Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ภาวะตกเลือดหลังคลอด - Coggle Diagram
ภาวะตกเลือดหลังคลอด
การตกเลือดในระยะหลัง/ระยะทุติยภูมิ
3.เลือดออกจากแผลในช่องคลอด
4.สาเหตุร่วมที่พบบ่อย เช่น เศษรกค้างกับติดเชื้อ
2.ติดเชื้อในโพรงมดลูกอาการ เช่น มีไข้ น้ำคาวปลาเหม็น
5.เลือดออกจากแผลมดลูก
1.มีก้อนเลือดหรือเศษรกในโพรงมดลูกเกิดหลังคลอด 1 - 2 week
การตกเลือดหลังคลอดระยะปฐมภูมิ
1.Tone
1.1 uterine atony
2 กล้ามเนื้อมดลูกยืดขยายมากกว่าปกติ
3 คลอดบุตรหลายครั้งโดยเฉพาะ > 5 ครั้ง
1 เจ็บครรภ์คลอดที่นานหรือเร็วเกินไป
4 ใช้ยาบางชนิด เช่น ยาสลบฮาโลเทน
5 คลอดยากหรือใช้สูติศาสตร์หัตถการ
6 เลือดออกก่อนคลอดจากรกเกาะต่ำหรือลอกตัวก่อนกำหนด
7 ติดเชื้อของมดลูกทำให้อักเสบ
8 มารดามีภาวะทุพโภชนาการ โลหิตจาง ความดันสูง ประวัติตกเลือดการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ
9 กล้ามเนื้อมดลูกหดรัดตัวไม่สม่ำเสมอ
10 constriction ring
11 สาเหตุ อื่นๆ เช่น มีก้อนเลือดหรือเศษรกค้าง
2.Trauma
2.3 ตัดฝีเย็บไม่ถูกวิธี
2.2 คลอดเร็วทำให้ช่องทางคลอดขยายไม่ทันเกิดฉีกขาด
2.4 เชิงกรานไม่ได้สัดส่วนกับขนาดทารกเกิดมดลูกแตก
2.1 การทำคลอดช่วยคลอดไม่ถูกต้อง ใช้สูติศาสตร์หัตถการขณะปากมดลูกยังเปิดไม่หมด
2.5 มดลูกบางกว่าปกติ
Tissue
3.1 มีรกค้าง
3.2 เศษรกค้าง
3.2.2 ความผิดปกติของรก เช่น ขนาดใหญ่
3.2.3 มีรกน้อย
3.2.1 ทำคลอดผิดวิธี เช่น ล้วงรก
Thrombin
เป็นสาเหตุการตกเลือดหลังคลอดทันที เช่น ภาวะเลือดแข็งตัวผิดปกติ
การรักษาการตกเลือดหลังคลอดระยะหลัง
รายที่ติดเชื้อในโพรงมดลูก พิจารณาให้ยาหดรัดตัวของมดลูกร่วมกับ ATB
รายที่เลือดออกจากแผลในช่องคลอด ทำความสะอาดเย็บแผลให้เลือดหยุดถ้าไม่หยุดเอาก๊อชอัดไว้ร่วมกับให้ ATB
รายที่เศษรกค้างหรือก้อนเลือดค้างให้ oxytocin แล้วขูดมดลูก
การวินิจฉัยการตกเลือดหลังคลอดระยะแรก
2.ตรวจดูชิ้นส่วนของรกที่ยังค้างอยู่ โดยตรวจรกที่คลอดอย่างละเอียดหรือใช้มือตรวจโพรงมดลูก
3.การตรวงทางห้องปฏิบัติการณ์ หาสาเหตุกาารตกเลือดจากความผิดปกติในการแข็งตัวของเลือด ได้แก่ PT,PTT,Clotting time,Platelet count
1.อาการและอาการแสดง
1.2เลือดคั่งที่เอ็นมดลูก ไม่ปรากฎเฃือดไหลออกมาข้างนอก
1.3มดลูกปลิ้นพบเลือดพุ่งออกมาจำนวนมาก อาจมีลิ่มเลือดแดงคล้ำปนออกมา
1.3.1 ฉีกขาดช่องทางคลอดเลือดไหลออกสีแดง
13.2 ฉีกขาดของหลอดเลือดฝอยพุ่งแรงตามชีพจร ไหลไม่หยุดแม้มดลูกแข็งตัว
1.3.3 หากมดลูกหดรัดตัวไม่ดี เลือดสีคล้ำ ลิ่มเลือดปนเลือดไหลไม่หยุด
1.3.4 หากเศษรกค้าง เกิดตกเลือดหลังคลอดทันที ถ้าเศษรกเล็กมากๆตรวจไม่พบอาจเกิดตกเลือด 6 - 10 วันหลังคลอด
1.3.5 มดลูกหดรัดตัวไม่ดี คลำได้มดลูกนุ่ม ไม่ตึงตัว เพราะเลือดคั่งในโพรงมดลูก ระดับมดลูกสูงและโตอาจถึงสะดือหรือสากกว่า หากยังมีเลือดไหลออกมากอาจมีการฉีกขาดช่องทางคลอด
1.1การมีเลือดออกไหลมาทางช่องคลอดหรือไม่มีเลือดแต่ขังข้างใน
1.4อาการแสดงภาวะตกเลือด หน้าซีด ชีพจรเต้นเร็วระยะแรกหายใจเร็วต่อมาช้าสั่น เหงื่อออกมาก อ่อนเพลีย ความดันต่ำ หมดสติถึงแก่ชีวิต
ผลของการตกเลือดหลังคลอดระยะหลัง
เกิด Necrosis ของต่อมใต้สมองส่วนหน้า
ภูมิต้านทานโรคต่ำ ติดเชื้อง่าย
ภาวะซีดอ่อนเพลีย สุขภาพทรุดโทรม
การป้องกันการตกเลือดหลังคลอดระยะแรก
ระยะก่อนคลอด
1.ซักประวัติอย่างละเอียด
2.ตรวจร่างกายหาภาวะโลหิตจาง แก้ไขและให้ธาตุเหล็กผู้ม่ฝากครรภ์
ระยะคลอด
3.ทำคลอดระย2 ระยะ3 อย่างถูกวิธี
4.เลี่ยงการทำสูติศาสตร์หัตถการ
2.ระวังให้ยาแก้ปวดมากเกินไป
5.ตรวจรก ช่องคลอดอย่างละเอียด
1.ดูแลไม่ให้การคลอดยาวนาน
ระยะหลังคลอด
2.รายได้รับยากระตุ้นเจ็บครรภ์ให้ oxytocin ต่อภายหลังการคลอดอย่างน้อย 2 hr
3.ให้บุตรดื่มนมมารดาทันทีหลังคลอดเพื่อกระตุ้น oxytocim ทำให้มดลูกหดรัดตัว
1.ดูแลกระเพาะปัสสาวะให้ว่าง กระตุ้นถ่ายปัสสาวะใน 2 hr แรกคลอด
การรักษาการตกเลือดหลังคลอดระยะแรก
การตกเลือดก่อนรกคลอด
เจาะเลือดหาความเข้มข้น ขอเลือดอย่างน้อย 2 unit
4.ใส่สายสวนคาไว้วัดปริมาณที่ออกมา
ให้ เช่น 5% D/NSS ร่วมกับ Oxytocin 10 - 20 unit
ให้ oxytocin 10 - 20 unit ทางกล้ามเนื้อหรือหลอดเลือดดำเมื่อไหล่หน้าหรือศรีษะทารกคลอด
1.วัด BP P RR
ทำคลอดแบบ cord traction ถ้ารกไม่คลอดให้ล้วงรกโดยยาระงับความรู้สึกหรือระงับปวด
ตรวจรกที่คลอด
คลึงมดลูกให้หดรัดตัว
ฉีด Methergin 0.2 mg ทางหลอดเลือดถ้าจำเป็นเพื่อกระตุ้นมดลูกหดรัดตัว(ยกเว้นมารดาที่ความดันโลหิตสูง)
หลังรกคลอดถ้าเลือดยังออก ปฏิบัติข้อ 2 ต่อไป
2.การตกเลือดภายหลังรกคลอด
2.2 กรณีมีการฉีกขาดช่องทางคลอด
2.3 กรณีทำตาม 2.1 และ 2.2 แล้วยังเลือดออกเรื่อยๆ ให้ตรวจภายในโพรงมดลูก ถ้าเลือดยังไหลสีแดงสด ใช้เครื่องมือถ่างขยายทางช่องคลอดหารอยฉีกขาด
2.1 กรณีมดลูกหดรัดตัวไม่ดี
2.4 กรณีทำตาม 2.1 2.2 2.3 แล้วเลือดยังออกเรื่อยๆ
2.4.2 ทำ Bimanual compression บนมดลูกขณะให้ยาสลบ
2.4.3 หากทำตามขั้นตอนดังกล่าวเลือดยังไม่หยุด
2.4.3.1 Protaglandin E2 analogue
2.4.3.2 Protaglandin E2 alpha 0.25 mg
2.4.1 ตรวจเลือดหา Venus clotting time, Clot retraction time, Clot lysis
2.5 หากทำตาม 2.1 ถึง 2.4 แล้วเลือดยังออกเรื่อย ๆ ถ้าอายุมากหรือมีบุตรเพียงพอให้ตัดมดลูก หากอายุน้อยยังอยากมีบุตรให้ผ่าตัดผูกหลอดเลือด
2.6 ดูแลระยะ 24 - 48 hr แรก
2.6.1 วัด P BP RR GCS
2.6.2 หาระดับความเข้มข้นของเลือด ให้เลือดเมื่อจำเป็น
2.6.3 คำนวน I/O
2.6.4 ใให้ ATB
2.6.5 ให้ยาบำรุงเลือดอาหารที่มีประโยชน์
ชนิดของการตกเลือด
1.ตกเลือดหลังคลอดระยะแรกเป็นการตกเลือดภายใน 24 hr แรก
2.ตกเลือดหลังคลอดระยหลัง เป็นการตกเลือดหลังคลอด 24 hr - 6 สัปดาห์
กระบวนการพยาบาลในการดูแลมารดาระยะหลังคลอดที่มีภาวะตกเลือด
การประเมินสภาพ
2.การตรวจร่างกายตามระบบต่างๆ
5.มีเลือดสดออกทางช่องคลอด
6.ซีดตัวเย็น Pเบาเร็ว เพลีย BPต่ำ กระสับกระส่าย
4.การฉีกขาดของช่องคลอด
7.ความรุนแรงของการเสียเลือด เลือดออกทางช่องคลอด ปริมาณ ลักษณะ สีกลิ่น
3.มีรกหรือเศษเยื่อหุ้มรก
8.การเข้าอู่ของมดลุก
2.การบวมเลือของอวัยวะสืบพันธ์
9.อาการติดเชื้อ
1.การหดรัดตัวของมดลูก
10.ตรวจช่องคลอดพบเศษเยื่อหุ้มรกที่ปากมดลูก
3.การตรวจการแข็งตัวของเลือด ได้แก่ CBC,หาหมู่เลือด การแข็งตัวของเลือด เช่น Plt, PT, PTT
1.การซักประวัติ
2.ประวัติทางสูติศาสตร์
3.ประวัติความผิดปกติในระยะตั้งครรภ์
1.ประวัติส่วนตัว
การพยาบาล
2.การพยาบาลขณะตกเลือด
7.ตรวจการมีเลือดออกและหดรัดตัวมดลูกถ้ามีการฉีกขาดของช่องทางคลอดให้เย็บ
8.ช่วยเหลือแพทย์หาเศษเยื่อหุ้มรกค้าง
6.ให้ออกซิเจน
9.บันทึก I/O สารน้ำ เลือด ปัสสาวะ
5.ดูแลกระเพาะปัสสาวะให้ว่าง
10.ตรวจสอบผลเลือด ติดตาม CBC
4.ให้สารน้ำทางหลอดเลือดและยากระตุ้นหดระดตัวของมดลูก
11.อธิบายพยาธิสภาพ การรักษาแก่ผู้คลอด
3.คลึงมดลูกแข็งตัวเป็นระยะ
12.ติดตามปริมาณน้ำคาวปลา สี กลิ่น จากผ้าอนามัย
2.จัดท่านอนราบ
13.ถ้าเลือดออกไม่หยุดแพทย์อาจตัดมดลูก พยาบาลต้องอธิบายมารดาให้เข้าใจ
1.บันทึกV/S ทุก 15 นาที
3.การพยาบาลระยะหลังการตกเลือด
4.ระวังอุบัติเหตุจากอาการหน้ามืดเมื่อลุกนั่ง
5.แนะนำการคลึงมดลูก
3.ดูแลให้รับประทานอาหาร วิตามิน ธาตุเหล็ก ตามแผนการรักษา
6.แนะนำการปฏิบัติตัวหลังคลอด
2.ดูแลให้ได้พักผ่อนเพียงพอ
7.แนะนำกาการผิดปกติที่ควรมาพบแพทย์
1.ใส่ผ้าอนามัยเพื่อสังเกตปริมาณเลือด
8.กระตุ้นการรับรู้เกี่ยวกับบุตร
1.การพยาบาลป้องกันการตกเลือด
3.รายที่คาดว่าจะตกเลือด เตรียมสารน้ำ ยา อุปกรณ์
4.ตรวจหากลุ่มเลือดขณะตั้งครรภ์
2.ระวังการทำคลอดให้ถูกวิธี
5.ดูแล 2 hr หลังคลอดอย่างใกล้ชิด
1.ประเมินปัจจัยเสี่ยงการตกเลือด
การวินิจฉัยการตกเลือดระยะหลัง
วินิจฉัยตกเลือดหลังคลอดได้ทันที จากอาการและอาการแสดง ได้แก่ มีเลือดออกทางช่องคลอดภายใน 3 สัปดาห์ พบระหว่าง 7 - 14 หลังคลอด
ความหมาย
มีการเสียเลือด 500 ml ขึ้นไปหรือร้อยละ 1 ของน้ำหนักตัวมารดา หลังเสร็จสิ้นการคลอดระยะ3
ผลจากการตกเลือดหลังคลอดระยะแรก
ผู้คลอดมีอาการใจสั่น ซีดลง ชีพจรเบาเร็ว ความดันดลหิตต่ำ ช็อค ขาดออกซิเจน อวัยวะล้มเหลว ความผิดปกติการแข็งตัวของเลือด ต่อมาภูมิต้านทานต่ำลงติดเชื้อง่าย ส่วนทารกอ่อนเพลีย ซีด สุขภาพทรุดโทรม