Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลผู้ที่มีภาวะผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน - Coggle Diagram
การพยาบาลผู้ที่มีภาวะผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน
หน้าที่ของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
Defense =ป้องกันและทำลายเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอม
Homeostasis =ควายจำกัดสิวปกติที่สามสภาพเช่นเม็ดเลือดที่มีอายุมากแล้วออกจากระบบร่างกาย
Surveillance =คอยจับตาดูเซลล์ต่างๆที่จะไปสภาผิดไปจากปกติเช่นค่อยดักทำลายtumor cells เพื่อป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง
ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง Immune deficiency
การติดเชื้อเอชไอวี 3 ระยะ
คือ ระยะสงบทางคลินิก (Clinical Latency Stage) เป็นระยะที่เชื้อไวรัสอยู่ในร่างกายโดยไม่แสดงอาการใดๆ หรืออย่างมากที่สุดคือมีอาการเพียงเล็กน้อย บางครั้งเรียกระยะนี้ว่า ระยะติดเชื้อเรื้อรัง (chronic HIV infection) หรือ ระยะติดเชื้อโดยไม่มีอาการ (asymptomatic HIV infection) ในระยะนี้ไวรัสจะเพิ่มปริมาณมากขึ้นในระดับต่ำ และมักจะใช้เวลานานถึง 10 ปี แต่สำหรับผู้ติดเชื้อบางคนอาจใช้เวลาน้อยกว่านั้น
ระยะสุดท้ายคือ ระยะโรคเอดส์ (AIDS) เป็นระยะที่การติดเชื้อเอชไอวีได้พัฒนาเป็นโรคเอดส์
ระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงมีปริมาณเซลล์ CD4 อยู่ระหว่าง 500 ถึง 1,600 ในขณะที่ผู้ป่วยโรคเอดส์มี CD4 ต่ำกว่า 200 เมื่อถึงจุดนี้ระบบภูมิคุ้มกันได้ถูกทำลายอย่างรุนแรงจนผู้ป่วยมีอาการติดเชื้อฉวยโอกาส(opportunistic infections) ซึ่งเกิดจากเชื้อโรคที่ไม่ก่อให้เกิดโรคในคนที่มีระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง แต่จะทำให้เกิดโรคกับผู้ที่ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ แต่ไม่ว่าผู้ติดเชื้อมีปริมาณ CD4 เท่าใดก็ตาม หากมีอาการติดเชื้อฉวยโอกาสอย่างใดอย่างหนึ่งหรือมากกว่าถือว่าผุ้ติดเชื้อนั้นเป็นโรคเอดส์
ระยะเฉียบพลัน (Acute HIV Infectious) เป็นระยะแรกของการติดเชื้อเอชไอวี เกิดขึ้นระหว่าง 2-4 สัปดาห์หลังจากติดเชื้อ ในระยะนี้ผู้ติดเชื้อจำนวนมากจะเริ่มมีอาการคล้ายเป็นไข้หวัดใหญ่ เช่น มีไข้ เจ็บคอ ต่อมน้ำเหลืองโต ปวดเมื่อยตามร่างกาย มีผื่นและปวดหัว อาการเหล่านี้เรียกว่า acute retroviral syndrome
CD4 ในร่างกายลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว เป็นระยะที่มีความเสี่ยงสูงมากที่ผู้ติดเชื้อจะแพร่กระจายไวรัสไปยังผู้อื่น ดังนั้นจึงจำเป็นต้องป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อเอชไอวี
โรคเอดส์AIDS
โรคเอดส์เป็นระยะสุดท้ายของการติดเชื้อเอชไอวี เอชไอวีซึ่งย่อมาจากคำว่า human immunodeficiency virus เป็นเชื้อไวรัส ในขณะที่โรคเอดส์หรือ acquired immune deficiency syndrome คือกลุ่มอาการของโรคที่เกิดจากการติดเชื้อเอชไอวีซึ่งเกิดขึ้นเมื่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายถูกเชื้อไวรัสทำลายจนร่างกายของผู้ป่วยไม่สามารถต่อสู้กับเชื้อโรคทั้งหลายที่เข้าสู่ร่างกายได้
การติดเชื้อเอชไอวี
คนสามารถติดเชื้อเอชไอวีโดยการสัมผัสกับเลือด น้ำอสุจิ ของเหลวจากช่องคลอด หรือแม้แต่น้ำนมแม่ สาเหตุการแพร่เชื้อส่วนใหญ่มาจากการมีเพศสัมพันธ์และการใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน หรือส่งผ่านจากแม่สู่ลูกระหว่างการตั้งครรภ์
ภาวะภูมิไวเกินHypersensitivity
Type ll Hypersensitivity
Allergenคือเซลล์แปลกปลอมเช่นในการให้เลือดผิดกลุ่มการปลูกถ่ายอวัยวะกลไกในร่างกายตอบสนองโดยสร้างแอนติบอดีชนิดlgGและIgMไปเกาะกับเซลล์แปลกปลอมทำให้เกิดการกระตุ้นระบบComplementเซลล์จะแตกสลายมีPhagocyte เข้ามากินและหลังเอนไซม์ออกมาทำให้เกิดการอักเสบเช่นการที่เลือดแม่กับลูกไม่เข้ากันการปฏิเสธการปลูกถ่ายอวัยวะ
Type lll Hypersensitivity
คือยาซีรั่มแก้พิษงูเชื้อจุลินทรีย์วัคซีนแอนติเจนของตัวเองในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่อต้านตนเองแอนติบอดีที่เคยเป็นชนิดIgMภาวะภูมิแพ้แบบที่3เกิดได้ใน3กรณี
1.กรณีมีการติดเชื้อแล้วเกิดantigen antibody complex เช่นการติดเชื้อมาอาริยาการที่เชื้อไวรัสไข้เลือดออก
2.มีภาวะภูมิแพ้ต่อตัวเองเรียกautoimmune diseaseเช่นผู้ป่วยที่เป็นโรคเอสแอลอี
3.ผู้ที่ได้รับแอนติเจนปริมาณมากเช่นผู้ที่ถูกงูกัดและได้รับซีรั่มแก้แพ้พิษงูจากม้าจะเกิดการแพ้ที่เรียกserumหรือในผู้ที่หายใจเอาสปอของเชื้อราปริมาณมากเข้าไป
Type l Hypersensitiveity
Allergen คือฝุ่นยาอาหารเกษรดอกไม้ซีรั่มม้าซึ่งร่างกายได้รับทางการสัมผัสกินฉีดหรือหายใจอาการแพ้ที่เกิดจะเกิดเร็วเช่นแพ้ฝุ่นจะมีการไอจามทันที
Histamine เป็นสารที่ออกฤทธิ์ทำให้เส้นเลือดฝอยขยายตัวทำให้เกิดการบวมแดงคันทำให้เกิดการเหลืองเรียบหดตัวเกิดการหดหดได้ถ้าการแพ้เกิดมากๆมีผลทำให้ชีพจรเต้นเร็วความดันโลหิตต่ำช็อคได้เรียกว่าเกิดAnaphylaxis
Type lV Hypersensitivity
อาจเรียกว่าdelayed type hypersensitivityหรือภาวะภูมิแพ้แบบช้าสิวที่เกี่ยวข้องคือTeffectorหรือTdth ตัวอย่างของภูมิแพ้แบบนี้เช่นการแพ้สารเคมีที่ผิวหนังเช่นการแพ้ผงซักฟอกในผู้ที่เป็นโรคอ้วน การทำ
tuberculin test การเกิดภูมิแพ้แบบนี้ให้เกิดช้า 48 ถึง 72 ชั่วโมง
ความผิดปกติในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
1.การทำงานของระบบภูมิคุ้มกันร่างกายบกพร่อง
2.ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายทำงานมากเกินไปหรือภูมิไว้เกินทำให้มีการตอบสนองที่รุนแรงผิดปกติสารบางอย่างเช่นเกษรดอกไม้ขนสัตว์โลหะทำให้เกิดอาการในกลุ่มของโรคภูมิแพ้
3.ระบบภูมิคุ้มกันทำงานสับสนไม่สามารถแยกแยะแอนติเจนแปลกปลอมเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันเข้าจู่โจมแหละเค้าทำลายเนื้อเยื่อร่างกายทำให้เกิดเป็นโรคทางออโตอิมมูน
โรคภูมิแพ้
โรคภูมิแพ้ คือ โรคที่มีความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน โดยที่ร่างกายจะมีปฏิกิริยาไวต่อสารที่ก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้หรือสารระคายเคือง ซึ่งจะทำให้เกิดอาการแพ้ โรคชนิดนี้มักไม่ค่อยรุนแรงถึงชีวิต แต่จะส่งผลรบกวนต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการเรียนหรือทำงาน
โรคผื่นสัมผัส
การระคายเคืองหรือการแพ้ล้วนแล้วแต่ก่อให้เกิดผื่นแพ้สัมผัสได้ทั้งสิ้น เราอาจจะได้รับสารบางอย่างมาเป็นแรมปีและไม่เคยเกิดปัญหาอันใด แต่อยู่ๆ ก็เกิดผื่นแพ้สัมผัสขึ้นมา สาเหตุที่พบได้บ่อยของผื่นแพ้สัมผัส ได้แก่ กรด ด่าง สารละลายอะซีโตน สบู่ ผงซักฟอก โลหะ (เช่น นิกเกิล ซึ่งพบได้บ่อยในผู้ที่แพ้เครื่องประดับ) ยาง ลาเท็กซ์ เครื่องสำอาง น้ำยาระงับกลิ่นกาย น้ำยาระงับเหงื่อ พืชบางชนิด (เช่น poison ivy) หรือยาบางประเภท