Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลผู้ป่วยภาวะฉุกเฉินและการจำแนกผู้ประสบสาธารณภัย - Coggle Diagram
การพยาบาลผู้ป่วยภาวะฉุกเฉินและการจำแนกผู้ประสบสาธารณภัย
Acute MI
อาการนำที่สำคัญ
กลุ่มอาการเจ็บเค้นอก
อาการเจ็บแน่นหรืออึดอัดบรเิวณหน้าอก หรือปวดเมื่อย หัวไหล่หรือปวดกราม หรือจุกบริเวณลิ้นปี่ เป็นมากขณะออกกำลังกาย
ลักษณะเฉพาะของโรคหัวใจขาดเลือด เจ็บหนักๆ เหมือนมีอะไรมาทับ หรือรัดบรเิวณกลางหน้าอกใต้กระดูก sternum อาจมีร้าวไปบริเวณคอกราม ไหล่ และ แขนทั้ง 2 ข้าง
การวินิจฉัยโรค
ควรนึกถึงภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน (acute coronary syndrome) เมื่อเจ็บเค้นอกรุนแรงติดต่อกันเป็นเวลานานเกินกว่า 20 นาทีหรือ อมยาใต้ลิ้นแล้วไม่ได้ผล
ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจซ้ำ หากผู้ป่วยหายจากอาการเจ็บเค้นอกและผลการตรวจ troponin ได้ผลลบติดต่อกัน 2ครั้งห่างกัน 4 ชั่วโมง หรือ1 ครั้งหากตรวจหลังจาก เจ็บเค้นอกเกิน 9 ชั่วโมง สามารถให้การรักษาและนัดตรวจติดตามผลแบบผู้ป่วยนอกได้
การรักษา
้ Aspirin gr V (325 mg) 1 เม็ด เคี้ยวแล้วกลืน
้ Isosorbide dinitrate (Isordil) 5 mg อมใต้ลิ้น
Morphine 3-5 mg เจือจาง ทางหลอดเลือดดำ
เหนื่อยง่ายขณะออกแรง
กลุ่มอาการของภาวะหัวใจล้มเหลวทั้งชนิดเฉียบพลันและเรื้อรัง
ภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน
อาการเหนื่อยซึ่งเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน หายใจหอบ นอนราบไม่ได้แน่นอึดอัด หายใจเข้าไม่เต็มปอดอาจมอาการเจ็บเค้นอกร่วมด้วยหรือไม่ก็ได้
ภาวะหัวใจล้มเหลวเรื้อรัง
นอนราบไม่ได้ต้องตื่น ขึ้นมากลางดกึ มีตับโต ขาบวม
อาการเนื่องจากความดันโลหิตต่ำเฉียบพลัน
หน้ามืด เวียนศีรษะเป็นลม ร่วมกับอาการแน่นหน้าอก
อาการหมดสติหรือหัวใจหยุดเต้น
บทบาทของพยาบาลฉุกเฉิน ในการดูแลผู้ป่วยระยะวิกฤติ
ประเมินสภาพผู้ป่วยอย่างรวดเร็ว
ประสานงาน
ให้ออกซิเจน เมื่อมีภาวะ hypoxemia (SaO2 < 90% or PaO2 < 60 mmHg)
การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจและการแปลผล
เฝ้าระวังอาการและอาการแสดงของการเกิด cardiac arrest
การพยาบาลกรณี EKG show ST elevation หรือพบ LBBB ที่เกิดขึ้นใหม่ พยาบาลต้องเตรียม ผู้ป่วยเพื่อเข้ารับการรักษาโดยการเปิดหลอดเลือดโดยเร่งด่วน
เตรียมความพร้อมของระบบสนับสนุนการดูแลรักษา
ปรับปรุงระบบส่งต่อผู้ป่วยให้รวดเร็วและปลอดภัย
การวินิจฉัย
ตรวจชีพจรและการเต้นของหัวใจรวมทั้งคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ชนิด 12 lead หลังจากการกู้ชีพสำเร็จ
ควรพิจารณาส่งผู้ป่วย เพื่อตรวจสืบค้นเพิ่มเติม
การรักษา
การช่วยหายใจ และนวดหัวใจจากภายนอก (cardiac massage)
ทำการกระตุกไฟฟ้าหัวใจด้วยพลังงานสูงสุดสลับกับการกู้ชีพเบื้องต้น
พิจาณาใส่สายกระตุ้นหัวใจชั่วคราว (temporary pacemaker) ในผู้ป่วยที่มีทางเดินไฟฟ้าหัวใจ ติดขัดระดับ 3 (3rd degree AV block) ร่วมกับความดันโลหิตต่ำ
Pulmonary embolism (PE)
:pen:อาการแสดงทางคลินิก
หายใจหอบเหนอื่ยมากอย่างกะทันหัน ใจสั่น แน่นหน้าอก (pleuritic pain) บางราย มีอาการหน้ามืดเป็นลม หรือหมดสติ
รายที่มีลิ่มเลือดขนาดใหญ่ไปอุดในหลอดเลือดปอด (massive PE) ผู้ป่วยจะตัวเย็น มีความดันต่ำ ช็อก
ในรายที่มีการอักเสบของหลอดเลือดดำร่วมด้วย อาจจะมีอาการแดงร้อนร่วมด้วย ถ้าพบว่า มีลักษณะของ deep vein thrombosis
:pen:แนวทางการวินิจฉัยและการส่งตรวจห้องปฏิบัติการ
การถ่ายภาพรังสีทรวงอก (chest X-ray)
คลื่นไฟฟ้าหัวใจ (12 leads-ECG)
คลื่นเสียงสะท้อนหัวใจ (echocardiography)
การตรวจระดับก๊าซในเลือดแดง (arterial blood gas, ABG)
ค่า biomarkers ต่างๆ
Troponin-I หรอื T และ Pro-Brain-type natriuretic peptide อาจสูงกว่าปกติได้
การรักษา :pen:
Anticoagulation
Thrombolytic therapy
Caval filter คือการใส่ตะแกรงกรอง embolism ใน inferior vena cava
การพยาบาลผู้ป่วยฉุกเฉินในระบบทางเดินอาหาร
การบาดเจ็บช่องอก ช่องเชิงกรานนั้น อาการผู้ป่วยอาจไม่ชัดเจน ทำให้การประเมินและการวินิจฉัยที่ช้า จนผู้ป่วยเสียชีวิต ดังนั้นการวินิจฉัยและการรักษาเบื้องต้นที่รวดเร็วจะช่วยให้ผู้ป่วยปลอดภัย
การบาดเจ็บช่องท้องควรระมัดระวังภาวะเลือดออกในช่องท้อง ได้แก่ Brain injury, Spinal cord injury การบาดเจ็บ Ribs, Spine, Pelvic
สิ่งสำคัญที่สุดในผู้ป่วยกลุ่มนี้คือภาวะเลือดออกในช่องท้อง
ชนิด
Blunt injury หรือการบาดเจ็บที่เกิดจากแรงกระแทกอวัยวะที่พบได้บ่อยได้แก่ การบาดเจ็บของตับ ม้าม
การวินิจฉัยยากกว่าชนิดที่มีบาดแผลทะลุ เนื่องจากมีอาการแสดงช้า การวินิจฉัยช้า ทำให้การรักษาผ่าตัดช้า
Penetrating trauma หรือการบาดเจ็บที่เกิดจากของมีคมทะลุเป็นแผลนั้น
ลักษณะและอาการแสดง
อาการปวด การปวดเกิดได้ 2 กรณี คือ ปวดจากการฉีกขาดของผนังหน้าท้องและอวัยวะภายในได้รับอันตราย
การกดเจ็บเฉพาะที่หรือการเกร็งของกล้ามเนื้อท้อง
อาการท้องอืด เป็นอาการบ่งบอกถึงการได้รับบาดเจ็บของ ตับ ม้าม และเส้นเลือดใหญ่ในท้อง
ไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวของลำไส
เกิดภาวะช็อก
ภาวะฉุกเฉินผู้ป่วย
Blunt abdominal trauma
ผู้ป่วยที่มีอาการหนักมาก Shock ท้องอืด มีเลือดออกในช่องท้องจำนวนมาก ต้องได้รับการผ่าตัดทันที
ผู้ป่วยที่มีสัญญาณชีพคงที่ แต่มีอาการแสดงของการบาดเจ็บช่องท้อง มีเวลาตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม สามารถรอการผ่าตัดได้
ผู้ป่วยที่สัญญาณชีพปกติ ไม่มีอาการของการบาดเจ็บที่ช่องท้องชัดเจน เฝ้าติดตามการเปลี่ยนแปลงในผู้ป่วยอย่าง
ใกล้ชิดเพื่อสามารถวินิจฉัยได้อย่างรวดเร็วไม่ล่าช้า
ภาวะเลือดออก เกิดการเสียเลือดเป็นผลมาจากการฉีกขาดของอวัยวะภายใน ได้แก่ กระบังลม กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่หลอดเลือด เกิดการเสียเลือด
ภาวะฉีกขาดทะลุ (Perforate) อวัยวะที่เป็นโพรงและเกิดการปนเปื้อนของสิ่งที่อยู่ในช่องท้อง ได้แก่การบาดเจ็บหลอดอาหาร การบาดเจ็บของกระเพาะอาหาร การบาดเจ็บของลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่
การพยาบาลผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บช่องท้อง
ประเมินว่าผู้บาดเจ็บได้รับอากาศเพียงพอ ไม่มีการอุดตันของทางเดินหายใจ
ดูแลผู้บาดเจ็บให้ได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะผู้บาดเจ็บ Blunt abdominal trauma ที่อาจเกิดภาวะช็อกได้
กำจัดสาเหตุที่ทำให้เกิดการอุดตันของทางเดินหายใจ
ส่งผู้ป่วยไปถ่ายภาพรังสีตามแผนการรักษา
การดูแลระบบหัวใจและระบบไหลเวียน
การดูแลสารน้ำทดแทน โดยให้ Lactate ringer หรือ 5%D/N/2 ใส่สายสวนปัสสาวะตามแผนการรักษาเพื่อป้องกันภาวะช็อก
การบรรเทาความเจ็บปวด
ให้การพยาบาลเพื่อลดความวิตกกังวลของผู้ป่วยและครอบครัว
การเฝ้าระวัง