Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การตกเลือดหลังคลอด (Postpartum hemorrhage) - Coggle…
การตกเลือดหลังคลอด (Postpartum hemorrhage)
ความหมาย
การเสียเลือดหลังคลอด > 500 มิลลิลิตร/ร้อยละ 1 ของน้ำหนักตัวมารดาขึ้นไปหลังจากเสร็จ สิ้นการคลอดในระยะที่ 3 (ภายหลังรกคลอด)
ชนิด
ภายใน 24 ชั่วโมงแรกหลังคลอด (Early / Primary PPH)
หลังคลอด24ชั่วโมงไปแล้วจนถึง6สัปดาห์หลังคลอด (Late / Secondary PPH)
ผลของการตกเลือด
ระยะแรก
ระยะทันทีภายหลังคลอด >>ใจสั่น ซีดลง ชีพจรเบาเร็ว BP drop shock >>อวัยวะล้มเหลว ได้แก่ ไตวาย หัววาย อาจตายได้
หากเลือดมากจน Anterior pituitary ขาดเลือดไปเลี้ยง >>ทำให้การทำงานของระบบต่อมไร้ท่อบกพร่อง ได้แก่ ต่อมไทรอยด์ ต่อมหมวกไตและรังไข่ >> เกิดไม่มีน้ำนมหลัง คลอด เต้านมเหี่ยว ระดูขาดและขนของอวัยวะเพศร่วง อ่อนเพลีย ขาดความสนใจสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นกลุ่มอาการที่เรียกว่า Shechan’s Syndrome
ระยะหลัง
ภูมิต้านทานโรคต่ำ ติดเชื้อได้ง่าย
เกิด Necrosis ของต่อมใต้สมองส่วนหน้า (Sheehan's syndrme)
ภาวะซีด อ่อนเพลีย สุขภาพทรุดโทรม
การตกเลือด
Earlyor immediate postpartum hemorrhage
Tissues
สาเหตุ
รกค้าง
รกลอกตัวเป็นบางส่วน เกิดจากรกเกาะลึก/เกาะติดแน่น
ทำให้มีเลือดออกตลอดเวลา จากบริเวณที่รกลอกตัวไปแล้ว/รกมี Infract เป็นบริเวณกว้าง
รกลอกตัวหมดแล้ว แต่รกทั้งอันยังค้างอยู่ ทำให้เลือกออกมาจาก
ทำคลอดรกไม่ถูกวิธี
การให้ก่อนคลอดรก/การกระตุ้นมดลูกอย่างรุนแรงก่อนคลอดรก
ยาให้กระตุ้นการหดรัดตัว
เศษรกค้าง
ความผิดปกติของรก
รกมีขนาดใหญ่
รกเกาะลึกร่วมกับการทำคลอดรกผิดวิธี
การมีรกน้อย
Placenta succenturiata ส่วนใหญ่จะลอกตัวหมด แต่ถ้าทำคลอดรกผิดสิธ๊ จะเกิดการตกค้างของรกน้อยได้
การทำคลอดรกผิดวิธี
การล้วงรก
การดึงสายสะดือ
Thombin
ได้รับยา abticoagulation
ประวัติเป็นโรคตับ
โรคเลือด
Aplastic anemia
ITP
HELLP Syndrome
การแข็งตังของเลือดผิดปกติหรือเสียเลือดก่อนคลอด
Trauma
สาเหตุ
การตัดฝีเย็บที่ไม่ถูกวิธี/เร็วเกินไป >>เลือดออกมาก
เสียจากการฉีดขาดของหลอดเลือดฝอยหรือเส้นเลือดดำขอดพอง
การคลอดเร็วผิดปกติ >>ช่องคลอดฉีดขาด
CPD >> ทำให้เกิดมดลูกแตกได้
การทำคลอดและการช่วยคลอดที่ไม่ถูกต้อง การใช้สูติศาสตร์หัตถการช่วยคลอด ในขณะ ปากมดลูกเปิดยังไม่หมด
มดลูกบางกว่าปกติ >>จากตั้งครรภ์และการคลอดหลายครั้ง /เคยผ่าตัดเนื้องอกมดลูก/ เคยC/S มดลูกฉีดขาดและมีแผลต่อลงมาที่ปากมดลูกและช่องคลอดได้
คือ
การตกเลือดที่เกิดจากการฉีดขาดและการบวมเลือดของปากมดลูก/ช่องคลอด/ฝีเย็บ/รอบท่อปัสสาวะ
Tone (uterine atony)
สาเหตุ
การคลอดยาก หรือ การใช้สูติศาสตร์หัตถการช่วยคลอด
ภาวะเลือดออกก่อนคลอด
รกเกาะต่ำ
เกิดแผลบริเวณมดลูกส่วนล่าง
รกลอกตัวก่อนกำหนด
มีเลือดแทรกอยู่ระหว่างกล้ามเนื้อมดลูก >> ให้มดลูกหดรัดตัวไม่ดี
การใช้ยาบางชนิด เช่น ฮาโลเทน >> ฤทธิ์ทำให้มดลูกคลายตัว/Oxytocin >> ใช้เร่งคลอดปริมาณมาก >> มดลูกอ่อนล้าได้
การติดเชื้อของมดลูก ทำให้มีการอักเสบ บวม >>มดลูกหดรัดตัวไม่ดี
คลอดบุตรหลายครั้ง โดยเฉพาะมากกว่า 5 ครั้ง
กล้ามเนื้อมดลูกมีการยืดขยายมากผิดปกติ
polyhybra
ทารกตัวโต
twin
การเจ็บครรภ์คลอดที่เนินนาน หรือ การคลอดเร็วเกินไป
เกิดจาก
อาจจะมีรูเปิดของหลอดเลือดบริเวณที่รกลอกตัว ทำให้เลือดออกจำนวนมาก
พบ 70% ของผู้ป่วยทั้งหมด
มดลูกหดรัดตัวไม่ดี
Late or Delay postpartum hrmorrhage
ภาวะติดเชื้อภายในโพรงมดลูก ผู้ป่วยมักมีอาการของการติดเชื้อ เช่น มีไข้ น้ำคาวปลามีกลิ่นเหม็น ปวดท้องน้อย มดลูกเข้าอู่ไม่ดี
เลือดออกจากแผลภายในช่องคลอดมักเกิดจากการติดเชื้อบริเวณแผลภายในช่องคลอด
มีก้อนเลือด หรือเศษรกค้างอยู่ภายในโพรงมดลูก เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด มักเกิดหลังคลอด 1–2 สัปดาห์
สาเหตุร่วมกันที่พบได้บ่อย ได้แก่ ภาวะมีเศษรกค้างในโพรงมดลูกร่วมกับการติดเชื้อภายในมดลูก
เลือดออกจากแผลของมดลูกภายหลังผ่าตัดคลอดทางหน้าท้องและมะเร็งไข่ปลาอุก เป็นสาเหตุที่พบได้น้อยมาก มักเกิดภายหลังคลอด 4 สัปดาห์
การวินิจฉัย
ระยะแรก
ตรวจชิ้นส่วนของรกที่อาจค้างอยู่
โดยการตรวจรกที่คลอดแล้วอย่างละเอียด หรือ การใช้มือตรวจภายในโพรงมดลูก
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
Partail thromboplastic time (PTT)
Clotting time
Prothrombin time (PT)
Platelet count
อาการและอาการแสดง
มดลูกปลิ้นก็จะมีเลือดพุ่งออกมาให้เห็นเป็นจำนวนมาก และอาจมีลิ่มเลือดสีแดงคล้ำจำนวนมากด้วย
การฉีกขาดของหลอดเลือดฝอย >>พุ่งแรงตามจังหวะของชีพร/ไหลไม่หยุด แม้มดลูกแข็งตัว
หากมีเศษรกค้าง >>ส่วนใหญ่จะเกิดPrimary PPH ถ้าเศษรกเล็กมากๆ >> ทำให้เกิดการตกเลือดช่วง6–10 วันหลังคลอดได้ Secondry PPH
การฉีกขาดของหนทางคลอด เลือดที่ไหลออกมาจะเป็นสีแดงสด
มดลูกหดรัดตัวไม่ดี >> สเลือดจะมีคล้ำ ลิ่มเลือดปน >>หยุดไหลเมื่อมดลูกหดรัดตัวดี
มดลูกหดรัดตัวไม่ดี ระดับของมดลูกจะสูงและโต อาจถึงระดับสะดือหรือเหนือสะดือได้ >>กรณีที่มดลูกหดรัดตัว แต่ยังมีเลือดออกจากช่องคลอดมาก >>เกิดจากการฉีกขาดของช่องทางคลอด
เกิดเลือดคั่งที่เอ็นยึดมดลูก >>ไม่ปรากฏเลือดไหลออกมาให้เห็นภายนอก
การมีเลือดออก >>อาจไม่มีเลือดออกมาให้เห็นแต่ขังอยู่ข้างใน มีลักษณะแตกต่างกัน
การมีเลือดออก >>อาจจะเห็นหรือไม่เห็นทางช่องคลอด จะแตกต่างกัน ดังนี้
อาการแสดงตกเลือด
หน้าซีด ชีพจรเต้นเร็วระยะแรกจะหายใจเร็ว ต่อมาจะหายใจช้าใจสั่น เหงื่อออกมาก อ่อนเพลีย ความดันหิตต่ำหมดสติและตายได้
ระยะเหลัง
ส่วนใหญ่พบระหว่างวันที่ 7-14 หลังคลอด
อาการอื่นๆ คล้ายกับการตกเลือดหลังคลอดระยะแรก
อาการ มีเลือดออกทางช่องคลอด มักเกิดภายใน 3 สัปดาห์หลังคลอด
การป้องกัน
ระยะแรก
ระยะคลอด
ดูแลไม่ให้เกิดการคลอดยาวนาน
ระวังการให้ยาแก้ปวดในขนาดที่มากเกินไป เพราะอาจเกิดผลต่อการหดรัดตัวของมดลูก
ทำคลอดในระยะที่2และระยะที่3 อย่างถูกต้องเหมาะสม
หลีกเลี่ยงการทำสูติศาสตร์หัตถการอย่างยาก
ตรวจรกและช่องทางคลอดอย่างละเอียด
ระยะหลังคลอด
ดูแลให้กระเพาะปัสสาวะว่าง โดยให้ถ่ายปัสสาวะภายใน 2 ชั่วโมงแรกหลังคลอด
ในรายที่ได้รับยากระตุ้นให้เกิดการเจ็บครรภ์ Oxytocin อาจให้ต่อภายหลัง การคลอดอย่าง น้อย2 ชั่วโมง
กระตุ้นให้บุตรดูดนมมารดาทันทีหลังคลอด เพื่อกระตุ้นให้ฮอร์โมน Oxytocin หลั่งมากขึ้น เพื่อให้มดลูกหดรัดตัวดี
ระยะก่อนคลอด
การซักประวัติ >>หาปัจจัยเสี่ยง PPH
การตรวจร่างกาย
Keep Hct มากกว่าหรือเท่ากับ 33%
เตรียมการดูแลที่เสี่ยง
กลุ่ม Rh D negative
IPD
โรคธาลัสซีเมีย
ค้นหาภาวะโลหิตจาง >>ให้ธาตุเหล็กเสริม
การรักษา
ระยะแรก
การตกเลือดก่อนรกคลอด
ให้ยา Oxytocin 10-20 unit 1M/1V เมื่อไหล่หน้าหรือ ศีรษะทารกคลอดแล้ว
ทำคลอดรกโดยวิธี Cord traction ถ้ารกไม่คลอดให้ล้วงรกภายใต้ยาระงับความรู้สึกหรือยาระงับความเจ็บปวด หรือ ฉีด Petergin 50 mg. เข้าทางหลอดเลือดดำ
ใส่สายสวนปัสสาวะคาไว้ เพื่อวัดปริมาณของปัสสาวะที่ออกมา และลดสิ่งขัดขวางการหดรัดตัวของมดลูก
ตรวจรกที่คลอดแล้วอย่างละเอียด
เจาะเลือดมารดาเพื่อตรวจหาระดับความเข้มข้นของเลือด พร้อมทั้งของเลือด เตรียมไว้อย่างน้อย 2 Unit
คลึงมดลูกให้หดรัดตัวตลอดเวลา
ให้ IV คือ 5%D/W หรือ 5%D/NSS หรือ RLS 1,000 ml. ร่วมกับ Oxytocin 10-20 unit โดยเร็ว
ฉีด Methergin 0.2 mg เข้าทางหลอดเลือดดำอีก ถ้าจำเป็น เพื่อกระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก(ยกเว้นรายที่มีภาวะความดันโลหิตสูง)
ตรวจวีดความดันโลหิต ชีพจร การหายใจ
กรณีภายหลังรกคลอดแล้ว ถ้าเลือดยังออกอยู่ให้ปฏิบัติข้อ 2 ต่อไป
กาตกเลือดภายหลังรกคลอด
กรณีทำตามข้อ 1 และ 2 แล้วเลือดยังออกเรื่อยๆ
ให้ตรวจภายในโพรงล้วงมดลูก ภายใต้ การดมยาสลบ โดยงดเว้นการฮาโลเทนดูว่ามีก้อนเลือดหรือเศษรกค้างอยู่หรือไม่ ถ้ามีก็ให้ออกให้ หรือขูดมดลูก และถ้าพบว่ามดลูกมีรอยฉีกขาดหรือทะลุให้รีบผ่าทันที
กรณีทำตามข้อ1, 2 และ 3 แล้วเลือดยังออกเรื่อยๆ
ข้อ 1
ถ้าพบว่า Venus clottingถ้าพบว่าtime เกิน15 นาที หรือมี clot lysis เกิดขึ้นภายในเวลา1-2 ชั่วโมง แสดงว่าเกิดภาวะไฟบริโนเจนในเลือดต่ำ
แก้ไขโดยให้ พลาสมาสด หรือ พลาสมาแช่แข็ง หรือ Cryprecipitate (1 unit มี ไฟบริโนเจน 200 – 250 mg.)
ตรวจ Venus clotting time, clot retraction time และ clot lysis โดยเฉพาะในกรณีที่เลือดออกเป็นน้ำเลือดไม่แข็งตัวเป็นก้อน
ข้อ 2
พร้อมกับโกยมดลูกมากดบริเวณกระดูกหัวหน่าวด้านหน้า เป็นการยืดUterine vessels ให้ตีบลง >>ลดปริมาณเลือดที่ไหลมายังตัวมดลูก
กดและบีบผนังมดลูกให้เข้าหากัน ร่วมกับการคลึงมดลูกใหัหดรัดตัวตลอดเวลา ซึ่งใช้เวลาในการทำนานประมาณ 30 นาทีขึ้นไป
โดยสอดกำมือขวาเข้าไปในช่องคลอด กดบริเวณAnterior fornix และใช้มือซ้ายคลึงมดลูกบริเวณหน้าท้องให้แข็งตัว ตลอดเวลา
ทำ Bimanual compression บนตัวมดลูก ในขณะที่ยังให้ยาสลบผู้ป่วย
ข้อ 3
กรณีการตกเลือดหลังคลอดทันทีจากการหดรัดตัวของมดลูกไม่ดี และทำตามขั้นตอน ดังกล่าวแล้วเลือดไม่หยุด ควรพิจารณาฉีด Prostaglandin ที่นิยมใช้มี 2 ชนิด
Prostaglandin E2 analogue ได้แก่ Sulprostone (nalador) ในขนาด
0.5 mg ฉีดเข้า IM หรือฉีดที่ปากมดลูกด อาจฉีดซ้าทุก10–15 นาทีและให้ได้ไม่เกิน 6 ครั้ง
Prostaglandin E2 alpha ในขนาด 0.25 mg ฉีดเข้ากล้ามเนื้อหรือฉีดที่ ปากมดลูก อาจฉีดซ้ำทุก 15–90 นาที และให้ได้ไม่เกิน 8 ครั้ง
กรณีมีการฉีดขาดของช่องทางคลอด
ถ้ามดลูกหดรัดตัวดีแล้ว แต่ยังเลือดไหลเรื่อยๆ และสีค่อนข้างแดงสด ตรวจหารอยฉีกขาด บริเวณที่พบได้บ่อยคือ มีการฉีกขาดต่อจากแผลฝีเย็บและบริเวณด้านข้างของปากมดลูก ให้เย็บรอยฉีกขาดเหล่านั่นจนเลือดหยุด
กรณีทำตามข้อ 1 ถึง 4 แล้วยังคงมีเลือดออกอยู่เรื่อยๆ
ถ้าอายุมากหรือมีบุตรเพียงพอแล้วตัดมดลูกออก
กรณีอายุน้อยและยังต้องการมีบุตรอีกให้ทำการผ่าตัดผูกหลอดเลือด Internaliliac hypogastric เพื่อเก็บมดลูกไว้
กรณีมดลูกหดรัดตัวไม่ดี
ให้5%D/W หรือ5% D/NSS หรือ RLS 1,000 ml. ร่วมกับ Oxytocin 10–20 unit ผสมอยู่ (กรณีที่ยังไม่ได้ให้) และขอเลือดเตรียมไว้ 2–4 unit
ฉีด Methergin 0.2 mg เข้าทางหลอดเลือดดำ
สวนปัสสาวะออกให้หมด แล้วคาสายสวนไว้ เพื่อให้กระเพาะปัสสาวะว่าง ไม่ขัดขวางการหด รัดตัวของมดลูก
วางกระเป๋าน้ำแข็งบริเวณหน้าท้อง และคลึงให้มดลูกหดรัดตัวตลอดเวลา
คลึงมดลูกให้หดรัดตัวตลอดเวลา
ดูแลอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะ 24– 48 ชั่วโมง แรกหลังคลอด
ตรวจV/S ความดันโลหิต การหายใจ และระดับความรู้สึกตัวของผู้ป่วย
ตรวจหาระดับความเข้มข้นของเลือด และอาจต้องให้เลือดเพิ่มเติมถ้าจำเป็น
คำนวณหา I/O เพื่อป้องกันการให้สารน้ำมากหรือน้อยเกินไป
ให้ยาATB ประเภทครอบคลุมเชื้อได้กว้างขวาง
ให้ยำบำรุงเลือด และอาหารที่มีประโยชน์อย่างเพียงพอ
ระยะหลัง
รายที่มีการติดเชื้อภายในโพรงมดลูก พิจารณาให้ยาช่วยการหดรัดตัวของมดลูก เพื่อช่วยให้หดรัดตัวดีร่วมกับให้ยาATB
รายที่มีเลือดออกจากแผลภายในช่องคลอด ให้ทำสะอาดและเย็บแผลให้เลือดหยุด ถ้าเนื้อเยื้อบริเวณแผลยุ่ยมาก เย็บแล้วเลือดไม่หยุด อาจต้องกดไว้หรือใช้ผ้าก๊อซอัดไว้ในช่องคลอดร่วมกับใช้ยาATB
รายที่มีเศษรกค้าง หรือมีก้อนเลือดค้าง Oxytocin แล้วทำให้การขูดมดลูกด้วย ความระมัดระวัง
แนวทางการรักษาตามหลักการ Active management of the third stage of lsbour
ได้รับการยอมรับว่าสามารถสดอุบัติการณ์ของภาวะตกเลือดหลังคลอดปฐมภูมิได้อย่างชัเจน
หลักการ
การทำคลอดรกด้วยวิธี Controlled cord traction
จำเป็นต้องได้รับการเรียนรู้และฝึกฝนก่อนปฏิบัติจริง
เสี่ยงต่อการเกิด >>ชิ้นส่วนรกและเยื้อหุ้มเด็กค้าง/สายสะดือขาด/มดลูกปลิ้น
หมายถึง การทำคลอดรกโดยไม่รอให้มีอาการแสดงของรกลอกตัว
พระราชบัญญัติวิชาชีพพยาบาล ยังไม่รองรับให้พยาบลาวิชาชีพ ทำคลอดโดยวิธี
การนวดมดลูกภายหลังคลอด (Uterine massage)
ยังคงแนะนำให้ทำหัตถการนี้ในเวชปฏิบัติ (ตรีภพ เลิศบรรณพงษ์และคณะ;2556)
ขั้นตอน
หากจะหยุดการนวดมดลูกต้องมั่นใจว่าการหดรัดตัวของมดลูกอยู่เกณฑ์ดีแล้ว
ไม่จำเป็นต้องนวดมดลูกตลอดเวลา >>สร้างความไม่สุขสบายและความเจ็บปวดให้กับผู้ป่วย/สูญเสียบุคลากรโดยไม่จำเป็น
ตรวจสอบการหดรัดตัวของมดลูกของมดลูกทุก 15 นาที และนวดคลึงมดลูกซ้ำหากตรวจพบว่ามีการหดรัดตัวที่ไม่ดี โดยเฉพาะยิ่งในช่วง 2 ชั่งโมงแรกหลังคลอด
หากมดลูกหดรัดตัวดีในระยะ 2 ชม.แรก ก็สามารถย้ายมารดาไปยังหอผู้ป่วยหลังคลอดได้
นวดมดลูกบริเวณยอดมดลูกผ่านทางหน้าท้องทันทีหลังการคลอดรกจนมดลูกหดรัดตัวดี
การให้ยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก (Uterotonic drugs)
สำหรับยาอื่นๆจำเป็นต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง
ซึ่งยาที่แนะนำให้ใช้ในการป้องกันการตกเลือดหลังคลอด ระยะแรก คือ Oxytocin, Methergin และ Misoprostol (Cytotec)
ยาที่ดีและปลอดภัยในการบริหารยามากที่สุด คือ Oxytocin เพราะสามารถลดความเสี่ยง Primary PPH มากถึงร้อยละ 60 >>แนะนำให้ใช้เลือกให้เป็นอันดับแรก
การประเมินสภาพ
การตรวจร่างกาย โดยเฉพาะการดู
การหดรัดตัวของมดลูกมักคลำได้นุ่ม ตรวจระดับยอดมดลูก อาจถึงระดับสะดือ หรือเหนือระดับสะดือ
การฉีกขาดของช่องทางคลอด
การบวมเลือดของอวัยวะสืบพันธ์ุ
การมีรกหรือเศษเยื่อหุ้มรกค้างในโพรงมดลูก
มีเลือดสดออกทางช่องคลอด
ซีด ตัวเย็น ชีพจรเบาเร็ว อ่อนเพลีย ความดันโลหิตต่ำ กระสับกระส่าย
ความรุนแรงของการเสียเลือด การมีเลือดออกทางช่องคลอด ปริมาณเลือด ลักษณะ สี กลิ่น
ความสามารถในการเข้าอู่ของมดลูก ประเมินจากระดับยอดมดลูก
อาการติดเชื้อ เช่น มีไข้ น้ำคาวปลามีกลิ่นเหม็น ปวดท้องน้อย
การตรวจทางช่องคลอด พบเศษเยื้อหุ้มรกที่ปากมดลูก
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
การตรวจหาหมู่เลือด
การตรวจเลือดเพื่อประเมินการแข็งตัวของเลือด
PT
PTT
Platelets
Fibrinogen depression
CBC
การซักประวัติ
ประวัติทางสูติศาสตร์ เช่น การคลอดเร็ว หรือระยะที่ 1 ระยะที่ 2 ของการคลอดยาวนานได้รับยาที่มีผลต่อการหดรัดตัวของมดลูก
มดลูกแตกหรือการผ่าตัดมดลูก
การทำคลอดรกขณะที่รกยังไม่ลอกตัว
ประวัติเคยตกเลือดหลังคลอด
การทำสูติศาสตร์หัตถการ
การคลอดเร็ว
คลอดยาวนาน
ได้รับยาที่มีผลต่อการหดตัวของมดลูก เช่น Oxytocin ยาสลบและ MgSO4
ประวัติความผิดปกติในระยะตั้งครรภ์
ทารกตายในครรภ์
ภาวะรกเกาะต่ำ
ภาวะครรภ์แฝดน้ำ
การตั้งครรภ์แฝด
Aminionitis
ภาวะครรภ์เป็นพิษ
ประวัติส่วนตัว เช่น ภาวะโลหิตจาง การแข็งตัวของเลือดผิดปกติ
การพยาบาล
การป้องกัน
ในรายที่คาดว่าจะมีการตกเลือดให้เตรียมสารน้ำ ยากู้ชีวิตให้พร้อม
ตรวจหากลุ่มเลือดขณะตั้งครรภ์
ระมัดระวังการทำคลอดทุกระยะให้ถูกวิธี โดยป้องกันการฉีกขาดบริเวณรอบปากช่องคลอด ไม่เร่งทำคลอดรกก่อนรกลอกตัว
ดูแลในระยะ 2 ชั่วโมงหลังคลอดอย่างใกล้ชิด
การสังเกตจำนวนและลักษณะของเลือดที่ออกจากช่องคลอด
สัญญาณชีพ
การหดรัดตัวของมดลูก
ประเมินปัจจัยเสี่ยงการตกเลือด
ภาวะโลหิตจาง
ประวัติการตั้งครรภ์และการคลอด
ภาวะทุพโภชนาการ
ขณะตกเลือด
ตรวจการมีเลือดออก และการหดรัดตัวของมดลูก ถ้ามีการฉีกขาดให้เย็บ ซ่อมแซม
ช่วยเหลือแพทย์ในการตรวจหาเศษเยื่อหุ้มรกค้าง หญิงหลังคลอดที่มีเศษรกค้างมักได้รับรักษาโดยการขูดมดลูก หรือขูดเนื้อเยื่อที่มีการอักเสบ และบริเวณพื้นที่ที่มีเลือดออก
ให้ออกซิเจน
ตรวจสอบผลการตรวจเลือด ติดตามค่า CBC
ดูแลกระเพาะปัสสาวะให้ว่าง ป้องกันการขัดขวางการหดรัดตัวของมดลูก
อธิบายพยาธิสภาพที่เกิดขึ้น ตลอดจนการรักษาพยาบาลให้ผู้คลอดทราบ และเข้าใจเพื่อลดความวิตกกังวลและให้ความร่วมมือในการรักษา
ดูแลการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ และยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก
บันทึกปริมาณสารน้ำที่ได้รับ จำนวนเลือดที่เสียไป จำนวนปัสสาวะที่ออก
คลึงมดลูกให้แข็งตัวเป็นระยะ
ติดตามปริมาณน้ำคาวปลา สี กลิ่น จากจำนวนผ้าอนามัย
จัดท่าให้นอนราบเพื่อให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจและสมองดีขึ้น
ถ้ามีเลือดออกไม่หยุด กรณีรักษาดังกล่าวข้างต้นแล้ว แพทย์อาจพิจารณา ตัดมดลูก พยาบาลควรให้กำลังใจและอธิบายให้เข้าใจถึงความจำเป็นในการรักษา เพื่อให้ผู้ป่วยปรับตัวกับสถานการณ์จริง และกำลังใจที่จะดูแลตนเอง
ตรวจและบันทึกสัญญาณชีพ ทุก 15 นาที จนกว่าจะคงที่ เพื่อประเมินความรุนแรง
ระยะหลังตกเลือด
ระวังอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากอาการหน้ามืด เมื่อลุกนั่ง
แนะนำการคลึงมดลูก
ดูแลให้รับประทานอาหารและยาวิตามิน ธาตุเหล็กแผนการรักษาตาม
แนะนำการปฏิบัติตัวหลังคลอดได้แก่การเปลี่ยนแปลงของน้ำคาวปลา ระดับยอดมดลูก การดูแลความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์
ดูแลให้ได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ
แนะนำอาการผิดปกติที่ควรมาพบแพทย์
มีเลือดออกทางช่องคลอด
น้ำคาวปลามีกลิ่นเหม็น
อาการของการติดเชื้อ
ใส่ผ้าอนามัยเพื่อสังเกตปริมาณเลือดที่ออกทางช่องคลอด
กระตุ้นการรับรู้เกี่ยวกับบุตร