Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลเด็กที่มีปัญหาระบบทางเดินหายใจ, นางสาวศุภรัตน์ ตะโกเนียมเลขที่…
การพยาบาลเด็กที่มีปัญหาระบบทางเดินหายใจ
อัตราการหายใจของเด็กในแต่ละวัย
ต่ำกว่า 2 เดือน ไม่เกิน 60 ครั้ง/นาที
2-12 เดือน ไม่เกิน 50 ครั้ง/นาที
1-5 ปี ไม่เกิน 40 ครั้ง/นาที
เสียงหายใจผิดปกติ
stridor sound
เกิดจากการตีบแคบของบริเวณกล่องเสียง หรือหลอดลม
มีลักษณะคล้ายเสียงคราง
crepitation sound
เสียงแตกกระจาย
เกิดจากที่ลมผ่านท่อทางเดินหายใจที่มีน้ำหรือเสมหะ
พบบ่อยในภาวะปอดอักเสบ
rhonchi sound
ตีบแคบจากเสมหะอุดตัน
เยื่อบุทางเดินหายใจบวม
หลอดลมบีบเกร็งจากภาวะภูมิแพ้
wheezing
เป็นเสียงที่มีความถี่สูงหรือเสียงหวีด
พบในผู้ป่วยโรคหอบหืด
ได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ
กลไกการสร้างเสมหะ
กระบวนการสร้างสารมูก Mucous
การพัดโบกของขนกวัด Cilia
แกลไกการไอ Cough Reflex
การติดเชื้อ
ต่อมสร้างสารคัดหลั่ง(mucus gland)
จำนวน Cilia ลดลง
มีการทำลายเซลล์เยื่อบุหลอดลมและทำลาย Cilia เพิ่มมากขึ้น
ทำให้เกิดการคั่งค้างของเสมหะในหลอดลมเพิ่มมากขึ้น
จะสร้าง mucous เพิ่มมากขึ้น
ลักษณะของเสมหะ
เสมหะเหนียว
เสมหะเป็นมูกคล้ายแป้งเปียก
อยู่ติดรวมกันเป็นก้อน
เสมหะไม่เหนียว
เสมหะมีลักษณะเป็นเมือกเหลว
ความหนืดน้อยไม่รวมตัวกันเป็นก้อน
Croup
เป็นกลุ่มอาการอุดกลั้นทางเดิน
หายใจส่วนบนบริเวณกล่องเสียง
สาเหตุ
บริเวณที่ติดเชื้อ
ฝาปิดกล่องเสียง(acute epiglottitis)
กล่องเสียง หลอดลมใหญ่ และหลอดลม
ฝอยในปอด (Laryngotracheobronchitis)
กล่องเสียง (acute laryngitis)
มักเกิดจากการติดเชื้อไวรัส
Parainfluenza
ติดเชื้อจากการหายใจสูดเอาละอองที่มีเชื้อไวรัสเข้าไป
อาการ
ไข้ เจ็บคอ หายใจลำบาก
อาการน้ำลายไหล(drooling)
ไอเสียงก้อง
ไม่ตอบสนองต่อการพ่นยาทั่วไป
inspiratory stridor หายใจเข้ามีเสียงฮืด
Tonsillitis / Pharyngitis
สาเหตุ
เชื้อไวรัส
rhinovirus, adenovirus และ coronavirus
อาการ
ไอ คัดจมูก มีน้ำมูกใสแต่ไม่มาก เสียงแหบ
ปวดศีรษะเล็กน้อย ตาแดง (เยื่อตาขาวอักเสบ) และบางรายอาจมีอาการท้องเดินหรือถ่ายเหลวร่วมด้วย
การผ่าตัดต่อมทอนซิล(tonsillectomy)
การดูแลหลังผ่าตัด
สังเกตอาการอย่างใกล้ชิด
เมื่อเด็กรู้สึกตัวดี จัดให้อยู่ในท่านั่ง 1 - 2 ชั่วโมง
นอนตะแคงไปด้านใดด้านหนึ่งเพื่อสะดวกต่อการระบายเสมหะ
สามารถกลับบ้านได้หลังผ่าตัด 24 - 48 ชั่วโมงถ้าไม่มีภาวะแทรกซ้อน
ควรหลีกเลี่ยงการขากเสมหะแรงๆ การแปรงฟันเข้าไปในช่องปากลึกเกินไป
ควรรับประทานอาหารอ่อน เช่น โจ๊ก หรือข้าวต้ม
โดยปกติ หลังผ่าตัดประมาณ 2-4 สัปดาห์ แผลจะหายเป็นปกติ
ไซนัสอักเสบ(Sinusitis)
สาเหตุ
เกิดจากเยื่อบุไซนัสติดเชื้อไวรัสหรือเชื้อแบคทีเรีย
อาการ
ประสาทรับกลิ่นไม่ดี
ประสาทรับกลิ่นไม่ดี
หายใจติดขัด อึดอัด คัดจมูก
ระยะของโรค
Acute sinusitis ระยะของโรคไม่เกิน 12 สัปดาห์
Chronic sinusitis อาการจะต่อเนื่องเกิน 12 สัปดาห์
การดูแลรักษา
ให้ยา antibiotic ตามแผนการรักษา
ให้ยาแก้ปวดลดไข้
ให้ยาSteroid เพื่อลดอาการบวม
การล้างจมูก
ล้างจมูกวันละ 2-3 ครั้ง
หอบหืด Asthma
ทำให้หลอดลมหดเกร็งตัว(Brochospasm)
ทำให้หลอดลมตีบแคบลง (Stenosis) เยื่อบุภายในหลอดลมบวมขึ้น
สร้างเมือกเหนียวจำนวนมาก (Hypersecretion)
อาการ
ไอมากเวลาวิ่งเล่น จนเหนื่อย จนต้องหยุดเล่น
ไอเรื้อรัง ไอมากเวลากลางคืน หรือช่วงเช้ามืด
มีเสียงวี๊ดๆ ขณะหอบหรือไอ
ไอมากจนอาเจียน
สาเหตุ
พันธุกรรม
ภาวะทางอารมณ์
ไวรัสทางเดินหายใจ
โรคภูมิแพ้
การรรักษา
ยาลดการบวม และการอักเสบของหลอดลม
ยาขยายหลอดลม ( Relievers )
ยาที่ใช้ควบคุมโรคหืด (Controllers)
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงได้แก่
ไม่นำสัตว์เลี้ยงเข้าห้องนอน
หมอน ซักผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน สัปดาห์ละ 1ครั้ง
ลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นโรค หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ
หลอดลมอักเสบ( Bronchitis)
หลอดลมฝอยอักเสบ(Bronchiolitis)
เกิดการอุดกั้นและอักเสบของหลอดลม
เป็นปัญหาติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนล่างที่พบบ่อยในเด็กเล็ก
เด็กที่ไม่กินนมแม่จะมีโอกาสพบได้สูง
Respiratory syncytial virus : RSV เป็นเชื้อที่พบบ่อยสุด
อาการ
ไข้หวัด เพียงเล็กน้อย
ร้องกวน
มีน้ำมูกใส
หายใจเร็ว
ดื่มนมหรือน้ำได้น้อย
ปีกจมูกบาน
การรักษา ตามอาการ ให้ยาลดไข้ ยาปฏิชีวนะ ยาต้านการอักเสบ
ดูแลให้เด็กได้รับ ออกซิเจนอย่างเพียงพอ
ปอดบวม Pneumonia
สาเหตุ
เชื้อไวรัส หรือแบคทีเรีย
สำลักสิ่งแปลกปลอม
อาการ
ไข้ ไอ หอบ ดูดน้ำ ดูดน้ำน้อยลงซึม
การรักษา
ดูแลให้ได้รับน้ำอย่างเพียงพอ
ดูแลเรื่องไข้ Clear airway suction
ดูแลแก้ไขเรื่องพร่องออกซิเจน
การพยาบาลผู้ป่วยเด็ก
จัดให้ผู้ป่วยนอนศีรษะสูง
ดูแลแก้ไขเรื่องพร่องออกซิเจน
กระตุ้นให้ดื่มน้ำมากๆ
เด็กโตต้องสอนการไออย่างถูกวิธี
การระบายเสมหะ
การเคาะ(Percussion)
การสั่นสะเทือน(Vibration)
จัดท่านอนผู้ป่วย(Postural drainage)
การสอนการไออย่างมีประสิทธิภาพ
การจัดท่านอนเพื่อช่วยระบายเสมหะ
อยู่ส่วนหลัง Posterior ให้นอนคว่ำ
อยู่ส่วนบนนอนหัวสูง อยู่ส่วนล่างนอนหัวต่ำ
อยู่ส่วนหน้า Anterior ให้จัดท่านอนหงาย
อยู่ด้านซ้ายให่จัดท่านอนตะแคงขวา
การพ่นยาในเด็ก
ประโยชน์
ทำให้เสมหะอ่อนตัวลง
ง่ายต่อการระบายออกจากปอด
เป็นหนทางในการบริหารยาทางระบบหายใจ
ข้อปฏิบัติในการพ่นยาแบบละออง Neubulizer
ไม่ควรให้เด็กร้อง
ใช้มือประคองกระเปาะยาพ่นไว้
เคาะกระเปาะพ่นยาเป็นระยะๆเพื่อไม่ให้ยาตกค้างในกระเปาะมาก
พ่นจนกว่ายาจะหมด ใช้เวลา 10 นาที
คำแนะนำในการดูแล
ประเมินและแก้ไขร่วมกับแพทย์
ให้ออกซิเจนตามความเหมาะสมกับเด็ก
ถ้าบวมก็ให้ยาลอดบวม
ถ้าตีบก็ให้ยาขยาย
นางสาวศุภรัตน์ ตะโกเนียมเลขที่ 49 รุ่น 36/2
รหัสนักศึกษา 612001130