Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ทฤษฎีสัมพันธภาพระหว่างบุคคล, นางสาว นิภาภัทร์ เดชพิทักษ์ ห้อง2B เลขที่ 40…
ทฤษฎีสัมพันธภาพระหว่างบุคคล
เริ่มต้นศึกษาเรื่องจิตวิเคราะห์และพัฒนาต่อเป็น Interpersonal Theory โดยมี
แนวคิดที่ต่างจาก Freud
ตรงที่
Sullivan เน้นว่า พฤติกรรมของบุคคลเป็นผลมาจากการที่บุคคลมีสัมพันธภาพกับบุคคลอื่นในสังคม
Sullivan กล่าวว่า มนุษย์เป็นผลผลิตของการมีปฏิสัมพันธ์กับสังคม การเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงความต้องการของบุคคลและบอกทิศทางของการเจริญเติบโต
Sullivan เชื่อว่า ประสบการณ์ชีวิตในวัยต้นมีอิทธิพลอย่างมากต่อสุขภาพจิตของบุคคลในวัยหลังของชีวิต ประสบการณ์ที่สำคัญก็คือ ความวิตกกังวล ซึ่งได้รับจากการเลี้ยงดูในวัยเด็กและสัมพันธภาพระหว่างบุคคล
เชื่อว่า บุคคลถูกกระตุ้นเพื่อไปสู่เป้าหมาย 2 ประการ
เป้าหมายเพื่อไปสู่ความพึงพอใจ (satisfactions) ซึ่งเน้นที่ความต้องการทางสรีรวิทยา เช่น ความหิว การนอนหลับพักผ่อน ความต้องการทางเพศ เป็นต้น
เป้าหมายเพื่อไปสู่ความมั่นคง (security) เป็นความต้องการเพื่อความคงอยู่อย่างมีความสุข ต้องการการยอมรับในสังคม ซึ่งเกิดจากการมีสัมพันธภาพระหว่างบุคคล
ความต้องการทั้ง 2 ด้านนี้ มีความสัมพันธ์กัน ถ้าบุคคลได้รับตอบสนองอย่างเพียงพอทั้ง 2 ด้าน บุคคลก็จะไม่เกิดความวิตกกังวล
แนวคิดหลัก
เน้นความวิตกกังวลและระบบตน (Anxiety and the Self-System) โดยกล่าวว่า ความวิตกกังวล เป็นความรู้สึกที่เจ็บปวดจากความรู้สึกไม่ได้รับความมั่นคงปลอดภัย และความพึงพอใจทางสรีรวิทยา ก่อให้เกิดความรู้สึกวิตกกังวล ซึ่งเกิดและแสดงออกได้ดังนี้
ประการที่ 1 ความวิตกกังวลที่เริ่มต้นมาจากสัมพันธภาพระหว่างบุคคล เกิดจากความวิตกกังวลของมารดาถ่ายทอดไปยังบุตร
ประการที่ 2 ความวิตกกังวลสามารถอธิบายและสังเกตได้ บุคคลที่อยู่ในภาวะวิตกกังวล สามารถบอกได้ว่าเขารู้สึกอย่างไรและแสดงออกทางพฤติกรรมอย่างไร
ประการที่ 3 แต่ละคนจะพยายามดิ้นรนเพื่อขจัดความวิตกกังวล เช่น ในเด็กจะพยายามเรียนรู้เพื่อหลีกเลี่ยงความวิตกกังวลที่เกิดจากการถูกลงโทษ และแสวงหาความมั่นคงโดยการยินยอมกระทำตามความปรารถนาของบิดามารดา
การพัฒนาบุคลิกภาพตามประสบการณ์เป็น 7 ขั้น
ขั้นทารก (Infancy)
อายุแรกเกิด -18 เดือน
การร้องไห้เป็นเครื่องมือที่ทารกใช้ติดต่อและเรียนรู้มีความสัมพันธ์กับผู้อิ่น
ขั้นวัยเด็ก (Childhood)
อายุ 18 เดือน - 5 ปี
ระยะที่เริ่มหัดพูด เริ่มมีเพื่อนและต้องการให้ผู้อื่นยอมรับสถานภาพของตนเอง
ขั้นวัยเยาว์ (Juvenile Era)
อายุระหว่าง 5-12 ปี
วัยที่เข้าโรงเรียน พัฒนาการทางร่างกายเร็วมากเริ่มรู้จัก
สังคม มีการร่วมมือและแข่งขัน เรียนรู้ที่จะควบคุมตนอง
ขั้นก่อนวัยรุ่น (Pre- Adolescence)
อายุ 11-13 ปี
เริ่มมีวุฒิภาวะทางเพศ มีการกล้าแสดงออกมากขึ้นและยัง
ต้องการความเท่าเทียมกับผู้ใหญ่
ขั้นวัยรุ่นตอนต้น (Early Adolescence)
อายุระหว่าง 13- 17 ปี
วัยที่มีความพอใจในเรื่องเพศ ต้องการคบ
เพื่อนเดียวกันและต่างเพศ ต้องการความเป็นอิสระไม่อยากพึ่งพาใคร
ขั้นวัยรุ่นตอนปลาย (Late Adolescence)
อายุ 17-19 ปี
มีความคิดสร้างสรรค์ มีความรู้และเข้าใจตนเอง
สามารถเลือกทำกิจกรรมทางเพศตามที่ตนพึงพอใจมากกว่าวัยที่ผ่านมา
รู้สึกคบหาสมาคมกับผู้อื่นอย่างแน่นเฟ้น
รู้สึกรับผิดชอบของตนเอง
ขั้นวัยผู้ใหญ่ (Adulthood)
อายุระหว่าง 20-30 ปี
เป็นวัยที่มีพัฒนาการทุกอย่างสมบูรณ์เต็มที่
สร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่น มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่
ระบบความเป็นตนเองถูกหล่อหลอมตั้งแต่วัยเด็กโดยบุคคลประเมินการตอบสนองของอื่นที่มีต่อตนในการมีสัมพันธภาพกับผู้อื่น
ได้รับการยอมรับ
มองสิ่งแว้ดล้อมในแง่ดี
trust
เต็มใจติดต่อสัมพันธภาพกับผู้อื่น
รู้สึกต่อตนเองในทางบวก
good me
ไม่ได้รับการยอมรับ
มองสิ่งแว้ดล้อมในแง่ร้าย
mistrust
รู้สึกต่อตนเองในทางลบ
bad me
ไม่ต้องการมีสัมพันธภาพกับผู้อื่นมี ปฏิเสธสัมพันธภาพ
not me
ผู้ก่อตั้งทฤษฎี
Harry Stack Sullivan
นางสาว นิภาภัทร์ เดชพิทักษ์ ห้อง2B เลขที่ 40 รหัสนักศึกษา 613601148