกเฉิน
อาการแสดง
บาดแผลเหวอะหวะบริเวณใบหน้า
บริเวณใดที่มีขนาดกว้าง สกปรกมาก
คิดว่าไม่สามารถจะให้การดูแลรักษาเองได้
การรักษาเบื้องต้น
ประเมินสัญญาณชีพ ซักถามประวัติเกี่ยวกับการได้รับบาดแผล เช่น สุขภาพของผู้ที่กัด ระยะเวลาที่ถูกกัด การรักษาที่ได้รับ
ให้การดูแลบาดแผล
ให้ยาป้องกันบาดทะยัก (ตามแนวทางมาตรฐาน)
ส่งต่อไปสถานบริการที่มีความพร้อม
อาการประเมิน ระดับสามารถให้การดูแลรักษาได้
อาการแสดง
มีบาดแผลเล็กน้อย
ไม่ใช่ตำแหน่งที่ทำให้เกิดการเสียโฉม เช่น ที่ใบหน้า
การรักษาเบื้องต้น
ให้การดูแลบาดแผล ล้างด้วย NSS จำนวนมาก ตัดแต่งเนื้อตาย เอาเศษสิ่งสกปรกออก
ไม่ควรเย็บทันที ยกเว้นบาดแผลที่ใบหน้าที่ไม่เหวอะหวะ ช้ำ หรือสกปรกมาก
อาจจะเย็บได้เพราะต้องการความสวยงาม ลดรอยแผลเป็น และใบหน้าเป็นตำแหน่งที่มีเลือดมาเลี้ยงมากจึงมีโอกาสติดเชื้อต่ำ
ให้ยาปฏิชีวนะป้องกันการติดเชื้อ เช่น amoxicillin หรือ dicloxacillin
ให้ยาป้องกันบาดทะยัก (ตามแนวทางมาตรฐาน)
นัดตรวจติดตามการรักษา
กรณีแผลติดเชื้อรุนแรง เช่น cellulitis หรือมีไข้ให้พิจารณาส่งต่อ
งูกัด Snake bite
ออกเป็น 2 ชนิด
งูไม่มีพิษ
งูแม่ตะง่าว
งูปล้องฉนวนหลังเหลือง
งูเห่ามัง
งูเหลือม
งูหลาม
งูลายสาบ งูลายสอ งูก้นกบ งูงอด งูปี่แก้ว งูแสงอาทิตย์
งูพิษ
ที่มีพิษต่อระบบประสาท (neurotoxin)
งูเห่า
งูจงอาง
งูสามเหลี่ยม
งูที่มีพาต่อระบบเลือด (hematotoxin)
งูกะปะ
งูแมวเซา
งูเขียวหางไหม้
งูที่มีพิษต่อระบบกล้ามเนื้อ (myotoxin)
งูทะเลบางชนิด
งูคออ่อน
งูชายธง
อาการแสดง
เกิดจากงูที่มีพิษต่อระบบประสาทกัด
มึนงง เวียนศีรษะ หนังตาตก ลืมตาไม่ขึ้น
ขากรรไกรแข็ง อ้าปากไม่ขึ้น อ่อนเพลีย หมดแรง
หายใจลำบาก
หมดสติ
ตาย
เกิดจากงูที่มีพิษต่อระบบเลือดกัด
ปวดมาก บวมมาก
มีเลือดออกจากแผล เหงือก ไรฟัน ริมฝีปาก
มีจ้ำเลือด
มีปัสสาวะเป็นเลือด
กระสับกระส่าย ชีพจรเบาเร็ว ความดันโลหิตลดต่ำลง
ปวดท้อง แน่นหน้าอก
หมดสติ
เกิดจากงูที่มีพิษต่อระบบกล้ามเนื้อกัด
ปวดเมื่อยตามแขนขา ลำตัว เอี้ยวคอลำบาก
กลอกตาไม่ได้
ไม่สามารถเคลื่อนไหวแขน ขา และร่างกายได้
กล้ามเนื้ออักเสบรุนแรง
ระบบปัสสาวะล้มเหลว (ปัสสาวะเป็นสีน้ำโค้ก)
ระบบหายใจล้มเหลว
เกิดจากงูไม่มีพิษกัด
อาจจะมีอาการปวด บวม
มีเลือดออกไม่มาก
ผู้ป่วยไม่มีอาหารผิดปกตึอื่นใดที่ชัดเจน
การรักษาเบื้องต้น/ส่งต่อ
กรณีงูมีพิษ
ห้ามกรีดแผลหรือใช้ไฟจี้แผล
ประเมินความรู้สึกตัว ABCs
ถ้าระบบหายใจและระบบไหลเวียนโลหิตหยุดทำงานให้ทำการช่วยฟื้นคืนชีพ
ตรวจดูบาดแผล และรอยเขี้ยวพิษ
ถ้าเป็นงูเห่าพ่นพิษถูกที่ใบหน้าหรือนัยน์ตา ให้ล้างด้วยน้ำสะอาดจำนวนมากๆ
ให้การดูแลบาดแผล
ให้งดน้ำและอาหารไว้ก่อน แต่ถ้าเป็นงูทะเล ต้องดื่มน้ำมากๆ เพื่อขับปัสสาวะและพิษงู
พยายามเคลื่อนไหวร่างกายให้น้อยที่สุดโดยเฉพาะบริเวณที่ถูกกัด
อธิบายให้ผู้ป่วยคลายความวิตกกังวลหรือตกใจเพื่อหลีกเลี่ยงอาการหัวใจเต้นเร็วขึ้น เป็นการช่วยให้พิษเข้าสู่กระแสเลือดช้าลง
ไม่ควรใช้ปากดูดที่แผลและสมุนไพรใดๆ มาพอกที่แผล
ส่งต่อไปสถานพยาบาลที่มีความพร้อม
กรณีงูไม่มีพิษ
ถ้าแน่ใจว่าเป็นงูไม่มีพิษ ให้ทำความสะอาดบาดแผลด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ หรือน้ำสะอาดและสบู่
ให้การรักษาตามอาการ เช่น ประคบเย็น รับประทานยาแก้ปวด ยาปฏิชีวนะป้องกันการติดเชื้อนาน 5-10 วัน แล้วแต่ลักษณะการเปลี่ยนแปลงของบาดแผล
ให้ยาป้องกันบาดทะยัก (ตามแนวทางมาตรฐาน)
สังเกตอาการ และนัดตรวจซ้ำเพื่อติดตามการรักษ
ถ้าไม่ทราบชนิดของงู
ให้การดูแลรักษาเหมือนงูพิษกัด