Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่6 ระบบทางเดินหายใจในเด็ก - Coggle Diagram
บทที่6 ระบบทางเดินหายใจในเด็ก
หน้าที่ แลกเปลี่ยนแก๊สเพื่อนำo2ไปใช้ในกระบวนการแมตาบอลิซึมและขับco2
โครงสร้าง
ทางเดินหายใจส่วนบน(Upper respiratory tract:URI):จมูก หลอดคอ หลอดอาหาร
ทางเดินหายใจส่วนล่าง(Lower respiratory tract:LRI)กล่องเสียง ปอด ถุงลม
สาเหตุที่เด็กเกิดโรคติดเชื้อที่ทางเดินหายใจมากกว่าผู้ใหญ่
ลิ้นเด็กมีขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับช่องปาก
ทารกและเด็กเล็กจะมีท่อทางเดินหายใจเล็กและสั้นถ้ามีการติดเชื้ออาการจะรุนแรงกว่าผู้ใหญ่
มีถุงลมน้อยกว่าผู้ใหญ่ทำให้มีพื้นที่แลกเปลี่ยนแก็สน้อยกว่าเมื่อติดเชื้อล่างจะทำให้ปอดแฟ้บง่ายกว่า
ท่อยูสเตเชียน ขนาดเล็กเมื่อติดเชื้อมีโอกาศหูชั้นกลางอักเสบได้ง่าย
Mucous gland มีการหลั่งเมือกมากแต่ไม่มีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการอุดตัน
เด็กต้องการo2 ในการเผาผลาญมากจึงหายใจเร็ว
ต่ำกว่า 6เดือนหายใจทางจมูกอย่างเดียว
การประเมินภาวะสุขภาพ
การซักประวัติ
อาการสำคัญที่ต้องมาโรงพยาบาล
ประวัติการเจ็บป่วยในปัจจุบัน
ช่วงเวลที่เกิดอาการ
ปัจจัยที่ทำให้อาการดีขึ้น/ทรุดลง
อาการที่พบร่วมด้วย
ประวัติการรักษา
ประวัติการเจ็บป่วยในครอบครัว
ซักประวัติเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ
อาการไอ(Cough)
ไอมีเสหะ
ไอแห้ง
acute cough ไอไม่เกิน 2 wk chronic cough ไอนานเกิน 4wk
ลักษณะเสมหะ ปริมาณ กลิ่น สี
หายใจลำบาก
ลักษณะอาการ ความรุนแรง
ช่วงเวลา
อาการร่วมอื่นๆ
อาการเขียวปลายมือปลายเท้าไม่รุนแรงเท่าปาก ลิ้น เจ็บหน้าอก
ไอเป็นเลือด แดงสดมีฟองเลือดจากปอด สีแดงคล้ำไม่มีฟองเลือดจากกระเพาะ
การตรวจร่างกาย
การดู/สังเกต ควรให้ผป.ถอดเสื้อเพื่อดูลักษณะการหายใจและรูปร่างทรวงอก การสังเกตการพูด
การนับอัตราการหายใจ ขึ้นอยู่กับอายุและactivity การรู้สึก การนอนหลับ ความวิตกกังวล ไข้ทำให้อัตราการหายใจเพิ่ม 5-7ครั้ง/นาที /องศา
ลักษณะการหายใจ เด็กปกติจะหายใจสม่ำเสมอ หายใจเข้าสั้นกว่าหายใจออก ในทารกI:E=1:1.5-1:2 ผนังอกขยับทางเดียวกัน ไม่มีการใช้กล้ามเนื้อเสริมในการหายใจ
ลักษณะการหายใจที่ผิดปกติ
Apnea หยุดหายใจนานเกิน 15วินาที มี Bradycadia cyanosis ร่วมด้วย
CSR หายใจไม่สม่ำเสมอ ลึกเร็วขึ้นเรื่อยๆ หลังจากนั้นหายใจช้าและตื้น พบในผู้ป่วยค.ดันกะโหลกสูงรุนแรง
Biot respiration ลักษณะการหายใจไม่สม่ำเสมอ ในช่วงการหายใจ มีช่วงหยุดหายใจเป็นระยะ ผป.มีการถูกทำลายสมอง สูญเสียการควบคุมการหายใจ
Kussmuaul breathing หายใจช้าลึก พบใน metabolic acidosis
apneusis การหายใจที่มีหยุดหายใจเป็นระยะๆ
paradoxical breathing เด็กโตตอนตื่น intercostal muscle palalysis หรือกล้ามเนื้อหายใจอ่อนแรงเข้าสู่ภาวะหายใจล้มเหลว ในขณะหลับOSA
WHO วินิจฉัยภาวะหายใจเร็วในผป.เด็กที่เป็นปอดอักเสบ
น้อยกว่า 2เดือน RRมากกว่าเท่ากับ60ครั้ง/นาที
อายุ2เดือน-1ปี อัตราการหายใจมากกว่าเท่ากับ50ครั้ง/นาที
อายุ1-5ปี อัตราการหายใจมากกว่า 40ครั้ง/นาที
การตรวจรูปร่างทรวงอกที่มีความผิดปกติ
Barrel shaped chest อกเท่ากัน เรียก อกถังเบียร์พบในผู้ป่วยCOPD
Pectus excavacum (Funel chest ) อกบุ๋ม ตรงsternum พบในทารกที่เป็น BPD
Harrison grove พบในผู้ป่วยที่มีsubcostal retraction เรื้อรัง
การฟัง
เสียงที่ผิดปกติต่อเนื่อง
stridor ได้ยินโดยไม่ต้องใช้หูฟังเกิดจากเสียงลมที่วิ่งผ่านกล่องเสียงและหลอดลมส่วนต้น ถ้าได้ยินชัดหายใจเข้า นึกถึง viral croup หายใจออกนึกถึงภาวะ subglottic stenosis
rhonhi ลมผ่านหลอดลมที่ตีบแคบกว่าปกติ เกิดจากการเกร็ง เสมหะ เยื่อบุหลอดลมบวม
wheeze ได้ยินชัดเมื่อหายใจออก พบเมื่อผู้ป่วยหอบหืด มีสิ่งแปลกปลอมอุดกั้น
เสียงผิดปกติเป็นช่วงๆ
crepitation(crackels/rales)ลมวิ่งผ่านหลอดลม ถุงลมแฟ้บ find crakig sound ลมไหลผ่านถุงมีน้ำข้างในได้ยินช่วงหายใจเข้า หลังจากไอเสียงไม่ลด medium bubing sound มีน้ำขวางในหลอดลมใหญ่ coarse ได้ยินทั้งหายใจเข้า หายใจออกบางครั้งหลังไอเสียงจะลด
grunting ได้ยินช่วงหายใจออก ทำให้เกิดPEEPให้ FRCเพิ่ม
snoring เสียงกรน มักได้ยินขณะหลับ พบได้เกี่ยวกับโรคต่อมทอมซิน โรคอ้วน ความผิดปกติรปส.ชนิดกล้ามเนื้ออ่อนแรง
pleural friction rub เกิดจากการเสียดสีกันของเยื่อหุ้มปอดที่มีการอักเสบ ได้ยินระยะสั้นๆ ปลายช่วงหายใจเข้า และตลอดช่วงหายใจออก มักได้ยินpleuric chest painถ้ามีน้ำเสียงจะหายไป
URIติดเชื้อระบบทางเดินหายใจส่วนบน
หลอดคออักเสบ(pharyngitis)เกิดการติดเชื้อที่บริเวณคอ เนื้อเยื่อรอบๆ ต่อมน้ำเหลือง ต่อมทอมซิล
อาการ อาการแสดง อาการจะค่อยเป็นค่อยไป ไข้ต่ำๆ เบื่ออาหาร ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เจ็บคอ ไอ ตาแดง ต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอโต ทอมซิลอักเสบ WBC ไม่สูงอาการของโรคไม่เกิน5วัน ถ้าติดเชื้อแบคทีเรียจะมีอาการรุนแรงกว่าไวรัส
การวินิจฉัย จากการซักประวัติ ตรวจร่างกาย อาการอาการแสดง ตรวจพบไวรัสคอแดงมากต่อมทอมซิลโต กดเจ็บ ถ้าติดเชื้อพบแผ่นหนองที่ตอมทอมซิล
ภาวะแทรกซ้อน ถ้าเกิดจากแบคทีเรียจะทำให้ ไซนัสอักเสบ หูชั้นกลางอักเสบ ปอดอักเสบ
รักษาแบบจำเพาะคือ ให้ยาปฎิชีวนะ ให้pennicillin หรือ amoxycilinนาน10วันวันละ 3ครั้ง Benzathine IM ครั้งเดียวในเด็กอายุน้อยกว่า5ปีถ้าแพ้ เพนนิซิลินให้ Erythromycin แทน รักษาตามอาการ เช็ดตัวลดไข้ พักผ่อน กินอาหารอ่อน
ทอนซิลอักเสบ(Tonsillitis)
อาการอาการแสดง มักเกิดร่วมกับหลอดคออักเสบ ถ้าเฉียบพลัน เด็กจะมีอาการปวดศรีษะมีไข้ กินข้าวไม่ได่้ ต่อมทอมซิลโตมีหนองกดเจ็บอาการปวดน้อยกว่าไซนัสอักเสบเฉียบพลัน
เชื้ออาจลุกลามไปบริเวณใกล้เคียง เกิดข้ออักเสบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ไข้รูมาติกซ์ มักเกิดหลังทอมมซิลอักเสบ 1-4wk
การรักษา ให้ยาและผ่าตัดขึ้นอยู่กับอาการและความรุนแรง เกิดจากเชื้อไวรัสส่วนใหญ่รักษาตามอาการให้ยาลดไข้ จากแบคทีเรียให้ยาปฎิชีวิวะ ถ้าเป็นทอมซิลอักเสบเรื้อรังต้องผ่าตัดมักทำเมื่อเด็กอายุมากกว่า5ปี
ไซนัสอักเสบหรือโพรงจมูกอักเสบ(Sinusitis/rhonosinusitis)
ไซนัสอักเสบเฉียบพลันมักพบหลังมีการติดเชื้อไวรัสระบบทางเดินหายใจส่วนบน โดยเฉพาะในเด็กเป็นหวักนานมักดีขึ้นถ้าไข้หวัดหาย เรื้อรังมักเป็น Allergic rhinitis หรือหูชั้นกลางอักเสบ
เด็กมักเกิดตามหลังไข้ 3-5 วัน จะเป็นไซนัสอักเสบต้องมีไข้หวัดรุนแรงเรื้อรังนาน10วัน ไข้สูงมากกว่า39 องศาบวมรอบตา มักไอตอนกลางคืนเพราะหนองไหลลงคอ น้ำมูกเขียว x-rayไซนัสทึบและน้ำหนองในโพรง
การรักษา ให้ยาพวกแอนติฮิสตามีน ยาลดบวม เพื่อลดการคั่งของเลือดเยื่อบุจมูกเพื่อเปิดรูไซนัส ใช้ความร้อนประคบ เพื่อบรรเทาความปวด และระบายน้ำหนอง
หูชั้นกลางอักเสบ(Otitis media) พบมากในเด็กที่เป็นโรคภูมิแพ้และเพดานโหว่ พบมากในเด็ก 6-20เดือน มักเป็นในฤดู
แบ่งออกเป็น2ชนิด หูชั้นกลางอักเสบเฉียบพลันAOM มีน้ำหูชั้นกลางออกมาทันที มักหายเองภายใน7-10วัน หูชั้นกลางอักเสบร่วมกับมีน้ำOME มีของเหลวโดยไม่ติดเชื้อ อาจเกิดตามหลังAOM หายเองได้ไม่ต้องให้ยา
อาการอาการแสดง มักมีอาการตามหลังไข้ในเด็กทารกอาจไม่ชี้เฉพาะ มีไข้ต่ำๆ ร้องกวน ดึงหูบ่อย ส่ายหน้า ส่องหูแก้วหูแดงขุ่น หรือโป่งออกอาจมีน้ำหรือหนองขังอยู่หลังเยื่อแก้วหู กดเจ็บกระดูกแมสตอย มีของเหลวไหลออกจากรูหู
การรักษาขึ้นอยู่กับระยะการอักเสบ ส่วนใหญ่ให้ยาปฎิชีวนะ ยาลดบวม แอนติฮิสตามีน รักษาตามอาการ ให้ยาลดไข้ เช็ดตัวลดไข้
กลุ่มอาการครูป LTB
เกิดการอักเสบบวม กล่องเสียง หลอดคอ หลอดลมใหญ่ หลอดลมเล็ก
อาการและอาการแสดง กล่องเสียงมักมีส่วนเกี่ยวข้องมากที่สุด ความรุนแรงขึ้นอยู่กับเสียงและการหายใจ เริ่มด้วยการติดเชื้อในURI มีไข้ต่ำๆ มีน้ำมูกหลายวัน แล้วเริ่มมีอาการครูปช่วงกลางคืน ไอเสียงก้อง หายใจเสียงดัง stridorชัดเจนตอนหายใจเข้า เสียงแหบ หายใจมากกว่า60ครั้ง/นาที HRมากกว่า160bpm กระสับกระส่าย เขียว อาการจะอยู่ 24-36hrหลังจากนั้นจะดีขึ้น
การรักษาที่สำคัญ ลดการอุดการทางเดินหายใจ โดยให้ยาปฎิชีวนะที่เหมาะสม การให้o2 และละอองฝอย
อาการไม่รุนแรง ไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล ดื่มน้ำมากๆ อาจให้ยาแก้ไอขับเสมหะหรือขยายหลอดลม
อาการปานกลาง-รุนแรง ต้องนอนโรงพยาบาลเฝ้าอาการอย่างใกล้ชิด ให้ออกซิเจนเมื่อจำเป็น รบกวนผู้ป่วยน้อยที่สุด ถ้ามีการอุดกั้นทางเดินหายใจมากให้ฉีด dexamethasone IM หรือพ่น adrenaline ถ้ายังไม่ดี พิจารณาใส่ Tube เจาะคอ