การใช้กระบวนการพยาบาลในการดูแลมารดา
ที่มีปัญหาสุขภาพในระยะหลังคลอด
การอักเสบเป็นหนองในอุ้งเชิงกราน (Parametritis)
การติดเชื้อในระยะหลังคลอด
การติดเชื้อของระบบสืบพันธุ์สตรีระยะ 6 สัปดาห์แรกหลังคลอด
หรือภายใน 28 วันหลังแท้ง
ประเภทของการติดเชื้อ แบ่งได้ 2 ประเภท
การติดเชื้อเฉพาะที่ เช่น ฝีเย็บช่องคลอด หรือภายใน
การติดเชื้อเกิดขึ้นเฉพาะที่ไม่ลุกลามต่อไป
การติดเชื้อแพร่กระจายการติดเชื้อลุกลามไปนอกมดลูก
อาการ
มีไข้หลังคลอด
ลักษณะของอุณหภูมิ จะสูง 38 องศาเซลเซียส
ติดต่อกัน 2 วัน ในช่วง 10 วันแรกไม่นับ 24 ชม. แรกคลอด
การวัดต้องถูกต้องตามเทคนิค วัดอย่างน้อยวันละ 4 ครั้ง
ต้องแยกออกจากการติดเชื้อนอกระบบสืบพันธุ์ เช่น กระเพาะ
ปัสสาวะอักเสบ การติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน
แหล่งที่มาของเชื้อ
แบคทีเรียที่พบตามปกติที่ช่องคลอดส่วนล่าง ปกติไม่ก่อให้เกิดพยาธิสภาพ ยกเว้นเมื่อร่างกายอ่อนแอ และเนื้อเยื่อได้รับการชอกช้้ามาก
แบคทีเรียจากทางเดินหายใจ มือของเจ้าหน้าที่ ฝุ่นละออง เทคนิคการท้าคลอดและเครื่องมือไม่สะอาด ปราศจากเชื้อ
ปัจจัยส่งเสริมให้เกิดการติดเชื้อหลังคลอด
- ภาวะโลหิตจาง ภาวะทุพโภชนา ขาดอาหาร
- เศรษฐกิจไม่ดี สุขวิทยาส่วนบุคคลไม่ด
- มีถุงน้้าแตกนานกว่า 12 ชม. หรือน้้าเดินก่อนก้าหนดนานเกิน 24 ชม.
การคลอดยาวนาน ติดขัด ต้องใช้สูติศาสตร์หัตถการ
- PV บ่อยๆ ไม่ระวังเทคนิคปราศจากเชื้อ
- เนื้อเยื่อช่องทางคลอดถูกกระทบกระเทือน
- Hematoma
- ตกเลือดมากกว่า 1,000 มล. มีรกค้าง
หลักการพยาบาลผู้ป่วยที่ติดเชื้อหลังคลอด
- ให้ ATB
- ระบายออก
- ลดสาเหตุที่ท าให้เกิด
ประเมินบริเวณที่มีการติดเชื้อ
- ฝีเย็บ : พบบ่อยมากถ้ามีการบวมเลือด
- การอักเสบของปากมดลูก
- เยื่อบุมดลูกอักเสบ : สังเกตจากน้้าคาวปลา
- ผนังมดลูกอักเสบ : จากการท้าลายเชื้อโรคของเม็ดเลือดขาว
จึงเกิดการอักเสบแต่จ้ากัดอยู่ภายในมดลูก
- การติดเชื้อกระจายออกนอกมดลูก
สาเหตุ 3 ประการ
• ติดเชื้อจากการฉีกขาดของปากมดลูก หรือแผลบริเวณมดลูกจากC/S เชื้อที่เป็นสาเหตุจะผ่านทางต่อมน้้าเหลืองสู่อวัยวะในอุ้งเชิงกรานท้าให้เกิดการอักเสบ
• การฉีกขาดของปากมดลูกแผ่เข้าไปถึง Connective tissue ของ
Board ligament ท้าให้ติดเชื้อโดยตรงจากช่องคลอด
• เป็นผลตามมาของ Pelvic thrombopheibitis จากการอักเสบทะลุ ผ่านผนังหลอดเลือดด้าออกมาและเชื้อกระจายเข้าสู่ Connective tissue
ประเมินอาการ:
- ไข้สูงลอย หรือขึ้นๆลงๆ T 38.9 – 39.4 องศาเซลเซียส
- เบื่ออาหาร อาเจียน บางครั้งถ่ายเหลว
- หนาวสั่น ชีพจรเบาเร็ว
- ซีด
- กดหน้าท้องไม่เจ็บถ้ามดลูกเข้าอู่แล้ว น้้าคาวปลาอาจไม่มาก
อาจเจ็บหน้าท้อง
- อาจมี endotoxic shock
- Cross of death เป็นสัญญาณอันตราย
T ต่้ากว่า 36 องศาเซลเซียส ชีพจรเร็วมากกว่า 100 ครั้ง/นาที
กรณีติดเชื้อของเยื่อบุช่องท้อง
- ปวดท้องรุนแรง ไข้สูง 40.5 องศา ชีพจรเร็ว 140 ครั้ง/นาที หนาว
สั่น อ่อนเพลีย หายใจเร็วขึ้น
- อาเจียนบ่อย ลักษณะอาเจียนพุ่ง
- ถ้าอาการเลวลงจะมีการถ่ายเหลวร่วมด้วย หน้าท้องตึงแข็ง กดเจ็บทั่วไป กระสับกระส่าย ตัวเย็น เหงื่อออกปัสสาวะน้อย ถ้ารับการรักษาไม่ทันอาจช็อคตายได้
กิจกรรมการพยาบาล
- การพยาบาลเพื่อป้องกันการติดเชื้อหลังคลอด
1.1 ให้คำแนะนำในการรักษาสุขภาพ สุขวิทยาส่วยบุคล
1.2 การทำคลอดที่ถูกวิธีและเทคนิค
- การพยาบาลเมื่อมีอาการ
2.1 จัดผู้ป่วยให้อยู่ส่วนที่สามารถพักผ่อนได้และไม่แพร่เชื้อให้ผู้อื่น
2.2 ทำแผลระบายหนองรายที่มีแผลอักเสบให้ยาปฏิชีวนะอย่างถูกต้องตามแผนการรักษา
2.3 ช่วยให้ได้รับการพักผ่อนอำนวยความสะดวกความสุขสบายและปลอดภัย
2.4 ดูแลแก้ไขอาการไม่สบายต่างๆเช่นอาการปวดลดไข้การส่งเสริมให้น้ำคาวปลาไหลดีมดลูกเข้าอู่ปกติเช่นการจัดท่า fowler’s positionเป็นต้น
2.5 จัดอาหารที่เหมาะสมและมีคุณค่าให้รับประทานพร้อมคำแนะนำการปฏิบัติที่บ้าน
2.6 ให้คำอธิบายการแนะนำการดูแลตนเองการดูแลเมื่อมีอาการนมคัด
3 การพยาบาลเมื่อมีอาการรุนแรง
3.1 จัดสถานที่ให้เหมาะสมและสะดวกในการรับการรักษาพยาบาลและไม่แพร่เชื้อ
3.2 ดูแลการให้สารน้ำและอาหารทางหลอดเลือด
3.3 เตรียมอุปกรณ์กู้ชีวิต
3.4 แก้อาการท้องอืดโดยการใส่ NG tube เพื่อดูดการและอาหารออกมา
3.5 ให้การพยาบาลตามหลักการและส่งเสริมให้กำลังใจทุกครั้ง
3.6 แนะนำการปฏิบัติตนการดูแลตนเองเมื่อพ้นภาวะวิกฤต
เต้านมอักเสบ (Mastitis)
เป็นการอักเสบของต่อมน้ านม ส่วนใหญ่จะพบในช่วง 3-4 สัปดาห์หลังคลอด มักจะเป็นข้างเดียว และบางตำเแหน่ง เต้านมจะแดงและแข็งมากขึ้น มีอาการปวดบริเวณที่อักเสบ อาจจะมีไข้สูง หนาวสั่นร่วมด้วยประมาณ 10% ของภาวะเต้านมอักเสบจะกลายเป็นฝีบริเวณเต้านมตามมาได้
สาเหตุ
• หัวนมแตก ถลอกหรือมีรอยแตก ซึ่งส่วนมากจะเกิดจากการท ทารกดูดนมนานเกินไป หรือดูดไม่ถูกวิธี เชื้อจะเข้าไปตามหลอด น้้าเหลืองของท่อน้้านม
• การบีบนวดเต้านมมากๆ เช่น ในรายที่นมคัด
• เต้านมคัดมาก ท่อน้้านมอุดตัน ท้าให้น้้านมไหลออกมาไม่ได
• การดูดนมของทารกที่มีเชื้อในจมูก และคอ โดยเชื้อเข้าสู่ท่อนม
โดยตรง
อาการ
• ไข้สูง 38.5-40 c ชีพจรเร็ว อาการหนาวสั่น ปวดศีรษะ
อ่อนเพลีย
• เจ็บปวดบริเวณเต้านม
• ผิวหนังบริเวณเต้านมมีลักษณะ แดง ตึง แข็ง เจ็บ ปวด
(Infeanation) ผิวหนังจะนุ่ม เป็นมัน
• ต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้อาจโต และเจ็บ
การพยาบาล
การบวมเลือดหรือก้อนเลือดคั่ง (hematoma)
ภาวะมดลูกไม่เข้าอู่ (Subinvolution)
ภาวะจิตแปรปรวนหลังคลอด
• รักษาความสะอาดของเต้านม มือ เสื้อผ้า
ท าความสะอาดเต้านมก่อนและหลังให้นมทารก
• ถ้ามีหัวนมแตกต้องรีบแก้ไขไม่ปล่อยทิ้งไว
• ให้ยาปฏิชีวนะ พวก Penicillin ควรให้อย่างน้อย 10 วัน
• ประคบด้วยน้ าแข็งถ้าปวดมาก เพื่อบรรเทาอาการปวด
• ให้ยาแก้ปวด ใส่ยกทรงพยุงไว้
• ถ้ามีหนองเกิดขึ้น จะต้องทำ I / D เพื่อเอาหนองออก
- ให้นมบุตรได้ตามปกติ แต่มักจะมีปัญหาลูกไม่ค่อยดูดนม ข้างที่มีการอักเสบ เนื่องจากเต้านมจะคัดและแข็งท าให้ดูด
ยากกว่าปกติ
- ควรประคบอุ่นบริเวณเต้านมก่อนให้นม และแนะนำให้ดูด ข้างที่ปกติก่อน เมื่อน้ำนมไหลดีแล้ว จึงค่อยให้ดูดนมข้างที่
อักเสบ
• หากน้ำนมยังค้างอยู่ให้บีบออกจนเกลี้ยงเต้า
อาการและอาการแสดง
สาเหตุ
• การเย็บซ่อมแซมแผลฝีเย็บหรือแผลฉีกขาดที่ฝีเย็บไม่ดี
เกิดจากการบาดเจ็บจากการคลอดในรายที่คลอดเองหรือ
ท้าสูติศาสตร์หัตถการ
- การบีบคลึงมดลูกรุนแรง ท้าให้เลือดคั่งใต้เยื่อบุช่องท้อง
และใน broad ligament
- เจ็บปวดบริเวณฝีเย็บหรือทวารหนักมากหลังคลอด
• ถ้าเกิดการบวมเลือดบริเวณอื่นๆมารดาก็มีอาการปวดบริเวณนั้น
ตามแรงกดของก้อนเลือด
• หากก้อนเลือดมีขนาดใหญ่ก็จะท้าให้มารดาเกิดภาวะตกเลือด
ตามมาได้ โดยอาการตกเลือดอาจไม่สัมพันธ์กับจ้านวนเลือดท ออกทางช่องคลอด
การพยาบาล
- ป้องกันการบวมเลือดโดยวางกระเป๋าน้้าแข็งที่ฝีเย็บในชั่วโมงแรก
หลังคลอด
- พยาบาลต้องประเมินขนาดของก้อนเลือดตั้งแต่แรกเพื่อใช้
เปรียบเทียบอาการ
- ตามขนาดก้อนเลือด ประคบเย็น ผ่าตัดอระบายไว้
4.ให้การดูแลตามอาการ
เป็นภาวะที่ขบวนการกลับคืนสู่สภาพเดิมของมดลูกใช้เวลานานหรือขบวนการนั้นหยุดไปก่อนที่มดลูกจะกลับคนสู่สภาพเดิมอย่างสมบูรณ์
สาเหตุ
• ภาวะที่ทำให้มดลูกหดรัดตัวไม่ดี จากสาเหตุต่างๆ
• การผ่าตัดคลอด
• ทารกไม่ได้ดูดนมมารดา
• มีการติดเชื้อภายในมดลูก
• มดลูกคว่้าหน้าหรือคว่้าหลังมาก
อาการและอาการแสดง
• น้้าคาวปลาออกมากกว่าปกติ มีสีแดงตลอด มีกลิ่นเหม็น
• มดลูกนุ่มและใหญ่กว่าปกติ ระดับยอดมดลูกไม่ลดลง กดเจ็บ
หรือมีอาการปวดมดลูก
• มีไข
• อาจเกิดการตกเลือดระยะหลัง (Late PPH)
การพยาบาล
• ให้ยาปฏิบัติชีวนะเมื่อมีการติดเชื้อร่วมด้วย แนะนำการดูแลรักษา
และการปฏิบัติตัว
• ถ้าไม่มีการติดเชื้อร่วมแพทย์อาจให้ยากระตุ้นการหดรัดตัวของ
มดลูก จึงต้องประเมินระดับยอดมดลูกทุกวัน
• กรณีที่เกิดจากมีรกค้าง แพทย์จะท้าการขูดมดลูกเพื่อเอาเศษรก
ออก พยาบาลจึงต้องเตรียมมารดาส้าหรับการขูดมดลูก
• แนะน้าให้พักผ่อน การรับประทานอาหาร การส่งเสริมให้
น้้าคาวปลาไหลได้สะดวก การรักษาความสะอาด
• อารมณ์เศร้าหลังคลอด (Postpartum blue)
• เป็นการปรับตัวทางจิตใจและอารมณ์ที่ผิดปกติชนิดไม่รุนแรงหลังคลอด เพราะมีความรู้สึกกดดันต่างๆ ผ่านเข้ามาอย่างรวดเร็ว เกิดความสับสน ไม่รู้จะท้าตัวอย่างไร
• แต่ถ้าไม่สามารถเผชิญ (Coping) ได้ อาการจะอยู่เป็นเวลานานและ
พัฒนาไปขั้นที่รุนแรงขึ้น
• พบได้ร้อยละ 50-60 มักเกิดในวันที่ 2-3 หลังคลอด
การเริ่มอาการ
ภายใน 3-4 วันหลังคลอด
อาการ
อารมณ์แปรปรวน ซึมเศร้า อ่อนแรง
กังวล สับสน ไม่ค่อยมีสมาธิ หายเองไม่ ต้องพึ่งยา
แนวทางการพยาบาล
ไม่มีวิธีที่แน่นอน สิ่งสำคัญคือ การประคับประคองทางร่างกายและจิตใจ ให้สามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว
ภาวะซึมเศร้าหลังคลอด (Postpartum depression)
• เป็นภาวะที่จิตใจหม่นหมอง หดหู่ ท้อแท้ หมดหวัง มองโลกในแง่ร้าย
• ความรุนแรงของภาวะนี้ เริ่มตั้งแต่ความเหนื่อยหน่าย รู้สึกหมดหวัง
หมดอาลัยในชีวิต ต้องการหนีความล้าบากด้วยการฆ่าตัวตาย
• ภาวะซึมเศร้า จะมีความรู้สึกรุนแรงกว่าอารมณ์เศร้า จะแสดงให้เห็นว่าพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปจากเดิม
การเริ่มอาการ
หลายๆวันหรือ เป็นสัปดาห์ หลังคลอด
อาการ
ซึมเศร้า ไม่สนใจกิจกรรมปกติ รู้สึกผิด
สิ้นหวัง รู้สึกไม่สามารถเลี้ยงลูกได้
ระยะที่ 1 เกิดในระยะแรกหลังคลอดวันที่ 3 ถึง 10 มีอาการซึมเศร้าฝันร้ายรู้สึกเสียใจสูญเสียเกิดความตื่นเต้นในการคลอด
ระยะที่ 2 เกิดในช่วง 1-3 เดือนหลังคลอดจากการที่มารดาพยายามรวมทารกเข้าเป็นสมาชิกในครอบครัวพยายามสนองความต้องการของบุตรขณะเดียวกันมารดาต้องปรับตัวต่อการเป็นมารดาการเปลี่ยนแปลงของร่างกายและบทบาทหน้าที่ที่เพิ่มขึ้น
ระยะที่ 3 อาจเกิดได้ในระยะเวลา 1 ปีหลังคลอดจากการที่พยายามอย่างที่สุดในการปรับตัวแต่ยังรู้สึกสองสองฝ่ายต่อการเป็นมารดาความรู้สึกอย่างทำหน้าที่ให้ดีที่สุดแต่ก็อ่อนล้าเหลือที่จะทนได้ ทำให้เกิดอารมณ์แปรปรวน
โรคจิตหลังคลอด (Postpartum psychosis)
• เป็นปัญหาทางจิตที่เกิดขึ้นได้ในระยะหลังคลอดโดยมากพัฒนามาจาก
ภาวะอารมณ์เศร้า และภาวะซึมเศร้าหลังคลอด ถ้าได้รับการดูแลเอาใจใส่ไม่ดีพอ หรือให้การรักษาพยาบาลล่าช้าเกินไป
การเริ่มอาการ
2-4 วันหลัง
คลอด
อาการ
จิตหลอน ส าคัญตนผิด ไม่อยู่ในโลกแห่ง
ความเป็นจริง อยู่เฉยๆไม่ได้ มักมีHx เป็นก่อนตั้งครรภ์ /ครอบครัวเป็น