Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 1 แนวคิดและหลักการการดูแลมารดาทารก ที่มีภาวะเสี่ยงและมีปัญหาสุขภาพ…
บทที่ 1
แนวคิดและหลักการการดูแลมารดาทารก
ที่มีภาวะเสี่ยงและมีปัญหาสุขภาพ
มโนทัศน์
มารดาทารกที่มีภาวะเสี่ยงและมีปัญหาสุขภาพหมายถึง ภาวะที่ทำให้หญิงที่ตั้งครรภ์และบุตร มีโอกาสได้รับอันตรายและมีโอกาสตายสูงทั้งในระยะตั้งครรภ์ ระยะคลอด และระยะหลังคลอด
มารดาทารกที่มีภาวะเสี่ยงและมีปัญหาสุขภาพทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ 2 แบบ
ความผิดปกติที่มีผลต่อการตั้งครรภ์ หมายถึง โรคหรืออาการนั้นๆ จะทำให้การตั้งครรภ์เปลี่ยนแปลงไปจากปกติ
ผลต่อทารก ทำให้ทารกตายในครรภ์ ตายคลอดหรือมีน้ำหนักผิดปกติ และทารกมีอันตรายจากการคลอด
ผลต่อการตั้งครรภ์ ทำให้เกิดการแท้งบุตร การคลอดก่อนกำหนด
ผลต่อการคลอดและหลังคลอด ทำให้ต้องใช้หัตถการ เช่น การช่วยคลอดโดยใช้คีม
การตั้งครรภ์ที่มีผลต่อภาวะผิดปกติ การเปลี่ยนแปลงในระหว่างการตั้งครรภ์ที่มีผลทำให้เกิดภาวะผิดปกติได้ง่ายหรือรุนแรงขึ้น
การเปลี่ยนแปลงของระบบทางเดินปัสสาวะ
การเปลี่ยนแปลงของโลหิต
การเปลี่ยนแปลงของระบบต่อมไร้ท่อ
การเปลี่ยนแปลงของระบบหมุนเวียนโลหิตและหัวใจ
การเปลี่ยนแปลงของระบบทางเดินหายใจ
กระบวนการพยาบาล
มีขั้นตอน คือ การเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อการประเมินภาวะสุขภาพ การวินิจฉัยการพยาบาล การวางแผนการพยาบาล การปฏิบัติการพยาบาล และการประเมินผลการพยาบาล
ขั้นตอนของกระบวนการพยาบาลในการดูแลมารดาทารกที่มีภาวะเสี่ยงและมีปัญหาสุขภาพ
ขั้นตอนที่ 1 ประเมินภาวะสุขภาพ
การเก็บรวบรวมข้อมูล
การจัดระบบข้อมูล
การวิเคราะห์และการแปลผล
ขั้นที่ 2 การวินิจฉัยการพยาบาล
เป็นการระบุถึงภาวะสุขภาพหรือปัญหาของผู้รับบริการที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน และอาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต
ขั้นที่3 การวางแผนการพยาบาล
จัดลำดับข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
กำหนดเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์การพยาบาล
การกำหนดกิจกรรมการพยาบาล
การกำหนดเกณฑ์การประเมินผล
ขั้นที่ 4 การปฏิบัติการพยาบาล
ตรวจสอบแผนการพยาบาล
ปฏิบัติการพยาบาล
การบันทึกการพยาบาล
ขั้นที่ 5 การประเมินผลการพยาบาล
ประเมินคุณภาพการปฏิบัติการพยาบาลว่า ปัญหาสุขภาพ บรรลุตามจุดมุ่งหมายหรือไม่
บทบาทพยาบาล
บทบาทผู้ประเมินปัญหาและวางแผนการพยาบาล
บทบาทผู้ให้การดูแล
บทบาทผู้สอน
บทบาทผู้ให้คำปรึกษา
บทบาทผู้ประสานงาน
บทบาทผู้เปลี่ยนแปลง
บทบาทด้านบริหารจัดการ
บทบาทผู้วิจัย
ทฤษฎีการพยาบาลแบบเอื้ออาทร (Theory of Human Caring)
ประวัติของทฤษฎี
พัฒนาโดยดร.จีน วัตสัน (Dr. Jean Watson) ซึ่งเป็นพพยาบาลในปี ค.ศ. 1964เชื่อว่าองค์ความรู้ทางการพยาบาลต้องพัฒนาจากศิลปศาสตร์ (Art) บนพื้นฐานความเชื่อมนุษยนิยม (Humanism) และยังได้แรงจูงใจจากทฤษฎีการดูแล โดยได้เสนอทฤษฎีการดูแลที่เน้นความเป็นมนุษย์ โดยชี้ให้เห็นองค์รวมของมนุษย์ที่มีมิติจิตวิญญาณเป็น องค์ประกอบที่สำคัญ
กระบวนทัศน์หลักเกี่ยวกับทฤษฎี
1.บุคคล (Person) เป็นองค์รวมประกอบด้วยกาย ใจและจิตวิญญาณ ซึ่งจิตวิญญาณเป็นแก่นตัวตน(Self) ของบุคคล
2.สุขภาพ (Health) เป็นภาวะที่มีดุลยภาพและมีความกลมกลืนระหว่างจิตใจ ร่างกายและจิตวิญญาณ
3.การพยาบาล (Nursing) เป็นกระบวนการดูแลที่เข้าถึงจิตใจและความรู้สึกของบุคคล (Transpersonal Caring) ในการส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค การเยียวยาการเจ็บป่วยและการฟื้นฟูสุขภาพ
4.สิ่งแวดล้อม (Environment) เป็นสิ่งแวดล้อมทั้งทางกายภาพสังคมวัฒนธรรมและจิตวิญญาณซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง
มโนทัศน์หลักของทฤษฎี
ตัวตน (Self) บุคคลมีตัวตนทั้งลักษณะที่เป็นอยู่จริง (Self as it is) และตัวตนในอุดมคติ (Ideal Self) ที่บุคคลอยากจะเป็น รวมทั้งมีตัวตนสูงสุดคือ จิตวิญญาณ (Spiritual Self)
สนามปรากฏการณ์ (Phenomena Field) หมายถึงภูมิหลังหรือประสบการณ์ชีวิตของบุคคลที่เป็นลักษณะเฉพาะของตน เรียกว่า สนามปรากฏการณ์ของชีวิต
การดูแลที่เกิดขึ้นจริง (Actual Caring Occasion) เป็นการดูแลขณะเวลาที่พยาบาลผู้ให้การดูแลและผู้รับการดูแลรับรู้ตรงกันหรือเข้าใจถึงความรู้สึกซึ่งกันและกัน
เป้าหมายของทฤษฎี
บุคคลมีภาวะดุลยภาพของกาย จิต และจิตวิญญาณ
ซึ่งก่อเกิดการเรียนรู้ การเห็นคุณค่าและการดูแลเยียวยาตนเอง