Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การบริหารคุณภาพ ทางการพยาบาล, จัดทำโดย นางสาวธนัญญา ปิ่นวันนา เลขที่ 33…
การบริหารคุณภาพ
ทางการพยาบาล
คุณภาพบริการพยาบาล หมายถึง การบริการด้าน
การพยาบาลที่มีคุณภาพตามมาตรฐานวิชาชีพและ
มีคุณภาพสนองความคาดหวังของผู้ใช้บริการ
การควบคุมคุมภาพ (Quality Control :QC) หมายถึง กิจกรรมในการประเมินตรวจสอบการพยาบาลหรือควบคุมดูแลบริการที่ให้แก่ผู้ใช้บริการเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานการพยาบาลตามต้องการ
แนวคิดการพัฒนาคุณภาพ
จูแรน (Juran)
การกำหนดเป้าหมายคุณภาพ
การควบคุมคุณภาพ
การปรับปรุงคุณภาพ
ครอสบี (Crosby)
เน้น ได้แก่ การทำตามมาตรฐาน
การแก้ไขปัญหาคุณภาพ
การทำให้ถูกตั้งแต่แรก และการยึดเป้าหมายของเสียเป็นศูนย์
ขั้นตอนการดำเนินงาน 14 ขั้นตอน
ความมุ่งมั่นในการบริหารจัดการบนพื้นฐานคุณภาพ
การปรับปรุงคุณภาพโดยทีม
การจัดการคุณภาพ
ต้นทุนคุณภาพ
ความตระหนักหรือจิตสำนึกในคุณภาพ
การปฏิบัติกิจกรรมปรับปรุงแก้ไข
การวางแผนไร้ข้อผิดพลาด
การสนับสนุนการฝึกอบรม
วันแห่งข้อผิดพลาดเป็นศูนย์
การกำหนดเป้าหมายคุณภาพ
การขจัดข้อผิดพลาด
การให้การยอมรับผู้ปฏิบัติงาน
การมีส่วนร่วมในรูปแบบคณะกรรมการคุณภาพ
การทบทวนทำทุกขั้นตอนซ้ำใหม่ทั้งหมด
เดมมิ่ง (Deming)
ใช้กระบวนการ คือ
Plan, Do, Check, Act
การพัฒนาคุณภาพที่ยั่งยืน
(Continuous quality improvement ,CQI)
กระบวนการพัฒนาระบบงานอย่างต่อเนื่องไม่มีสิ้นสุด เป็นการใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์
และความคิดสร้างสรรค์
หัวใจสําคัญในการพัฒนา มีอยู่ด้วยกัน 3 ประการ
เน้นการตอบสนองต่อผู้รับผลงานเป็นสําคัญ
เป็นการปรับปรุงวิธีการทํางานจากงานประจํา
เป็นกระบวนการแก้ปัญหาโดยใช้ข้อมูล/การคิดสร้างสรรค์และการมีส่วนร่วม
การประกันคุณภาพ
การกระทำเพื่อให้การปฏิบัติการพยาบาล
สามารถตอบสนองความต้องการ
ของผู้ใช้บริการตามมาตรฐานวิชาชีพได้อย่างสม่ำเสมอ
แนวคิดการประกันคุณภาพ
ยุคเดิม คือ พยาบาลเป็นผู้กำหนดเกณฑ์ตามความคิดเห็น ความเชื่อ
ความรู้ที่มีในการตรวจสอบและประเมินผล
ขั้นตอน ดังนี้
พัฒนามาตรฐาน
มีการตรวจสอบรวบรวมข้อมูล
รายงานผลการตรวจสอบ
ช่วง ค.ศ. 1952 – 1992
การพัฒนาการพยาบาลและการประเมินคุณภาพ
แต่ยังเป็นการดำเนินการเฉพาะเรื่อง
เน้นที่กระบวนการ คือ ใช้กระบวนการพัฒนาคุณภาพ
ทั้งองค์การเป็นการแก้ปัญหาทั้งระบบมากกว่าแก้จุดเล็กๆ
รูปแบบการประกันคุณภาพ
สมาคมพยาบาลอเมริกัน
ประกันทั้งในส่วนโครงสร้าง
กระบวนการและผลลัพธ์
องค์การอนามัยโลก (1995) คือ การประกันคุณภาพตามโปรแกรมที่สร้างขึ้นอย่างมีขั้นตอน ประกอบด้วย
กิจกรรมต่างๆอย่างต่อเนื่อง วางแผนเป็นระบบชัดเจน
มีวงจรนำไปสู่คุณภาพ
คณะกรรมการร่วมเพื่อการรับรององค์การ
บริการสุขภาพ เป็นรูปแบบที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย
และสอดคล้องกับมาตรฐานของโรงพยาบาล
โรแลนด์
การกำหนดวัตถุประสงค์
การออกแบบกระบวนการ
การเตรียมข้อมูลภายใน
การเปรียบเทียบสารสนเทศ
ที่ได้กับหน่วยงานอื่น
ปรับปรุงแก้ไขงานให้ดีขึ้น
มีการปรับให้ประเมินผลตาม
วัตถุประสงค์ที่วางไว้และเริ่มต้นวงจรใหม่
ระบบประกันคุณภาพ
ภายนอก ประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่
การควบคุมคุณภาพ
การตรวจสอบคุณภาพ
การประเมินคุณภาพ
ภายใน ประกอบด้วย
การตรวจสอบคุณภาพที่ผ่านกระบวนการ
ประกันคุณภาพภายใน
การประเมินคุณภาพ
การให้การรับรอง
องค์ประกอบ
การกำหนดมาตรฐาน
การตรวจสอบคุณภาพ
การพัฒนาคุณภาพ
ระบบการบริหารคุณภาพ
การรับรองคุณภาพโรงพยาบาล
(Hospital Accreditation: HA)
การพัฒนาคุณภาพบริการแบบเครือข่าย
(Hospital Network Quality Audit: HNQA)
ระบบมาตรฐาน (ISO)
• ISO 9000 คือ การจัดระบบการบริหารเพื่อประกันคุณภาพ
ที่สามารถตรวจสอบได้ โดยผ่านระบบเอกสาร
• ISO 9001 เป็นมาตรฐานระบบคุณภาพ ซึ่งกำกับดูแล
ทั้งการออกแบบ และพัฒนาการผลิต การติดตั้ง และการบริการ
• ISO 9002 มาตรฐานระบบคุณภาพ ซึ่งกำกับดูแลเฉพาะการผลิต การติดตั้ง และการบริการ
• ISO 9003 เป็นมาตรฐานระบบคุณภาพ ซึ่งกำกับดูแล
เรื่องการตรวจ และการทดสอบขั้นสุดท้าย
• ISO 9004 เป็นแนวทางในการบริหารงานคุณภาพ
เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยเป็นข้อแนะนำ
ในการจัดการในระบบคุณภาพ ซึ่งจะมีการกำหนดย่อย
ในแต่ละประเภทธุรกิจ
• ISO 14000 เป็นระบบมาตรฐานระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม
มุ่งเน้นให้องค์กรมีการพัฒนาปรับปรุงสิ่งแวดล้อม อย่างต่อเนื่อง
• ISO 18000 มาตรฐานระบบการจัดการ
อาชีวอนามัยและความปลอดภัย
• ISO 26000 สามารถนำไปใช้เป็นแนวทางการดำเนิน
การเกี่ยวกับความรับผิดชอบต่อสังคม
การบริหารความเสี่ยง
(Risk Management: RM)
การบริหารจัดการที่วางแผนสำหรับมองไปข้างหน้า
และมีกิจกรรมเพื่อป้องกันความล้มเหลวที่เกิดขึ้น
ประโยชน์
ได้ปรับปรุงกระบวนการตัดสินใจ
ได้ปรับปรุงกระบวนการปฏิบัติงาน
ได้ปรับปรุงระบบการสื่อสาร
มีระบบรายงานการบริหารความเสี่ยงและการควบคุม
มีการจัดสรรทรัพยากร
การจำแนกความเสี่ยง
ความเสี่ยงทั่วไป
ระดับ 0 หมายถึง ยังไม่เกิดความเสี่ยงแต่มีโอกาสที่จะเกิด
ระดับ 1 หมายถึง เกิดอุบัติการณ์ขึ้นแล้ว รับอันตรายเล็กน้อย
ระดับ 2 หมายถึง เกิดอุบัติการณ์ขึ้นแล้ว รับอันตรายปานกลาง
ระดับ 3 หมายถึง เกิดอุบัติการณ์ขึ้นแล้ว รับอันตรายมาก
ความเสี่ยงทางคลินิก
ระดับ A : เหตุการณ์ที่อาจจะก่อให้เกิดความเสี่ยง
ระดับ B : เกิดความเสี่ยงแล้ว แต่ยังไม่ถึงผู้รับบริการ
ระดับ C : เกิดความเสี่ยงแล้ว ถึงผู้รับบริการแล้ว
แต่ไม่เป็นอันตราย
ระดับ D : เกิดความเสี่ยงแล้ว ถึงผู้รับบริการ
ได้รับความเสียหาย แต่ไม่เป็นอันตราย แต่ต้องเฝ้าระวัง
ระดับ E : เกิดความเสี่ยงแล้ว ถึงผู้รับบริการ ได้รับอันตราย
หรือเสียหายชั่วคราว
ระดับ F : เกิดความเสี่ยงแล้ว ถึงผู้รับบริการ ได้รับอันตราย
ต้องดูแลรักษานานขึ้น
ระดับ G : เกิดความเสี่ยงแล้ว ถึงผู้รับบริการ
ได้รับอันตรายอย่างถาวร
ระดับ H : เกิดความเสี่ยงขึ้นแล้ว ถึงผู้รับบริการ
เป็นผลให้ต้องทำการช่วยชีวิต
ระดับ I : เกิดความเสี่ยงขึ้นแล้ว ถึงผู้รับบริการ
และเป็นผลให้เกิดการเสียชีวิต
การประเมินความเสี่ยง
การกําหนดเกณฑ์การประเมินมาตรฐาน
การประเมินโอกาสและผลกระทบของความเสี่ยง
การวิเคราะห์ความเสี่ยง
การจัดลําดับความเสี่ยง
การจัดการความเสี่ยง
การติดตามและการประเมินผล
การเชื่อมโยงการใช้ RM, QA , CQI
และการวิเคราะห์ก้างปลา
หลักการ 4 M 1 E
M Man คนงาน หรือพนักงาน หรือบุคลากร
M Machine เครื่องจักรหรืออุปกรณ์อำนวยความสะดวก
M Material วัตถุดิบหรืออะไหล่ อุปกรณ์อื่นๆ ที่ใช้ในกระบวนการ
M Method กระบวนการทำงาน
E Environment อากาศ สถานที่ ความสว่าง และบรรยากาศการทำงาน
จัดทำโดย
นางสาวธนัญญา ปิ่นวันนา
เลขที่ 33 (603101033)