Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 1 แนวคิด ทฤษฎี และหลักการของการพยาบาลเด็กและวัยรุ่น, นางสาวกัญญาวรรณ…
บทที่ 1 แนวคิด ทฤษฎี และหลักการของการพยาบาลเด็กและวัยรุ่น
แนวคิด และหลักการพยาบาลที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพเด็ก
แนวคิด และหลักการพยาบาลที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพเด็ก
การพยาบาลเด็กเป็นการดูแลรักษาพยาบาลแบบองค์รวม คือ ร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคมและพัฒนาการด้วยความเอื้ออาทร
โดยครอบคลุมทั้ง 4 มิติ ได้แก่ การป้องกัน การส่งเสริมสุขภาพ การรักษาพยาบาล และการฟื้นฟูสภาพ
หลักปฏิบัติการพยาบาลเด็ก
ประกอบด้วย
การดูแลด้านร่างกายตามลักษณะของโรคและความผิดปกติที่เกิดขึ้น
การพยาบาลโดยใช้ครอบครัวเป็นศูนย์กลาง
การดูแลพัฒนาจิตใจ อารมณ์ สังคม และจิตวิญญาณของเด็ก
การส่งเสริมสุขภาพให้คงอยู่อย่างปกติสุขที่สุดของเด็กและครอบครัว
การพยาบาลเด็กโดยยึดหลักครอบครัวเป็นศูนย์กลางการดูแล (Family-centered care)
แนวคิด
การช่วยให้ครอบครัว
มีความสามารถ (enable)
ประเมินความรู้ และความสามารถของครอบครัวในการดูแลเด็ก
เปิดโอกาสให้ครอบครัวทุกคนได้แสดงความสามารถที่มีอยู่ในการดูแลเด็ก
สอนความรู้และทักษะที่จำเป็นการดูแลเด็ก
การเสริมพลังอำนาจ (empower) ให้ครอบครัวในการดูแลเด็ก
• รักษาหรือช่วยเหลือให้ครอบครัวมีความรู้สึกว่าสามารถควบคุมการดำเนินชีวิตได้
• ให้ความช่วยเหลือโดยเริ่มจากจุดแข็ง (strength) และความสามารถที่มีอยู่ของครอบครัว
หลักการ
“ครอบครัวมีความสำคัญต่อชีวิตเด็ก”
ยอมรับแนวคิดที่ว่า ครอบครัวคือส่วนคงที่ในชีวิตเด็ก
สร้างความร่วมมือกันระหว่างพ่อแม่กับทีมสุขภาพ
แลกเปลี่ยนข้อมูลทุกอย่างกับพ่อแม่อย่างต่อเนื่องและไม่ลำเอียง
สนับสนุนและช่วยเหลือครอบครัวทั้งปัญหาทางด้านอารมณ์และการเศรษฐกิจ
ยอมรับว่าครอบครัวมีจุดแข็งและมีวิธีการเผชิญปัญหาที่แตกต่างกัน
เคารพยอมรับในความหลากหลายของเชื้อชาติ วัฒนธรรม และสังคม
เศรษฐกิจของครอบครัว
สนับสนุนให้เกิดเครือข่ายผู้ปกครอง
จัดบริการให้มีความยืดหยุ่น
จากความเชื่อที่ว่า “ครอบครัว” คือ สิ่งคงที่ของชีวิตเด็ก (Family is the constant of child’s life)
ความแตกต่างระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่
วัยเด็กมีการเจริญเติบโตและพัฒนาการเฉพาะในแต่ละช่วงวัย
เด็กไม่ใช่ผู้ใหญ่ที่ย่อส่วน
ด้านสรีรวิทยา
เด็กมีน้ำเป็นส่วนประกอบของร่างกายถึง 75% > ผู้ใหญ่ (65%)
การสูญเสียน้ำหรือเลือดในเด็กจะมีผลกระทบมาก อาการชัดเจนและเกิดรวดเร็วกว่าในผู้ใหญ่
Immune ในเด็ก ผ่านรกจากมารดามีถึงอายุ 3-6 เดือน หลังจากนั้นจะลดลง
ทำให้ติดเชื้อง่าย รุนแรง เสียชีวิตสูง
Cell สมองที่ควบคุมการชักในเด็กเล็กมีความไวต่ออุณหภูมิร่างกายที่สูงขึ้น
ทำให้เกิดชักจากไข้สูง (Febrile convulsion) และเป็นอันตรายได้
ด้านจิตใจและปฏิกิริยาทางอารมณ์
เด็กมีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ เมื่อเจ็บป่วย
พยาบาลต้องมีช่างสังเกต มีความไว เข้าใจพฤติกรรมเด็กแต่ละวัย
อารมณ์ของเด็กจะเปลี่ยนแปลงง่าย ไม่อดทน หงุดหงิด ไม่สามารถสื่อสารได้: ร้องให้
ด้านโครงสร้างและหน้าที่ของร่างกาย
โครงสร้างและหน้าที่ของร่างกายผิดปกติได้
การขาดวิตามิน D ในเด็กเล็ก อาจทำให้เป็นโรคความผิดปกติของกระดูก (Rickets)
ด้านโครงสร้างร่างกาย
รอยต่อกะโหลกศีรษะยังไม่เชื่อมสนิท ทำให้กะโหลกศีรษะยังไม่แข็ง แตกง่าย ขยายได้
เมื่อความดันในกะโหลกศีรษะเพิ่ม ก่อให้เกิด Hydrocephalus
กล้ามเนื้อหูรูดกระเพาะอาหารยังปิดไม่แน่น
ทำให้สำรอกได้ง่าย โดยที่ไม่มีความผิดปกติ
ศีรษะเด็กมีขนาดและน้ำหนัก > ผู้ใหญ่ เมื่อเทียบกับขนาดและน้ำหนักของร่างกาย
Eustachian tube ในเด็กสั้นและอยู่ในแนวราบ > ผู้ใหญ่
ทำให้ติดเชื้อจากช่องปากและคอไปหูส่วนกลางง่าย
สิทธิเด็ก (Child’s right) และ
พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก 2546
สิทธิเด็ก (Child’s right)
"เด็ก" คือ มนุษย์ทุกคนผู้มีอายุต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ โดยที่ไม่รวมผู้ที่บรรลุนิติภาวะโดยการสมรส
เด็กทุกคนจะต้องได้รับสิทธิพื้นฐาน 4 ประการ
ประการที่ 2 สิทธิในการพัฒนา (Right of development)
ได้รับโอกาสในการพัฒนาอย่างเต็มศักยภาพ มีสิทธิได้รับการพัฒนาทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ สังคม ศีลธรรม ความพึงพอใจ และความสุขของเด็ก
ประการที่ 3 สิทธิในการได้รับการคุ้มครอง (Right of Protection)
ได้รับการคุ้มครองในการเลือกปฏิบัติ การล่วงละเมิด การถูกกลั่นแกล้ง การถูกทอดทิ้ง การกระทำทารุน การใช้แรงงานเด็ก ไม่ให้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่จะเกิดอันตรายทั้งทางร่างกายและจิตใจ
ประการที่ 1 สิทธิการมีชีวิตอยู่รอด (Right of survival)
มีชีวิตอยู่ไม่ว่าจะเกิดมามีร่างกายที่สมบูรณ์หรือไม่ก็ตาม ต้องรับการจดทะเบียนการเกิด ได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีที่สุด มีสิทธิในความจำเป็นขั้นพื้นฐานในการดำรงชีวิต
ประการที่ 4 สิทธิในการมีส่วนร่วม (Right of Participation)
การแสดงออกทั้งทางด้านความคิดและการกระทำของเด็ก มีส่วนร่วมกิจกรรมในสังคม มีอิสระและโอกาสในการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่มีผลกระทบต่อตนเอง
พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก 2546
เป็นกฎหมายคุ้มครองเพื่อคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพ และสวัสดิภาพของเด็กในประเทศไทย
การดูแลเด็กและครอบครัว ด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์ (Humanized care)
• สิ่งสำคัญ คือ การช่วยให้ผู้ป่วยและครอบครัวตระหนักว่าพยาบาลและบุคลากรด้านสุขภาพ เห็นใจ เข้าใจความทุกข์ของผู้ป่วยและครอบครัว ปฏิบัติด้วยความเป็นมิตร มีเมตตาธรรม ร่วมกับการรักษาพยาบาลด้วยความรู้ความเชี่ยวชาญทางการแพทย์และการพยาบาล
องค์ประกอบของการบริการด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์
ความเห็นอกเห็นใจ
ความเชื่อถือและความไว้ใจ
ความเอื้ออาทร
การให้ความเคารพ
เป็นการดูแลด้วยความเอาใจใส่ ทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ สังคมและจิตวิญญาณ ก่อให้เกิดความสุขใจทั้งผู้ให้และผู้รับ โดยเฉพาะในบุคคลที่เจ็บป่วย
บทบาทหน้าที่และคุณลักษณะของพยาบาล
บทบาทหน้าที่ของพยาบาลเด็ก
• มีทักษะในการดูแลทั้งเด็กปกติและผู้ป่วยเด็ก
• สามารถประเมินปัญหาของผู้ป่วยที่วิกฤติและคุกคามต่อชีวิตได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ
• มีบทบาทในการส่งเสริมสุขภาพได้ดี เพื่อการให้คำแนะนำเด็กและครอบครัวในการดูแลสุขภาพตนเอง
• บทบาทในด้านการรักษาพยาบาล โดยมีความรู้เพื่อให้ตัดสินได้อย่างถูกต้องและทันท่วงที
• มีความเข้าใจการเจริญเติบโต พัฒนาการและธรรมชาติที่แตกต่างของเด็กในแต่ละวัย
• บทบาทในการฟื้นฟูสภาพแบบองค์รวมทั้งระยะพักฟื้นและหลังการเจ็บป่วย หรือเมื่อได้รับความพิการ
• เป็นผู้นำทางความรู้ ความชำนาญ และจริยธรรมในการปฏิบัติงานทางการพยาบาลเด็ก
คุณลักษณะของพยาบาลเด็ก
• มีทักษะในการอธิบาย ให้เข้าใจโดยคำง่าย ๆ
• อดทน ต่อพฤติกรรมของเด็ก ต่อการตอบคำถาม
• ใช้ภาษาได้ดี อ่อนหวาน ไพเราะ เป็นกันเอง ใช้ภาษาเข้าใจง่าย ถูกต้อง
• ช่างสังเกต มีความไวต่อพฤติกรรม
• มีอารมณ์คงที่ไม่ดุเด็ก ไม่ขู่ให้กลัว ไม่แสดงท่าทีรำคาญ
• มีเชาว์ไหวพริบ เห็นอกเห็นใจ ไวต่อความต้องการ
• นุ่มนวลและเอื้ออาทร
• เข้าใจธรรมชาติของเด็ก ซึ่งแต่ละวัยมีการเจริญเติบโตและพัฒนาการต่างกัน
ธรรมชาติและความต้องการของเด็ก
เด็กวัยทารก
ธรรมชาติและความต้องการของวัยทารก
ด้านร่างกาย
วัยทารกเป็นวัยที่มีการเจริญเติบโตทางร่างกายอย่างรวดเร็วมากกว่าวัยอื่น ๆ
วัยทารกติดเชื้อง่าย เนื่องจากภูมิคุ้มกันโรคยังไม่สมบูรณ์
พัฒนาการของทารกแต่ละคนไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับการเจริญเติบโตของสมองและระบบประสาท พันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม
ด้านสังคม
การให้ความรักและความอบอุ่น เลี้ยงดูอย่างเอาใจใส่จะทำให้เด็กไว้วางใจคนรอบข้าง มีทัศนคติที่ดีทำให้อยู่ร่วมกับคนในสังคมได้ดี
ด้านอารมณ์
การตอบสนองความต้องการทางอารมณ์ของเด็กทารกอย่างทันท่วงที จะทำให้เด็กอารมณ์ดี มีความสุข
วัยทารกไม่สามารถอดทนหรือรอได้นาน ๆ ผู้ใหญ่ควรอยู่กับเด็กตลอดเวลา เพื่อให้เด็กอบอุ่น มั่นใจ
วัยทารกต้องการแสดงความพอใจด้วยการส่งเสียงเล่น ไม่ชอบเสียงดังหรือเสียงประหลาดที่ทำให้ตกใจกลัว ต้องการให้ตามใจ ไม่ชอบให้ขัดใจ ต้องการให้มีคนอยู่ใกล้ ๆ ชอบซุกเข้ากับอกผู้ใหญ่
เด็กวัยรุ่น
ธรรมชาติและความต้องการของเด็กวัยรุ่น
ด้านอารมณ์
มักเปลี่ยนแปลงไปในทางดื้อรั้น ไม่เชื่อฟัง
ผู้ใหญ่ต้องเข้าใจ ถ้าไม่ผ่อนปรนหรือเพิ่มการควบคุม จะก่อให้เกิดความขัดแย้งมากขึ้น ยิ่งทำให้วัยรุ่นยิ่งมีปฏิกิริยาตอบโต้ที่รุนแรง
ด้านสังคม
มักเห็นว่าความคิดของตนถูกต้องกว่าดีกว่าผู้ใหญ่
ต้องการความเป็นตัวของตัวเอง ต้องการรับผิดชอบตัวเอง
วัยรุ่นจะสนใจตัวเองมากขึ้น รักสวยรักงาม
ด้านร่างกาย
มีการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน กระตุ้นการเจริญเติบโตของอวัยวะสืบพันธ์
มีการเจริญของร่างกายในส่วนที่เป็นลักษณะประจำทางเพศ
ร่างกายมีการเจริญเติบโต ความสูงและน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
การเปลี่ยนแปลงมาก ๆ อาจเป็นสาเหตุให้เกิดความกังวล และลำบากใจในการปรับตัว
เด็กวัยก่อนเรียน
ธรรมชาติและความต้องการของวัยก่อนเรียน
ด้านอารมณ์
เด็กจะต้องการความช่วยเหลือเมื่อเกิดความกลัว ไม่ควรล้อเลียนหรือบังคับให้เด็กอยู่กับความกลัว
ต้องการความรักความอบอุ่น ความยุติธรรมจากผู้ใหญ่
ตื่นเต้น ตกใจง่าย โกรธง่าย กลัวการอยู่ลำพัง
ไม่ชอบให้ใครขัดใจ ถ้าขัดใจจะมีพฤติกรรมก้าวร้าว เมื่อเด็กแสดงพฤติกรรมก้าวร้าว ผู้ใหญ่ไม่ควรสนใจมาก เพราะจะทำให้เด็กใช้เป็นการเรียกร้องความสนใจกับผู้ใหญ่
จะแสดงอารมณ์ออกมาอย่างเปิดเผย
ด้านสังคม
เริ่มพัฒนาการรู้จักใช้เหตุผล
ผู้ปกครองควรเข้าใจและตอบคำถามอย่างเอาใจใส่ให้เหมาะสมกับวัยและสติปัญญาของเด็ก
มักเป็นเด็กช่างซัก ช่างถาม ตั้งคำถาม อยากรู้อยากเห็น
ถ้าเด็กรู้สึกว่าผู้ใหญ่ไม่พอใจในการถามคำถามของเด็ก จะทำให้การซักถามของเด็กค่อย ๆ หายไป เด็กจะมีนิสัยไม่อยากรู้อยากเห็นเกิดนิสัยเชื่อง่าย ไม่สร้างสรรค์
ด้านร่างกาย
สัดส่วนของร่างกายจะได้ขนาดมากขึ้น
กล้ามเนื้อแข็งแรง เดินมั่นคง ชอบวิ่ง กระโดดห้อยโหน ปั่นจักรยาน
อัตราการเจริญเติบโตจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด
เด็กปฐมวัย
ธรรมชาติและความต้องการของเด็กปฐมวัย
ด้านสังคม
ต้องการความรักจากครูเสมือนเป็นตัวแทนของพ่อแม่
ต้องการความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่เมื่อเกิดความกลัว
ต้องการความรัก ความใกล้ชิดผูกพัน
ไม่ชอบให้ขัดใจ
ต้องการระบายอารมณ์อย่างอิสระและเปิดเผย
ด้านร่างกาย
ด้านประสาทการรับรู้ การเคลื่อนไหว
ได้แก่
"การเรียนของเด็กปฐมวัยคือการเล่น"
ด้านกล้ามเนื้อมัดใหญ่
ได้แก่
การเคลื่อนไหว
การเล่น
การออกกำลังกาย
ด้านสุขนิสัย
ได้แก่
กิจกรรมฝึกเด็กและดูแลให้เด็กปฏิบัติจนเป็นนิสัย เช่น เข้าห้องน้ำ การรับประทานอาหาร
ด้านกล้ามเนื้อมัดเล็ก
ได้แก่
การปั้น การร้อย
วาดภาพระบายสี
โยนรับลูกบอล
ด้านสุขภาพอนามัย
ได้แก่
การส่งเสริมภาวะโภชนาการ
การพาไปรับวัคซีน
ด้านอารมณ์
ต้องการเป็นที่ยอมรับ
การอบรมเลี้ยงดูส่งผลต่อพฤติกรรมเด็ก
เช่น
•การเลี้ยงแบบประชาธิปไตย – เด็กปรับตัวได้ดี
มีความกระตือรือร้น เข้ากับสังคมได้ดี
•การเลี้ยงแบบพ่อแม่ถือตนเองเป็นใหญ่ – จะเป็นเด็กที่เงียบเฉย ไม่ต่อต้าน ไม่มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ไม่อยากรู้ไม่อยากเห็น ไม่กระตือรือร้น เพราะกลัวพ่อแม่
•การเลี้ยงแบบตามใจ – เด็กมักเฉื่อยชา ไม่สนใจสิ่งใด ชอบปลีกตัวออกจากสังคม
ประสบการณ์ที่ได้รับจากบ้าน จะมีความสำคัญในช่วงวัยก่อนเรียน และประสบการณ์จากนอกบ้านจะมีความสำคัญภายหลังจากเด็กเข้าโรงเรียนแล้ว
เด็กวัยหัดเดิน
ธรรมชาติและความต้องการของวัยหัดเดิน
ด้านอารมณ์
มักแสดงความอิจฉาหรือความเป็นเจ้าของ เมื่อมีน้องโดยการแสดงพฤติกรรมเรียกร้องความสนใจ
เช่น
ดูดนิ้ว
ปัสสาวะราด
มีความวิตกกังวลเนื่องจากพลัดพรากจากพ่อแม่ เมื่อเริ่มเข้าอนุบาล
อารมณ์โกรธพบได้บ่อย เรียกร้องสิ่งที่ต้องการ อาละวาด
ด้านสังคม
เริ่มเข้ากลุ่ม เห็นพฤติกรรมเพื่อน
"การเล่น" เป็นเครื่องมือการเรียนรู้ทางสังคม
อยากทำอะไรด้วยตนเอง
เป็นตัวของตัวเองจนเหมือนดื้อหรือต่อต้าน
เรียนรู้สังคมจากครอบครัว แม่
ด้านร่างกาย
มีพัฒนาการกล้ามเนื้อมัดเล็ก มัดใหญ่เติบโต แข็งแรง
ส่งเสริมพัฒนาการโดยให้ลูกได้มีพื้นที่กว้างในการสำรวจ เล่นนอกบ้านมากขึ้น
เป็นวัยแห่งการสำรวจ ค้นพบสิ่งใหม่ สำรวจโลกรอบตัว
ทำกิจกรรมได้เองได้มากขึ้น เคลื่อนไหวมากขึ้น เดินได้ด้วยตนเอง ถือของเล่นขณะเดิน ปีบป่ายขึ้นลงบันได วิ่งเดินถอยหลัง กระโดดขาเดียว
นางสาวกัญญาวรรณ ศรีพิณท์
รหัสนักศึกษา 613701005 เลขที่ 6 ปี 3 ห้อง A