Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

ทฤษฎีทางการพยาบาล - Coggle Diagram

- - - - คน: เป็นองค์รวมที่มีความต้องการด้านชีวะ จิต และสังคม มนุษย์ต้องมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลและสิ่งแวดล้อม และมีบทบาทหน้าที่ในสังคม การรับรู้ของบุคคลทั้งภายในและภายนอกมีผลกระทบต่อกระบวนการปฏิสัมพันธ์
        
        บุคคลเป็นส่วนหนึ่งของสังคม
        
        ทุกคนมีความนึกคิด มีความรู้สึกเป็นของตนเอง
        
        ทุกคนมีเหตุผลของตนเอง
        
        บุคคลเป็นผู้มีการรับรู้
        
        มีความสามารถที่จะแสดงความโต้ตอบ(React)ตามการรับรู้ของตนเอง
        
        มีความสามารถที่จะวางเป้าหมายในการกระทำสิ่งต่างๆ
        
        มีความสามารถที่จะกระทำสิ่งต่างๆ(Action-oriented being)
        
        มีความสามารถที่จะตัดสินใจและควบคุมตนเองได้
        
        ทุกคนมีเวลาในเรื่องต่างๆที่เหมาะสมเฉพาะของตนเอง
  - - - การรับรู้(Perception)
      - อัตตาตัวตน(Self)
      - ภาพลักษณ์(Body image)
      - การเจริญเติบโตและพัฒนาการ(Growth and development)
      - เวลา(Time)
      - อาณาบริเวณ(spaace)
    - - การมีปฏิสัมพันธ์(Interaction)
      - การติดต่อสื่อสาร(Communication)
      - การบรรลุเป้าหมายของการปฏิสัมพันธ์(Transaction)
      - บทบาท(Role)
      - ความเครียด(Stress)
    - - ระบบสังคมทั่วไป
      - ระบบบริการสุขภาพ
      - ปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ใช้บริการกับพยาบาล
  - - - การติดต่อสื่อสาร
      - ขั้นตอนของการสร้างสัมพันธภาพ
      - มีการแลกเปลี่ยนการรับรู้ระหว่างพยาบาลและผู้รับบริการ
    - - ขั้นตอนการร่วมกำหนดเป้าหมาย
      - แสวงหาวิธีปฏิบัติ
      - ยอมรับวิธีปฏิบัติร่วมกัน
    - - พยาบาลมีหน้าที่ปฏิบัติบทบาทของพยาบาล
      - ผู้รับบริการปฏิบัติตามกิจกรรมที่ตกลงร่วมกัน
    - - ช่วยกันหาวิธีขจัดอุปสรรค
      - ประเมินผลการปฏิบัติว่าสำเร็จ
        ตามเป้าหมายที่กำหนดร่วมกันหรือไม่
- - - - ผู้ป่วย ญาติ และพยาบาลร่วมกันค้นหาปัญหาที่แท้จริงของผู้ป่วย
      - ผู้ป่วยเข้าใจปัญหาที่แท้จริงของตน
      - ผู้ป่วย ญาติ และพยาบาลตัดสินใจร่วมกันเกี่ยวกับความช่วยเหลือและบริการที่ต้องการจากทีมสุขภาพ (Collaborative process)
      - ผู้ป่วย ญาติ และพยาบาลวางแผนร่วมกันเกี่ยวกับความช่วยเหลือและบริการที่ต้องการ
    - - ผู้ป่วยเข้าใจปัญหา ความช่วยเหลือ และบริการที่ต้องการโดยผู้ป่วยมีการตอบสนองต่อผู้ที่สามารถช่วยเขาแก้ปัญหาได้ 3 รูปแบบ
        
        Interdependence
        
        Independence
        
        Dependence
    - - ผู้ป่วยเรียนรู้ถึงบริการที่มีอยู่สําหรับเขารวมถึงช่องทางต่างๆที่นําไปสู่การเปลี่ยนแปลง
      - ผู้ป่วยใช้ประโยชน์จากแหล่งช่วยเหลือและบริการที่มี
      - พยาบาลช่วยผู้ป่วยให้สามารถพึ่งตนเองในการปฏิบัติให้ถึงเป้าหมายและค่อยๆลดการใช้ประโยชน์จากแหล่งช่วยเหลือ
    - - ปัญหาและความต้องการของผู้ป่วยได้รับการตอบสนองผ่าน Collaborative effortsของผู้ป่วยและพยาบาล
      - ผู้ป่วยและพยาบาลเกิดการพัฒนาและเติบโตขึ้น
      - ผู้ป่วยและพยาบาลยุติสัมพันธภาพเพื่อการบําบัด
- - - - 1.) การดูแลตนเอง (Self-Care : SC) การปฏิบัติกิจกรรมที่บุคคลริเริ่มและกระทำด้วยตนเองเพื่อดำรงไว้ซึ่งชีวิตสุขภาพและความผาสุก
      - 2.)ความสามารถในการดูแลตนเอง (Self-Care Agency :SCR )คุณสมบัติที่ Support หรือพลังงานความสามารถของบุคคลที่อู้ต่อการกระทำกิจกรรมการดูแลตนเองอย่างจงใจ
      - 3.) ความต้องการการดูแลตนเองทั้งหมด (Therapeutic Self-care Demand :TSCD การปฏิบัติกิจกรรมการดูแลตนเองทั้งหมดที่จำเป็นต้องกระทำในช่วงเวลาหนึ่งเพื่อสนองต่อความจำเป็นในการดูแลตนเอง
      - 4.) ปัจจัยพื้นฐาน ( Basic Conditioning Factors :BCFs) ปัจจัยทั้งภายในและภายนอกของบุคคลที่มีอิทธิพลต่อความสามารถในการดูแลตนเอง อายุ ,เพศระยะพัฒนาการ
    - - 1.ความต้องการที่สมดุล (Demand is equal to abilities : TSCD =SCA)
      - 2.ความต้องการน้อยกว่าความสามารถ (Demand is less than abilities : TSCD <SCA)
      - 3.ความต้องการมากกว่าความสามารถ (Demand is greater than abilities : TSCD>SCA)
    - - เป็นทฤษฎีที่นำไปสู่การสร้างรูปแบบการพยาบาลและความสัมพันธ์ ระหว่างผู้ป่วยและลักษณะของการพยาบาล
      - แนวคิดหลักของทฤษฎีนี้คือการกระทำทั้งหมดที่ประกอบเป็นระบบการพยาบาล (Nursing systems)
      - เกิดขึ้นเพื่อให้บริการแก่ ผู้ป่วย ครอบครัว และกลุ่มบุคคลที่มีข้อจำกัดในการดูแลตนเอง หรือดูแลบุคคลที่อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบโดยใช้ความสามารถทางการพยาบาล (Nursing agency )
  - - - โอเร็มเชื่อว่าบุคคลเป็นผู้ที่มีความรับผิดชอบต่อตนเองอย่างจงใจ
      - Deliberate action มีความสามารถในการเรียนรู้และวางแผนในการดูแลตนเองและบุคคล
        มีลักษณะเป็นองคนรวม
      - ทำหน้าที่ทางด้านชีวภาพสังคมและเป็นระบบอยู่เปิดทำให้บุคคลมีความเป็นพลวัตร คือ
        เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
    - - สิ่งแวดล้อมในแนวคิดของโอเร็ม หมายถึง สิ่งที่ไม่สามารถแยกจากบอกมันได้
      - สิ่งแวดล้อมจะมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลตลอดเวลา
      - สิ่งแวดล้อมอาจมีผลกระทบทั้งทางบวกและทางลบต่อชีวิตสุขภาพความผาสุกของบุคคล
        และครอบครัวชุมชน
    - - โอเร็ม กล่าวถึงการพยาบาลว่าเป็น การช่วยเหลือทางสุขภาพที่มีลักษณะที่เฉพาะที่แตกต่างจากการช่วยเหลืออื่นๆ
      - เป็นการกระทำที่มีเป้าหมายและเจาะจงเพื่อช่วยเหลือบุคคลที่ไม่สามารถดูแลตนเองหรือผู้ที่อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบอันเนื่องมาจากสุขภาพ
      - เพื่อให้สามารถดูแลตนเองภายใต้ความรับผิดชอบได้อย่างเพียงพอและต่อเนื่อง
    - - โอเร็ม กล่าวว่า สุขภาพเป็นภาวะที่มีความสมบูรณ์ของโครงสร้างการทำหน้าที่ของกายและจิต
      - ความผาสุก (Well being ) เป็นการรับรู้ถึงภาวะของตนเองมีลักษณะของความสุขทางจิตวิญญาณโดยสามารถคงสภาพความเป็นบุคคลไว้ได้
- - - - 2.1) อัตมโนทัศน์ด้านร่างกาย (Physical self) การรับความรู้สึกของร่างกาย (Body sensation) ภาพลักษณ์ (Body image)
      - 2.2) อัตมโนทศัน์ด้านส่วนบุคคล(Personal self) ความมั่นคงในตนเอง (Self-consistency) อุดมคติแห่งตน (Self-idea) ศีลธรรม จรรยา และจิตวิญญาณแห่งตน (Moral-ethical-spiritual self)
    - - 3.1) บทบาทปฐมภูมิ (Primary role)
        บทบาททุติยภูมิ (Secondary role) บทบาทุตติยภูมิ (Tertiary role)
      - 3.2) ไม่สามารถปรับเปลี่ยนบทบาท การห่างในบทบาท (Role distance) ความขัดแย้งในบทบาท (Role conflict) ความล้มเหลวในบทบาท (Role failure)
    - - 4.1) บุคคลที่มีความสำคัญ (Significant others)
      - 4.2) ระบบสนับสนุน (Support systems)