Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
หน่วยไตอักเสบเฉียบพลัน Acute glomerulonephritis (AGN), image, image,…
หน่วยไตอักเสบเฉียบพลัน
Acute glomerulonephritis (AGN)
อาการและอาการแสดงที่ผิดปกติ
จากการซักประวัติ
ปวดศีรษะ
ปัสสาวะออกน้อย
ปัสสาวะสีเข้ม
BP = 150/100 mmHg ( ปกติ 105/65)
บวมทที่หนังตาและขา
จากห้องปฎิบัติการ
U/A red–brown color ( Clean yellow)
BUN = 60 mg/dl ( ปกติ 5-20 mg/dl)
RBC numerous/HPF ( ปกติ 0-2 cell/HPF)
สาเหตุ
แบคทีเรียสเตร็ปโตค็อกคัส กลุ่มเอ
โรคทางภูมิคุ้มกัน เช่น โรคเอสแอลอี (SLE) โรคไตอักเสบชนิดไอจีเอ (IgA)
กลุ่มโรคหลอดเลือดอักเสบ
โรคพันธุกรรมบางชนิด เช่น กลุ่มอาการอัลพอร์ต (Alport syndrome)
พยาธิสรีรภาพ
เมื่อเชื้อแบคทีเรียมาถึงไต เชื้อจะเพิ่มจำนวนและทำให้ไตอักเสบอย่างกว้างขวาง ไตอาจมีขนาดใหญ่ขึ้น เนื้อไตมีพังผืด เป็นแผลเป็น มีฝีกระจายอยู่ทั่วไต ไตจะมีขนาดเล็กลงและเกิดภาวะไตวายในที่สุด
การให้คำแนะนำสำหรับการใช้ยา
ยาขับปัสสาวะ furosemide ขนาด 1-2 มล/ครั้ง v q 6 hr.
ยาจะออกฤทธิ์ภายใน 5 นาที คำแนะนำยานี้จะทำให้ปัสสาวะบ่อย เพื่อลดอาการบวมน้ำ และความดันโลหิตสูง ผู้ป่วยไม่สามารถเพิ่มหรือลดยาเองได้หากไม่ได้รับคำสั่งจากแพทย์ เพราะการใช้ยาในปริมาณที่มากเกินไปอาจเป็นสาเหตุให้ผู้ป่วยสูญเสียการได้ยินอย่างถาวร
ยาขยายหลอดเลือด hydralazine ขนาด 0.15-0.30 มล/ ครั้ง ให้ทางIM,IV q 4-6 hr. ยาออกฤทธิ์ภายใน 10-25 นาทีคำแนะนำเป็นยารักษาความดันโลหิตสูง ห้ามผู้ป่วยหยุดยาเองแม้อาการจะดีขึ้นแล้ว หากมีอาการหัวใจเต้นเร็วอาการชา ปวดแสบปวดร้อน เจ็บ หรือรู้สึกคล้ายเข็มทิ่ม
รู้สึกจะเป็นลมให้รีบแจ้งแพทย์ทันที
ให้ยาปฎิชีวนะ Penicillin V 250 mg. q 6 hr. นาน10 วันคำแนะนำเป็นยาปฎิชีวนะ ควรได้รับการฉีดจนครบกำหนดไม่สามารถอยู่ได้แม้ว่าอาการจะดีขึ้นแล้ว
ปัญหาทางการพยาบาลและการกิจกรรมทางการพยาบาล
มีภาวะน้ำเกิน เนื่องจากไตสูญเสียหน้าที่ในการควบคุมความสมดุลของสารน้ำในร่ายกาย
ดูแลการจำกัดน้ำ
ดูแลการให้ยาขับปัสสาวะเพื่อลดอาการบวม
ดูแลการรับประทานอาหารที่จำกัดพวกเกลือ
บันทึกปริมาณสารน้ำเข้า-ออก
ชั่งน้ำหนักและบันทึกอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง
ผู้ป่วยเสี่ยงต่อการเกิดอาการชักจากการมีความดันโลหิตสูง เนื่องจากการเพิ่มปริมาตรของน้ าและเกลือในร่างกาย
จัดให้นอนศีรษะสูง 30-45 องศาเพื่อลดปริมาณเลือดกลับเข้าสู่หัวใจและเพิ่มประสิทธิภาพการแลกเปลี่ยนก๊าซที่ปอด
จำกัด กิจกรรมเพื่อลดการทำงานของหัวใจ
บันทึกปริมาณน้ำเข้าออกทุก 1 ชั่วโมงและฟังปอดอย่างน้อยทุก 8 ชั่วโมงทุกวัน
บันทึกอาการบวมโดยวัดรอบท้องผ่านสะดือหรือกดบริเวณหน้าแข้ง