Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การดูแลเด็กเมื่อเจ็บป่วย(ต่อ) - Coggle Diagram
การดูแลเด็กเมื่อเจ็บป่วย(ต่อ)
การบำบัดรักษาทางการพยาบาล
ด้านจิตสังคมในเด็กป่วย และความ
สำคัญของการเล่นต่อเด็กเจ็บป่วย
ประโยชน์ของการเล่นต่อผู้ป่วยเด็ก
ส่งเสริมพัฒนาการตามวัย
เกิดความสนุกสนานเพลิดเพลิน
ผ่อนคลายความตึงเครียด
ส่งเสริมการฟื้นฟูสภาพร่างกาย
ช่วยส่งเสริมการปรับตัวของเด็ก
Preparation for
Hospitalization
and Medical Procedures
Stressors
New, different routines
Seeing strange sights, sounds, smells
Interrupted sleep
Having many different caregivers
Day and night confusion
Separation from parents
Keep routines
Parents remain calm
Bring favorite security item
Let nursing staff know
about baby’s schedule
Be patient with infant
Hard to comfort
console
clingy
Distract, rock, comfort
Preparing Toddlers
/Preschoolers
Tell the truth: “It will hurt
(like…), but it won’t last long”
Interactive play with dolls
Read books about going to hospital
Establish “procedure free zones”
Simple explanations
Stay with child during hospitalization
Stressors
Being in contact with unfamiliar people
Loss of comforts of home, family
Painful procedures
Having to stay in strange bed/room
Medical equipment that looks scary
Being left alone
Preparing School Age
Stressors
Loss of control
Pain
Thinking he/she is in hospital
because he/she is being punished
Being away from school/friends
Needles/shots
Dying during surgery
Let child know it’s
acceptable to cry and be afraid
Take tour
Have someone stay with
child as much as possible
Encourage child’s friends to visit
Read books
Have child explain back
their understanding
Explain benefits of surgery
Make sure child knows why is having
surgery in words they understand
Give as many choices as possible
Preparing Teenager
Read books
Allow teen to be part of decision making process
Journal
Stressors
Being away from school/friends
Fear of surgery and risks
Loss of control
Dying during surgery
Pain
Honor privacy requests
แนวคิดและหลักการพยาบาล
ใช้ครอบครัวเป็นศูนย์กลาง
องค์ประกอบที่สำคัญ
ใช้ครอบครัวเป็นศูนย์กลาง
การร่วมมือ
การสนับสนุน
การตระหนักและการเคารพ
หลักการดูแลเด็กโดยใช้ครอบครัวเป็นศูนย์กลาง
ลงมือปฏิบัติสนับสนุนและช่วยเหลือครอบครัวที่มีปัญหาทางด้านอารมณ์และเศรษฐกิจ
ยอมรับว่าครอบครัวมีจุดแข็ง และมีลักษณะเฉพาะ
เข้าใจและผสานความต้องการตามระยะพัฒนาการของบุคคลและครอบครัวเข้าในระบบบริการสุขภาพ
เคารพยอมรับในความหลากหลายของเชื้อชาติวัฒนธรรม ค่านิยม ความเชื่อ และสังคม เศรษฐกิจของ ครอบครัว
มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารที่จำเป็นและสมบูรณ์แก่บิดามารดาอย่างต่อเนื่อง และไม่ลำเอียง
กระตุ้นและสนับสนุนให้เกิดเครือข่ายผู้ปกครอง
สนับสนุนให้เกิดความร่วมมือระหว่างบิดามารดากับทีมสุขภาพในทุกระดับของการบริการดูแลสุขภาพ
จัดบริการให้มีความความยืดหยุ่น เข้าถึงได้และ ตอบสนองความต้องการของครอบครัว
เคารพและตระหนักว่าครอบครัวคือส่วนคงที่ในชีวิตเด็ก
Pain
เครื่องมือที่ใช้
ประเมิน pain ในเด็ก
ลักษณะการเจ็บปวด: เจ็บ ปวด แสบ ปวดแสบ ปวดร้อน
ผลกระทบต่อความปวด :หงุดหงิด ก้าวร้าว นอนไม่หลับ
ปัจจัยที่ทำให้ปวดมากขึ้น ลดลง
รูปแบบ ระยะเวลาความเจ็บปวด :เจ็บตลอดเวลา เป็นๆหายๆ
Pain
assessment
การประเมินจากการเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรม
การประเมินความเจ็บปวดด้วยตนเอง
การประเมินจากการเปลี่ยนแปลงด้านสรีรวิทยา
การประเมินความปวดตามวัย
CRIES Pain Scale
พฤติกรรม
Vital signs
0=HRorBP</=preop,
1=HRorBP<20% preop, 2=HRorBP>20% preop
พฤติกรรม
การแสดงออก
0=ไม่มี, 1=หน้าเบ้, 2=หน้าเบ้/คราง
พฤติกรรม
O2forSa O2>95%
0=ไม่ใช้, 1=<30%O2, 2=<30%O2
พฤติกรรมการนอนไม่หลับ
0=ไม่มี, 1=ตื่นบ่อย, 2=ตื่นตลอด
พฤติกรรมร้องไห้
0=ไม่ร้อง, 1=เสียงสูง, 2=ปลอบไม่หยุด
CHEOPS
ใช้กับเด็ก 1-6 ปี หรือไม่รู้สึกตัว
คะแนนอยู่ระหว่าง 4-13
พยาบาลเป็นผู้ประเมิน
การแปลผล
4 = ไม่ปวด
5-7 = ปวดน้อย
8-10 = ปวดปานกลาง
11-13 = ปวดมาก
FLACC Scale
ใช้กับเด็ก 1เดือน-6 ปี หรือไม่รู้สึกตัว
คะแนนอยู่ระหว่าง 0-10
พยาบาลเป็นผู้ประเมิน
การแปลผล
4 = ไม่ปวด
5-7 = ปวดน้อย
8-10 = ปวดปานกลาง
11-13 = ปวดมาก
หลักการ
ประเมินความปวด
ประเมินก่อนให้การพยาบาล
ควรประเมินอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง
เลือกวิธีที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย
เด็กเล็ก, ผู้สูงอายุ, ผู้ที่มีการรับรู้บกพร่อง
หรือไม่สามารถสื่อสารได้ ควรดูแลเป็นพิเศษ
มีการบันทึกเป็นหลักฐาน
หลีกเลี่ยงคําถามนําอัน
เป็นเหตุให้บดบังข้อเท็จจริง
บทบาทของพยาบาล
กับการประเมินความปวด
ให้ความสนใจโดยเป็นผู้ฟังที่ดี
ระหว่างการประเมินควรบันทึกพฤติกรรม แนวคิด สภาพอารมณ์
จิตใจ และบุคลิกภาพของผู้ป่วย เพื่อเป็นข้อมูล
สร้างสัมพันธภาพที่ดี ใช้คําพูดสุภาพ เข้าใจง่าย
ถ้าผู้ป่วยไม่สามารถตอบข้อซักถามได้
อาจใช้วิธีสัมภาษณ์จากคนดูแลใกล้ชิด
การวัดความปวดโดยใช้
เครื่องมือประกอบการวัด
facial scales คือ การใช้รูปภาพแสดงสีหน้าบอกความรู้สึกปวด