Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ ( Urinary Tract Infection : UTI ),…
การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ ( Urinary Tract Infection : UTI )
อาการและอาการแสดงที่ผิดปกติ
ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน
มีไข้สูง อุณหภูมิ 38.8 องศาเซลเซียส
ปัสสาวะกระปริบกระปรอย,ร้องไห้เวลาถ่ายปัสสาวะ
WBC 20cell/ HPF
P = 90 ครัง/นาที
สาเหตุ
Escherichia, Staphylococci, Pseudomonas species, Streptococci, Gram-negative bacteria
เด็กเล็ก อาจเกิดจากการใส่สายสวนปัสสาวะ การส่องกล้องทางท่อปัสสาวะ ถ่ายปัสสาวะไม่หมด มีคั่งค้างของปัสสาวะร่วมกับการปนเปื้อนจุลินทรีย์ผ่านเข้าทางท่อปัสสาวะ
ส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย
ปัจจัยส่งเสริม
ความผิดปกติในการบีบและคลายตัวของกระเพาะปัสสาวะ เช่น อาการท้องผูก
ความผิดปกติของโครงสร้างทางเดินปัสสาวะ เช่น ภาวะปัสสาวะไหลย้อน (จากกระเพาะปัสสาวะสู่ท่อไต) และภาวะอุดกั้นในทางเดินปัสสาวะ
นิสัยการขับถ่ายปัสสาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะหรือไม่เหมาะสม เช่น การมีปัสสาวะคั่งค้างในกระเพาะปัสสาวะนาน ๆ
เพศ พบว่าเพศหญิงมีโอกาสติดเชื้อได้มากกว่าเพศชายเนื่องจากในผู้หญิงมีท่อปัสสาวะสั้น
การสวนปัสสาวะ เป็นการนำเชื้อโรคเข้าสู่กระเพาะปัสสาวะ
คำแนะนำในการใช้ยาอย่างปลอดภัยและสมเหตุผล
ระยะเวลาการให้ยา
แนะนําให้นาน 10-14 วันในผู้ป่วย acute pyelonephritis และ 7-10 วัน ในผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง
เด็กโตที่มีอาการไม่รุนแรง
หรือเป็นการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง อาจให้ยา ปฏิชีวนะทางปาก เช่น Cotrimoxazole 6-12 มก. ของ trimethoprim/กก./วัน, Amoxycillin-clavulanic acid 30 มก. ของ amoxycillin/กก./วัน, หรือ ยากลุ่ม Cephalosporins ต่างๆ สำหรับ quinolone เช่น Norfloxacin 10-15 มก./กก./วัน
ไม่ควรให้ยาต้านจุลชีพ
เพื่อป้องกันโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะเป็นประจำแก่ผู้ป่วยทกุรายที่มีโรคติด เชื้อทางเดินปัสสาวะเป็นครั้งแรกเพราะการให้และการไม่ให้ยาต้าน จุลชีพป้องกันการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะมีโอกาสการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะซ้ำไม่แตกตา่งกัน และไม่ สามารถลดการเกิดแผลเป็นที่ไตได้ อาจทำให้เพิ่มอัตราการดื้อยาของเชื้อแบคทีเรีย
ให้ยาลดไข้ ยาแก้ปวด เพื่อให้เกิดความสุขสบาย
การให้ยาระยะสั้น
เป็นการให้ยาขนาดสูงเพียงครั้งเดียว ใช้ในกรณีติดเชื้อทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง
เช่น กระเพาะปัสสาวะอักเสบที่มีอาการเพียง 2 -3 วันและสามารถติดตามผลการรักษาได้
กรณีศึกษาที 1
เด็กอายุ 2 ปี มา รพ ด้วยอาการมีไข้สูง ปวดท้อง คลืนไส้ อาเจียน ปัสสาวะกระปริบกระปรอยและร้องไห้เวลาถ่ายปัสสาวะ ตรวจร่างกายน้ำหนัก 10 กิโลกรัม สูง 90 เซนติเมตร T= 38.8 องศาเซลเซียส P=90 ครัง/นาที R=24 ครัง/นาที BP=110/70 mmHg หลังรับไว้ในโรงพยาบาลตรวจปัสสาวะพบ WBC 20cell/ HPF แพทย์ให้ 5% DN/3 v 30 cc/hr. ,Ceftriazone 550 mg. v q 12 hr.,Paracetamol 2 1⁄2tsp. prn. อาหารอ่อน
กลไกของการเกิดความผิดปกติ
กลไกการติดเชื้อ คือ แบคทีเรียมีการเคลื่อนที่จากลำไส้มาปนเปื้อนบริเวณส่วนนอก ของรูก้น จากนั้นเข้าสู่บริเวณช่องเปิดของท่อปัสสาวะ และเคลื่อนขึ้นไปตามท่อปัสสาวะ เข้าสู่กระเพาะปัสสาวะ ท่อไต และไต และทำให้เกิดการติดเชื้อในอวัยวะที่เคลื่อนไปถึง นอกจากนั้นแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดการติดเชื้ออาจมา จากกระแสเลือดในผู้ที่มีการติดเชื้อในกระแสเลือดนำมาก่อน หรือมาจากการติดเชื้อของอวัยวะใกล้เคียงกับระบบ ทางเดินปัสสาวะ
ปัญหาทางการพยาบาล
ปัญหาที่ 1 เสี่ยงต่อภาวะไม่สมดุลของสารน้ำ อิเล็คโทรลัยต์และสารอาหารเนื่องจากมีอาการคลื่นไส้อาเจียน
เบื่ออาหาร
ดูแลให้ได้รับสารน้ำทางหลอดเลือดดำ ในกรณีที่มีอาการเบื่ออาหารคลื่นไส้อาเจียนมากเพื่อชดเชยน้ำและ
อิเล็คโทรลัยต์
ให้ยาลดอาการคลื่นไส้อาเจียนตามแผนการรักษาเพื่อป้องกันมิให้มีการสูญเสียน้ำและ
อิเล็คโทรลัยต์เพิ่มขึ้น
กระตุ้นให้ดื่มน้ำ
หรือน้ำผลไม้วันละ 2,000 – 3,000 มิลลิลิตร เพื่อชดเชยการสูญเสีย
ดูแลทำความสะอาดปากฟันทุกครั้งก่อนรับประทานอาหารเพื่อกระตุ้นความอยากอาหาร
ชั่งน้ำหนักเพื่อติดตามภาวะโภชนาการตามแผนการรักษา
สังเกตและติดตามผลการตรวจเลือดและค่าอิเล็คโทรลัยต์เพื่อติดตามอาการเปลี่ยนแปลง
ปัญหาที่ 2 ไม่สุขสบายจากอาการปวดท้องถ่ายปัสสาวะบ่อยและมีอาการปวดขณะถ่ายปัสสาวะ/ มีไข้
จัดสภาพแวดล้อมให้มีอากาศถ่ายเทสะดวกเพื่อให้สุขสบายและพักผ่อนได้
กระตุ้นให้ดื่มน้ำ 2,000 – 3,000 มิลลิลิตรเพื่อระบายความร้อนและปัสสาวะได้สะดวกขึ้น
เช็ดตัวลดไข้และให้ยาลดไข้ตามแผนการรักษาของแพทย์และติดตามผลข้างเคียงหลังจากใช้ยา
แนะนำให้เด็กหลีกเลี่ยงการกลั้นปัสสาวะและให้ขับถ่ายอุจจาระอย่างสม่ำเสมอ
สังเกตุเกี่ยวกับความผิดปกติของการถ่ายปัสสาวะและ การถ่ายอุจจาระ
หากิจกรรมให้เด็กทำเพื่อให้เกิดความผ่อนคลายหรือจัดกิจกรรมการเล่นที่เหมาะสมกับวัยและสภาวะของโรค
ดูแลให้ได้รับยาระงับปวดหรือยาลดการหดเกร็งของกระเพาะปัสสาวะและท่อไต
ประเมินสภาพทั่วไป วัด สัญญาณชีพทุก ๆ 15 นาที และเฝ้า ระวังการเปลี่ยนแปลง เช่น หน้าซีด เหงื่อออก ตัวเย็น ร้องไห้งอแง ความรู้สึกตัว
นางสาวศิรินภา ใจใส เลขที่105 รหัส 611901110