Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กระบวนการเมแทบอลิซึม(Metabolism), image - Coggle Diagram
กระบวนการเมแทบอลิซึม(Metabolism)
พลังงานและกระบวนการเมแทบอลิซึม
การเปลี่ยนรูปพลังงานมี 4 แบบ
อิเล็กทรอเคมิคัล ถ่ายพลังงานเคมีจากสารชนิดหนึ่งไปให้สารอีกชนิดหนึ่ง โดยการถ่ายอิเล็กตรอน
เคมิคัล การเปลี่ยนองค์ประกอบของอะตอมในโมเลกุลขณะที่มีการเปลี่ยนแปลงทางเคมี
โฟโตเคมิคัล เปลี่ยนรูปพลังงานรังสีเป็นพลังงานเคมี
เมคานิคัล การเปลี่ยนแปลงพลังงานเคมีให้เป็นพลังงานกล
กฎอุณหพลวัต กล่าวว่า พลังงานเปลี่ยนรูปจากรูปหนึ่งเป็นอีกรูปหนึ่ง โดยพลังงานไม่สูญหายและไม่พิ่มขึ้น เรียกว่ากฎการคงอยู่ของพลังงาน
ปฏิกิริยาชีวเคมีในสิ่งมีชีวิตเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงพลังงาน กำหนดว่าปฏิกิริยานั้นจะเกิดขึ้นได้อย่างไร
เอนไซม์เป็นตัวควบคุมเพื่อให้กระบวนการเมแทบอลิซึมเกิดเป็นขั้นตอนตามลำดับ
หน่วยของพลังงาน
พลังงานที่ได้จะอยู่ในรูปพลังงานความร้อน มีหน่วยเป็นแคลอรี 1 แคลอรี คือ จำนวนความร้อนที่ทำให้น้ำ 1 กรัม อุณหภูมิสูงขึ้น 1 องศาเซลเซียส
หน่วยเป้นจูล
ปริมาณความร้อน1จูล เท่ากับแรง1 นิวตัน ที่ทำให้วัตถุเคลื่อนที่ได้ 1 เมตร
กระแสไฟฟ้า 1 แอมแปร์ วิ่งผ่านความต้านทาน 1 โอห์ม ในเวลา 1 วินาที
1แคลอรี = 4.184 จูล
การเปลี่ยนแปลงของพลังงานและปฏิกิริยาเคมี
ดูดพลังงาน เรียกว่า เอนเดอร์โกนิก
มีพลังงานอิสระที่เกิดขึ้นมากกว่าพลังงานอิสระเริ่มต้น
มีค่าเป็นบวก (+G)
ปล่อยพลังงาน เรียกว่า เอกเซอร์โกนิก
มีพลังงานอิสระเหลือน้อย
มีค่าเป็นลบ (-G)
ทั้ง 2 ตัว ทำหน้าที่เป็นโคเอนไซม์ และช่วยให้เอนไซม์dehydrogenaseโยกย้ายไฮโดรเจนไปยังอีกโมเลกุลได้
FAD
ประกอบด้วย riboflavin(B2)
NAD
ประกอบด้วย niacin(B3)
อะดรีโนซีนไตรฟอสเฟต (ATP)
มีพลังงานสูง เป็นตัวกลางในการนำเอาพลังงานจากที่หนึ่งไปใช้อีกที่หนึ่ง
ฟอสโฟริเลชัน เกิดได้ 2 แบบ
การรวมตัวของ ADP กับฟอสเฟต เกิดการถ่ายทอดอิเล็กตรอนไปให้ออกซิเจนในกระบวนการหายใจ ในไมโทคอนเดรีย เรียกว่า ออกซิเดทีฟฟอสโฟริเลชัน
การถ่ายทอดกลุ่มฟอสเฟตจากสารที่มีพันธะเคมีพลังงานสูงกว่ามาให้ ADP โดยตรง เรียกว่า ซับสเตรตฟอสโฟริเลชัน