บทที่5.2 ความผิดปกติของเลือดและองค์ประกอบของเลือด

Anemia in pregnancy

การจำแนก

โลหิตจางจากการสร้างลดลง

โลหิตจางจากเพิ่มการทำลาย

ภาวะเสมือนโลหิตจาง

ผลของโลหิตจางต่อมารดาและทารก

มีโอกาสติดเชื้อในระยะตั้งครรภ์ระยะคลอดและหลังคลอดสูง

เพิ่มอัตราเสี่ยงต่อภาวะหัวใจวายสูงขึ้น

อุบัติการณ์ของ Pregnancy induce hypertension สูงขึ้น

เสี่ยงต่อการตกเลือดหลังคลอด

เพิ่มโอกาสการแท้งและการคลอดก่อนกำหนด

ทารกตายในครรภ์

ทารกน้ำหนักน้อยเพิ่มอัตราตายปริกำเนิด

Iron deficiency anemia
โลหิตจางจากขาดธาตุเหล็ก

แบ่งออกเป็น 3 ระยะ

Physiologic Anemia of pregnancy

การตกเลือดก่อนคลอด

กลุ่มโรคของเม็ดเลือดแดงแตกได้ง่าย

ธาลัสซีเมีย

การเสียเลือดจากพยาธิปากขอ

การติดเชื้อ

ขาดสารอาหารคือธาตุเหล็ก

Iron deficiency erythropoiesis: เมื่อธาตุเหล็กสะสมหมดสิ้นลงปริมาณเหล็กในเลือดเริ่มลดลงร่างกายตอบสนองโดยกระตุ้นการสร้างโปรตีนที่จับกับเหล็ก

Iron deficiency anemia: เป็นระยะที่ธาตุเหล็กเหลือไม่เพียงพอต่อการสร้างเม็ดเลือดแดงจนเกิดภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กจะตรวจพบ Hb ต่ำลงเม็ดเลือดแดงตัวเล็กและติดสีจาง hypochromic microcytic RBCs จาก peripheral blood smear ค่าดัชนีของเม็ดเลือดเช่น MCV MCHC ต่ำกว่าเกณฑ์

Iron stores depletion: เมื่อร่างกายมีธาตุเหล็กไม่เพียงพอกับความต้องการร่างกายจะนำธาตุเหล็กจากแหล่งสะสมในรูป ferritin ที่ไขกระดูกตับม้ามมาใช้

การป้องกัน

การรักษา

แนะนำให้สตรีตั้งครรภ์ทุกรายควรได้รับการเสริมธาตุเหล็ก 60 mg ทุกวันตลอดการตั้งครรภ์ยกเว้นมีข้อห้ามในการให้เช่นมีภาวะเหล็กเกินในร่างกาย

ส่งเสริมการบริโภคอาหารที่อุดมด้วยธาตุเหล็กโดยให้ความรู้โภชนศึกษาแก่หญิงที่มารับบริการคลินิกฝากครรภ์

การให้รับประทานธาตุเหล็กขนาดรักษาคือวันละ 200 มิลลิกรัม

การให้ธาตุเหล็กผ่านทางหลอดเลือดดำ

การให้เลือดการให้ Packed red cell หรือ Whole blood

Thalassemia in pregnancy

ชนิด

แอลฟ่า-thalassemia เกิดจากการลดลงของแอลฟ่า.-chain โดยความผิดปกติอยู่ที่ยืนบนโครโมโซมคู่ที่ 16

เบต้า-ธาลัสซีเมีย (B-thalassemia) เกิดจากการลดลงของ B -chain โดยความผิดปกติอยู่ที่ยืนที่อยู่บนโครโมโซมคู่ที่ 11

ระดับของความรุนแรงของโรคตามการรักษา

  1. Thalassemia major (Transfusion-dependent thalassemia: TDT) กลุ่มต้องเลือดเป็นประจำ แต่หากให้การรักษาระดับ Hb ให้อยู่ระหว่าง 9.5-10.5 g / dl ร่วมกับให้ยาขับธาตุเหล็กอย่างสม่ำเสมอสามารถมีชีวิตอยู่ได้มากกว่า 40
  1. Thalassemia intermedia (Non-transfusion-dependent thalassemia: NTDT) ma nauníonnisșuuse น้อยถึงปานกลางโดยในภาวะปกติจะมี Hb 7-10 g / dL เมื่อมี stress หรือภาวะติดเชื้อจะทำให้ซีดลงอาจได้รับ

ผลกระทบ

ผลต่อมารดา

ผลต่อทารก

เกิด Preeclampsia

เสี่ยงต่อการตกเลือด

มีอาการทางโรคหัวใจ

ติดเชื้อง่าย

Fetal distress

น้ำหนักน้อย

การเจริญเติบโตช้า

ลอดก่อนกำหนด

ทารกตายปริกำเนิด

อาการและอาการแสดง

เป็นพาหะ

มีอาการซีดเล็กน้อยหรือไม่มีอาการใด ๆ ทำงานได้ตามปกติ

เป็นโรค

เหลือง

ซีดเหนื่อยง่ายทำงานหรือออกกำลังกายได้ไม่เท่าคนปกติ

ตับม้ามโตทำให้ท้องป่องอึดอัด

Thalassemia face

เติบโตไม่สมวัยพบโตช้าเตี้ยน้ำหนักน้อยกว่าปกติ bone age ล่าช้ากว่าปกติ

Infection ง่าย

Hemochromatosis พบผิวหนังคล้ำเหล็กดั่งตามอวัยวะต่างๆเช่นตับอ่อนเกิด DM, หัวใจเกิด Heart failure หรือ pericarditis, ต่อมไร้ท่อเกิดการสร้า Hormone ผิดปกติ

การพยาบาล

ก่อนตั้งครรภ์

ให้คำปรึกษาด้านพันธุกรรมแก่รายที่มีความเสี่ยงต่อการมีบุตรเป็นThalassemia

ระยะตั้งครรภ์

ดูแลในคลินิคครรภ์เสี่ยงสูง

ให้ความรู้เกี่ยวกับโรค

แนะนำให้พักผ่อนอย่างเพียงพอ

รับประทานอาหารที่มีประโยชน์

แนะนำประเมินเด็กดิ้น

แนะนำการป้องกันการติดเชื้อ

ให้ธาตุเหล็กเสริม และ Folic acid

ให้เลือด

ระยะคลอด

นอนพักบนเตียงจัดท่าศีรษะสูง

ดูแลให้ IV ให้เลือด

ประเมิน V/S

ประเมินความก้าวหน้าของการคลอด

click to edit

ประเมินสภาพทารกในครรภ์

บรรเทาความเจ็บปวด

เตรียมช่วยเหลือการคลอด

ระยะหลังคลอด

เฝ้าระวังการตกเลือด

ให้ยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก

ดูแลลให้พักผ่อน

ดูแลป้องกันการติดเชื้อ

ดูแล breast feeding หลังคลอด