Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลผู้ป่วยภาวะฉุกเฉินในระบบโครงสร้างเเละกล้ามเนื้อเเละการพยาบาลจมน้ำ…
การพยาบาลผู้ป่วยภาวะฉุกเฉินในระบบโครงสร้างเเละกล้ามเนื้อเเละการพยาบาลจมน้ำ
การปฐมพยาบาลคนจมน้ำ (Drowning)
สาเหตุการตาย
ขาดอากาศหายใจ
สำลักน้ำ
ภาวะเกร็งของกล่องเสียง
ภาวะกรดเป็นเลือด
ภาวะปอดบวม
ภาวะปอดบวม
ภาวะปอดไม่ทำงาน
พยาธิสภาพภายหลังการจมน้ำตามชนิดของน้ำ
น้ำจืด เข้มข้นน้อยกว่าเลือด => น้ำในปอดดูดซึมเข้ากระเเสเลือดทันที => Hypervolemia => Na , K ลดลง => หัวใจเต้นผิดจังหวะ,หัวใจวาย => ภาวะเม็ดเลือดเเดงเเตก (Hemolysis)
น้ำเค็ม ปอดจะดูดซึมเลือดจากกระเเสเลือดเข้าไปในปอด => ปอดบวมน้ำ (Pulmonary edema) => hypovolemic => เกลือเเร่ในเลือดเพิ่มสูง => หัวใจเต้นผิดปกติ,หัวใจวาย,ช็อค
อาการ
หมดสติ หยุดหายใจ
หัวใจหยุดเต้น (คลำชีพจรไม่ได้)
ไม่หมดสติ
เจ็บหน้าอก
อาเจียน ไอมีฟองเลือด
ภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ
ปวดศีรษะ
ความดันเลือดต่ำ
ภาวะช็อค
ปัจจัยเสี่ยง
สภาพก่อนจมน้ำ
สุขภาพผู้จมน้ํา
การรับประทานอาหารที่ที่อิ่มใหม่ๆ
Diving reflexes
การมึนเมาจากสุรา
การสูดหายใจเข้าปอดเต็มที่ก่อนจมน้ำ
ความรู้ในการว่ายน้ํา
อายุ
อุณหภูมิของร่างกายหลังจมน้ำ
อุณหภูมิของร่างกายลดลงอย่าง
รวดเร็ว ทั้งในเลือดและสมอง
ข้อดีคือการเผาผลาญลดลง brain anoxia ช้าลง
หัวใจเต้นผิดปกติ
และตายได้
ช่วงเวลาที่จมอยู่ใต้น้ํา
การช่วยฟื้นคืนชีพได้เร็วและถูกต้อง และมีประสิทธิภาพ
CPR ภายใน 10 นาที โอกาสรอด 90%
CPR ภายใน 5 นาที โอกาสรอด 96%
การเปลี่ยนแปลงพยาธิสรีรภาพ
Tonicity ของสารน้ํา
Hypotonic solution => จมน้ําจืด Pulmonary edema => Atelectasis
น้ำเค็ม => ถุงลมปอดแตก (rupture alveoli) => pulmonary damage
ผู้ป่วยที่ไม่มีการสําลักน้ำ => พบภาวะสมองขาดออกซิเจน เกิดเกิด capillary wall damage และ capillary pressure ที่ปอดเพิ่มขึ้น
cerebral perfusion ลดลง ทําให้สมองขาดเลือด Ischemic brain
การเปลี่ยนแปลงของเกลือแร่และกรดด่างในเลือด
น้ําเค็มเกิด hyper
น้ําจืดเกิด hypo
อุณหภูมิในร่างกาย ร่างกายลดต่ำตามอุณหภูมิของน้ำ
T 37 - 35 องศา หนาวสั่น ทรงตัวไม่อยู่
T 35 - 32 องศา สับสน หัวใจเต้นเร็ว
T 32 - 28 องศา เกร็ง หัวใจเต้นช้า หายใจช้า
T 28 - 25 องศา หมดสติ หัวใจเต้นผิดปกติ
T 25 - 21 องศา หยุดหายใจ หัวใจหยุดเต้น
การปฐมพยาบาล
จมน้ํารู้สึกตัวดี สําลักน้ำไม่มาก
ปลอบโยน
ดูแลร่างกายให้อบอุ่น
-
กระตุ้นให้หายใจลึกๆ
พาไปพบเเพทย์
หยุดหายใจ
เป่าปาก ช่วยหายใจทันที
ควรลงมือเป่าปาก ตั้งแต่ก่อนขึ้นฝั่ง ผายปอดจนกว่าผู้ป่วยจะหายใจเองได้
มีน้ำเต็มท้อง นอนคว่ำเเล้วใช้มือ 2 ข้างวางใต้ท้อง ยกไล่น้ำให้ไหลออกจากปากเเล้วพลิกหงายเเละปากเป่าต่อ
ถ้าคลําชีพจรไม่ได้ หรือหัวใจหยุดเต้น ให้ทําการนวดหัวใจทันที
ถ้าผู้ป่วยยังหายใจได้เองควรจับผู้ป่วยนอนตะแคงข้าง ให้ศีรษะหงายไปข้างหลัง
ใช้ผ้าห่มคลุมผู้ป่วยเพื่อให้เกิดความอบอุ่น
NPO
ส่งผู้ป่วยที่จมน้ำไปรพ.ทุกราย
การพยาบาลผู้ป่วยบาดเจ็บกระดูกและข้อ
การบาดเจ็บกระดูกและข้อ
กระดูกหักร่วมกับอาการบวม ปวดมาก => Compartment syndrome => พิการ
กระดูกหัก Multiple long bone fracture => Pulmonary
embolism และเสียชีวิตได้
Pelvic fracture และ Open fracture ต้องระวังเรื่องการเสียเลือด => Hypovolemic shock
Primary survey และ Resuscitation
การเสียเลือดจากการบาดเจ็บ
เกิดภาวะ Hypovolemic หรือ Hemorrhage shock
Control bleeding ดีที่สุดคือ Direct
pressure ด้วย Sterile pressure dressing
ผู้ป่วยที่กระดูกผิดรูป,fracture => ให้ทําการ splint ให้เหมาะสม, ให้สารละลายทางหลอดเลือดดำเเละออกซิเจน
พยาบาลควรทําการ Immobilization
เพื่อจัดกระดูกให้อยู่ในตําแหน่งที่ปกติ
กระดูกส่วนที่หัก โดยใส่ Splint ให้ครอบคลุมข้อบนและข้อล่างของตําแหน่งที่กระดูกหัก
Secondary survey
ซักประวัติ
ระยะเวลา
สถานที่
สาเหตุการเกิด
การรักษาเบื้องต้น
การตรวจร่างกาย ปวด กดเจ็บ บวมผิดรูป คลำได้ยินเสียงกระดูกขัดสีกัน
เมื่อขยับ เห็นกระดูกผิดรูป ใช้เเขนขาไม่ได้
การตรวจผู้ป่วยอุบัติเหตุจะมี 3 ขึ้นตอน
การตรวจและรักษา Life threatening และ Resuscitation
การตรวจคร่าวๆ เพื่อ Screening test
ใช้ระยะเวลาสั้นๆ เมื่อพบผู้ป่วยตอนแรก ใน
ผู้ป่วยที่มีระดับความรู้สึกตัวดี
กระดูกแขนขา ยกแขนขาทั้งสองข้างหากสามารถยกแขนขาได้ตามปกติ แสดงว่าผู้ป่วยไม่น่าจะมีกระดูกหัก
กระดูกซี่โครง โดยให้ผู้ป่วยนอนหงายออกแรงกดบริเวณ Sternum แล้วบีบด้านข้างทรวงอกทั้งสองข้างเข้าหากัน หากผู้ป่วยมีอาการเจ็บปวดแสดงว่าอาจเกิดการหัก
ตรวจกระดูกเชิงกรานให้ออกแรงกดบริเวณ anterior superior iliac spine และกดบริเวณ Pubic symphysis ถ้ากระดูกหักผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บปวด
กระดูกสันหลัง หันศีรษะอย่างระวังในท่านอนหงายถ้าทำได้คือไม่มีการหักของกระดูก พลิกตะเเคงตัวเเบบท่อนซุงใช้มือคลำตามเเนวกระดูก ถ้าบาดเจ็บกระดูกสันหลังจะพบอาการกดเจ็บ บวมผิดรูป
การตรวจอย่างละเอียด Secondary survey
มีการเคลื่อนไหวผิดปกติ
มีเสียงกระดูกขัดกัน (Crepitus)
กระดูกผิดรูป โก่งงอ หดสั้นหรือบิดหมุน
การเอกซเรย์
ถ่ายเอกซเรย์ 2 ท่าในแนวตั้งฉากกัน คือ Anterior-posterior
Definitive care
Retention ประคับประคองให้กระดูกอยู่นิ่งกับที่จากการจัดกระดูกเข้าที่แล้วและรอให้กระดูกติด
Rehabilitation ฟื้นฟูสมรรถภาพของส่วนที่บาดเจ็บ
Reduction เป็นการจัดกระดูกให้เข้าที่ให้ใกล้เคียงกับภาวะปกติมากที่สุด
Reconstruction ซ่อมแซมส่วนที่สูญเสียจากการบาดเจ็บหรือภาวะแทรกซ้อนให้กลับมาใช้งานได้ดีขึ้น
Recognition ประเมินกระดูกหัก
Refer เป็นการส่งต่อไปรักษาที่เหมาะสม
ภาวะกระดูกหักที่คุกคามชีวิต
Major Arterial Hemorrhage
Blunt trauma
Penetrating wound
ฉีกขาดของหลอดเลือด
Hard signs
Pulsatile bleeding
hematoma มีขนาดใหญ่ขึ้น
คลําได้thrill ฟังได้bruit
6Ps
Pain
Pallor
Poikilothermia
Paresthesia
Paralysis
Pulselessness
ประเมินโดย Doppler ultrasound ตรวจหาความผิดปกติของหลอดเลือด
การช่วยเหลือเบื้องต้น
ทํา Direct pressure บริเวณบาดแผลเพื่อหยุดเลือด
Fluid resuscitation ในรายที่กระดูกผิดรูป
จัดกระดูกให้เข้าที่แล้วทําการ Splint
Crush Syndrome
บาดเจ็บกล้ามเนื้ออย่างรุนแรง
เกิดภาวะ
Rhabdomyolysis
Creatinin kinase สูง
เกิด Renal failure
intravascular coagulopathy (DIC)
เสียชีวิต
อาการที่พบ
Dark urine
Hemoglobin ได้ผลบวก
acidosis
DIC
การช่วยเหลือเบื้องต้น
ให้ Fluid resuscitation
ให้ Osmotic diuretic
ให้ Sodium bicarbonate
ประเมิน Urine outputให้ได้ 100 cc./ชั่วโมง จนกว่าปัสสาวะจะใส (clear myoglobinuria)
Major Pelvic disruption with Hemorrhage
Scrotum และ Perineum บวม
คลํา พบกระดูก Pelvic แตก PR examination
high-riding prostate gland และ
มีเลือดออกบริเวณ Urethral meatus
ขาข้างที่ผิดปกติจะสั้น
ความดันโลหิตต่ํา
ส่ง film pelvic AP view
การช่วยเหลือ
Stabilization pelvic ring
Fluid resuscitation