Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลเด็กที่มีปัญหาระบบทางเดินหายใจ, น.ส.อรอารี ศรีดอนไผ่ เลขที่ 61…
การพยาบาลเด็กที่มีปัญหาระบบทางเดินหายใจ
สาระสำคัญเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจในเด็ก
การหายใจ
ลักษณะการหายใจ
การหายใจมีปีกจมูกบาน (nasal flaring)
เป็นลักษณะของการ หายใจลำบาก
ขณะหายใจเข้ามีการบานออกของปีกจมูกทั้งสองข้าง
เพื่อช่วยขยายท่อทางเดินหายใจให้อากาศที่หายใจเข้าเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
ขณะหายใจเข้ามีการยุบลง (retraction)
ขณะหายใจเข้ามีการยุบลง (retraction) ของกระดูกหน้าอก
(sternal retraction) ช่องระหว่างซี่โครง (costal retraction)
และใต้ซี่โครง (subcostal retraction)
เสียงหายใจผิดปกติ
เกิดจากการที่ลมผ่านเข้าไปในท่อทางเดินหายใจที่มีความผิดปกติ
ประกอบด้วยเสียงต่างๆ
stridor sound
เกิดจากมีการตีบแคบของบริเวณกล่องเสียงหรือหลอดลม ได้ยินตอนหายใจเข้าและออก
พบได้บ่อยในกลุ่มอาการของเด็กที่เป็น croup ได้แก่
acute laryngitis
laryngotracheitis
laryngotrachebronchitis
crepitation sound
เป็นเสียงแตกกระจายเป็นช่วงๆ เกิดจาก
การที่ลมผ่านท่อทางเดินหายใจที่มีน้ำ หรือ เสมหะ
พบได้ในภาวะปอดอักเสบ (pneumonia)
rhonchi sound
ผ่านเข้าไปในส่วนของทางเดินหายใจที่แคบกว่าปกติ
การตีบแคบอาจเกิดจากเสมหะอุดตันเยื่อบุทางเดินหายใจบวม
หลอดลมบีบเกร็งจากภาวะ ภูมิแพ้
เป็นเสียงที่เกิดขึ้นเนื่องจากมีการไหลวนของอากาศ
wheezing
เป็นเสียงที่มีความถี่สูงหรือเสียงหวีดได้ยินชัด ในช่วงหายใจออก
เกิดจากหลอดลมเล็กๆหรือหลอดลมฝอย เกิดการบีบเกร็ง
พบในผู้ป่วยที่เป็นโรค
โรคหอบหืด (bronchial asthma)
ภาวะหลอดลมมีความไวในการตีบตัวมากกว่าปกติ(bronchial hyperreactivity)
อัตราการหายใจของเด็กแต่ละวัย
ต่ำกว่า 2 เดือน ไม่เกิน 60 ครั้ง/นาที
2-12 เดือน ไม่เกิน 50 ครั้ง/นาที
1-5 ปี ไม่เกิน 40 ครั้ง/นาที
ค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดแดง (O2 saturation) มากกวา ่ 95-100 %
เสมหะ
กลไกล
กระบวนการสร้างสารมูก Mucous
การพัดโบกของขนกวัด Cilia
กลไกการไอ Cough Reflex
เมื่อเกิดการติดเชื้อ
ต่อมสร้างสารคัดหลั่ง (mucus gland)
จะสร้าง mucous เพิ่มมากขึ้นทำให้เสมหะมากขึ้น
มีการทำลายcellเยื่อบุหลอดลมและทำลาย Cilia เพิ่มมากขึ้น
จำนวน Cilia ลดน้อยลง เสมหะมากและเหนียวข้น
จึงทำให้เกิดการคั่งค้างของเสมหะในหลอดลม
การพัดโบกของCiliaไม่มีประสิทธิภาพ
จึงต้องใช้การไออย่างมีประสิทธิภาพเข้าช่วย
เพิ่มน้ำในPt. ที่มีเสมหะ
ช่วยใหค้วามชุ่มชื้นต่อทางเดินหายใจ
เสมหะเหนียวน้อยลงขับออกได้ดี
Cilia พัดโบกได้ดีขึ้น
ส่งผลให้Pt. ไอขับเสมหะได้ดีขึ้น
ลักษณะของเสมหะ
เสมหะเหนียว
เสมหะเป็นมูกคลา้ยแป้งเปียก
อยู่ติดรวมกันเป็นก้อน หนืดและเหนียวมาก
ขับออกได้ยาก
เสมหะไม่เหนียว
เมือกเหลว ยือและหนืดน้อย ขับออกได้ง่าย
โรคที่เกิดทางเดินหายใจ
Tonsilitis / Pharyngitis
สาเหต
การติดเชื้อแบคที่เรียไวรัส
Beta Hemolytic streptococcus gr. A
อาการ
ไข้ ไอ ปวดศรีษะ เจ็บคอ
ตุ่มใส แผลตื้น บริเวณคอหอย
เกิดจาก Coxsackie Virus เรียกว่า Herpangina
แนะนำ ทานยาAntibiotic ให้ครบ10 day
เพื่อป้องกัน
ไข้รูห์มาติค
หัวใจรูห์มาติค
กรายไตอักเสบเฉียบพลันAGN
การผ่าตัดต่อมทอนซิล(tonsillectomy)
ผ่าตัดเมื่อตอเชื้อเรื้อรังหรือเป็นๆหายๆ
สงสัย CA Tonsil
การดูแลหลังผ่าตัด
นอนตะแคงด้านใดด้านนหนึ่ง เพื่อระบายเสมหะ น้ำลาย เลือดที่ค้างในปากและลำคอจนกว่าจะรู้สึกตัวดี
สังเกตการเปลี่ยนแปลงอย่างใกล้ชิด
หากPulse 120/ นาที ซีด เงียบ กลืนติดต่อกันข้อบ่งชี้เลือดออก เกิดในเวลา 6-8 ชั่วโมงแรก
1-2 ชั่วโมงแรกให้อมน้ำแข็งก้อนเล็กๆ หากปวดแผลใช้กระเป๋าน้ำแข็.ประคบบริเวณผ่าตัด ปวดมากให้ยาแก้ปวด
ไซนัสอักเสบ(Sinusitis)
สาเหตุ
ติดเชื้อ
ไวรัส
แบคทีเรีย
เชื้อรา
อาการ
ไข้สูง ปวดเมื่อย ไอมีกลิ่น ปวดศรีษะ ปวกหน้าผากและคิ้วมาก
การรักษา
ให้ยา antibiotic ยาแก้ปวดลดไข้
ยาแก้แพ้ ในกรณี อักเสบเรื้อรังมีอาการชักนำมา
ให้ยาSteroid เพื่อลดอาการบวม
การล้างจมูก
คือการทำความสะอาดโพรงจมูก ชำระล้างสิ่งสกปรก
ล้างก่อนพ่นจมูฏทำให้ประสิทธิภาพดีขึ้น
ล้างวันละ 2- 3 ครั้ง โดย0.9 %NSS ช่วยลดความเหนียวและยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรค
คือ การอักเสบของโพนงอาการข้างจมูก
ระยะของโรค
Acute sinusitis ไม่เกิน 12 Week
Chronic sinusitis ต่อเนื่องเกิน12Week
หอบหืด Asthma
ความรุนแรง
เล็กน้อย
ไอ มีเสียงวี๊ดใช้ชีวิตได้ปกติ
ปานกลาง
ตื่นบ่อย เล่นซนไม่ค่อยได้มีเสียงวี๊ดขณะเล่น
รุนแรง
กระสับกระส่ายนอนไม่ได้ ปากเขียว หอบเหนื่อย กินอาหารไม่ได้
อาการ
หวัด ไอ มีเสมหะ ไอมากเกิดเสียง Wheezingในช่วงหายใจออก
หอบ ปากซีดเขียว ใจสั่น
การดูแล
ยาขยายหลอดลม ได้รับออกซิเจน ให้พักเพื่อลด activity
ยาลดอาการบวม เช่น Dexa ซึ่งเป็นยา Steroid
ไม่เคาะปอดในเด็กที่เป็นAsthmaที่กำลังหอบ เพราะหลอดลมจะหดเกร็งมากขึ้น
พยาธิสภาพ
พยาธิสภาพาให้หลอดลมหดเกร็งตัว(Brochospasm)
หลอดลมตีบแคบลง (Stenosis) เยื่อบุภายในหลอดลม บวมขึ้น
สร้างเมือกเหนียวจำนวนมาก (Hypersecretion) ทำให้ช่องทางเดินอากาศในหลอดลมแคบลง
คือ
การอักเสบของหลอดลม ทำให้เยื่อบุผนังหลอดลม
ตอบสนองต่อสารภูมิแพ้มากกกว่าปกติ
การรักษา
ยาขยายหลอดลม ( Relievers) ชนิดพ่น / รับประทาน
ยาพ่นออกผลเร็วช่วยขยายกล้ามเนื้อเล็กๆ
ยาลดการบวม และการอักเสบของหลอดลม (Steroid)
ใช้ระยะสั้น 3-5 day ไม่มีผลข้างเคียง
เช่น Dexa , Hydrocortisone
ควรหลีกเลี่ยง
ควันบุหรี่
ตัวไรฝุ่น
ซักผ้าปูที่นอนปลอกหมอน สัปดาห์ละ1 ครั้ง
ไม่นำสัตว์เลี้ยงเข้าห้องนอน
ตุ๊กตาที่มีขน พรมเช็ดเท้า
อากาศเย็น
หลอดลมอักเสบ( Bronchitis)
สาเหตุ
Respiratory syncytial virus : RSV
การอักเสบและอุดกล้ันของหลอดลม
พบในเด็กเล็กมากกว่าเด็กโต
พบบ่อยที่สุดคือ 6 เดือน
อาการ
ไข้หวัด น้ำมูก จาม เบื่ออาหาร ร้องกวน
หายใจเเร็ว หอบ ปีกจมูกบาน ดูดน้ำหรือนมได้น้อย
การรักษา
การรักษา ตามอาการ ให้ยาลดไข้ ยาปฏิชีวนะ ยาต้านการอักเสบ ยาขยายหลอดลม
ดูแลให้O2 เพียงพอ
ดูแลปัญหาติดเชื้อ
กลไกล
เชื้อไวรัส ทำลายเนื้อเยื่อของหลอดลม
เกิดการอักเสบ บวม คั่งค้างขของเสมหะ
เกิดการอุดกั้นและเกิด Atelectasis
ปอดบวม Pneumonia
สาเหตุ
สำลักสิ่งแปลกปลอม ติดเชื้อแบคทีเรียไวรัส
อาการ
ไข้ ไอ หอบ ดูดน้ำนมน้อยลง ซึม
การรักษา
ดูแลให้ได้รับน้ำอย่างเพียงพอ เพื่อให้เสมหะอ่อนตัว
ดูแลเรื่องไข้ Clear airway suctionเพื่อให้แลกเปลี่ยนก๊าซได้ดี
ให้ยาขยายหลอดลม ยาขับเสมหะ ยาฆ่าเชื้อ
การพยาบาล
สอนการไอ กระตุ้นให้ดื่มน้ำ
เสมหะอยู่ลึกให้เคาะปอดและ Suction เพื่อป้องกันปอดแฟบ
จัดท่านอนศรีษะสูงหรือนอนทับข้างที่มีพยาธิสภาพเพื่อให้ปอดขยายตัวได้ดี
ดูแลให้ได้รับ O2 อย่างเพียงพอ
เกณฑ์ที่องค์การอนามัยโลก
เด็กแรกเกิดที่ RR มากกว่า60 ครั้ง/ นาที
เด็ก 2M-1Y RR 50 ครั้ง/นาที
เด็ก 1-5Y RR 40 ครั้ง/นาที
Croup
คือ
เป็นกลุ่มอาการอุดกลั้นทางเดินหายใจส่วนบนบริเวณกล่องเสียง (larynx)และส่วนที่อยู่ใต้ลงมา
สาเหตุ
เกิดการอักเสบบริเวณ
1ฝาปิดกล่องเสียง(acute epiglottitis)
กล่องเสียง (acute laryngitis)
กล่องเสียง หลอดลมใหญ่ และหลอดลมฝอยในปอด (Laryngotracheobronchitis)
อาการ
inspiratory stridor หายใจเข้ามีเสียงฮืด
ไอเสียงก้อง Barking cough
ไข้ เจ็บคอ หายใจลำบาก Dyspnea
อาการน้ำลายไหล(drooling)
ไม่ตอบสนองต่อการพ่นยาทั่วไป
ส่วนใหญ่พ่น Adrenaline และใส่ ET Tube
การดูแลเด็กที่มีปัญหาาระบบหายใจ
การระบายเสมหะ
จััดท่านอน
Anterior นอนหงาย
Posterioนอนคว่ำ
LtนอนตะแคงRt
RtนอนตะแคงLt
ส่วนบนนอนหัวสูง ส่วนล่างนอนหัวต่ำ
จัดให้ปอดที่ต้องการระบายอยู่เหนือหลอดลมและปาก
ทำให้เสมหะไหลออกจากหลอดลมเล็กสู่หลอดลมใหญ่ ถูกกระตุ้นออกโดยการไอ Suction ออกมา
การเคาะ (Percussion)
cupped hand เคาะบริเวณส่วนที่จัดท่า
ใช้ผ้ารองบนส่วนที่จะเคาะ เคาะท่าละ 1นาที
ขณะเคาะหากPt.ไอให้หยุดเคาะและใช้การสั่นสะเสื่อนแทน
เคาะก่อนรับประทานอาหารหรือท้องว่างอย่างน้อย 2 hr เพื่อป้องกันการสำลักและอาเจียน
การสั่นสะเทือน (Vibration)
ใช้มือวางราบพร้อมท้้งเกร็งกลา้มเน้ือบริเวณต้นแขน
และหัวไหล่ในจังหวะการหายใจเข้าเต็มที่และกาลังหายใจออก
การไออย่างมีประสิทธิภาพ (Effective cough)
หายใจเข้าเต็มที่ช้าๆกลั้นไว้สักครู่หายใจออกมาเร็วและแรง
การพ่นยาในเด็ก
face mask
ความเข้มข้นของ ออกซิเจนประมาณ 35%-50%
flow rate 5-10 lit/min ไม่ให้น้อยกว่า5 lit/minflow rate เพื่อป้องกันการค้างของCO3
Nasal cannula
เด็กเล็กไม่เเกิน 2lit/min เด็กโต 2Lit/min
ข้อจำกัด
Pt.น้ำมูกมาก จมูกบวม ผนังจมูกเอียง
Oxygen hood/Box
hood/Box7 lit/min พื่อป้องกันการค้างของCO3
Hood เล็ก 3-5 lit/min ไม่ต่ำกว่า 3lit/min เพื่อป้องกันการค้างของCO3
ข้อปฏิบัติในการพ่นยาเเบบละออง Neubulizer
ไม่ควรให้เด็กร้อง เพราะยาจะเข้าปอดน้อยลง
ใช้มือประคองกระเปาะพ่นยาเพื่อรักษาอุณหภูมิ
เคาะกระเปาะพ่นยาเพื่อไม่ให้ยาตกค้าง ยาจะหมดใน 10 นาที
เปิด O2 6-8 lit/นาที
น.ส.อรอารี ศรีดอนไผ่ เลขที่ 61 รหัส 612001142