Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
:pen:ทฤษฎีของโอเร็ม :pen: - Coggle Diagram
:pen:
ทฤษฎีของโอเร็ม
:pen:
มโนทัศน์ทฤษฎีของโอเร็ม
:smiley:
เน้นเรื่อง การดูแลตนเองระดับบุคคลและความสามารถในการนำทฤษฎีไปประยุกต์ใช้ในการพยาบาลและใช้เป็นกรอบแนวคิดในการทำวิจัยทางการพยาบาลได้ อย่างเหมาะสม
โอเร็มอธิบายมโนทัศน์ ของการดูแลไว้ว่า “การดูแลตนเองเป็นการปฏิบัติ กิจกรรมท่ีบุคคลริเริ่มและกระทำเพื่อให้เกิด ประโยชน์แก่ตนเองในการดารงไว้ซึ่งชีวิต มีสุขภาพ และความเป็นอยู่ท่ีดี”
แนวคิดทฤษฎีของโอเร็มมี 6 มโนทัศน์หลัก
:smiley:
การดูแลตนเอง (self-care)
ความต้องการการดูแลตนเองทั้งหมด (therapeutic self-care demand)
ความสามารถในการดูแลตนเอง (self-care agency)
ความพร่องในการดูแลตนเอง (self-care deficit)
ความสามารถทาง การพยาบาล (nursing agency)
ปัจจัยเงื่อนไขพื้นฐาน (basic conditioning factors)
1.2 ความสามารถในการดูแลตนเอง :smiley: (self-care agency: SCA)
หมายถึง ความสามารถ ของบุคคลที่่จะทางานเพื่อตอบสนองความต้องการ การดูแลตนเองท้ังหมด ประกอบด้วย 2 ระดับ คือ
1.2.1 ความสามารถและคุณสมบัติ ขั้นพื้นฐาน (foundational capabilities and disposition)
เป็นความสามารถของมนุษย์ขั้นพื้นฐานที่จำเป็นใน
การรับรู้และเกิดการกระทำ ซึ่งแบ่งออกเป็น ความสามารถที่จะรู้ ความสามารถที่จะกระทำ และคุณสมบัติหรือปัจจัยที่มีผลต่อการแสวงหา เป้าหมายของการกระทำ เช่น ความสามารถและ ทักษะในการเรียนรู้ ความเข้าใจในตนเองตาม สภาพที่เป็นจริง
1.2.2 พลังความสามารถ 10 ประการ (ten power components) เป็นคุณลักษณะที่จ าเป็น และเฉพาะเจาะจง ประกอบด้วย
5) มีแรงจูงใจในการดูแลตนเอง
6) มีทักษะในการตัดสินใจ
4) ความสามารถที่จะใช้เหตุผล
7) มีความสามารถใน การแสวงหาความรู้การดูแลตนเองและนาไปใช้ได้
3) ความสามารถของร่างกายเพื่อ การเคลื่อนไหวที่จำเป็นเพื่อการดูแลตนเอง
8) มีทักษะในการใช้ความคิด
2) ความสามารถที่จะควบคุมพลังงาน ทางด้านร่างกาย
9) มีความสามารถใน การจัดระบบการดูแลตนเอง
1) ความสนใจและ เอาใจใส่ในตนเอง
10) มีความสามารถที่จะปฏิบัติการดูแลตนเองอย่างต่อเนื่อง
1.3 ความต้องการการดูแลตนเอง ทั้งหมด :smiley: (therapeutic self-care demand: TSCD)
เป็นกิจกรรมการดูแลตนเองทั้งหมดที่บุคคลควร ต้องกระทาในระยะเวลาใดเวลาหนึ่ง เพื่อ ตอบสนองความต้องการการดูแลท่ีจาเป็นของ ตนเอง เป้าหมายสูงสุดของการดูแลตนเอง
คือ ภาวะสุขภาพหรือความผาสุก กิจกรรมที่ต้อง กระทาทั้งหมดนี้จะทราบได้จากการพิจารณา การดูแลตนเองที่จาเป็น (self-care requisites: SCR) ซึ่งเป็นความตั้งใจหรือเป็นผลที่เกิดได้ทันทีหลัง การกระทาการดูแลตนเองท่ีจาเป็นมี 3 อย่าง คือ
1.3.1 การดูแลตนเองที่จำเป็นโดย ทั่วไป (universal self–care requisites: USCR) เป็นความต้องการของมนุษย์ทุกคนตามอายุ พัฒนาการสิ่งแวดล้อม และปัจจัยอื่น ๆ เพื่อให้ คงไว้ซึ่งโครงสร้างและหน้าที่สุขภาพและสวัสดิภาพ ของบุคคลและความผาสุก ซึ่งความต้องการมีความแตกต่างกันในแต่ละบุคคล
1.3.2 การดูแลตนเองที่จำเป็นตาม
พัฒนาการ (developmental self–care requisites: DSCR) เป็นการดูแลตนเองที่สัมพันธ์กับกระบวนการ พัฒนาการของชีวิตมนุษย์ในระยะต่างๆสามารถ แบ่งออกได้เป็น
2) ดูแลเพื่อป้องกันการเกิด ผลเสียต่อพัฒนาการ โดยจัดการบรรเทาเพื่อลด ความเครียดหรือเอาชนะผลที่เกิดจากภาวะวิกฤต
1) พัฒนาและคงไว้ซึ่งภาวะความ เป็นอยู่ที่ช่วยสนับสนุนกระบวนการของชีวิต และ พัฒนาการที่จะช่วยให้บุคคลเจริญก้าวสู่วุฒิภาวะ ตามระยะพัฒนาการ
1.3.3 ความต้องการการดูแลตนเอง ทื่จำเป็นในภาวะเบี่ยงเบนทางด้านสุขภาพ (health deviation self-care requisite: HDSCR) เป็นความ ต้องการที่สัมพันธ์กับความผิดปกติทางพันธุกรรม และความเบี่ยงเบนของโครงสร้างและหน้าที่ของ บุคคล และผลกระทบของความผิดปกติ ตลอดจนวิธีการวินิจฉัยโรคและการรักษา
1.3.4 ปัจจัยเงื่อนไขพื้นฐาน (basicconditioning factors: BCFs) เป็นปัจจัยภายในภายในและภายนอกของบุคคลที่มีอิทธิพลต่อความสามารถในการดูแลตนเองและความต้องการ การดูแลตนเองทั้งหมด 10 ประการ ได้แก่ อายุ เพศ ระยะพัฒนาการ ภาวะสุขภาพ ระบบบริการ สุขภาพ สังคม ขนบธรรมเนียมประเพณี ระบบ ครอบครัว แบบแผนการดาเนินชีวิต สิ่งแวดล้อม สภาพที่อยู่อาศัย และแหล่งประโยชน์ต่าง ๆ
1.1 ทฤษฎีการดูแลตนเอง (theory of self-care)
:smiley:
การดูแลตนเอง (self-care: SC)
ปฏิบัติกิจกรรมที่บุคคลริเริ่มและกระทำด้วยตนเองเพื่อดำรงไว้ซึ่งชีวิตสุขภาพและ ความผาสุก
3. ทฤษฎีระบบการพยาบาล (theory of nursing system)
:smiley:
กรอบแนวคิดเกี่ยวกับ การกระทาของพยาบาลเพื่อช่วยเหลือบุคคลที่มี ความพร่องในการดูแลตนเองให้ได้รับการตอบสนอง
ระบบทดแทนทั้งหมด (wholly compensatory) :
บทบาทของพยาบาลที่ กระทำทดแทนความสามารถของผู้ป่วยทั้งหมด
ระบบทดแทนบางส่วน(partly compensatory) :
พยาบาลจะช่วยผู้ป่วย สนองตอบต่อความต้องการการดูแลตนเองที่จำเป็น
ระบบสนับสนุนและให้ ความรู้ (education supportive) : เป็นระบบการพยาบาลที่จะเน้นให้ผู้ป่วยได้รับการสอนและคำแนะนำในการปฏิบัติการดูแลตนเอง
การสอน (teaching)
การสร้างสิ่งแวดล้อมที่ส่งเสริมการดูแลตนเอง (providing an environment)
การสนับสนุน (supporting)
การชี้แนะ (guiding)
1) การกระทำให้หรือกระทำแทน (acting for or doing for)
2. ทฤษฎีความพร่องในการดูแลตนเอง (theory of self–care deficit)
:smiley:
เมื่อความต้องการการดูแลตนเองมากกว่าความสามารถที่ตอบสนองได้ บุคคลน้ันจะมี ความบกพร่องในการดูแลตนเอง และต้องการ พยาบาลช่วยเหลือในการดูแล
ความสัมพันธ์ระหว่างความสามารถในการดูแล ตนเองและความต้องการการดูแลตนเองทั้งหมดใน ช่วงเวลาใดเวลาหน่ึง ซึ่งความสัมพันธ์ดังกล่าวมี 3 แบบ
1) ความต้องการที่สมดุล (TSCD = SCA)
3) ความต้องการมากกว่าความสามารถ (TSCD > SCA)
2) ความต้องการน้อยกว่าความสามารถ (TSCD < SCA)