Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

การดูแลมารดาและทารก ในระยะที่ 2,3 และ 4 ของการคลอด, การพยาบาลมารดาในระยะ 4…

- - - - หดรัดตัวถี่ขึ้นทุก 1.5-2 นาที นาน 60-90 นาที
      - เกิด Ferguson's reflex
      - ความรุนแรง 3+
    - - ผู้คลอดรู้สึกอยากเบ่ง
      - ช่วยขับทารกออกมา
      - เพิ่มความดันโพรงมดลูก
    - - กระตุ้นมดลูกให้หดรัดตัว มากขึ้น
  - - - รู้สึกเริ่มผ่อนคลาย
      - การหดรัดตัวของมดลูกรุนแรงขึ้น
      - รู้สึกถึงแรงยืดขยายบริเวณฝีเย็บ
    - - แสดงออกถึงความโกรธ และก้าวร้าว
      - ส่งเสียงดัง
      - ไม่สนใจสิ่งแวดล้อม
      - รู้สึกท้อแท้หมดหวัง
    - - เจ็บปวดและตรึงเครียดที่สุด
      - ทุรนทุราย เหนื่อย อ่อนเพลีย
      - เจ็บปวดปากช่องคลอดและฝีเย็บ
- - - - ขณะผู้คลอดเบ่งสังเกตการเคลื่อนต่ำของส่วนนำ
      - ดูแลผู้คลอดให้เบ่งอย่างมีประสิทธิภาพ
      - บันทึกการหดรัดตัวของมดลูก ทุก 15 นาที
      - ให้กำลังใจผู้คลอด
      - ดูแลให้กระเพาะปัสสาวะว่าง
      - สังเกตอาการผิดปกติของการคลอด
    - - ดูแลความสุขบายทั่วไป
      - ดูแลไม่ให้กระเพาะปัสสาวะเต็ม
      - สังเกตอาการขาดน้ำ
      - ดูแลบรรเทาความเจ็บปวดผู้คลอด
    - - เตรียมผู้คลอด
      - เตรียมผู้ทำคลอด
      - เตรียมสถานที่และเครื่องมือ
      - ทำความสะอาดอวะยวะภายนอก
      - คลุมผ้าสะอาดให้ผู้ทำคลอด
      - การช่วยเหลือการคลอด
        
        การตัดฝีเย็บ
        
        Medio-lateral episiotomy
        
        Median episiotomy
        
        การทำคลอดศีรษะ
        
        การทำคลอดไหล่
        
        การทำคลอดตัว
        
        การผูกและตัดสายสะดือ
    - - การดูแลให้ทางเดินหายใจโล่ง
      - ประเมินภาวะสุขภาพทารกแรกเกิด
      - ดูแลทารกแรกเกิดทันที
        
        ดูแลตาของทารก
        
        การจำแนกทารก
        
        การควบคุมอุณหภูมิ
        
        การทำความสะอาดร่างกาย
        
        การส่งเสริมสัมพันธภาพระหว่างมารดาและทารก
  - - - ปนะเมินความอ่อนเพลีย
      - ประเมินการขาดสารน้ำ
      - สภาพกระเพาะปัสสาวะ
      - ประเมินความเจ็บปวด
      - สัญญานชีพ
    - - ประเมินการหดรัดตัวของมดลูก หากหดรัดตัวไม่ดี จะเกิดการคลอดล่าช้า
      - ประเมินการเคลื่อนต่ำของส่วนนำ
      - ประเมินการหมุนของศีรษะทารกโดยการตรวจภายใน
      - ประเมินระยะเวลาของการคลอด
        
        stage of descent
        
        ระยะที่ทารกเคลื่อนต่ำลงมา นับตั้งแต่ปากมดลูกเปิดหมดจนศีรษะทากรกปรากฏที่ฝีเย็บ
        
        stage of perineum
        
        นับตั้งแตาศีรษะปรากฏที่ฝีเย็บจนถึงทารกคลอดออกมา
      - ประเมินการเบ่งของผู้คลอด
      - ประเมินสภาพทั่วไปของผู้คลอด
    - - การฟัง FHS
      - สังเกตน้ำคร่ำว่ามีขี้เทาปนหรือไม่ สีเขียวข้นมาก ปานกลาง หรือใส
- - - - บอกให้ผู้คลอดออกแรงเบ่งคลอดรก เมื่อรกคลอดออกมาถึงบริเวณฝีเย็บจับสายสะดือยกขึ้น แต่ไม่ควรดึงสายสะดือ
    - - Modified crade'maneuver
      - Brant-Andrew maneuver
      - Controlled cord traction
  - - - การลอกตัวของรก
        
        Schultz's mechanism
        
        Duncan's mechanism
        
        อาการแสดงของรกลอกตัว
        
        Uterine sign
        
        Cord sign
        
        Vulva sign
      - กลไกที่ทำให้เลือดหยุด
        
        Living ligature action
    - - ความดัน Systolic และ Diastolic blood pressure เริ่มลดลง
      - อัตราการหายใจกลับสู่ภาวะปกติ
      - อุณหภูมิร่างกาย สูงขึ้นเลล็กน้อยจากปกติ
      - การเคลื่อนไหวของลำไส้และการดูดซึมอาหารเริ่มดีขึ้น
  - - - ประเมินอาการแสดงของรกลอกตัว
      - ประเมินการหดรัดตัวของปากมดลูก
      - ประเมินจำนวนเลือดที่ออกจากช่องคลอด
    - - เพื่อให้การคลอดรกดำเนินตามปกติ
      - ป้องกันไม่ให้ตกเลือดก่อนรกคลอด
      - ป้องกันการตกเลือดภายหลังรกคลอด
      - ตอบสนองความต้องการของผู้คลอด
  - - - จำนวนหลอดเลือดในสายสะดือ
      - ความยาวของสายสะดือ
      - ปม (Knot)
        
        False knot
        
        True knot
      - การเกาะของสายสะดือบนรกด้านทารก
    - - การกระจายตัวของเสื้นเสือดจากสายสะดือ
      - วงสีขาวรอบขอบรก
      - การติดของเยื่อหุ้มทารกชั้น Chorion
    - - ชั้น Chorion ติดกับผนังมดลูก
      - ชั้น Amnion เป็นเยื่อหุ้มชั้นทารก
    - - เนื้อตายของรก
      - รอยบุ๋มบนผิวรก
      - Cotyledon
    - - Placenta spurium
      - Placenta membranacea
      - Placenta succenturiata
      - Placenta bipartite
      - Placenta circumvallate
      - Placenta valamentosa
    - - วัดความยาวของสายสะดือแล้วบวกกับที่ติดตัวทารกอีก 2-3 cm
      - วัดการเกาะของสายสะดือ
      - วัดความกว้างของรกด้านลูก
      - ชั้งน้ำหนักรก
- - - - ใช้หลักปราศจากเชื้อ
      - เย็บให้ลึกพอถึงก้นแผล
      - เย็บให้ได้รูปตามกายวิภาคของอวัยวะสืบพันธูและช่องคลอด
    - - นอนท่า Supine position
      - จัดเตรียมเครื่องมือ
      - ประเมินสภาพแผล
      - สอดผ้าสำหรับอุดห้ามเลือด
      - ฉีดยาชารอบแผล
      - เย็บซ่อมแซม