Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
โภชนาการตามช่วงวัย - Coggle Diagram
โภชนาการตามช่วงวัย
อาหารและโภชนาการสำหรับวัยรุ่น
โปรตีน
โปรตีน 1.0-1.2 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
แร่ธาตุ
อัตราส่วนที่เหมาะสมระหว่างแคลเซียม : ฟอสฟอรัส คือ ระหว่าง 1.5-2 : 1
คาร์โบไฮเดรต
ได้รับเป็นสัดส่วนร้อยละ 55-60 ของพลังงานทั้งหมด
ไขมัน
ร้อยละ 30 ของพลังงานทั้งหมด
ความต้องการอาหารของวัยรุ่น
วัยรุ่นชายควรได้รับพลังงานวันละ 1,700-2,300 กิโลแคลอรี
วัยรุ่นหญิงควรได้รับพลังงานวันละ 1,600-1,850 กิโลแคลอรี
อาหารและโภชนาการสำหรับเด็กประถมศึกษา(ุอายุ6-12ปี)
จำนวนมื้ออาหารที่เด็กวัยเรียนควรกิน
อาหารว่างที่มี่คุณค่าทางโภชนาการ 2 มื้อ
อาหารมื้อหลัก 3 มื้อ
ชนิดและปริมาณอาหารที่เด็กวัยเรียนต้องบริโภคทุกวัน
กลุ่มเนื้อสัตว์
กินปลาอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน
เนื้อสัตว์โดยเฉพาะเนื้อแดงสัปดาห์ละ 1-2 วัน
กินไข่สัปดาห์ละ 3-7 วัน
กลุ่มผัก
ควรกินผักได้ 4 ทัพพี
กลุ่มผลไม้
ควรกินผลไม้วันละ 3 ส่วน
กลุ่มนม
ควรบริโภคเป็นประจำทุกวัน
กลุ่มข้าวแป้ง
ควรกินอาหารกลุ่มข้าวแป้งวันละ 7-8 ทัพพี
ไขมัน
ไม่เกินวันละ 5 ช้อนชา
แบ่งออกเป็น 2 ช่วงวัย
อายุ 6-8 ปี
อัตราการเจริญเติบโตด้านความสูง สัดส่วนของไขมันและกล้ามเนื้อค่อนข้างคงที่
อายุ 9-12 ปี
เด็กชายเริ่มเข้าสู่วัยรุ่นอายุ 11-12 ปี
น้ำหนักเพิ่มขึ้นสูงสุดประมาณ 5.0 กิโลกรัมที่อายุ 13-14 ปี
มีส่วนสูงเพิ่มมากที่สุดปีละประมาณ 8-9 เซนติเมตร
เด็กหญิงเริ่มเข้าสู่วัยรุ่นอายุ 9-10 ปี
น้ำหนักเพิ่มขึ้นสูงสุดประมาณ 4.5 กิโลกรัม
ส่วนสูงเพิ่มมากที่สุดปีละประมาณ 6-7 เซนติเมตร
มีประจำเดือน มีการสะสมไขมันเพิ่มขึ้น
อาหารและโภชนาการสำหรับทารกแรกเกิดถึงอายุ 5 ปี
อาหารตามวัยสำหรับทารก
แรกเกิด 6 เดือน แนะนำให้กินนมแม่อย่างเดียว
เพื่อช่วยให้ทารกมีการเจริญเติบโตเต็มตามศักยภาพ
6 เดือนขึ้นไปอาหารลักษณะกึ่งแข็งกึ่งเหลวที่มีสารอาหารครบ 5 หมู่
ทารก 6 เดือนจะเริ่มมีฟันขึ้นสามารถให้ผลไม้ต่างๆเนื้อเนิ่มในระหว่างมืออาหาร
อาหารสำหรับเด็กอายุ 3-5 ปี
เป็นวัยที่มีกิจกรรมการเคลื่อนไหวและการเล่นมากขึ้น ทำให้ร่างกายต้องการสารอาหารพิ่มขึ้น
อายุ1-3 ปี ควรได้รับพลังงาน 1,000 กิโลแคลอรีต่อวัน
อายุ4-5 ปี ควรได้รับพลังงาน 1,300 กิโลแคลอรีต่อวัน
เด็กอายุ3-5 ปี ไม่ควรได้รับไขมันเกินกว่าร้อยละ 30 ของพลังงานทั้งหมด
อาหารและโภชนาการสำหรับวัยทำงานและหญิงเจริญพันธุ์
สาระสำคัญเฉพาะเพศหญิง
ธาตุเหล็กวันละ 15-20 มิลลิกรัม
โฟเลตหรือกรดโฟลิกวันละ 400 ไมโครกรัม
แคลเซียมวันละ 800 มิลลิกรัม
สาระสำคัญเฉพาะเพศชาย
ไลโคพีน
พบมากในฟักข้าว และมะเขือเทศ
ลดความเสี่ยงของมะเร็งต่อมลูกหมากได้
เซเลเนียม
พบมากในอาหารทะเล เนื้อสัตว์
ป้องกันการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก
อาหารและโภชนาการสำหรับผู้สูงอายุ
"ผู้สูงวัยเป็นหลักชัยของสังคม"
มีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคม
เน้นให้ผู้สูงอายุมีชีวิตอย่างมีคุณค่า มีศักดิ์ศรี มีคุณภาพชีวิตที่ดี
สามารถพึ่งพาตนเงได้นานที่สุด
ความต้องการพลังงานและสารอาหารในผู้สูงอายุ
น้ำ
6-8 แก้วเป็นประจำทุกวัน
ใยอาหาร
25 กรัมต่อวัน
แร่ธาตุและวิตามิน
ต้องการน้อยลงคือโครเมียม
ต้องการวิตามินเพิ่มขึ้นบางชนิด
แร่ธาตุที่ผู้สูงอายุต้องการมากขึ้น คือ แคลเซียม
วิตามินบี 6
วิตามินบี 12
วิตามินดี
วันละ 10 ไมโครกรัม
ผู้สูงอายุหญิงต้องการธาตุเหล็กลดลงเนื่องจากการหมดประจำเดือน
ไขมัน
ร้อยละ20-35 ของพลังงานทั้งหมด
กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนร้อยละ 10
กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวร้อยละ 15
กรดไขมันอิ่มตัวร้อยละ 8-10
กรดไขมันที่แนะนำสำหรับผู้สูงอายุ
กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนชนิดโอเมก้า 3
ช่วยลดอาการของโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
กรดไขมันดีเอชเอ
มีอยู่มากในปลาทะเลและปลาที่มีไขมันสูง
คาร์โบไฮเดรต
ร้อยละ45-65 ของพลังงานที่ร่างกายได้รับต่อวัน
คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน
ข้าวกล้องข้าวซ้อมมือ ธัญพืชที่ไม่ขัดสี ขนมปังโฮสวีท
โปรตีน
1 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
เน้นแหล่งโปรตีนที่มีคุณภาพ
เนื้อสัตว์ ปลา ไข่ น้ำนม
ความต้องการพลังงานจะลดลงเมื่ออายุเพิ่มขึ้น
คำแนะนำการบริโภคอาหารในหญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร
อาหารและพลังงานสำหรับทั้งแม่และทารกในครรภ์
แคลเซียมและวิตามีนดี
วิตามินดี
ควรเดินอยู่กลางแจ้งบ้าง ประมาณวันละครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมง เพื่อร่างกายจะได้ทำการสร้างวิตามินดีให้เพียงพอกับความต้องการ
อาหารที่เป็นแหล่งของแคลเซียม
ผักใบเขียว
นมและผลิตภัณฑ์จากนม
ปลาเล็กปลาน้อยที่กินได้ทั้งกระดูก
ความต้องการน้ำในระหว่างตั้งครรภ์
ใช้ผลิตน้ำนมเพื่อเลี้ยงทารก
ประมาณ 750 ซีซี ถึง1000 ซีซี หรือ1ลิตรต่อวัน
ร่างกายน้ำไปสร้างเป็นน้ำคร่ำ
โฟเลต
หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตรควรได้รับโฟเลตอย่างน้อย600ไมโครกรัมต่อวัน
สารอาหารในกลุ่มวิตามินบีที่ละลายน้ำได้
สำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาการของระบบประสาท
อาหารที่อุดมไปด้วยโฟเลต
ผักใบเขียว
ถั่วเหลือง
ถั่วงอก
ถั่วเขียว
เมล็ดทานตะวัน
มะละกอสุก
ส้ม
ธาตุเหล็ก
อาหารที่มีธาตเหล็กเป็นส่วนประกอบในปริมาณสูง
ผักใบเขียว
เนื้อสัตว์ เนื้อหมู เลือดหมู
ถั่วเมล็ดแห้ง
หญิงตั้งครรภ์ควรได้รับยาเม็ดธาตุเหล็กเสริมวันละ 60 มิลลิกรัม
หญฺิงให้นมบุตรควรได้รับธาตุเหล็กจากอาหาร 15 มิลลิกรัมต่อวัน
เพิ่มปริมาณอาหารที่รับประทานเป็นหลัก
อาหารที่ควรรับประทานเพิ่มมากกว่าเดิม
อาหารหมวดข้าวแป้งเพิ่มขึ้น 1-2 ทัพพี
เนื้อสัตว์ไขมันต่ำเพิ่มขึ้น 2-3 ช้อนโต๊ะ
นมไขมันต่ำ 1 แก้ว
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงขณะตั้งครรภ์
ผลิตภัณฑ์จากนมที่ไม่ผ่านการพาสเจอร์ไรซ์
เนื้อสัตว์ที่ปรุงสุกๆดิบๆ
ผักและผลไม้ที่ล้างไม่สะอาด