Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
มดลูกปลิ้น(Uterine inversion) - Coggle Diagram
มดลูกปลิ้น(Uterine inversion)
ความหมาย
ภาวะที่ยอดมดลูกรั้งลงมาส่วนล่างของโพรงมดลูกซึ่งอาจพ้นปากมดลูกออกมาหรือโผล่ออกมาถึงปากช่องคลอด
ชนิดของมดลูกปลิ้น
แบ่งตามความรุนแรง
มดลูกปลิ้นแบบไม่สมบูรณ์(incomplete inversion)
มดลูกปลิ้นโดยส่วนที่ปลิ้นยังไม่พ้นปากมดลูกหรือภาวะที่ยอดมดลูกยุบตัวเข้ามาอยู่ในโพรงมดลูกเป็นบางส่วน
มดลูกปลิ้นแบบสมบูรณ์(Complete inversion )
มดลูกปลิ้นโดยส่วนที่ปลิ้นพ้นปากมดลูกหรือภาวะที่ยอดมดลูกยุบตัวเข้ามาอยู่ในโพรงมดลูกและผ่านพ้นปากมดลูกออกมา
มดลูกปลิ้นแบบสมบูรณ์ และเคลื่อนต่ำลงมานอกปากช่องคลอด(Prolapsed of complete inverted uterus)
ภาวะที่ยอดมดลูกยุบตัวผ่านออกมาพ้นปากช่องคลอดออกมา
แบ่งตามระยะเวลาของการเกิด
Acute uterine inversion
เกิดภายใน24ชั่วโมงหลังคลอด
subacute uterine inversion
เกิดใน24ชั่วโมงหลังคลอดจนถึง1เดือนหลังคลอด
Chronicuterine inversion
เกิดตั้งแต่1เดือนหลังคลอด
สาเหตุ
สาเหตุฉุกเฉิน
รกเกาะแน่น
การล้วงรก
การเพิ่มแรงดันในช่องคลอด
การปฏิบัติการคลอดระยะที่3ไม่ถูกต้อง
การดึงสายสะดือแรงเกินไป
ดันยอดมดลูกที่หน้าท้องมารดามากเกินไป
มดลูกและปากมดลูกอยู่ในภาวะคลายตัว
สาเหตุส่งเสริม
มีพยาธิสภาพที่มดลูก เช่นผนังมดลูกบางและยืดมาก
ผนังมดลูกหย่อนเช่นมีความดันในช่องท้องอย่ารวดเร็วในขณะที่มดลูกคลายตัวเช่นไอ จาม
พยาธิสภาพ
เมื่อเกิดการปลิ้นของมดลูกภายหลังทารกคลอดหรือภายหลังคลอดรกแล้วปากมดลูกและมดลูกส่วนล่างจะมีการหดรัดตัวเป็นวงแหวนล้อมรอบส่วนของมดลูกที่หย่อนตัวลงมา ทำให้บริเวณที่ถูกรัดไว้นั้นขาดเลือดไปเลี้ยงเกิดการบวมและมีเนื้อตาย ในที่สุดเนื้อตายจะหลุดออกมา
อาการและอาการแสดง
พบยอดมดลูกเป็นแอ่งคล้ายปล่องภูเขาไฟหรือไม่พบยอดมดลูก
มีอาการ ปวด ช็อก ตกเลือดทางช่องคลอดอย่างเฉียบพลัน ปวดท้องรุนแรง
รายเรื้อรัง ผนังมดลูกจะแห้ง เป็นแผลทำให้เกิดตกขาวเลือดออกกะปริบกะปรอย อาจมีอาการปวดหลังถึงอุ้งเชิงกรานและถ่ายปัสสาวะขัด หรือรู้สึกถ่วงที่ช่องคลอด
การวินิจฉัย
อาการ
การตกเลือด พบ 94%
อาการช็อก พบ 40%
อาการปวดท้องน้อยอย่างรุนแรง
จากการตรวจหน้าท้อง
ยอดมดลูกมีรอยบุ๋มเป็หลุมคล้ายปล่องภูเขาไฟ
จากการตรวจภายใน
คลำได้ก้อนเนื้อบริเวณปากมดลูกหรือคลำได้ก้อนในช่องคลอด
ผลกระทบ
👧ต่อมารดา จะเกิดภาวะแทรกซ้อนคือเลือดออกอย่างรุนแรง เจ็บปวดมาก ช็อคจากการเสียเลือด อาจถึงขั้นเสียชีวิต
👶ต่อทารก ทำให้ทารกได้รับความอบอุ่นจากมารดาล่าช้า รวมถึงการสร้างสัมพันธภาพระหว่างมารดาและทารกล่าช้า
การรักษาพยาบาล
แจ้งให้ผู้ป่วยทราบ
ให้ยาสลบ
แก้ไขภาวะช็อก
ให้สารน้ำ1000ml.เข้าหลอดเลือดดำ
เจาะหาหมู่เลือดให้เลือดทดแทน
พิจารณาให้มอร์ฟีน2-4mgทางหลอดเลือดดำในกรณีปวดมาก
กรณีรกยังไม่คลอดให้ทำคลอดรกก่อนแต่หากรกยังติดอยู่กับส่วนของมดลูกที่ปลิ้นลงมา ไม่ควรทำคลอดรกควรแก้ไขภาวะช็อกและให้ยาสลบก่อน
หากมดลูกมีการหดเกร็ง ให้Terbutaline หรือ Magnesium sulfate เพื่อให้มดลูกคลายตัวก่อนดับมดลูกเข้าที่
รกลอกตัวและแยกออกจากมดลูกแล้วให้ดันมดลูกกลับเข้าที่
วิธีไม่ผ่าตัด Johnson maneuver ใช้อุ้งมือดันมดลูกขึ้นไปตามทิศทางแนวของอุ้งเชิงกรานจนกระทั่งมดลูกเคลื่อนขึ้นไปพ้นช่องเชิงกราน
วิธีผ่าตัด มีหลายวิธีเช่น Huntington ,Haultain ,Ocejo ,Spinelli
ให้ยาออกซิโตซิน 20 unit
ตรวจทางช่องคลอดและเย็บซ่อมแซม
ตรวจสัญญาณชีพและเฝ้าระวังการตกเลือดหลังคลอด
ให้ยาป้องกันการติดเชื่อและยาจำพวกเหล็ก
การพยาบาล
จัดท่าให้ผู้คลอดเพื่อลดการดึงรั้งของรังไข่โดยยกปลายเตียงให้สูงขึ้น หรือท่า Trendelenberg's position หรือ Knee chest position
ใช้ผ้าสะอาดน้ำเกลือหรือน้ำยา Hisbitane solution คลุมมดลูกบริเวณที่ปลิ้นออกมาเพื่อป้องกันไม่ให้มดลูกแห้ง
ให้ยาแก้ปวดตามแผนการรักษาเช่น Pethidine หรือ Morphine เพื่อลดความเจ็บปวด
ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำและแก้ไขภาวะช็อก
จัดท่าให้ผู้คลอดนอนท่า Lithotomyเพื่อให้ผู้คลิดได้รับการดมยาสลบและดันมดลูกกลับเข้าที่และล้วงรก
ดูแลให้ได้รับออกซิโตซิน 20 unit หรือ Methergin 0.2 mg
เฝ้าระวังภาวะตกเลือดหลังคลอด
ประเมินการหดรัดตัวของมดลูกเป็นระยะๆทุกๆ4ชั่วโมง
สังเกตและบันทึกปริมาณเลือดที่ออกทางช่องคลอด
บันทึกสัญญาณชีพทุก2-4ชั่วโมง
ข้อวินิจฉัย
มารดามีโอกาสเกิดมดลูกปลิ้นเนื่องจากทำคลอดไม่ถูกวิธี/การฝังตัวรกแน่นกว่าปกติ
มารดามีโอกาสตกเลือดหรือช็อกเนื่องจากมดลูกปลิ้น
มารดาปวดมดลูกมากเนื่องจากมดลูกปลิ้น
มารดาและครอบครัวมีความวิตกกังวลและกลัวเนื่องจากภาวะมดลูกปลิ้น