Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลบุคคลที่มีภาวะวิกฤติทางอารมณ์ - Coggle Diagram
การพยาบาลบุคคลที่มีภาวะวิกฤติทางอารมณ์
ลักษณะเฉพาะของภาวะวิกฤติ (Crisis Characteristics)
ภาวะวิกฤติเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่ให้โอกาสบุคคลเลือกหนทางที่จะไปสู่พฤติกรรมที่เลวร้าย หรือพฤติกรรมการเผชิญปัญหาที่มีประสิทธิภาพเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น
ภาวะวิกฤติเชื่อว่าเป็นความจ่ากัดในตัวเองจะอยู่ได้นานเพียง 4-6 สัปดาห์ ถ้าไม่ได้รับการช่วยเหลือจะมีอันตรายทางจิตใจของบุคคล ฉะนั้นการช่วยเหลือจึงต้องช่วยอย่างเข้มแข็ง จริงจังและตั้งใจ และจะต้องช่วยให้ผู้อยู่ในภาวะวิกฤติมีความงอกงามทางบุคลิกภาพด้วย
ภาวะวิกฤติ (Crisis) หรือภาวะวิกฤติทางอารมณ์ (Emotional Crisis) หรือการเสียสมดุลทางอารมณ์ (Emotional disequilibrium) หมายถึง ภาวะที่บุคคลเผชิญปัญหาและแก้ไขปัญหานั้นไม่ได้ ท่าให้เกิดความเครียด กดดัน วิตกกังวล สิ้นหวัง ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้เหมือนเดิม
ความรู้สึกและปฏิกิริยาตอบสนองต่อภาวะวิกฤติ
มีความวิตกกังวล (Anxiety) ความวิตกกังวลเล็กน้อยสามารถช่วยให้บุคคลต่อต้านสิ่งคุกคามได้ แต่ถ้ามีความวิตกกังวลระดับสูง ก็จะท่าให้เกิดความสับสน เกิดความบิดเบือน การตัดสินใจเสีย การซักถามเพื่อหาทางตัดสินใจ ท่าไม่ได้ รู้สึกว่าตนพ่ายแพ้ อาการที่ปรากฏคือเขาจะบอกว่าเจ็บหน้าอก ปากแห้ง หัวใจเต้นเร็ว เหงื่อออก วิงเวียน ถ้าวิตกกังวลขั้นรุนแรงจะเกิดการสับสนอย่างหนักและไม่สามารถแยกแยะได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
มีความรู้สึกหมดหนทาง (Helplessness) เมื่อบุคคลประสบภาวะวิกฤติและได้ใช้ทักษะการเผชิญปัญหาไม่ได้ผล เขาก็จะพยายามท่าอะไรๆต่อไป จนถึงจุดหนึ่ง บุคคลจะรู้สึกหมดหนทางซึ่งจะท่าให้เกิดความเศร้าชนิดอ่อนๆ มักจะร้องไห้ง่าย ถ้ามีความรู้สึกรุนแรงมากขึ้นก็จะรู้สึกหมดหวัง ไม่มีคุณค่า บุคคลจะมีอารมณ์ไม่คงที่ ไม่มีสมาธิ ท่างานไม่ได้แม้กระทั่งงานบ้านที่เคยท่า ถ้าผู้ปุวยเศร้าต้องช่วยเรื่องความเศร้าเพราะผู้ปุวยอาจพยายามฆ่าตัวตาย
มีความรู้สึกผิดและละอาย (Guilt and shame) ความรู้สึกเช่นนี้ อาจเกิดขึ้นได้ในภาวะวิกฤติเพราะคนเราถูกสอนให้ดูแลตนเองดังค่าที่ว่า “ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน” และมีอ่านาจท่าอะไรต่างๆด้วยตนเอง จึงอาจพบบุคคลที่อยู่ในภาวะวิกฤติ บางคนเกิดความรู้สึกผิดและละอาย
ความโกรธ (Anger) เป็นความรู้สึกอีกแบบหนึ่งที่พบเห็นได้บ่อยในบุคคลที่อยู่ในภาวะวิกฤติ ความโกรธอาจจะแสดงออกต่อบุคคลอื่นหรือหันเข้าตัวเอง ผู้ปุวยจะรู้สึกเจ็บใจ และฉุนโกรธได้ง่ายแม้ในเหตุการณ์เล็กๆน้อยๆ ถ้าโกรธขั้นรุนแรงก็อาจจะมองว่าคนอื่นแสดงการท้าทายให้ผู้ปุวยต่อสู้ ความโกรธแสดงออกแบบดุร้าย มีอารมณ์พุ่งพล่าน ท่าอะไรรุนแรงไม่ได้สัดส่วนกับเหตุการณ์ อาจพยายามท่าร้ายผู้อื่น ผู้ปุวยอาจแสดงความโกรธพยาบาลก็ได้ ที่ส่าคัญคือ ต้องจ่าไว้ว่าผู้ปุวยมีโทสะอัดอั้นอยู่ภายในมากมาย และควรต้องได้รับการค้่าจุนให้เขาได้เรียนรู้การแสดงความโกรธออกอย่างเหมาะสม
ความลังเล (Ambivalence) ผู้ปุวยจะมีความลังเลระหว่างความรู้สึกที่ต้องการจะช่วยตัวเองและท่านองเดียวกันต้องการให้คนอื่นช่วยเหลือ ผู้ปุวยอาจจะพยายามควบคุมความรู้สึกและพฤติกรรมของตนเอง แต่ก็อาจจะแสดงให้เห็นว่าบางครั้งควบคุมความรู้สึกไม่ได้ แก้ปัญหาเองไม่ได้ทั้งๆ ที่อยากจะช่วยตัวเอง พยาบาลต้องสังเกต และไม่แปลพฤติกรรมผิด และอาจจะเสนอข้อแก้ไขให้ผู้ปุวยเลือกเพื่อดูแลช่วยเหลือตนเอง
ประเภทของภาวะวิกฤติ (Classification of Crisis)
พัฒนาการวิกฤติหรือวัยวิกฤติ (Maturation crisis) หมายถึงเหตุการณ์วิกฤติที่เกิดขึ้นตามช่วงวัยต่างๆของกระบวนการเจริญเติบโต
ภาวะวิกฤติจากภัยพิบัติธรรมชาติ (Adventitious crisis) เช่น ไฟไหม้บ้าน อุทกภัย แผ่นดินไหวหรือเกิดสึนามิ การเกิดสงคราม
สถานการณ์วิกฤติ (Situational crisis) เกิดขึ้นเมื่อเหตุการณ์ภายนอกท่าให้อารมณ์ไม่ดีเสียความสมดุลของจิตใจ
ลาดับขั้นตอนของภาวะวิกฤติ (crisis sequence)
ระยะวิกฤติ (Crisis period) เมื่อบุคคลพบว่าตนเองอยู่ในภาวะวิกฤติก็จะท่าอะไรสับสนยุ่งเหยิง (disorganization) จะแสดงความวิตกกังวลออกมา
ระยะหลังภาวะวิกฤติ ระยะนี้หากบุคคลสามารถปรับตัวให้ผ่านพ้นไปได้ บุคคลก็จะเกิดประสบการณ์ในการปรับตัวเพิ่มมากขึ้น สามารถเข้าใจชีวิตมากขึ้น และเรียนรู้กลวิธีในการเผชิญปัญหาของตนเอง แต่หากบุคคลไม่สามารถรับรู้เหตุการณ์ได้ตามความเป็นจริง
ระยะก่อนวิกฤติ (Precrisis period) บุคคลไม่มีความเครียดทั้งทางร่างกายและอารมณ์ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงหรือมีเหตุการณ์ที่ส่าคัญเกิดขึ้นและบุคคลเห็นว่าเป็นเหตุการณ์เครียดมากจนไม่สามารถแก้ปัญหาได้ และเหตุการณ์ที่เกิดเป็นสิ่งคุกคามต่อชีวิต
การพยาบาลบุคคลที่มีภาวะวิกฤติ
ลดหรือปูองกันอาการและอาการแสดงทางกาย ที่เป็นผลมาจากภาวะวิกฤติ โดย ประเมินอาการและอาการแสดงทางกายที่เพิ่มขึ้นและสัมพันธ์กับภาวะวิกฤติ
สอนและฝึกทักษะในการเผชิญปัญหา เพื่อปรับบุคลิกภาพให้เข้มแข็งมากขึ้น เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์วิกฤติของชีวิต
การลดความเครียดที่มีต่อภาวะวิกฤติ โดย สร้างสัมพันธภาพแบบ 1:1 เพื่อให้เกิดความไว้วางใจในตัวพยาบาล เปิดโอกาสให้ระบายความรู้สึก
ส่งเสริมการแสวงหาแหล่งสนับสนุนช่วยเหลือ และเตรียมความพร้อมแหล่งสนับสนุนช่วยเหลือทางสังคมของผู้ปุวยให้เพียงพอและเหมาะสม