Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ภาวะขาดออกซิเจน (Birth asphyxia) หรือ perinatal asphyxia, รูปมารดา, มารดา,…
ภาวะขาดออกซิเจน (Birth asphyxia) หรือ perinatal asphyxia
ความหมาย
ภาวะที่ทารกแรกเกิดไม่สามารถหายใจได้อย่างมีประสิทธิภาพทำให้มีระดับออกซิเจนในเลือดต่ำ(hypoxia) มีการคั่งของคาร์บอนไดออกไซด์(hypercapnia)และมีสภาพเป็นกรดในกระแสเลือด(mrtabolic acidosis)
พยาธิสภาพ
เมื่อทารกขาดออกซิเจนจะมีการหายใจเร็วขึ้นร่วมกับการเคลื่อนไหวแขนขาจากนั้นจะหยุดหายใจ เรียกว่า primary apnea ประมาณ 1 นาที อัตราการเต้นของหัวใจลดลง มีการหายใจไม่สม่ำเสมอ 4-5 นาทีและค่อยๆเบาลงและหายใจครั้งสุดท้ายเรียกว่า secondary apnea ก่อนหยุดหายใจ
การวินิจฉัย
การตรวจร่างกาย การประเมินคะแนน APGAR จะพบการเปลี่ยนแปลงตามลำดับดังนี้
การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ
การตอบสนองเมื่อถูกกระตุ้น
อัตราการหายใจ เริ่มจากไม่สม่ำเสมอไปจนหยุดการหายใจ
อัตราการเต้นของหัวใจ
สีผิว
อาการและอาการแสดง
ประวัติการคลอด
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
การรักษาจำแนกตามความรุนแรงของการขาดออกซิเจน
moderate asphyxia
ให้ออกซิเจน 100%และช่วยหายใจด้วย mask และ bag เมื่อดีขึ้นจึงใส่ feeding tube เข้ากระเพาะอาหารเพื่อดูดลมออก ถ้าไม่ดีขึ้นหลังช่วยหายใจนาน 30 วินาทีใส่ ET tube และนวดหัวใจ
severe asphyxia
ให้การช่วยเหลือโดยช่วยหายใจทันทีที่คลอดเสร็จ โดยใส่ ET tube และช่วยหายใจด้วยออกซิเจน 100%ผ่านbag ร่วมกับการนวดหัวใจ ถ้าไม่ดีขึ้นจึงรักษาด้วยยา การเปลี่ยนแปลที่ดีขึ้นตามลำดับดังนี้
การตอบสนองเมื่อถูกกระตุ้น
อัตราการเต้นของหัวใจทารก
ลักษณะสีผิว
อัตราการหายใจ
การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ
mild asphyxia
ให้ความอบอุ่น ทำทางเดินหายใจให้โล่ง กระตุ้นการหายใจ ให้ออกซิเจนผ่านสายออกซิเจนหรือmaskถ้าอาการดีขึ้น มีคะแนนAPGAR ที่5 คะแนน>8คะแนน ให้ดูแลต่อเหมือนทารกทั่วไป ถ้าคะแนนAPGAR ที่ 5นาที<4คะแนน ดูแลเหมือนทารกที่มีภาวะ moderate asphyxia
การพยาบาล
ดูแลให้ได้รับอาหารและสารน้ำตามแผนการรักษา
ดูแลให้พักผ่อน
ดูดสิ่งคัดหลั่งให้มากที่สุดก่อนคลอดลำตัว
ส่งเสริมสัมพันธภาพระหว่างมารดาและทารก
บันทึกอัตราการหายใจ การเต้นของหัวใจทารกหลังคลอด
ดูแลให้ได้รับการตรวจทางห้องปฏิบัติการและการได้รับยา
เตรียมทีมบุคลากรและเครื่องมือให้พร้อมก่อนคลอด
สังเกตอาการขาดออกซิเจน
เช็ดตัวทารกให้แห้งทันทีและห่อตัวรักษาความอบอุ่นเพื่อลดการใช้ออกซิเจน
ดูแลความสะอาดของร่างกาย
อาการและอาการแสดง
ระยะคลอด
พบขี้เทาปนในน้ำคร่ำ
ระยะหลังคลอด
แรกคลอดทันทีมีคะแนน APGAR ต่ำกว่า 7 ตัวเขียว ไม่หายใจเอง ตัวนิ่ม อ่อนปวกเปียก ปฏิกิริยาตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นลดลง หัวใจเต้นช้าลง
การเปลี่ยนแปลงในปอดทำให้ทารกมีอาการหายใจหอบ ตัวเขียว
การเปลี่ยนแปลงในระบบหัวใจและการไหลเวียนเลือดส่งผลให้หัวใจเต้นเร็ว ผิวซีด หายใจแบบgasping มี metabolic acidosis อุณหภูมิร่างกายต่ำลง ความดันโลหิตต่ำลง
การเปลี่ยนแปลงในระบบประสาท ถเาขาดออกซิเจนนานทารกจะซึม หยุดหายใจบ่อย หัวใจเต้นช้าลง ม่านตาขยายกว้างไม่ตอบสนองต่อแสง ไม่มี Doll's eye movement และมักเสียชีวิต ถ้าขาดออกซิเจนในระยะเวลาสั้นๆหรือช่วยเหลือได้เร็วอาจมีเพียงอาการกล้ามเนื้ออ่นแรงและดูดนมไม่ดี การเปลี่ยนแปลงในสมองเรียกว่า hypoxic ischemic encephalophathy มีลักษณะ สูญเสียกำลังกล้ามเนื้อ ชัก ระดับความรู้สึกตัวผิดปกติ
การเปลี่ยนแปลงในระบบทางเดินอาหาร ลำไส้บีบตัวแรงชั่วคราวทำให้ทารกถ่ายขี้เทาขณะอยู่ในครรภ์มารดา ถ้าขาดออกซิเจนนานเสี่ยงต่อการเกิดลำไส้อักเสบเน่าตาย
การเปลี่ยนแปลงในระบบทางเดินปัสสาวะ ปัสสาวะน้อยลงหรือไม่ถ่ายปัสสาวะหรือปัสสาวะเป็นเลือด
การเปลี่ยนแปลงทางเมตาบอลิซึม มีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ แคลเซียมและโปแตสเซียมสูง มีผลให้ชักและเสียชีวิต
ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ
ค่า arterial blood gas ผิดปกติ คือ PaCO2>80 mmHg, PaO2<40 mmHg,pH<7.1
ระดับน้ำตาลในเลือด 30 mg%
ค่าของ calcium ในเลือดต่ำกว่า 8 mg%
ค่าของ potassium ในเลือดสูง
ระยะตั้งครรภ์หรือก่อนคลอด
ทารกมีการเคลื่อนไหวมากกว่าปกติและต่อมาจะมีการเคลื่อนไหวน้อยลงกว่าปกติ
อัตราการเต้นของหัวใจทารกในระยะแรกจะเร็วมากกว่า 160 ครั้ง/นาทีต่อมาจึงช้าลง
กลไกการเกิด
การไหลเวียนทางสายสะดือขัดข้อง มีการหยุดไหลเวียนหรือไหลเวียนลดลง
ไม่มีการแลกเปลี่ยนออกซิเจนที่รกซึ่งเกิดจากรกมีการแยกตัวออกจากมดลูก
มีการนำออกซิเจนหรือสารอาหารจากมารดาไปยังทารกโดยผ่านทางรกไม่เพียงพอ
ปอดทารกขยายไม่เต็มที่และการไหลเวียนเลือดยังคงเป็นแบบทารกในครรภ์
นางสาวชญานิษฐ์ พิชัยฤกษ์ 601001024