Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กระบวนการพยาบาลอนามัยชุมชน. การวินิจฉัยปัญหาชุมชนและการวาแผนแก้ไขปัญหาอนา…
กระบวนการพยาบาลอนามัยชุมชน. การวินิจฉัยปัญหาชุมชนและการวาแผนแก้ไขปัญหาอนามัยชุมชน :fire:
1.การประเมินชุมชน
(Community assessment):star:
ความหมาย
การที่พยาบาลอนามัยชุมชนเข้าไปศึกษาชุมชนเพื่อหาข้อมูลและประเมินสภาพของชุมชนในด้านต่าง ๆ ทั้งกายภาพและชีวภาพ
ขั้นตอนการประเมินชุมชน
การเก็บรวบรวมข้อมูล
ข้อมูลปฐมภูมิ
ข้อมูลจากผู้ให้ข้อมูลโดยตรง
ผู้เก่าแก่
ผู้รู้เหตุการณ์
ผู้อยู่ในสถานการณ์/สถานที่นั้น
ข้อมูลทุติยภูมิ
ข้อมูลที่รวบรวมจากแหล่งข้อมูลที่มีอยู่ก่อนแล้ว
ข้อมูลชุมชน
ประวัติศาสตร์หมู่บ้าน/ชุมชน
OPD / FFD
ข้อมูลที่จะต้องรวบรวม
ประชากรในชุมชน
ที่ตั้งของชุมชน
ระบบสังคมชุมชน
กำหนดกลุ่มตัวอย่าง
การสุ่มตัวอย่าง
ประชากรทั้งหมด
การเตรียมเครื่องมือ
การสำรวจ
การสังเกต
การสัมภาษณ์
แบบทดสอบ
การวัดและการประเมิน
แบบสอบถาม
การทดสอบ
การสนทนากลุ่ม
การวิเคราะห์ข้อมูล
ข้อมูลเชิงปริมาณ
Descriptive Stat.
ข้อมูลส่วนบุคคล
อายุ เพศ การศึกษา อาชีพ รายได้
Percentage
Mean and SD.
ข้อมูลด้านสุขภาพ
อัตราเกิด อัตราตาย อัตราความชุก อัตราอุบัติการ
Inferential Stat.
T-test
Chi-Square
ข้อมูลเชิงคุณภาพ
การวิเคราะห์เชิงเนื้อหา
การนำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูล
เนื้อหา
ข้อมูลต้องมีความ ถูกต้อง กระชับ น่าสนใจ เข้าใจง่าย
นำเสนอ
ปราศจากแบบแผน
กึ่งตาราง
บทความ
มีแบบแผน
ตารางลักษณะเดียว(ตารางทางเดียว)
ตารางสองลักษณะ(ตารางสองทาง)
ตารางซับซ้อน
กราฟ
กราฟเส้น
ฮีสโทแกรม
แผนภูมิ
แผนภูมิแท่ง
แผนภูมิวงกลม
แผนภูมิภาพ
แผนภูมิทางภูมิศาสตร์
แผนภูมิเพื่อจุดประสงค์พิเศษ
วัตถุประสงค์
จัดข้อมูลต่างๆให้อยู่ในรูปแบบที่เห็นและเข้าใจง่าย
ช่วยให้ผู้อ่านได้ทราบผลอย่างถูกต้องตรงตามวัตถุประสงค์
เตรียมความพรเอมสําหรับการวิเคราะห์และแปลความหมายต่อไป
การทำแผนที่
แผนที่เดินดิน ระบุขอบเขตและพื้นที่ของชุมชน รวมถึงภาพรวมของทรัพยากร ทำเลที่ตั้งและการคมนาคม
2.การวินิจฉัยปัญหาชุมชน
(Community diagnosis) :star:
ความหมาย
เป็นการประเมินเพื่อให้ทราบว่าอะไรคือปัญหา อะไรคือสาเหตุ และงบประมาณที่จํากัดจึงต้องจัดลําดับความสําคัญของปัญหาก่อนจะแก้ไขปญหาใดก่อนหลัง
การดำเนินการ
การระบุสาเหตุ และทําโยงใยสาเหตุของปัญหา
ชนิดของสาเหตุ
สาเหตุทางตรง
สาเหตุทางอ้อม
ชนิดการโยงใยสาเหตุของปัญหา
โยงใยสาเหตุทางทฤษฎี
โยงใยสาเหตุที่เกิดขึ้น
การระบุปัญหาอนามัยชุมชน
ใช้เกณตัวชี้วัดด้านสุขภาพ ประจำปี
ตัวชี้วัดการดําเนินงานด้านสุขภาพของกระทรวง จังหวัด
หลักเกฑ์ 5D
หากพบ 1D ก็ถือเป็นปัญหา
ตาย (death)
พิการ/การไร้ความสามารถ (disability)
โรค (disease)
ความไม่สุขสบาย (discomfort)
ความไม่พึงพอใจ (dissatisfaction)
กระบวนการกลุ่ม (nominal group process) โดยให้ชุมชนผู้นำ หรือประชาชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจว่าอะไรเป็นปัญหา
การจัดลำดับความสำคัญของปัญหา
(การให้คะแนนการจัดลําดับตามแบบของภาควิชาาบริหารสาธารณสุข คณะสาธารณสุข มหาวิทยาลัยมหิดล)
ขนาดของปัญหา
ไม่มีเลย = 0
มากกว่า 0-25% = 1
มากกว่า 25%-50 %= 2
มากกว่า 50%-75% = 3
มากกว่า 75%-100 %= 4
ความรุนแรงของปัญหา
ไม่มีเลย = 0
มากกว่า 0-25 %= 1
มากกว่า 25%-50% = 2
มากกว่า 50%-75% = 3
มากกว่า 75%-100% = 4
โดยใช้การคิดจาก
อัตราตาย
เทียบกับเกณฑ์ 5 D
ต้องพิจารณาจากข้อมูลสนับสนุน
ความยากง่ายในการแก้ปัญหา
ทำไม่ได้ = 0
ยากมาก = 1
ยาก = 2
ง่าย = 3
ง่ายมาก = 4
ใช้หลัก
4 M : Man Money Material Management
Moral
Rule
Time
ความสนใจหรือความวิตกกังวลของชุมชนต่อปัญหา
ไม่มีเลย/ไม่สนใจเลย = 0
มากกว่า 0-25% /สนใจน้อย = 1
มากกว่า 25%-50% /สนใจปานกลาง = 2
มากกว่า 50%-75% /สนใจมาก = 3
มากกว่า 75%-100% /สนใจมากที่สุด = 4
เมื่อได้พิจารณาตามลำดับความสำคัญของปัญหาแล้วให้นำคะแนนที่ได้มาใช้วิธีการบวก และคูณ เพื่อที่จะได้ลำดับปัญหาที่สำดัญเป็นลำดับเเรก โดย หากได้คะแนนมากที่สุด สำคัญลำดับ 1 คะแนนรองลงมา สำคัญเป็นลำดับ 2 เป็นต้น
การจัดลำดับความสำคัญของปัญหา
Hanlon and Pickett
ขนาดของปัญหา พิจารณาขนาดของการเกิดโรค ความชุกของการเกิดโรค
ความรุนแรงของปัญหา พิจารณาจากความเร่งด่วนที่ต้องแก้ไข การสูญเสียเศรษฐกิจ
ประสิทธิผลของการปฏิบัติการแกเป็ญหา โดยดูผลลัพธ์จากการแก้ปัญหาและลดปัญหาว่าทําได้เท่าใด
ฐานะเศรษฐกิจ การยอมรับทรัพยากรและกฎหมาย
American Public Health Associated
ระดับความตระหนักในปัญหาของ กลุ่ม
จํานวนทรัพยากรที่มีอยู่สําหรับการ แก้ปัญหานั้น
ความสามารถในการแก้ปัญหาของผู้ที่เกี่ยวข้อง
ความต้องการความรู้เฉพาะที่จะนํามา แก้ปัญหานั้น
จำนวนทรัพยสกรที่เกี่ยวข้องตามความจำเป็น
การวางแผนแก้ปัญหาอนามัยชุมชน (community planning) :star:
การวางแผน
การตัดสินใจล่วงหน้าว่าจะทํา อะไร ทําอย่างไร ทําเมื่อใด และใครเป็นผู้ทํา
การใช้ความรู้ทางวิชาการและวิจารณญาณวินิจฉัยเหตุการณ์ในอนาคตและกําหนดวิธีการโดยถูกต้องและมีเหตุผล เพื่อให้การดําเนินงานเป็นไปตามแผนและเรียบร้อยมีประสิทธิภาพที่สุด
ครอบคลุม 3 ประการ
การเตรียมการ
การกระทำอย่างตั้งใจ
การจัดกระทำเพื่อผลในอนาคต
ความสำคัญของการวางแผน
เป็นเครื่องช่วยให้มีการตัดสินใจอย่างมีหลักเกณฑ์
เป็นศูนย์การประสานงาน
ทําให้การปฏิบัติงานต่างๆ เป็นไปโดยประหยัด มีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล
เครื่องมือในการควบคุมงานของนักบริหารเพื่อติดตาม ตรวจสอบการปฏิบัติงานของฝ่ายต่างๆ ให้เป็นไปตามนโยบาย
ลักษณะของแผนที่ดี
มีความชัดเจน
มีความแม่นตรง
มีความสมบูรณ์
มีความครอบคลุม
มีความยืดหยุ่น
มีความง่ายในการปฎิบัติ
มีความง่ายในการควบคุม
มีความประหยัด
ประเภทของแผน
แผนระดับสูง
แผนมโนมิน/แผนโยบาย/แผนยุทธศาสตร์หรือแผนกลยุทธ์
ระดับปฏิบัติการหรือแผนปฏิบัติการ
แผนงาน โครงการ งาน และกิจกรรม
แบ่งตามระยะเวลา
แผนระยะยาว ระยะดำเนินงาน 5-10 ปี
นโยบายหรือหลักการที่กำหนดขึ้น มีนโยบาย และทิศทางการแก้ปัญหาอย่างกว้างๆ
แผนระยะปานกลาง ระยะดำเนินงานอยู่ระหว่าง 2-5 ปี
แผนที่อาศัยกรอบเค้าโครงจากแผนระยะยาว เช่น แผนระดับกระทรวง
แผนระยะสั้น ระยะดำเนินงานอยู่ระหว่าง 2 ปี ลงไป
เค้าโครงจากแผนระยะปานกลางและแผนที่กำหนดกิจกรรมเพียงครั้งเดียว เช่น แผนระดับท้องถิ่น
โครงการและการเขียนโครงการ
ความหมาย
"แผนหรือเค้าโครงการตามที่กะกําหนดไว้” โครงการเป็นส่วนประกอบส่วนหนึ่งในการวางแผนพัฒนา ซึ่งช่วยให้เห็นภาพ และทิศทางในการพัฒนา ซึ่งมีขอบเขตในการที่จะสามารถติดตาม และประเมินผลได้
การเขียนโครงการ
แบบประเพณีนิยม (Convention method)
เป็นวิธีการเขียนแรกสุดและปัจจุบันยังคงใช้ โดยเขียนบรรยายตามหัวข้อที่กําหนดในลักษณะต่อเนื่อง
ประกอบด้วย
1.ชื่อโครงการ
ชัดเจน เหมาะสม เจาะจง เข้าใจง่าย
บ่งบอกว่าจะทำสิ่งใดและจัดทำเพื่ออะไร
แสดงถึงลักษณะงานที่ปฎิบัติ
2.หลักการและเหตุผล
บอกถึงว่าทำเพื่ออะไรและสิ่งที่ได้จากการจัดทำโครงการ
บอกความจำเป็นและผดีและผลเสีย
แสดงสถิติข้อมูลและเหตุผลรองรับที่มีนํ้าหนักสมเหตุสมผล
3.วัตถุประสงค์
ต้องมีความชัดเจน ปฎิบัติและประเมินผลได้
มักเป็นวัตถุงประสงค์เชิงพฤติกรรม
เป็นรูปธรรมมากกว่าเขียนเป็นนามธรรม
อาจมีมากกว่า 1ข้อ
หลักการเขียนวัตถุประสงค์
S : Senible (เป็นไปได้) หมายถึง วัตถุประสงค์ที่มีความเป็นไปได้ในการดําเนินโครงการ
M : Measurable (วัดได้) หมายถึง วัตถุประสงค์ที่ดีสามารถวัดและประเมินผลได้
A : Attainble (ระบุสิ่งที่ต้องการ)หมายถึง ต้องระบุสิ่งที่ต้องการ อย่างเฉพาะเจาะจง
R : Reason (เป็นเหตุเป็นผล)หมายถึง วัตถุประสงค์ที่ดีต้องมีความเป็นเหตุเป็นผลในการปฏิบัติ
T : Time (เวลา) หมายถึง วัตถุประสงค์ที่ดีต้องมีขอบเขตเวลาที่แน่นอน
4.เป้าหมาย
การกําหนดทิศทางและความต้องการที่คาดหวังจะให้เกิดขึ้นจากการปฏิบัติงาน เพื่อนําไปสู่การบรรลุวัตถุประสงค์
ระบุสิ่งที่ต้องการให้เกิดขึ้นวัดได้ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ
วิธีดําเนินการหรือกิจกรรม หรือขั้นตอนการดําเนินงาน
กําหนดกิจกรรมอย่างชัดเจนตั งแต่ต้นจนจบกระบวนการ ระบุใคร ทําอะไร
ระยะเวลาการดําเนินงานโครงการ
การระบุระยะเวลาตั้งแต่เริ่มต้นโครงการจนเสร็จสิ้น
โครงการนิยมระบุ วัน-เดือน-ปีที่เริ่มต้นและเสร็จสิ้น
งบประมาณ
งบการใช้จ่ายทั้งสิ้นของโครงการระบุงอย่าละเอียด และระบุแหล่งที่มา
ค่าจ้าง
ค่าตอบแทน
ค่าค่าใช้สอย
ค่าวัสดุ
8.การประเมินผล
บอกแนวทางการติดตามประเมินผล
โดยระบุวิธีการ และเกณฑ์ที่ใช้ในการวัด
9.ผลที คาดว่าจะได้รับ/ประโยชน์ที คาดว่าจะได้รับ
เป็นผลประโยชน์และผลตอบแทนที่คาดว่าจะ ได้รับจากการดําเนินงานโดยตรงและโดยอ้อมที อยู่นอกความคาดหมายไปจากวัตถุประสงค์และเป้าหมาย
10.ผู้รับผิดชอบโครงการ
เป็นการระบุตัวบุคคลหรือหน่วยงานที รับผิดชอบในการเสนอและดําเนินโครงการ
แบบตารางเหตุผลสัมพันธ (Logical Framwork method)