Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลผู้ป่วยภาวะฉุกเฉินและการจําแนกผู้ประสบสาธารณภัย, นายวิชยุตม์…
การพยาบาลผู้ป่วยภาวะฉุกเฉินและการจําแนกผู้ประสบสาธารณภัย
การพยาบาลผู้ป่วยฉุกเฉินในระบบโครงสร้างและกล้ามเนื้อ
การพยาบาลผู้ป่วยบาดเจ็บกระดูกและข้อ
Primary survey และ Resuscitation
ในผู้ป่วยที่มีการบาดเจ็บกระดูกและข้อ จะมีปัญหาสําคัญคือการเสียเลือดจากการบาดเจ็บ และเกิดภาวะ Hypovolemic หรือ Hemorrhage shock ได้ การ Control bleeding ดีที่สุดคือ Direct pressure ด้วย Sterile pressure dressing
Secondary survey
การซักประวัติ จากผู้ป่วย ผู้นําส่ง ผู้ประสบเหตุ
ระยะเวลา เป็นปัจจัยหนึ่งที่มีผลต่อการรักษา เช่น Open fracture ที่นานกว่า 8 ชั่วโมงบาดแผลจะกลายเป็น Infected wound
สถานที่ เช่นอุบัติเหตุในน้ําสกปรก คูน้ํา เป็นต้น
สาเหตุการเกิดเช่น รถยนต์ชน รถจักรยานยนต์แฉลบ ถูกยิง ถูกแทง ซึ่งบ่งถึงสาเหตุความรุนแรง และลักษณะการบาดเจ็บได้
การรักษาเบื้องต้น เช่น การใส่ Splint การใส่ traction การรับยาปฏิชีวนะ
การตรวจร่างกาย จะตรวจพบอาการปวดและกดเจ็บ บวมผิดรูป คลําพบเสียงกระดูกขัดสีกันกันเมื่อขยับ มองเห็นกระดูกผิดรูป ไม่สามารถใช้อวัยวะแขนขาได้
การตรวจผู้ป่วยอุบัติเหตุจะมี 3 ขึ้นตอน
การตรวจคร่าวๆ เพื่อ Screening test
การตรวจอย่างละเอียด Secondary survey
การตรวจและรักษา Life threatening และ Resuscitation
การเอกซเรย์ เพื่อยืนยันการบาดเจ็บของกระดูก
Definitive care
Reconstruction เป็นการแก้ไขซ่อมแซมส่วนที่สูญเสียจากการบาดเจ็บหรือภาวะแทรกซ้อน
ให้กลับมาใช้งานได้ดีขึ้น
Refer เป็นการส่งต่อไปรักษาที่เหมาะสม
Rehabilitation เป็นการฟื้นฟูสมรรถภาพของส่วนที่บาดเจ็บ รวมทั้งการฟื้นฟูดูแลจิตใจผู้ป่วย
ให้สามารถกลับมาเป็นปกติ
Retention เป็นการประคับประคองให้กระดูกอยู่นิ่งกับที่จากการจัดกระดูกเข้าที่แล้วและรอ
ให้กระดูกติดตามธรรมชาติที่ใช้บ่อยได้แก่ Casting Traction Internal fixation External fixation
Reduction เป็นการจัดกระดูกให้เข้าที่ให้ใกล้เคียงกับภาวะปกติมากที่สุด
Recognition เป็นการตรวจประเมินกระดูกหัก ข้อเคลื่อน และการบาดเจ็บอื่น เพื่อเป็นแนวทางในการรักษา
ภาวะกระดูกหักที่คุกคามชีวิต
Major Pelvic disruption with Hemorrhage
การตรวจร่างกาย
ดู จะพบ Progressive flank พบ Scrotum และ Perineum บวม มีแผลฉีกขาดบริเวณPerineum และ Pelvic
การเคลื่อนไหว จะพบขาข้างที่ผิดปกติจะสั้น เนื่องจากถูกกล้ามเนื้อดึงขึ้นข้างบน และหมุนออกด้านนอกจากแรงโน้มถ่วงของโลก บางรายอาจไม่พบอาการชัดเจน การตรวจให้ทําเพียงครั้งเดียวเพราะอาจทําให้เกิดเลือดออกมากขึ้นซ้ําเติมได้ แล้วจึงตรวจดู Sacral nerve root และ Plexus ด้วย
คลํา พบกระดูก Pelvic แตก PR examination พบ high-riding prostate gland และมีเลือดออกบริเวณ Urethral meatus
ระบบไหลเวียนจะพบความดันโลหิตต่ํา
การช่วยเหลือเบื้องต้น
ได้แก่การ Control bleeding โดยการทํา Stabilization pelvic ring
จาก external counter pressure และ Fluid resuscitation อาจต้อง consult แพทย์ศัลยกรรมเฉพาะทางในกรณีที่ผู้ป่วยยังมี Hemodynamic abnormality เพื่อช่วยในการรักษาต่อไป
Major Arterial Hemorrhage
การช่วยเหลือเบื้องต้น
พยาบาลควรทํา Direct pressure บริเวณบาดแผลเพื่อหยุดเลือด และ
Fluid resuscitation ในรายที่กระดูกผิดรูปให้ทําการจัดกระดูกให้เข้าที่แล้วทําการ Splint
Crush Syndrome
อาการที่พบ
ได้แก่ Dark urine, พบ Hemoglobin ได้ผลบวก เมื่อเกิดภาวะ
Rhabdomyolysis ผู้ป่วยจะมีอาการของ Hypovolemia, Metabolic acidosis, Hyperkalemia,Hypocalcemia และ DIC ได้
การช่วยเหลือเบื้องต้น
เมื่อวินิจฉัยได้จะให้ Fluid resuscitation ให้ Osmotic diuretic เพื่อ
รักษาระดับ Tubular volume และ Urine flow แพทย์จะพิจารณาให้ Sodium bicarbonate เพื่อช่วยลด Myoglobin ที่ไปทําลาย Tubular system ในระหว่างการให้สารน้ําและยาจะประเมิน Urine output
ให้ได้ 100 cc./ชั่วโมง จนกว่าปัสสาวะจะใส (clear myoglobinuria)
การพยาบาลผู้ป่วยจมน้ำ
พยาธิสภาพที่เกิดขึ้นภายหลังการจมน้ํา แบ่งได้ 2 ลักษณะตามชนิดของน้ําที่จม
น้ําจืดจะมีความเข้มข้นน้อยกว่า เลือด(พลาสมา) ดังนั้น ถ้ามีน้ําอยู่ในปอดจํานวนมากก็จะถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือดทันทีทําให้ปริมาตรของเลือดที่ไหลเวียนเพิ่มจากเดิม (hypervolemia) มีผลทําให้ระดับเกลือแร่
(เช่น โซเดียม โพแทสเซียม) ในเลือดลดลง ซึ่งอาจทําให้หัวใจเต้นผิดจังหวะหรือหัวใจวายได้ นอกจากนี้ยังอาจเกิดภาวะเม็ดเลือดแดงแตก (hemolysis) ได้อีกด้วยส่วนน้ําทะเลจะมีความเข้มข้นมากกว่าเลือด
น้ําทะเลที่สําลักอยู่ในปอด จะดูดซึมน้ําเลือด (พลาสมา) จากกระแสเลือดเข้าไปในปอด ทําให้เกิดภาวะปอดบวมน้ํา (pulmonary edema) ระบบไหลเวียนมีปริมาตรลดลง (hypovolemic) และระดับเกลือแร่ใน
เลือดเพิ่มสูงขึ้น ทําให้หัวใจเต้นผิดปกติหัวใจวายหรือเกิดภาวะช็อกได้แต่อย่างไรก็ตาม คนที่จมน้ํามักตายเนื่องจากขาดอากาศหายใจมากกว่า การเปลี่ยนแปลงของระดับเกลือแร่ และปริมาตรของเลือด
อาการ
คนที่จมน้ํามักจะมีอาการหมดสติ และหยุดหายใจ บางคนหัวใจอาจหยุดเต้น (คลําชีพจรไม่ได้)ร่วมด้วยถ้าไม่ถึงกับหมดสติ ก็อาจมีอาการปวดศีรษะ เจ็บหน้าอก อาเจียน กระวนกระวาย หรือไอมีฟองเลือดเรื่อ ๆ (ซึ่ง
แสดงว่ามีภาวะปอดบวมน้ํา)บางคนอาจตรวจพบภาวะหัวใจเต้นเร็วผิดปกติหัวใจเต้นผิดจังหวะ ความดันเลือดต่ํา หรือภาวะช็อก
ปัจจัยที่มีผลต่อพยาธิสภาพของผู้จมน้ํา
สภาพผู้ป่วยก่อนจมน้ํา
อายุ
การสูดหายใจเข้าปอดเต็มที่ก่อนจทน้ํา
Diving reflexes
สุขภาพผู้จมน้ํา
การรับประทานอาหารที่ที่อิ่มใหม่ๆ
การมึนเมาจากสุรา
ความรู้ในการว่ายน้ํา
อุณหภูมิของร่างกายหลังจมน้ํา การสูดสําลักน้ําเข้าปอดจะทําให้อุณหภูมิของร่างกายลดลงอย่ารวดเร็ว ทั้งในเลือดและสมอง ข้อดีคือการเผาผลาญลดลง brain anoxia ช้าลง แต่มีผลทําให้หัวใจเต้นผิดปกติและตายได้
ช่วงเวลาที่จมอยู่ใต้น้ํา
การช่วยฟื้นคืนชีพได้เร็วและถูกต้อง และมีประสิทธิภาพ
CPR ภายใน 5 นาที โอกาสรอด 96%
CPR ภายใน 10 นาที โอกาสรอด 90%
การเปลี่ยนแปลงพยาธิสรีรภาพ
การเปลี่ยนแปลงระบบประสาท การจมน้ําทําให้เกิด cerebral hypoxia เกิดภาวะสมองบวมตามมา และภาวะ circuratory arrest ทําให้ cerebral perfusion ลดลง ทําให้สมองขาดเลือด Ischemic brain
การเปลี่ยนแปลงระบบไหลเวียนเลือดและหัวใจ
การเปลี่ยนแปลงของระบบทางเดินหายใจและปอด มีภาวะ Pulmonary congestion หรือ edema
การเปลี่ยนแปลงของเกลือแร่และกรดด่างในเลือด
การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิในร่างกาย
การปฐมพยาบาล
ถ้าคลําชีพจรไม่ได้ หรือหัวใจหยุดเต้น ให้ทําการนวดหัวใจทันที
ถ้าผู้ป่วยหยุดหายใจ ให้ทําการเป่าปาก ช่วยหายใจทันทีอย่ามัวเสียเวลาในการพยายามเอาน้ําออกจากปอดของผู้ป่วย
กรณีที่คนจมน้ํารู้สึกตัวดี สําลักน้ําไม่มาก
ปลอบโยนให้คลายความตกใจ
ดูแลร่างกายให้อบอุ่น
กระตุ้นให้หายใจลึกๆ
แนะน้าให้ไปพบแพทย์เพราะอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้
ถ้าผู้ป่วยยังหายใจได้เอง หรือช่วยเหลือจนหายใจได้แล้ว ควรจับผู้ป่วยนอนตะแคงข้าง และศีรษะหงายไปข้างหลัง เพื่อให้น้ําไหลออกทางปาก ใช้ผ้าห่มคลุมผู้ป่วยเพื่อให้เกิดความอบอุ่น อย่าให้ผู้ป่วยกินอาหารและดื่มน้ําทางปาก
ควรส่งผู้ป่วยที่จมน้ําไม่ว่าจะมีอาการหนักเบาเพียงใด ไปพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลทุกรายในรายที่หมดสติและหยุดหายใจ ควรผายปอด ด้วยวิธีเป่าปากไปตลอดทาง อย่าเพิ่งรู้สึกหมดหวังแล้วหยุดให้การช่วยเหลือ
นายวิชยุตม์ บุญทาวงศ์ 6001210132 เลขที่ 7 Section B