Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 5.6 โรคติดเชื่อร่วมกับการตั้งครรภ์, นางสาวโสรดา เลบ้านเเท่น เลขที่…
บทที่ 5.6 โรคติดเชื่อร่วมกับการตั้งครรภ์
หัดเยอรมัน(Rubella, German measles)
Rubella
Virus
การติดเชื้อสามารถเกิดชึ้นโดยการสัมผัสโดยตรงต่อสารคัดหลั่งจากโพรงจมูกและปาก
แพร่เข้ากระแสเลือดในรก
ฟักตัวประมาณ 14-21 วันหลังสัมผัสโรค
ระยะการแพร่กระจายเชื?อคือ 7 วันก่อนผื่นขึ้นจนถึง 7 วันหลังผื่นขึน
การวินิจฉัย
การซักประวัติกาสัมผัสโรค ตรวจร่างกายว่ามีผื่นขึ้นหรือไม่
ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ : ELISA
IgM และ IgG specific antibody ทันทีที่มีผื่นขึ้นหรือภายใน 7-10 วันหลังผื่นขึ้น
ควรติดตามการเพิ่มขึ้นของระดับไตเตอร์เป็น 4 เท่าใน 2 สัปดาห์
อาการและอาการแสดง
ไข้ตํ่าๆ
Koplik's spot จุดสีขาวเหลืองขนาดเล็กคล้ายเม็ดงาอยู่ที่กระพุ้งเเก้ม
ผื่นแดงเล็กๆ (erythematous maculopapular)
ตุ่มนูน ผื่นแดงหรือสีชมพูขึนทีใบหน้าก่อนจะลามลงมาตามผิวหนังส่วนอื่นหายไปภายใน 3 วัน
ภาวะแทรกซ้อน
Congenital Rubella Syndrome
หูหนวก หัวใจพิการ ต้อกระจก
การรักษาพยาบาล
ในระยะ 3 เดือนแรก แพทย์จะแนะนำให้ยุติการตั้งครรภ์ “Therapeutic abortion”รายที่ไม่ต้องการยุติการตั้งครรภ์ แพทย์อาจพิจารณาฉีด Immunoglobulin
แนะนำพักผ่อนให้เพียงพอ
แนะนำดื่มนํ้ำให้เพียงพอ จิบบ่อยๆ
ถ้ามีไข้แนะนำ รับประทานยา paracetamal ตามแพทย์สัง
การติดเชื้อ HIV
การวินิจฉัย
การซักประวัติ เช่น ร่วมเพศกับผู้ติดเชื่อ ใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน อาการทางคลินิก
การตรวจร่างกาย มีไข้ ต่อมน้ำเหลืองโต น้ำหนักลด เป็นต้น
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
อาการและ
อาการแสดง
กลุ่มที่ 1 เป็ นกลุ่มที่ไม่มีอาการทางคลินิก การตรวจ Elisa ให้ผลบวก
กลุ่มที่ 3 เป็ นกลุ่มอาการที่มีอาการสัมพันธ์กับเอดส์ คือ มไี ข้สูงฉับพลัน ไข้ต่ำๆ นานกว่า 2-3 เดือนปวดศีรษะ เจ็บคอ คลื่นไส้อาเจียน ต่อมน้ำเหลืองโตทั่วไป ท้องเดินเรื้อรัง น้ำหนักลด อาจตรวจพบเย4ือหุ้มสมองอักเสบชนิด ไร้เชื่อร่วมด้วย
กลุ่มที่ 2 เป็นกลุ่มอาการคล้ายเอดส์ คือ ไข้ ปวดเมื่อยตามตัว อ่อนเพลียผื่นตามตัว ปวดศีรษะ เจ็บคอ ผล CD4 ต่ำกว่า 500-200 cm3
การติดต่อ
2.จากมารดาสู่ทารก (vertical transmission) โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์ไม่ได้รับการรักษา ทารกในครรภ์จะมีโอกาสติดเชื้อ25%
ทางกระแสเลือด จากการรับเลือดหรือส่วนประกอบของเลือดที่มีเชื้อเอดส์ การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน
1.การมีเพศสัมพันธ์ที4เสี4ยงมากที่สุดคือ การร่วมเพศทางทวารหนัก
การรักษา
การให้ยาต้านไวรัสระหว่างเจ็บครรภ์คลอด
ในรายที่ viral load น้อยกว่า 50 copies / ml ไม่ต้องให้ยาระหว่างเจ็บครรภ์คลอด
หากคลอดโดยการผ่าตัดให้กินยาก่อนเริ่มผ่าตัดอย่างน้อย 6 ชั่วโมง
หลีกเลี่ยงการให้ยา Methergine เนื่องจากจะทาํ ให้เกิด severe vasoconstriction ได้
1.ให้เพิ4ม AZT 300 mg ทุก 3 ชม. หรือ AZT 600 mg ครั้งเดียว ไม่ว่าจะใช้ยาสูตรใด
การให้ยาต้านไวรัสหลังคลอด
2.การให้ยาต้านไวรัสในทารกแรกเกิด
AZT ขนาด 4 mg/kg/dose ทุก 12 ชม.
ให้นานต่อเนื4อง 4 สัปดาห์
1.ให้ยาหลังคลอดต่อทุกราย
CD4 < 500 cells / mm 3
คู่มีผลเลือดลบหรือไม่ทราบผลเลือด
มีการติดเชื่อร่วม เช่น วัณโรค ไวรัสตับอักเสบ บี ไวรัสตับอักเสบ ซี
การพยาบาล
ระยะคลอด
หลีกเลี่ยงการทำให้ถุงน้ำเเตกหรือรั่วทำคลอดโดยยึดหลัก Universal precaution
จัดให้ผู้คลอดอยู่ในห้องแยกป้องกันการเเพร่กระจายเชื่อ
ระยะตั้งครรภ์
ตรวจหาระดับ CD4 ถ้าต่ำ4ํ00 กว่า เซลล์ต่อลูกบาศก์มิลลิเมตรอาจพิจารณาให้ prophylaxis pneumocystis carinii pneumonia (PCP)
ดูแลให้ยาตามแผนการรักษา (แนวทางการให้ยา)
แนะนำวิธีการปฏิบัติตัวป้องกันการแพร่กระจายเชือ
ระยะหลังคลอด
1.จัดให้อยู่ในห้องแยก
2.แนะนำการปฏิบัติตัวเมื4อกลับบ้านเพื4อป้องกันการแพร่กระจายเชื่อ
3.งดให้นมบุตร เพราะทารกอาจติดเชื?อจากแม่ทางน้ำนมได้
4.ทารกหลังคลอด ให้ NPV 2 มก./กก. ทันทีและให้ AZT 2 มก./กก./วัน และติดตามการติดเชื?อในทารกหลังคลอด 12-18 เดือน
หูดหงอนไก่ หูดหงอนไก่
(Condyloma accuminata and pregnancy)
การวินิจฉัย
การซักประวัติ ปัจจัยเสี่ยง ประวัติการสัมผัสผู้ติดเชื่ออาการและอาการแสดงของการติดเชื่อ
การตรวจร่างกาย สังเกตเห็นรอยโรค ซึ่งเป็นติ่งเนื้อบริเวณอวัยวะสืบพันธ์ุภายนอก รอบทวารหนัก ปากช่องคลอด ซึ่งสามารถช่วยประเมินสภาพได้ค่อนข้างแน่ชัด
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ โดยทำ pap smear พบการเปลี่ยนแปลงที4เซลล์เป็น koilocytosis (halo cell)
หูดหงอนไก่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที4เกิดจากเชื่อไวรัส Human papilloma virus (HPV) ชนิดที4ทำให้เกิดหูดหงอนไก่ ที่อวัยวะเพศส่วนใหญ่เป็ น type 6 และ 11
อาการและอาการแสดง
ก้อนสีชมพู นุ่ม
ผิวขรุขระ มีสะเก็ดคล้ายดอกกระหลํ่ำ ตกขาวมีกลิ4นเหม็นและคัน หูดขึ้นรอบๆ ทวารหนักและในทวารหนัก
การรักษา
จี้ด้วย trichloroacetic acid
การพยาบาล
1.ดูแลให้ได้รับการรักษาตามแผนการรักษา เช่น จี้ด้วย trichloroacetic acid หรือ laser surgery
2.แนะนำการรักษาความสะอาดของอวัยวะเพศ หลีกเลี่ยงการอับชื้นบริเวณอวัยวะสืบพันธ์ุ
3.แนะนำส่งเสริมสุขภาพตนเองให้แข็งแรง
4.เน้นการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
5.การออกกำลังกายที่พอเหมาะ การลดภาวะเครียด และสังเกตการติดเชื่อซ้ำ
ซิฟิ ลิส
(Syphilis)
Treponema
pallidum
เชื่อเข้าสู่ร่างกายทางรอยฉีกขาดของผนังช่องคลอด
แพร่กระจายผ่านระบบหลอดเลือดและน้ำเหลือง
มีการอักเสบของปลายหลอดเลือดเล็กๆ
เกิดการอุดตันของรูหลอดเลือด ผิวหนังขาดเลือดตายและเกิดแผล
แพร่ผ่านรกโดยตรง และขณะคลอดทางช่องคลอดที่มีรอยโรค
การวินิจฉัย
ส่งตรวจน้ำไขสันหลัง
การตรวจเลือด
: การตรวจ VDRL หรือ RPR
: FTA-ABS (Fluorescent Treponemal Antibody Absorption Test)
อาการและอาการแสดง
stage2
Secondary syphilis : ทั่วตั่ว ผ่ามือผ่าเท้า ไข้ ปวดตามข้อ ข้ออักเสบ ต่อมน้ำเหลืองโต ผมร่วง
stage1
Primary syphilis :หลังรับเชื่อ 10-90 วันเเผลริมเเข็งมีตุ่มเเดง
stage3
Latent syphilis: ไม่แสดงอาการ Tertiary or late syphilis : ทำลายอวัยวะภายในเช่น หัวใจเเละหลอดเลือดสมอง ตาบอด
ภาวะแทรกซ้อน
เสี่ยงต่อการแท้งหลังอายุครรภ์ 4 เดือน
การคลอดก่อนกำหนด
ทารกในครรภ์โตช้า
ทารกบวมน้ำ
ทารกตาบอด
ระยะแรก พบตั้งแต่คลอดถึง 1 ปี
นํ้ำหนักตัวน้อย ตับม้ามโต ต่อมน้ำเหลืองโต ผิวหนังฝ่ามือฝ่าเท้า พองและลอก น้ำมูกมาก เสียงแหลม“wimberger ’s sign” ปลายส่วนบนกระดูก tibia กร่อนทั้งสองข้าง
ระยะหลัง พบอายุมากกว่า 2 ปี
แก้วตาอักเสบ (interstitial keratitis)ฟันหน้ามีรอยแหว่งเว้าคล้ายจอบ (Hutchinson ’s teeth)หูหนวก จมูกยุบ หน้าผากนูน กระดูกขาโค้งงอดผิดรูป
การรักษา
1.การรักษาระยะต้นให้ยา Benzathine penicillin G 2.4 mU IM ครั้งเดียว แบ่งฉีดสะโพกข้างละ 1.2 mU อาจลดอาการปวด โดยผสม % Lidocaine0.5-1 ml
2.การรักษาระยะปลายให้ยา Benzathine penicillin G 2.4mU IM สัปดาห์ ละครั้ง นาน 3 สัปดาห์ แบ่งฉีดที่สะโพก ข้างละ 1.2 mU อาจลดอาการปวดโดยผสม1% Lidocaine 0.5-1 ml
การพยาบาล
ระยะหลังคลอด
ระยะหลังคลอด สามารถให้นมได้ตามปกติ ล้างมือก่อนและหลังสัมผัสทารกแนะนาํ รับประทานยาและกลับมาตามติดตามผลการรักษาให้คำแนะนำการป้องกันการแพร่กระจายเชื่อ
ระยะคลอด
หลัก Universal precautionป้องกันการติดเชื่อโดยดูดเมือกออกจากปากและจมูกโดยเร็วเจาะเลือดจากสายสะดือทารกเพื่อส่งตรวจการติดเชื่อซิฟิลิส
ระยะตั้งครรภ์
อธิบายความสำคัญของการคัดกรอง ความเสี่ยงของโรค ผลต่อทารกในครรภ์
ส่งคัดกรอง VDRL ครั:งแรกท'ีมาฝากครรภ์และตรวจซํ้ำเม'ืออายุครรภ์ 28-32สัปดาห์หรือ ห่างกันอย่างน้อย 3 เดือน
หากมีการติดเชื:อดูแลให้ได้รับยาปฏิชีวนะตามแผนการรักษา
แนะนำมาฝากครรภ์ตามนัดและติดตามผลการรักษาเมื่อครบ 6 และ 12 เดือน
แนะนำรักษาความสะอาดและป้องกันการแพร่กระจายเชื่อ
แนะนำพาสามีมาตรวจคัดกรอง
ดูแลด้านจิตใจ
โรคเริมที4อวัยวะเพศ
(Genital herpes simplex infection)
การตดิ เชื่อ Herpes simplex virus
(HSV)
HSV type 2 เกิดโรคเริมที่อวัยวะเพศและทวารหนัก (anogenital herpes infection)
üHSV type 1 เกิดเริมที4ปาก
(Orolabial herpes infection)
อาการเละอาการเเสดง
ต่อมนํ้าเหลืองโต และอ่อนเพลีย
ไข้ ปวดเมื่อยตัว
อาการปวดแสบปวดร้อนมาก
Vesicles ที่ผิวหนังของอวัยวะเพศ
ภาวะแทรกซ้อน
ตาอักเสบ ตุ่มใสๆ ไข้ หนาวสั่น ตับม้ามโต ซึม
การวินิจฉัย
การตรวจร่างกาย สังเกตเห็นตุ่มน้ำ ใสแตกจะเป็ นแผลอักเสบ มีอาการปวดแสบปวดร้อนมาก ขอบแผลกดเจ็บและค่อนข้างแข็ง ลักษณะตกขาว
การซักประวัติ ปัจจัยเสี่ยง ประวัติการสัมผัสผู้ติดเชื่อ
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
การรักษา
ควรให้ยาปฏิชีวนะและดูแลแผลให้สะอาดในรายที4ติดเชื่อ แผลไม่สะอาด
การให้ยา antiviral drug เช่น acyclovir, valacyclovir และ famciclovir
กรณีที่่มี Herpes lesion ควรได้รับการผ่าตัดคลอดทางหน้าท้องเพื่อหลีกเลี4ยงไม่ให้ทารกได้รับเชื่อจากการสัมผัสสิ4งคัดหลั่งในช่องคลอด
การพยาบาล
ระยะหลังคลอด
สามารถให้นมได้ตามปกติ ล้างมือก่อน
และหลังสัมผัสทารก
ระยะคลอด
เน้นการใช้หลัก Universal precaution
และหลีกเลี4ยงการทำหัตถการ
ระยะตั้งครรภ์
ลดความไม่สุขสบายจากการปวดแสบปวดร้อน
แนะนำการดูแลแผลให้แห้งและสะอาดอยู่เสมอ
ล้างแผลด้วยน้ำเกลือ 0.9 % หรือสารละลาย zinc sulphate 0.25-1%วันละ 2-3 ครั้ง แนะนำเกี่ยวกับการนั่งแช่ก้นด้วยน้ำอุ่น
ดูแลการให้ยาต้านไวรัสตามแผนการรักษา
หลีกเลียงการมีเพศสัมพันธ์ขณะมีแผล ควรใช้ถุงยางอนามัย
ไวรัสตับอักเสบบี (Hepatitis B)
รายที่มารดาเป็นพาหะหรือมีการอักเสบของตับเรื่อรีง
Hepatitis B core antigen (HBcAg) ส่วนแกนกลางมี DNA ทีรูปร่างกลม ซึงจะตรวจไม่พบในเลือดหรือ สารคัดหลั่งของร่างกาย แต่จะพบในนิวเคลียสของสตรีตั้งครรภ์
Hepatitis B e antigen (HBeAg)ส่วนประกอบย่อยทีเกิดจากกระบวนการเผาผลาญแปรสภาพของ HBcAg ในกระแสโลหิต พบได้เฉพาะบุคคลทีมี HBsAg เป็นบวก เท่านัน และสามารถติดต่อและแพร่เชื่อได้มากกว่าร้อยละ 50
Hepatitis B surface antigen (HBsAg) ส่วนทีเป็นเปลือกนอกของไวรัส สามารถแพร่กระจายเชื่อผ่าน ทางเลือด นํ?าลาย นํ?าตา สารคัดหลั4งทางช่องคลอด นํ้าอสุจิ นํ้าครํ่า นํ้ำปัสสาวะ
อาการและอาการแสดง
ระยะฟักตัวของโรคตับอักเสบบีประมาณ 60-150 วัน
มีไข้ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คลื่นใส้ อาเจียน ปวดท้อง ปัสสาวะสีเข้ม อุจจาระสีซีด ปวดข้อ ในรายที่มีอาการรุนแรง มีอาการตัวเหลืองตาเหลือง
ผลกระทบการติดเชื่อไวรัสตับอักเสบบี
เบาหวานในระหว่างต?งั ครรภ์
การตกเลือดก่อนคลอด
การคลอดก่อนกาํ หนด
ทารกนำ? หนักตวั น้อย
แนวทางการรรักษา
ก่อนการคลอด
หลีกเลี่ยงการทำสูติ การเจาะน้ำครํ่ำ
หากปริมาณไวรัสในเลือดสูงกว่า 200,000 IU/m TDF 300 mg. วนั ละ 1 ครั:ง GA 28-32 สัปดาห์
ระยะหลงั คลอด
HBIG (400IU) ทันทีหรือภายใน 12 ชั่วโมงหลังคลอด
ควรได้รับวัคซีน ภายใน 7 วันและให้ซ้ำภายใ 1 เดือนและ 6 เดือน
TDF 300 mg. วันละ 1 ครั้ง จนถึง 4 สัปดาห์หลังคลอด
ติดตามตรวจดูระดับ ALT
ทารกเเรกเกิดโดยการใช้หลัก universal precaution
Exclusive breasfeeding หากไม่มีรอยเเผล
บทบาทพยาบาล
Hx.ประวัติ การได้รับวัคซีน บุคคลในครอบครัว
อาการ : ไข้ เหนื่อย อ่อนเพลีย คลื่นใส้อาเจียน ตัวตาเหลือง
ส่งตรวจเลือด
ป้องกันการแพร่กระจาย
Universal Precaution
ติดตามความก้าวหน้า ไม่กระตุ้นคลอด
ทารก : Suction ให้เร็ว หมดทำความสะอาด
BF
คุมกำเนิด ตรวจสุขภาพประจำปี
ป้องกันการแพร่กระจายเชือ
การติดเชื่อไวรัสซิกกา
(Zika fever)
อาการเเละอาการเเสดง
ไข้ ปวดศีรษะ ออกผื่นที4ลำตัว และแขนขา ปวดข้อ
ปวดในกระบอกตาเยื่อบุตาอักเสบ
การตรวจวินิจฉัย
การทดสอบทางห้องปฏิบัติการ
การวินิจฉัยการติดเชื่อของทารกในครรภ์ สามารถตรวจทางห้องปฏิบัติการ โดยใช้สิ4งส่งตรวจ เช่น น้ำคร่ำ เลือดจากสะดือหรือรก
การซักประวัติ อาการ การเดินทาง ลักษณะที่ยู่อาศัย
ภาวะแทรกซ้อน
ภาวะศีรษะเล็กแต่กำเนิดของทารกในครรภ์
ติดตามอัลตร้าซาวการเจริญเติบโต
ของทารกทุก 4 สัปดาห์
การวัดรอบศีรษะในทารกแรกเกิด 2 ครั้งครี้งเเรกเมื่อเเรกเกิด เเละครั้งที่ 2 เมื่ออายุ 24 ชั่วโมง
การตรวจวินิจฉัย
ยังไม่ยารักษาโรคไข้ซิกาโดยตรง
อการให้พกั ผ่อนอย่างเพยี งพอ
ดื่มน้ำในปริมาณ 2,000-3,000 ลิตรจ่อวัน
การให้ยาพาราเซตามอลเพื4อบรรเทาอาการปวด ลดไข้
ห้ามรับประทานยาแอสไพรินหรือยากลุ่มลดการอักเสบ (NSAIDs)
นางสาวโสรดา เลบ้านเเท่น เลขที่ 114 ชั้นปีที่ 4 รหัส 602701115