Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลมารดาในระยะหลังคลอด, นางสาววันทนา คดอ่ำเลขที่ 59 รุ่นที่26 ห้อง…
การพยาบาลมารดาในระยะหลังคลอด
การส่งเสริมสุขภาพมารดาหลังคลอด
การดูแลแผลฝีเย็บและน้ำคาวปลา
การใช้ยาแก้ปวด มารดาหลังคลอดที่มีอาการปวดแผลฝีเย็บมาก อาจให้ยาแก้ปวดรับประทานหรือใช้ anesthetic spray หรือ ointment ทาบริเวณแผลเพื่อลดอาการปวดตามแผนการรักษา
การอบแผลฝีเย็บด้วย จะช่วยลดอาการบวมของแผลฝีเย็บ กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ช่วยให้แผลแห้งและหายไว ทำให้รู้สึกสุขสบาย
การนั่งแช่ก้นในน้ำเย็น ช่วยลดอาการบวมของฝีเย็บและลดการตอบสนองของประสาทส่วนปลายซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดความเจ็บปวด วิธีปฏิบัติให้มารดานั่งแช่ก้น ในน้ำเย็นธรรมดาและค่อยๆใส่ก้อนน้ำแข็งลงในอ่างจนมารดารู้สึกสุขสบาย
การบรรเทาอาการปวด
แนะนำให้นอนคว่ำโดยใช้หมอนรองใต้ท้องน้อยทำให้มดลูกถูกกด เป็นการกระตุ้นให้มดลูก หดรัดตัว และน้ำคาวปลาไหลออกได้สะดวก
การตรงจสอบสัญญาณชีพ
ถ้าพบว่ามีไข้ต่ำ ควรกระตุ้นให้มารดาหลังคลอดดื่มน้ำและพักผ่อนให้เพียงพอ และประเมิน BT อย่างน้อยวันละครั้ง ยกเว้นในรายที่มีภาวะความดันโลหิตสูงร่วมกับการตั้งครรภ์หรือมีการประเมิน V/Sบ่อยขึ้น ควรสอนการวัดอุณหภูมิร่างกายแก่มารดาและบุตรเมื่อต้องกลับไปอยู่บ้าน
ใน 24 ชั่วโมงแรกหลังคลอด เมื่อรับย้ายจาก LR ควรประเมินสัญญาณชีพ ทั้ง BT, PR และ BP ทุก 4ชั่วโมง
ส่งเสริมการนอหลับพักผ่อน
ปรับกิจกรรมการพยาบาลอย่างเป็นระบบ รบกวนมารดาน้อยที่สุด เพื่อให้พักผ่อนอย่างเต็มที่
หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน และอาหารที่ทำให้ท้องอืด
แนะนำให้มารดาหลังคลอดปรับเปลี่ยนเวลานอน เช่น ให้นอนหลับพักผ่อนพร้อมบุตรหรือหาบุคคลอื่นช่วยดูแลบุตรเมื่อรู้สึกอ่อนเพลีย
การทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์และการเปลี่ยนผ้าอนามัย
ล้างมือให้สะอาดก่อนและหลังทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์
สังเกตความผิดปกติของน้ำคาวปลาขณะขับถ่ายและเปลี่ยนผ้าอนามัย
ทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกด้วยสบู่และน้ำสะอาดโดยล้างจากด้านหน้าไปด้านหลังเพื่อป้องกันการปนเปื้อนจากทวารหนัก และซับให้แห้งหลังขับถ่าย
การขับถ่ายปัสสาวะและอุจจาระ
แนะนำให้รับประทานผักผลไม้ดื่มน้ำให้เพียงพอ และขับถ่ายเป็นเวลา
การรับประทานอาหารและควบคุมน้ำหนัก
เพื่อให้ร่างการฟื้นฟูจากการคลอดและมีการสร้างน้ำนมอย่างเพียงพอ
ควรรับประทานอาหารให้ครบถ้วน ไม่ควรงดอาหารมื้อใดมื้อหนึ่ง เพราะร่างกายอาจได้รับสารอาหารไม่เพียงพอต่อความต้องการ
กระตุ้นให้มารดาช่วยลุกจากเตียงเร็ว
ส่งเสริมให้มารดาหลังคลอดเริ่มปฏิบัติกิจวัตรประจำวันเบาๆ ในระยะแรกหลังคลอด
หลีกเลี่ยงการยกของหนัก การทำงานหนักเพราะอาจทำให้มดลูกเคลื่อนต่ำ
การเปลี่ยนแปลงทางด้านสรีระจิตสังคมของมารดาในระยะหลังคลอด
อารมณ์และจิตใจ
การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์และจิตใจ
โดยปกติหากไม่มีภาวะแทรกซ้อนใดๆ ของมารดาและทารกหลังคลอด มารดาจะรู้สึกดีใจและมีความสุข แต่อาจมีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้อารมณ์และจิตใจของมารดาหลังคลอดแปรปรวนได้ง่าย เช่น ความตื่นเต้น ความกังวลใจในการเลี้ยงดูลูก ความกลัวการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ปัจจัยเหล่านี้อาจทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าภายหลังคลอดได้
ด้านร่างกาย
การเปลี่ยนแปลงของระบบสืบพันธุ์มดลูกจะหดรัดตัว ระดับยอดมดลูกลดลงมาอยู่ที่ระดับต่ำกว่าสะดือ
การเปลี่ยนแปลงของทางเดินปัสสาวะ
หลังคลอดภายในสัปดาห์แรกปัสสาวะจะออกมาก หรือมีภาวะ diuresis เพื่อลดปริมาณเลือดที่เพิ่มขึ้นในช่วงตั้งครรภ์ให้กลับสู่ภาวะปกติ กระเพาะปัสสาวะจะยืดขยายใหญ่ได้มากกว่าปกติ การถ่ายปัสสาวะจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติภายในสัปดาห์ที่ 3 หลังคลอด
การเปลี่ยนแปลงของเต้านม ในระยะหลังคลอดฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนและเอสโตรเจนจะลดระดับลง ทำให้โปรแลคตินสามารถออกฤทธิ์ในการสร้างน้ำนมได้ถึงแม้จะมีระดับลดลงเช่นเดียวกัน การดูดนม (suckling) จะทำให้ระดับโปรแลคตินเพิ่มขึ้นเพื่อสร้างน้ำนมใหม่ขึ้นมาเพื่อเก็บไว้ นอกจากนี้ยังกระตุ้นการหลั่งออกซิโตซินให้มีการหลั่งน้ำนม
การเปลี่ยนแปลงของน้ำหนัก
หลังจากคลอดเด็กและรกแล้ว น้ำหนักหลังคลอดจะลดลงประมาณ 5 – 6 กิโลกรัม และจะค่อยๆ ลดลงอีก 2 – 3 กิโลกรัมภายใน 1 สัปดาห์หลังคลอดจากการขับปัสสาวะเพื่อลดปริมาณเลือดที่เพิ่มขึ้นในช่วงตั้งครรภ์ หลังจากนั้นน้ำหนักจะค่อยๆ ลดลงจนเท่ากับขณะไม่ตั้งครรภ์ในเดือนที่ 6 หลังคลอด
การมีประจำเดือนและการตกไข่หลังคลอด
ในกรณีไม่ได้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาจเริ่มมีประจำเดือนภายใน 6 – 8 สัปดาห์หลังคลอด และอาจตกไข่ได้เร็วที่สุดคือ 33 วันหลังคลอด แต่ในกรณีเลี้ยงลูกด้วยนมแม่สม่ำเสมอ การมีประจำเดือนจะทำนายได้ยาก ส่วนใหญ่ประจำเดือนมักจะมาช้า หรืออาจไม่มีประจำเดือนเลยในช่วงที่ให้นมบุตร เช่นเดียวกับการตกไข่ของสตรีหลังคลอดที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ซึ่งจะช้ากว่าและตกไข่ไม่บ่อยเท่าสตรีหลังคลอดที่ไม่ได้ให้ลูกดูดนม
สืบค้นจากเว็บไซต์
https://w1.med.cmu.ac.th/obgyn/index.php?option=com_content&view=article&id=473:postpartum-care&catid=38&Itemid=480
เอกสารอ้างอิง
ชัยรัตน์ คุณาวิกติกุล. ระยะหลังคลอด. ใน: ธีระ ทองสง, ชเนนทร์ วนาภิรักษ์, บรรณาธิการ. สูติศาสตร์ (ฉบับเรียบเรียงครั้งที่ 4). กรุงเทพฯ: พี.บี.ฟอเรน บุ๊คส เซนเตอร์, 2541: 169-178.
วราวุธ สุมาวงศ์. การดูแลภายหลังคลอด. คู่มือการฝากครรภ์และการคลอด. พิมพ์ครั้งที่ 12. กรุงเทพฯ: คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล, 2527: 342-372.
นางสาววันทนา คดอ่ำเลขที่ 59 รุ่นที่26 ห้อง A