Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

5.6 โรคติดเชื้อร่วมกับการตั้งครรภ์, นางสาวสาวิตรี คำแสนกอง เลขที่ 99…

- - - - < ๓ วัน ครั้งที่1 < ๑:๘ หรือ ๑:๑๐ ครั้งที่ 2 เท่าเดิม : ไม่ใช่หัดเยอรมัน และไม่มีภูมิคุ้มกัน
      - < ๓ วัน ครั้งที่1 < ๑:๘ หรือ ๑:๑๐ ครั้งที่ 2 ๔ เท่า : เป็นหัดเยอรมัน และยังไม่มีภูมิคุ้มกัน
      - < ๓ วัน ครั้งที่1 ≥ ๑:๘ หรือ ๑:๑๐ ครั้งที่2 เท่าเดิม :ไม่ใช่หัดเยอรมัน มีภูมิต้านทานแล้ว
      - ๓-๗ วัน ครั้งที่ 1< ๑:๘ หรือ ๑:๑๐ ครั้งที่ 2 เท่าเดิม ไม่ใช่หัดเยอรมัน และยังไม่มีภูมิคุ้มกัน
      - ๓-๗ วัน ครั้งที่ 1๑:๘-๑:๓๒ หรือ ๑:๑๐-๑:๔๐
        ครั้งที่ 2 เท่าเดิม ไม่ใช่หัดเยอรมัน มีภูมิคุ้มกันแล้ว
      - ๓-๗ วัน ครั้งที่ 1 > ๑:๖๔ หรือ ๑:๘๐ ครั้งที่ 2 สูงกว่าเดิม ไม่แน่ ให้ตรวจหา IgM
      - > ๗ วัน ครั้งที่ 1 < ๑:๘ หรือ ๑:๑๐ ครั้งที่ 2 - ไม่ใช่หัดเยอรมัน และยังไม่มีภูมิคุ้มกัน
      - > ๗ วัน ครั้งที่ 1๑:๘-๑:๓๒ หรือ ๑:๑๐-๑:๔๐
        ครั้งที่ 2 - ไม่ใช่หัดเยอรมันและมีภูมิคุ้มกันแล้ว
      - > ๗ วัน ครั้งที่ 1 > ๑:๖๔ หรือ ๑:๘๐ ครั้งที่ 2 - อาจใช่หัดเยอรมัน ให้ตรวจหา IgM
  - - - ไข้ต่ำๆ
      - Koplik'sspot จุดสีขาวเหลืองขนาดเล็กคล้ายเม็ดงา อยู่ที่กระพุ้งแก้ม
    - - ผื่นแดงเล็กๆ (erythematous maculopapular)
      - ตุ่มนูน ผื่นแดงหรือสีชมพูขึ้นที่ใบหน้าก่อนจะลามลง มาตามผิวหนังส่วนอื่นหายไปภายใน 3 วัน
- - - - การตรวจคดักรองโรคเอดส์คือการทดสอบที่เรียกว่า Enzyme–linked Immunosorbent assay (ELISA)
      - การตรวจยืนยันด้วยการตรวจ confirmatory test เช่น Western Blot (WB) และ Immunofluorescent assay (IFA) ถ้าให้ผลบวกเป็นการแน่นอนว่าผู้ป่วยติดเชื้อเอดส์
- - - - ระยะฟักตัวของโรคตับอักเสบบีประมาณ 60-150 วัน
      - มีไข้ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คลื่นใส้ อาเจียน ปวดท้อง ปัสสาวะสีเข้ม อุจจาระสีซีด ปวดข้อ
      - รายที่มีอาการรุนแรง มีอาการตัวเหลืองตาเหลือง
      - ไตรมาสที่1 และ จะถ่ายทอดเชื้อ ไวรัสสู่ทารก ได้ร้อยละ 10 ไตรมาสที่่ 3 ถ่ายทอดสู่ทารกได้ร้อยละ 75
  - - - หลีกเลี่ยงการทำสูติการเจาะน้ำคร่ำ
      - หากปริมาณไวรัสในเลือดสูงกว่า 200,000 IU/mL TDF 300 mg. วันละ 1 ครั:ง GA 28-32 สัปดาห์
    - - TDF 300 mg. วันละ 1 ครั้ง จนถึง 4 สัปดาห์ หลังคลอด
      - ติดตามตรวจดูระดับ ALT
      - ทารกแรกเกิดโดยการใช้หลัก universal precaution
      - Exclusive breastfeeding หากไม่มีรอยแผล
      - ทารก ได้รับHBIG (400IU) ทันทีหรือภายใน 12 ชั่วโมงหลังคลอด
      - ทารกควรได้รับวัคซีน ภายใน 7 วันและให้ซ้ำภายใน 1 เดือนและ 6 เดือน
- - - - ระยะหลัง
        
        พบอายุมากกว่า 2 ปี แก้วตาอักเสบ (interstitial keratitis) ฟันหน้ามีรอยแหว่งเว้าคล้ายจอบ (Hutchinson ’s teeth) หูหนวก จมูกยุบหน้าผากนูน กระดูกขาโค้งงอผิดรูป
      - ระยะแรก
        
        พบตัังแต่คลอดถึง 1 ปี น้ำหนักตัวน้อย ตับม้ามโต ต่อมน้ำเหลืองโต ผิวหนังฝ่า มือฝ่าเท้าพองและลอก น้ำมูกมาก เสียงแหลม “wimberger’s sign” ปลายส่วนบนกระดูก tibia กร่อนทั้งสองข้าง
  - - - หลัก Universal precaution ป้องกันการติดเชื้อโดยดูดเมือกออกจากปากและจมูกโดยเร็ว เจาะเลือดจากสายสะดือทารกเพื่อส่งตรวจการติดเชื้อซิฟิลิส
    - - ระยะหลังคลอด สามารถให้นมได้ตามปกติ ล้างมือก่อนและหลังสัมผัสทารก แนะนำรับประทานยาและกลับมาตามนดัติดตามผลการรักษา ให้คําแนะนําการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ
    - - อธิบายความสําคัญของการคัดกรอง ความเสี่ยงของโรค ผลต่อทารกในครรภ์
      - ส่งคัดกรอง VDRL ครั้งแรกที่มาฝากครรภ์และตรวจซ้ำเมื่ออายุครรภ์ 28-32 สัปดาห์หรือ ห่างกันอย่างน้อย 3 เดือน
      - หากมีการติดเชื้อดูแลให้ได้รับยาปฏิชีวนะตามแผนการรักษา
      - แนะนำมาฝากครรภ์ตามนัดและติดตามผลการรักษาเมื่อครบ 6 และ 12 เดือน
      - แนะนํารักษาความสะอาดและป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ
      - แนะนำพาสามีมาตรวจคัดกรอง
      - ดูแลด้านจิตใจ
- - - - เซลล์วิทยา (cytology) โดยวิธี Tzancksmear ขูดเนื้อเยื่อบริเวณก้นแผล แล้วย้อมสี Wright หรือ Giemsa เพื่ิอดู multinucleated giant cells
      - การเพาะเชื่อ (culture) โดยใช้ของเหลวที่ได้จากตุ่มใสที่แตกออกมา หรือการขูดเอา จากก้นแผล จะพบ multinucleated giant cell
  - - - ล้างแผลด้วยน้ำเกลือ 0.9 % หรือสารละลาย zinc sulphate 0.25-1% วันละ - ครั้ง แนะนําเกี่ยวกับการนั่งแช่ก้นด้วยน้ำอุ่น
      - แนะนําการดูแลแผลให้แห้งและสะอาดอยู่เสมอ
      - ดูแลการให้ยาต้านไวรัสตามแผนการรักษา
      - ลดความไม่สุขสบายจากการปวดแสบปวดร้อน
      - หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ขณะมีแผล ควรใช้ถุงยางอนามัย
    - - เน้นการใช้หลกั Universal precautionและหลีกเลี่ยงการทำหัตถการ
    - - และหลีกเลี่ยงการทำหัตถการ
        สามารถให้นมได้ตามปกติ ล้างมือก่อน
- - - - 1.ให้เพิ่ม AZT 300 mg ทุก 3 ชม. หรือ AZT 600 mg ครั้งเดียว ไม่ว่าจะใช้ยาสูตรใด
      - ในรายที่ viral load น้อยกว่า 50 copies / ml ไม่ต้องให้ยาระหว่างเจ็บครรภ์คลอด
      - หากคลอดโดยการผ่าตัดให้กินยาก่อนเริ่ม ผ่าตัดอย่างน้อย 4 ชม.
      - หลีกเลี่ยงการให้ยา Methergine เนื่องจากจะ ทำให้เกิด severe vasoconstriction ได้
    - - 1.ให้ยาหลังคลอดต่อทุกราย CD4 < 500 cells / mm 3 คู่มีผลเลือดลบหรือไม่ทราบผลเลือด มีการติดเชื้อร่วม เช่น วัณโรค ไวรัส ตับอักเสบบี ไวรัสตับอักเสบซี 2
      - 2.การให้ยาต้านไวรัสในทารกแรกเกิด AZT ขนาด 4 mg/kg/dose ทุก 12 ชม. ให้นานต่อเนื่อง 4 สัปดาห์
  - - - แนะนําวิธีการปฏิบัติตัวป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ
      - ดูแลให้ยาตามแผนการรักษา (แนวทางการให้ยา)
      - ตรวจหาระดับ CD4 ถ้าตํ่ากว่า 400 เซลล์ต่อลูกบาศก์มิลลิเมตร อาจพจิารณาให้ prophylaxis pneumocystis carinii pneumonia (PCP)
    - - หลีกเลี่ยงการทำให้ถุงน้ำแตกหรือรั่วทํา คลอดโดยยึดหลัก Universal precaution
      - จัดให้ผู้คลอดอยู่ในห้องแยกป้องกันการ แพร่กระจายเชื้อ
    - - จัดให้อยู่ในห้องแยก
      - แนะนําการปฏิบัติตัวเมื่อกลับบ้านเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ
      - งดให้นมบุตร เพราะทารกอาจติดเชื้อจากแม่ทางน้ำนมได้
      - ทารกหลังคลอด ให้ NPV 2 มก./กก. ทันที่และให้ AZT 2 มก./ กก./วัน และติดตามการติดเชื้อในทารกหลังคลอด 12-18 เดือน
- - - - การตรวจหาแอนติบอดี IgM และ IgG ต่อไวรัสซิกา สําหรับการตรวจหา IgM สามารถตรวจพบได้ภายใน 3 วันนับแต่แสดงอาการ การตรวจหาภูมิคุ้มกัน (IgM) ด้วย วิธี ELISA หรือImmunofluorescence หากพบว่าผลการตรวจเป็นลบแนะนําให้เกบ็ Plasma ส่งตรวจซํ้าภายใน 3-4 สัปดาห์
      - วิธีการตรวจดีเอ็นเอสามารถตรวจได้จากน้ำเหลือง
      - การตรวจหาพันธุกรรมของเชื้อด้วยวิธี RT-PCR ภายใ 1-3 วันเมื่อเริ่มแสดงอาการ