Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
โรคขาดวิตามิน - Coggle Diagram
โรคขาดวิตามิน
-
-
วิตามินบี 2
มุมปากเปื่อยที่เรียกว่าปากนกกระจอก (angular stomatitis)ปวดแสบในปาก ลิ้น ก้น ลิ้น ก้น ตามองไม่ชัด คันตา มองแสงจ้าไม่ได ถ้าขาดมากเป็นต้อกระจก
-
-
วิตามินบี 6
ริมฝีปากแห้งแตก ปากอักเสบ ซึมเศร้า สับสน มีอาการทางประสาท และอาจมีอาการโลหิตจางคลื่นไส้ อาเจียนบ่อยๆ และอาจเวียนศีรษะ อ่อนเพลีย
ชัก ปลายประสาทอักเสบ มีผื่นตามผิวหนังที่เรียกว่า seborrheic dermatosis, ปากอักเสบ glossitis, ปากนกกระจอก cheilosis เม็ดเลือดขาวต่ำ
-
-
วิตามินอี
มักพบจากความผิดปกติในการดูดซึมไขมันน้อยกว่าปกติ เช่น การทำงานของตับ ตับอ่อน และลำไส้ผิดปกติ หรือมีโรคทางพันธุกรรม
-
-
วิตามินดี
ป็นส่วนสำคัญในการสร้างและซ่อมแซมกระดูกและฟัน เพราะมันจะช่วยทำให้กระบวนการทำงานของแคลเซียมเป็นไปอย่างสมบูรณ์
วิตามินดี 2 ได้มาจากอาหารประเภทพืช เช่น เห็ด ยีสต์ วิตามินดี 3 (cholecalciferol) ได้มามากจาก 2 ทาง คือ จากการรับประทานอาหารประเภทเนื้อสัตว์ ตับ ไข่แดง น้ำมันตับปลา ปลาที่มีไขมันสูง นมและผลิตภัณฑ์จากนม และ ร่างกายสามารถสร้างวิตามินดี 3 ได้เองโดยการสัมผัสกับแสงแดดอ่อนๆ
เกิดโรคกระดูกน่วม (Osteomalacia) โรคกระดูกอ่อนในเด็ก (Rickets) การขาดวิตามินดียังสัมพันธ์กับการเกิดโรคกระดูกพรุน (Osteoporosis) เพิ่มความเสี่ยงต่อการพลัดตกหกล้ม และอาจทำให้กระดูกหักได้
ภาวะเลือดจางจากขาดโฟเลต
ทารกแรกเกิดปริมาณโฟเลตจะลดลงจนอายุ 2 สัปดาห์ หญิงที่เตรียมตั้งครรภ์ควรรับประทาน Folic Acid วันละ 1 เม็ด ก่อนการตั้งครรภ์ 3 ดือน การต้มการฆ่าเชื้อนมปริมาณโฟเลตจะลดลง
-