Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลเด็กที่มีปัญหาระบบทางเดินหายใจ big - Coggle Diagram
การพยาบาลเด็กที่มีปัญหาระบบทางเดินหายใจ
เสียงหายใจผิดปกติ
-
-
rhonchisoundเป็นเสียงที่เกิดขึ้นเนื่องจากมีการไหลวนของอากาศผ่านเข้าไปในส่วนของทางเดินหายใจที่ตีบแคบกว่าปกติ
wheezingเป็นเสียงที่มีความถี่สูงหรือเสียงหวีด ได้ยินชัดในช่วงหายใจออกเกิดจากหลอดลมเล็ก ๆ หรือ หลอดลมฝอยเกิดการบีบเกร็ง
-
-
ไซนัสอักเสบ(Sinusitis)
สาเหตุ
-
เมื่อเกิดการติดเชื้อจะทาให้เกิดการบวมของเยื้อบุในโพรงอากาศ และส่งผลทาให้เกิดภาวะอุดตันช่องระบายของโพรงอากาศข้างจมูก(osteomeatalcomplex)ทาให้เกิดการคั่งของสารคัดหลั่ง
ส่งผลทาให้ความดันโพรงอากาศเป็นลบ เมื่อมีอาการจาม สูดหรือสั่งน้ามูกจะทาให้เชื้อแบคทีเรียที่บริเวณ nasopharynxมีโอกาสเข้าไปในโพรงอากาศข้างจมูกได้ง่าย
ผลของการติดเชื้อทาให้การทางานของเซลขนกวัด cilia ผิดปกติ ร่วมกับมีสารคัดหลั่งออกมามาก และมีความหนืดมากขึ้น
ระยะของโรค
-
-
การวินิจฉัย X-ray paranasalsinus ควรทาในเด็กที่อายุเกิน 6 ปี เพราะถ้าทาในเด็กอายุน้อย ไซนัส บางแห่งยังเจริญไม่เต็มที่ ทาให้การแปลผลผิดพลาด
-
-
การดูแลรักษา
-
-
ให้ยาแก้แพ้ ให้ใช้เฉพาะในรายที่ไซนัสอักเสบเรื้อรังที่มีสาเหตุชักนามาจากโรคเยื่อบุจมูกอักเสบจากภูมิแพ้เท่านั้น
เพื่อลดอาการจาม น้ามูกไหล และเยื่อบุจมูกบวม ไม่แนะนาให้ใช้ในผู้ป่วยเฉียบพลันเพราะจะทาให้จมูกและไซนัสแห้ง
ให้ยาSteroid เพื่อลดอาการบวม ลดการคั่งของเลือดที่จมูก ทาให้รูเปิดของโพรงไซนัสสามารถระบายสารคัดหลั่งได้ดีขึ้น
หอบหืด Asthma
พยาธิสภาพ
- ทำให้หลอดลมหดเกร็งตัว(Brochospasm)
- ทำให้หลอดลมตีบแคบลง (Stenosis) เยื่อบุภายในหลอดลมบวม ขึ้น
- สร้างเมือกเหนียวจานวนมาก (Hypersecretion) ทาให้ช่องทางเดินอากาศในหลอดลมแคบลง ทาให้เกิดอาการหอบหืดขึ้น
-
-
-
ในรายที่มีเสมหะ จะไม่ใช้วิธีการเคาะปอดในเด็กที่เป็น Asthma ที่กาลังหอบ เพราะจะทาให้หลอดลมเกิดการหดเกร็งมากขึ้น
ในเด็กเล็กๆ ที่อายุ 1 - 2 ปี โรคหอบหืดมักเกิดตามหลังอาการการติดเชื้อไวรัส ส่วนในเด็กวัยเรียน หอบหืดมักจะเกิดจากการมีประวัติภูมิแพ้
อาการ
มักเริ่มต้นด้วยอาการ หวัด ไอ มีเสมหะ ถ้าไอมากขึ้นเรื่อยๆ ก็มักจะมีเสียง Wheezing ในช่วงหายใจออก เมื่อร่างกายขาดออกซิเจนมากขึ้น ก็เกิดอาการหอบมาก ปากซีดเขียว ใจสั่น
-
ผู้ป่วยเด็กบางคนจะมีอาการไออย่างเดียว และมักจะมีอาการอาเจียนร่วมด้วย อาการไอจะดีขึ้น หลังจากที่เด็กได้อาเจียนเอาเสมหะเหนียวๆ
ความรุนแรง
ขั้นเล็กน้อย - เริ่มไอ และ/หรือ มีเสียงวี้ด แต่ยังเล่นซนได้ตามปกติ และทานอาหารได้ตามปกติ การนอนยังปกติ
-
ขั้นรุนแรง - กระสับกระส่ายจนนอนไม่ได้ เล่นซนไม่ได้ เหนื่อยหอบจนพูดหรือกินอาหารไม่ได้ หรือรอบริมฝีปากเป็นสีเขียว กรณีอย่างนี้ต้องส่งโรงพยาบาล
การรักษา
-
-
ยาลดการบวม และการอักเสบของหลอดลม (Steroid ) ควรใช้ เพียงระยะสั้นๆ คือ 3 - 5 วัน เพื่อการรักษา และป้องกันไม่ให้โรครุนแรงขึ้น
-
ปอดบวม Pneumonia
-
-
-
-
การพยาบาล
-
-
ในรายที่เสมหะอยู่ลึกให้ Postural drainage โดยการเคาะปอด และ Suction เพื่อป้องกันภาวะปอดแฟบ (Atelectasis)
การทา Postural drainage จะช่วยทาให้เสมหะที่อยู่ส่วนปลายถูกกระตุ้นให้เลื่อนขึ้นมาถึงปลายสายดูดเสมหะ ช่วยให้เสมหะถูกดูดออก จากหลอดลมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จัดให้ผู้ป่วยนอนศีรษะสูง หรือนอนทับข้างที่มีพยาธิสภาพเพื่อให้ปอดข้างที่ดีขยายตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
-
-