Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การใช้กระบวนการพยาบาลในการดูแลมารดาที่มีปัญหาสุขภาพในระยะหลังคลอด - Coggle…
การใช้กระบวนการพยาบาลในการดูแลมารดาที่มีปัญหาสุขภาพในระยะหลังคลอด
อักเสบเป็นหนองในอุ้งเชิงกราน (Parametritis)
การพยาบาล
ป้องกันการติดเชื้อ
ให้คำแนะนำรักษาสุขวิทยาส่วนบุคคล
ทำคลอดถูกวิธีและถูกเทคนิค
เมื่อมีอาการ
ดูแลอาการไม่สบายต่างๆ เช่น ปวด ลดไข้ ส่งเสริมให้น้ำคาวปลาไหลดี มดลูกเข้าอู่ เช่น จัดให้นอนท่า Fowler's position
ทำแผลระบายหนอง ให้ ATB
จัดผู้ป่วยอยู่ในส่วนไม่แพร่เชื้อ
อาการรุนแรง
ดูแลให้ได้รับสารน้ำทางหลอดเลือดดำ
เตรียมอุปกรณ์กู้ชีวิต
แก้อาการท้องอืด โดยใส่ NG Tube
กรณีติดเชื้อของเยื่อบุช่องท้อง
ถ้าอาการเลวลงจะมีการถ่ายเหลวร่วมด้วย หน้าท้องตึงแข็ง กดเจ็บทั่วไป กระสับกระส่าย ตัวเย็น เหงื่อออกปัสสาวะน้อย ถ้ารับการรักษาไม่ทันอาจช็อคตายได้
อาเจียนบ่อย ลักษณะอาเจียนพุ่ง
ปวดท้องรุนแรง ไข้สูง 40.5 องศาเซลเซียส ชีพจรเร็ว 140 ครั้ง/นาที หนาวสั่น อ่อนเพลีย หายใจเร็วขึ้น
สาเหตุ
ติดเชื้อจากการฉีกขาดของปากมดลูก หรือแผลบริเวณมดลูกจาก C/S เชื้อที่เป็นสาเหตุจะผ่านทางต่อมน้้าเหลืองสู่อวัยวะในอุ้งเชิงกรานทำให้เกิดการอักเสบ
การฉีกขาดของปากมดลูกแผ่เข้าไปถึง Connective tissue ของ Board ligament ทำให้ติดเชื้อโดยตรงจากช่องคลอด
เป็นผลตามมาของ Pelvic thrombophlebitis จากการอักเสบทะลุผ่านผนังหลอดเลือดดำออกมาและเชื้อกระจายเข้าสู่ Connective tissue
อาการ
ไข้สูงลอย หรือขึ้นๆ ลงๆ T = 38.9 – 39.4 องศาเซลเซียส
เบื่ออาหาร อาเจียน บางครั้งถ่ายเหลว
หนาวสั่น ชีพจรเบาเร็ว
ซีด
กดหน้าท้องไม่เจ็บถ้ามดลูกเข้าอู่แล้ว น้้าคาวปลาอาจไม่มาก อาจเจ็บหน้าท้อง
อาจมี Endo Toxicshock
Cross of death เป็นสัญญาณอันตราย T ต่ำกว่า 36 องศาเซลเซียส ชีพจรเร็วมากกว่า 100 ครั้ง/นาที
เต้านมอักเสบ (Mastitis)
เป็นการอักเสบของต่อมน้านม ส่วนใหญ่จะพบในช่วง 3-4 สัปดาห์หลังคลอด มักจะเป็นข้างเดียว และบางตำเแหน่งเต้านมจะแดงและแข็งมากขึ้น มีอาการปวดบริเวณที่อักเสบ อาจจะมีไข้สูง หนาวสั่นร่วมด้วย ประมาณ 10% ของภาวะเต้านมอักเสบจะกลายเป็นฝีบริเวณเต้านมตามมาได้
การพยาบาล
รักษาความสะอาดของเต้านม มือ เสื้อผ้า ทำความสะอาดเต้านมก่อนและหลังให้นมทารก
ถ้ามีหัวนมแตกต้องรีบแก้ไขไม่ปล่อยทิ้งไว้
ให้ยาปฏิชีวนะ พวก Penicillin ควรให้อย่างน้อย 10 วัน
ประคบด้วยน้าแข็งถ้าปวดมาก เพื่อบรรเทาอาการปวด
ให้ยาแก้ปวด ใส่ยกทรงพยุงไว้
ถ้ามีหนองเกิดขึ้น จะต้องทา I/D เพื่อเอาหนองออก
ให้นมบุตรได้ตามปกติ แต่มักจะมีปัญหาลูกไม่ค่อยดูดนมข้างที่มีการอักเสบ เนื่องจากเต้านมจะคัดและแข็งทำให้ดูดยากกว่าปกติ
ควรประคบอุ่นบริเวณเต้านมก่อนให้นม และแนะนำให้ดูดข้างที่ปกติก่อน เมื่อน้ำนมไหลดีแล้ว จึงค่อยให้ดูดนมข้างที่อักเสบ
หากน้ำนมยังค้างอยู่ให้บีบออกจนเกลี้ยงเต้า
สาเหตุ
หัวนมแตก ถลอกหรือมีรอยแตก ซึ่งส่วนมากจะเกิดจากการที่ทารกดูดนมนานเกินไป หรือดูดไม่ถูกวิธี เชื้อจะเข้าไปตามหลอดน้้าเหลืองของท่อน้้านม
การบีบนวดเต้านมมากๆ เช่น ในรายที่นมคัด
เต้านมคัดมาก ท่อน้้านมอุดตัน ท้าให้น้้านมไหลออกมาไม่ได้
การดูดนมของทารกที่มีเชื้อในจมูก และคอ โดยเชื้อเข้าสู่ท่อนมโดยตรง
อาการ
ไข้สูง 38.5-40 c ชีพจรเร็ว อาการหนาวสั่น ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย
เจ็บปวดบริเวณเต้านม
ผิวหนังบริเวณเต้านมมีลักษณะ แดง ตึง แข็ง เจ็บ ปวด (Infeanation) ผิวหนังจะนุ่ม เป็นมัน
ต่อมน้าเหลืองที่รักแร้อาจโต และเจ็บ
การบวมเลือดหรือก้อนเลือดคั่ง (hematoma)
การพยาบาล
ป้องกันการบวมเลือดโดยวางกระเป๋าน้ำแข็งที่ฝีเย็บในชั่วโมงแรกหลังคลอด
พยาบาลต้องประเมินขนาดของก้อนเลือดตั้งแต่แรกเพื่อใช้เปรียบเทียบอาการ
ตามขนาดก้อนเลือด ประคบเย็น ผ่าตัดอระบายไว้
ให้การดูแลตามอาการ
บริเวณปากช่องคลอดและช่องคลอด อาจเกิดจากการคลอด
จากการกระทบกระแทกบริเวณนี้
อาจจะเกิดจากการแตกของเส้นเลือดดำขอด (varicose vein) บริเวณนี้
สาเหตุ
เกิดจากการบาดเจ็บจากการคลอดในรายที่คลอดเองหรือทำสูติศาสตร์หัตถการ
การเย็บซ่อมแซมแผลฝีเย็บหรือแผลฉีกขาดที่ฝีเย็บไม่ดี
การบีบคลึงมดลูกรุนแรง ทำให้เลือดคั่งใต้เยื่อบุช่องท้องและใน broad ligament
อาการ
เจ็บปวดบริเวณฝีเย็บหรือทวารหนักมากหลังคลอด
ถ้าเกิดการบวมเลือดบริเวณอื่นๆ มารดาก็มีอาการปวดบริเวณนั้นตามแรงกดของก้อนเลือด
หากก้อนเลือดมีขนาดใหญ่ก็จะทำให้มารดาเกิดภาวะตกเลือดตามมาได้ โดยอาการตกเลือดอาจไม่สัมพันธ์กับจำนวนเลือดที่ออกทางช่องคลอด
ภาวะมดลูกไม่เข้าอู่ (Subinvolution)
เป็นภาวะที่ขบวนการกลับคืนสู่สภาพเดิมของมดลูกใช้เวลานาน หรือขบวนการนั้นหยุดไปก่อนที่มดลูกจะกลับคนสู่สภาพเดิมอย่างสมบูรณ์
สาเหตุ
ภาวะที่ทำให้มดลูกหดรัดตัวไม่ดี จากสาเหตุต่างๆ
การผ่าตัดคลอด
ทารกไม่ได้ดูดนมมารดา
มีการติดเชื้อภายในมดลูก
มดลูกคว่ำหน้าหรือคว่ำหลังมาก
อาการ
น้้าคาวปลาออกมากกว่าปกติ มีสีแดงตลอด มีกลิ่นเหม็น
มดลูกนุ่มและใหญ่กว่าปกติ ระดับยอดมดลูกไม่ลดลง กดเจ็บหรือมีอาการปวดมดลูก
มีไข้
อาจเกิดการตกเลือดระยะหลัง (Late PPH)
การป้องกัน
ตรวจรกว่ารกคลอดครบหรือไม่ ถ้าสงสัยว่ารกคลอดไม่ครบต้องรายงานอาจต้องขูดมดลูกหากพบว่ามีรกค้างจริง
ส่งเสริมให้น้้าคาวปลาไหลได้สะดวก : กระตุ้นให้ลุกจากเตียงโดยเร็ว นอนคว่ำ หลีกเลี่ยงกระเพาะปัสสาวะเต็ม หลีกเลี่ยงภาวะท้องผูก
ส่งเสริมการเลี้ยงบุตรด้วยนมมารดา
การพยาบาล
ให้ยาปฏิบัติชีวนะเมื่อมีการติดเชื้อร่วมด้วย แนะนำการดูแลรักษาและการปฏิบัติตัว
ถ้าไม่มีการติดเชื้อร่วมแพทย์อาจให้ยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก จึงต้องประเมินระดับยอดมดลูกทุกวัน
กรณีที่เกิดจากมีรกค้าง แพทย์จะท้าการขูดมดลูกเพื่อเอาเศษรกออก พยาบาลจึงต้องเตรียมมารดาสำหรับการขูดมดลูก
แนะนำให้พักผ่อน การรับประทานอาหาร การส่งเสริมให้น้้าคาวปลาไหลได้สะดวก การรักษาความสะอาด
ภาวะจิตแปรปรวนหลังคลอด
อารมณ์เศร้าหลังคลอด (Postpartum blue)
เป็นการปรับตัวทางจิตใจและอารมณ์ที่ผิดปกติชนิดไม่รุนแรงหลังคลอด เพราะมีความรู้สึกกดดันต่างๆ ผ่านเข้ามาอย่างรวดเร็ว เกิดความสับสน ไม่รู้จะทำตัวอย่างไร
แต่ถ้าไม่สามารถเผชิญ (Coping) ได้ อาการจะอยู่เป็นเวลานานและพัฒนาไปขั้นที่รุนแรงขึ้น
พบได้ร้อยละ 50-60 มักเกิดในวันที่ 2-3 หลังคลอด
อาการ
อารมณ์แปรปรวน ซึมเศร้า อ่อนแรง กังวล สับสน ไม่ค่อยมีสมาธิ หายเองไม่ต้องพึ่งยา
สาเหตุ
จากการคลอด ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงมากมายทั้งทางร่างกายและจิตสังคมเกินกว่าที่จะรับได้
การเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาของร่างกาย
การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน หลังคลอดโปรเจสเตอโรนลดลง Estradiol cortisol และ Prolactin เพิ่มขึ้น
ความเครียดทางจิตใจ
ความตึงเครียดจากสังคมและสิ่งแวดล้อม
การพยาบาล
การประคับประคองทางร่างกายและจิตใจ ให้สามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว โดยให้คำอธิบายกลไกการเกิดอาการ การช่วยเหลือตนเอง การช่วยเหลือจากสมาชิกในครอบครัว
ภาวะซึมเศร้าหลังคลอด (Postpartum depression)
เป็นภาวะที่จิตใจหม่นหมอง หดหู่ ท้อแท้ หมดหวัง มองโลกในแง่ร้าย
ความรุนแรงของภาวะนี้ เริ่มตั้งแต่ความเหนื่อยหน่าย รู้สึกหมดหวัง หมดอาลัยในชีวิต ต้องการหนีความล้าบากด้วยการฆ่าตัวตาย
ภาวะซึมเศร้า จะมีความรู้สึกรุนแรงกว่าอารมณ์เศร้า จะแสดงให้เห็นว่าพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปจากเดิม
อาการ
ซึมเศร้า ไม่สนใจกิจกรรมปกติ รู้สึกผิด สิ้นหวัง รู้สึกไม่สามารถเลี้ยงลูกได้
สาเหตุ
การเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาของร่างกาย
การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน การลดลงของ Progesterone, Estrogen, Norepinephrine และ Thyroxine ระดับ Prolactin สูงขึ้น
ประสบการณ์การคลอดลำบาก การบาดเจ็บจากการคลอด
ความเครียดทางจิตใจ
ความตึงเครียดทางสังคมและสิ่งแวดล้อม
การพยาบาล
ให้มารดาได้รับความสุขสบายทางกายและได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ
ส่งเสริมให้มารดาได้รับการประคับประคอง ดูแลเอาใจใส่จากครอบครัว
ส่งเสริมให้กำลังใจในการแสดงบทบาทการเป็นมารดา
ให้มารดาได้รับการดูแล รักษาบำบัดภาวะซึมเศร้าอย่างเหมาะสม
โรคจิตหลังคลอด (Postpartum psychosis)
เป็นปัญหาทางจิตที่เกิดขึ้นได้ในระยะหลังคลอด โดยมากพัฒนามาจาก ภาวะอารมณ์เศร้า และภาวะซึมเศร้าหลังคลอด ถ้าได้รับการดูแลเอาใจใส่ไม่ดีพอ หรือให้การรักษาพยาบาลล่าช้าเกินไป
อาการ
จิตหลอนสาคัญตนผิด ไม่อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง อยู่เฉยๆไม่ได้ มักมี Hx เป็นก่อนตั้งครรภ์/ครอบครัวเป็น
สาเหตุ
ลักษณะเฉพาะตัวของมารดา เช่น มารดาที่มีแนวโน้มจะป่วยทางจิตอยู่แล้ว หรือผู้ที่มีประวัติญาติป่วยเป็นโรคจิตและมารดาที่มีบุคลิกภาพแปรปรวนอยู่ก่อนแล้ว
การพยาบาล
ให้มารได้รับความสุขสบายและมีสุขอนามัยที่ดี
ให้มารดา สามี และญาติเข้าใจการวินิจฉัยและแผนการรักษา
ส่งเสริมความสามารถในกาดำรงบทบาทการเป็นมารดา
ให้โอกาสมารดาในการพูดคุย กระตุ้นให้ระบายความรู้สึกนึกคิดและปัญหาที่มี
ชักนำส่งเสริมให้เข้ากลุ่มจิตบำบัด